ผมเป็นผู้ชายต๊อกต๋อยคนหนึ่งที่มีความฝันว่า " โห สักวันต้องหล่อขึ้น (บ้าง) ก็ยังดี"
เพราะตอน ม.ปลาย ถึง ป.ตรี เพื่อนชอบแซวว่า "โห ไอ้เหลี่ยม ไอ้ผอม เหมือนเด็กขาดสารอาหาร"
ตอนนั้นผม 58 kg ครับ สูงประมาณ 175-177 cm. โครงกระดูกใหญ่ หน้าเหลี่ยมๆ โทงเทงๆ
ผิวคล้ำๆ แทนๆ แนวอีสานใต้ ของแท้ (ตอนเด็ก เจอแต่ทุ่งนา ป่าเขา คลอง บึง)
ตอน ป.ตรี (ปี 4) เรียนเยอะมาก เรียนคณะที่เรียนยากๆ ตอนนี้สมองทำงานเยอะ ตัวเริ่มผอมลงๆ
แม่ผมเริ่มทักว่า เหลือแต่หัวแล้วลูก ก็เลยพยายามกินๆ ๆ ๆ ให้มากๆ นอนเยอะๆ ขุนน้ำหนักตัวเองให้มากขึ้น
แต่ก็มีบ้างที่ผมออกกำลังกายครับ วิ่งบ้างตามประสาเพื่อนชวน (หรือ วิ่งเพราะรับน้อง) ว่ายน้ำบ้างตามประสาบ้าๆ บอๆ
ไป fitness บ้างถ้ามีเงินจ่ายค่าเข้าใช้บริการ (ผมเล่นที่มหาวิทยาลัย) ตีแบตบ้างถ้ามีเพื่อนชวนหรือมีเงินค่าลูกแบตกับค่าสนาม
หุ่นผมก็ยังเหมือนเดิม แต่สิ่งที่เริ่มมาใหม่คือ "พุง" ครับ ผอมๆ แต่มีพุง อั๊ยยะเลยทีนี้ สาเหตุอาจมาจากเล่นบ้างออกกำลังกายบ้าง
Drink drank drunk อันนี้บ่อยและถี่มากเหลือเกิน (อันนี้ไม่ดีนะครับ ไม่ควรทำ) ทำให้ตอนนี้ได้ new item มาหละครับ
ความรู้สึกตอนแรก ดีใจครับ ดีใจที่ตัวเองอ้วนขึ้นมีน้ำมีนวล (มีไขมัน) มากขึ้น แต่........
พบจบ ป.ตรี ได้เรียน ต่อ ป.โท ครับ พอเริ่มเรียนใหม่ก็เริ่มทำกิจกรรมเดิมๆ คือ เรียน ทำแลป ปาร์ตี้ , เรียน ทำแลป ปาร์ตี้
แบบนี้ไปเรื่อยๆครับ ณ จุดนี้ พุงเจ้ากรรมเริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จากคนที่เคยผอมมีแต่หัว หน้าเหลี่ยม กลายมาเป็น ตัวบวมๆ พุงใหญ่ๆ
เสื้อผ้าจากเดิมเอว 28 มาเป็น 30 (ยังยิ้มอยู่) แต่เพิ่มขึ้นเป็น 34-35 ครับ ไม่ยิ้มหละเครียดหละ ผมต้องโละเสื้อผ้าใหม่เกือบหมด
ไอ้ที่ใส่ตัวเก่าก็ปริๆ เหมือนจะแตก แต่พยายามครับ เป็นอย่างนี้ประมาณเกือบสองปีกว่าๆ
และเมื่อปีที่แล้ว ผมได้ไปทำวิจัยที่ต่างประเทศ (ประเทศในเอเชีย ที่คนไทยส่วนใหญ่อยากไป) ครับ ครั้งนั้นผมจัดเต็มทุกอย่าง
ทั้งชอบเที่ยว ชอบอาหารการกิน ชอบเครื่องดื่ม ขนม นม เนย อีกทั้งเพื่อนที่ดูแลก็จัดให้เต็มที่ ไปอยู่ที่นั่น 1 เดือน
ตัวเหมือนปริๆ ใกล้แตกเต็มทีจากน้ำหนักประมาณ 67-68 กลับไทยน้ำหนักเป็นเกือบ 80 kg OMG เลยครับ
ณ จุดนี้แล้วผมเริ่มไม่สบายเนื้อสบายตัวหละ เดินเหินลำบาก เหนื่อยบ่อย ที่สำคัญเริ่มหิวบ่อย และบ่อย ขึ้น
(คิดถึงสภาพตอนผอมๆ อยากย้อนเวลากลับไป)
ผมบอกตัวเองว่าต้องลอง (ใช้คำว่า ต้องลอง) ลดน้ำหนักบ้าง เริ่มต้นจาก "วิ่ง" ต้องวิ่งเท่านั้นเพื่อนบอกมา
ผมตั้งใจมาก ชุดพร้อม น้ำพร้อม และวางแผนอาหารเย็นไว้แล้วเรียบร้อย ทำแลปเรียนเสร็จ จัดเลยครับ
วิ่งได้ 2 รอบครึ่ง เริ่มไม่ไหวหละ หน้าเหมือนจะซีดๆ หายใจแรงขึ้น โอ้คงไม่ไหว เปลี่ยนเป็นเดินแทน เดินไปได้ 2 รอบ
อยากจะเปลี่ยนเป็น คลาน แทน ที่สำคัญรุ่นน้องที่รู้จักเห็นเราเดินแบบเหนื่อก็แซวเหลื้อเกิน สาวๆ ก็พยายามส่งใจเชียร์
(คิดในใจ เห่อๆ ต้องมาน้ำหนักแบบข่อยแล้วเจ้าสิฮู้สึก เด้อ)
และการออกกำลังกายในฝันคือ "ว่ายน้ำ" เพราะกีฬาชนิดนี้ได้ทุกส่วนเลยนะ ได้ยินน้องที่เรียนพละ promote ให้ฟัง
OMG มากครับ ผมลืมสิ่งสำคัญไปเลยว่า "ผมต้องว่ายกับคนอื่น อีกเป็นสิบคน"
เนื่องด้วย ณ ตอนนั้นหุ่นแบบไม่รู้ว่าจะจมน้ำไหม ใส่กางเกงว่ายน้ำธรรมดา ๆ พยายามเคลื่อนย้ายมวลสารตัวเองให้เร็วที่สุด
จากที่อาบน้ำไปสระ (ใครเคยไปสระจุฬาภรณ์ฯ ม.เกษตร คงรู้ระยะทางไปสระที่สึก 1.20 m (ประมาณเกือบ 30-40 m) )นะครับ
ต้องเดินผ่านผู้ปกครองของน้องที่นั่งบนอัฒจันทร์บ้างหละ สาวๆ ที่ออกมาจากห้องอาบน้ำที่จะเดินลงสระฝั่งตรงข้ามบ้างหละ
นักกีฬาโปโลน้ำ เด็กเรียนว่ายน้ำกลุ่มใหญ่ คนที่มาว่ายด้วยกันทั้งรุ่นพ่อ แม่ อาจารย์ เพื่อนติด มิตร สหาย รุ่นน้อง รวมถึงเด็ก
ทุกคนจะหันมามองและทำการสำรวจเบื้องต้นพร้อมคำติชม ที่ไม่ได้พูดออกมา แต่รู้สึกได้ (ยิ่งกว่าคุณเจน ญาณทิพย์)
ผมเองพยายามเคลื่อนที่เร็วสุดแต่ว่า วิ่งไม่ได้ พอจะลงสระ ต้องแบบเนียนที่สุด โดยการจุ่มตัวแล้วมุดน้ำลงไปเลย
ผมว่ายน้ำก็ไม่เก่งครับ ไม่เคยเรียนว่ายน้ำด้วย (เพราะกลัวผิวดำมากกว่าเดิม) แบบว่าได้แต่ท่า basic คือ ท่าน้องหมาตกน้ำ
(อันนี้ฝึกจากหนองน้ำแถวบ้าน) พร้อมด้วยฟรีสไตล์บ้างบางทีที่ฮึดหน่อย ส่วนท่ากบเป็นท่าช่วยชีวิตยามที่ฟรีสไตล์ไปไม่รอด
ท่าผีเสื้อหรือครับ หึๆ อีกนานกว่าจะทำกระดื๊บๆ เป็นหนอนได้ ก็เลยจัด basic ไปครับ ว่ายครั้งแรกอึดหน่อยจัดไป 25 m
ไปกลับได้ 50 m คิดในใจว่า นายแน่มากเลยจอร์ด นายทำได้หลังจากนั้นยืนเกาะขอบสระหายใจๆ พอรอบที่ 2 จัด 25 m
แล้วเกาะขอบสระ (นิ่งๆเลย) ที่สำคัญจะอ้วกครับเพราะเหนื่อยมาก ไม่ได้เตรียมตัวมาก่อนด้วย จากนั้นผมทำการเดินเอาครับ
เดินริมขอบสระ ไปเรื่อยๆ ดูน้องตัวเล็กว่ายน้ำไป สังเวดตัวเองไป น้องว่ายท่าผีเสื้อเหมือนผีเสื้อตอมดอกไม้
ส่วนเราเหมือนหมาดำตัวเป้งถูกจับโยนลงสระน้ำ (อะไรประมาณนั้น) หลังจากนั้นเดินเหนื่อยแล้วผมก็ขึ้นจากสระน้ำไปอาบน้ำ
รวมเวลาได้ดีมากครับ ตั้งแต่เริ่มมาถึงสระถึงอาบน้ำจะกลับห้อง รวมแล้วได้ครึ่งชม. กับเงิน 30 บาท (ผมคิดแพงมาก)
ผมต้องสู้ ๆ สู้เพื่อตัวเอง (แต่เหนื่อยเหลือเกิน) พอจะไปกินข้าวที่โรงอาหารใกล้ๆ กำลังจะสั่งราดหน้าห่อไข่ของโปรด
รุ่นน้องเดินมาชวนกินผลไม้กับยำผลไม้ ผมก็เลยเนียนๆตามเค้าไปทิ้งเมนูเด็ดไปต่อหน้าต่อตา ตกกลางคืนหิวๆมากกกกกกก
อีกกีฬาที่ฮิตติดลมบนคือ แบตมินตัน เพื่อนผมใจดีมากครับจะชวนไปเล่น ถ้า ในกรณีทีมเค้าไม่ครบครับ
ผมก็เลยตามความต้องการของเพื่อนและผม ผมชอบครับ ชอบที่ได้ดูเพื่อนตี มันสนุกดี พอทีผมเล่นผมจะพยายามวิ่งให้เยอะ
ไม่ใช่ว่าอยากลดน้ำหนักนะครับ แต่วิ่งเพื่อไม่ให้เพื่อนที่เล่นทีมเดียวกันเสียกำลังใจกับเราว่า ตีแย่แล้วไม่พยายาม ผมก็เลยจัดให้ครับ
วิ่งวุ่นทั่วคอร์ดเลยทีนี้ (แต่ได้ผลแฮะ เหนื่อยมาก) แต่กว่าที่จะเล่นกีฬานี้ได้ต้องลงทุนเยอะเหมือนกันทั้งไม้แบตฯ ลูกแบต รองเท้า
( ปกติผมใช้ นันยาง รุ่นเท่ห์ตั้งแต่รุ่นพ่อ) ที่สำคัญ ค่าคอร์ด ครั้งหละ 60 บาทชม. (แต่มีแชร์ราคาในกลุ่ม) การออกกำลังกายต้องอดทน
ต้องเหนื่อย ต้องเสียเงิน ร่างกายถึงจะดี (มั้ง?) ที่สำคัญอีกอย่างคือ เพื่อนเจ้ากรรมต้องเยอะหน่อย อย่างน้อยก็สองคนอย่างต่ำ
แต่คิดดูตี 2 คน ถ้าจอง 1 h คนที่ไม่เคยเล่นมาก่อนจนจะสลบหละ เวลายังไม่หมด จะพักก็ไม่งามเพราะต้องจ่ายเงิน แล้วคนอื่นคอร์ดข้างๆ
เค้าซัดกันป๊าบๆ เราก็ต้องพยายามนิสหนึ่งหละกัน สรุปแล้ว เหนื่อยตามเคย แต่กีฬานี้อยากบอกว่าเสียเงินบ้างแต่ก็สนุกดี
แต่เล่นไปเล่นมาก็ไม่ลด น้ำหนักเท่าๆ เดิม แต่เริ่มหายใจได้สะดวกมากขึ้น
ผมเล่นแบตทุกวันจันทร์ สอง ชม. คนเล่น 8 คน (เสียเงิน) , อังคาร พฤหัสบดี ผมว่ายน้ำ (เสียเงิน), พุธ ศุกร์ วิ่ง เดิน หรือแทบคลาน (ฟรี)
ตอนนี้คือเริ่มเอาจริงแล้ว แต่พอผมได้ลองคิดดูแล้วว่า มีกีฬาอะไรไหมที่ไม่ต้องใช้อะไรมาก คือใช้แค่แรงแต่ได้แบบแรงๆ เต็มๆ บ้าง
ผมเลือกคือ วิ่ง ==> แต่จากที่เล่าให้มาคือ เหนื่อยมาก ก็เลยใจฝ่อๆ หละ แต่ก็เล่นทุกชนิดควบคู่กันมาเรื่อยๆได้เดือนกว่า ได้มีการชักชวน
มีเพื่อนสองคนจากกลุ่มตีแบตชวนผมมาออกกำลังกายเพิ่มเติมคือ "ดึงข้อ" ผมไม่รู้จักหรอกครับ ผมก็เนียนๆ ตามเค้าไปครับด้วย
ตอนนั้นอย่างให้น้ำหนักลง (ตอนนั้นเหลือประมาณ 77 หละ) และเห็นเพื่อนหุ่นดี เราน่าจะทำได้บ้าง เพราะทำมาเยอะหละ
ก็เลยไปทำดู ตอนแรกผมคิดว่าจะเข้าไปใน fitness หรือเปล่า เพราะว่าต้องใช้อุปกรณ์รึเปล่า แต่พอไปเพื่อนพาไปเล่น
บริเวณที่ผมคิดว่าเป็นที่ให้คนแก่ หรือเด็กๆ เล่นสนุกๆ เพราะมันคือ ที่ดึงโหนตัวสีแดงๆ สูงประมาณเกือบ 2 เมตร กว้างประมาณ 1.5 m
ตั้งอยู่ข้างถนนริมสนามฟุตบอล โดยมีสองด้าน ด้านหน้าเป็นเหล็กยื่นออกมาเป็นที่จับสำหรับยกตัวขึ้นลง เตะขาลงๆขึ้นๆ ตามรูปประกอบ
ที่เด็กอนุบาลกำลังสาธิตอยู่อย่างแน่วแน่ อีกด้านเป็นบาร์ยื่นออกมาให้โหนตัวได้ ด้านล่างมีที่วางน้ำสีน้ำเงินเหมือนรองเท้าสิงโตใหญ่ๆ
ดูกุ๊กกิ๊กน่าขัน ผมเลยถามเพื่อนว่า "ที่นี่จริงหรอ เอาจริงอะ" ซึ่งมันเป็นที่ๆ ผมเดินผ่านเกือบทุกวัน แอบขำกับรองเท้าสิงโต
และสีสันอันจัดจ้านคือแดงตัดกับสีน้ำเงิน เพื่อนบอกผมว่า "จัดเลยท่าน จัดเลย" ด้วยความที่เพื่อนยุ อายก็อาย กลัวเสียหน้าก็กลัว
จัดไปเลยครับ ดึงข้อไป 7 ที (แบบใช้ขาดีด มั่วๆ เพราะทำไม่เป็น) แต่พอเพื่อนให้ทำตามที่เพื่อนสอน ผมได้แค่ครึ่งครั้งเอง มันแบบว่า
โอย ๆ ๆ ๆ ๆ และก็โอย ครับ เพื่อนแนะนำอีกหลายท่าทั้ง dip line (อีกด้านที่เหลือ), วิดพื้น, sit up เน้นที่ท้อง และดึงข้ออื่นๆอีก
ครั้งหน้าผมจะมาเล่าตอนที่ผมเริ่มแรกๆ ให้ฟังครับว่าทำอะไรบ้าง เจ็บแค่ไหน กินอะไรอย่างไร (ผมกินปกติ) แล้วมันดียังไง
สำหรับวันนี้ผมอย่างจะเล่า แชร์ประสบการณ์ของผมที่เจอมา ผมพยายามทำตัวเลือกให้ตัวเองและเลือกสิ่งที่สนุกกับมันครับ
และผมเริ่มจะชอบกีฬานี้หละ
ขอบคุณที่ท่านอ่านมา (ค่อนข้างเยอะ) ถ้าผิดพลาดประการใดผมขอโทษด้วยนะครับ ผมลองเองกับตัวเองทุกอย่างเลยครับ
อาจจะไม่ถูกหลักทางวิทยาศาสตร์การกีฬาหรือพละศึกษาบ้าง ขออภัยด้วยครับ
https://www.facebook.com/barblaalum พวกผมทำไว้ครับ เราจะมีท่าในแต่ละวันที่ในกลุ่มเสนอขึ้น ถ้าสนใจลองทำตามได้นะครับ
จาก basic เลยครับ
Body weight ออกกำลังกายง่ายๆ ใครๆ ก็ทำได้ ไม่เสียเงิน (ประสบการณ์อยากแชร์ครับ)
เพราะตอน ม.ปลาย ถึง ป.ตรี เพื่อนชอบแซวว่า "โห ไอ้เหลี่ยม ไอ้ผอม เหมือนเด็กขาดสารอาหาร"
ตอนนั้นผม 58 kg ครับ สูงประมาณ 175-177 cm. โครงกระดูกใหญ่ หน้าเหลี่ยมๆ โทงเทงๆ
ผิวคล้ำๆ แทนๆ แนวอีสานใต้ ของแท้ (ตอนเด็ก เจอแต่ทุ่งนา ป่าเขา คลอง บึง)
ตอน ป.ตรี (ปี 4) เรียนเยอะมาก เรียนคณะที่เรียนยากๆ ตอนนี้สมองทำงานเยอะ ตัวเริ่มผอมลงๆ
แม่ผมเริ่มทักว่า เหลือแต่หัวแล้วลูก ก็เลยพยายามกินๆ ๆ ๆ ให้มากๆ นอนเยอะๆ ขุนน้ำหนักตัวเองให้มากขึ้น
แต่ก็มีบ้างที่ผมออกกำลังกายครับ วิ่งบ้างตามประสาเพื่อนชวน (หรือ วิ่งเพราะรับน้อง) ว่ายน้ำบ้างตามประสาบ้าๆ บอๆ
ไป fitness บ้างถ้ามีเงินจ่ายค่าเข้าใช้บริการ (ผมเล่นที่มหาวิทยาลัย) ตีแบตบ้างถ้ามีเพื่อนชวนหรือมีเงินค่าลูกแบตกับค่าสนาม
หุ่นผมก็ยังเหมือนเดิม แต่สิ่งที่เริ่มมาใหม่คือ "พุง" ครับ ผอมๆ แต่มีพุง อั๊ยยะเลยทีนี้ สาเหตุอาจมาจากเล่นบ้างออกกำลังกายบ้าง
Drink drank drunk อันนี้บ่อยและถี่มากเหลือเกิน (อันนี้ไม่ดีนะครับ ไม่ควรทำ) ทำให้ตอนนี้ได้ new item มาหละครับ
ความรู้สึกตอนแรก ดีใจครับ ดีใจที่ตัวเองอ้วนขึ้นมีน้ำมีนวล (มีไขมัน) มากขึ้น แต่........
พบจบ ป.ตรี ได้เรียน ต่อ ป.โท ครับ พอเริ่มเรียนใหม่ก็เริ่มทำกิจกรรมเดิมๆ คือ เรียน ทำแลป ปาร์ตี้ , เรียน ทำแลป ปาร์ตี้
แบบนี้ไปเรื่อยๆครับ ณ จุดนี้ พุงเจ้ากรรมเริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จากคนที่เคยผอมมีแต่หัว หน้าเหลี่ยม กลายมาเป็น ตัวบวมๆ พุงใหญ่ๆ
เสื้อผ้าจากเดิมเอว 28 มาเป็น 30 (ยังยิ้มอยู่) แต่เพิ่มขึ้นเป็น 34-35 ครับ ไม่ยิ้มหละเครียดหละ ผมต้องโละเสื้อผ้าใหม่เกือบหมด
ไอ้ที่ใส่ตัวเก่าก็ปริๆ เหมือนจะแตก แต่พยายามครับ เป็นอย่างนี้ประมาณเกือบสองปีกว่าๆ
และเมื่อปีที่แล้ว ผมได้ไปทำวิจัยที่ต่างประเทศ (ประเทศในเอเชีย ที่คนไทยส่วนใหญ่อยากไป) ครับ ครั้งนั้นผมจัดเต็มทุกอย่าง
ทั้งชอบเที่ยว ชอบอาหารการกิน ชอบเครื่องดื่ม ขนม นม เนย อีกทั้งเพื่อนที่ดูแลก็จัดให้เต็มที่ ไปอยู่ที่นั่น 1 เดือน
ตัวเหมือนปริๆ ใกล้แตกเต็มทีจากน้ำหนักประมาณ 67-68 กลับไทยน้ำหนักเป็นเกือบ 80 kg OMG เลยครับ
ณ จุดนี้แล้วผมเริ่มไม่สบายเนื้อสบายตัวหละ เดินเหินลำบาก เหนื่อยบ่อย ที่สำคัญเริ่มหิวบ่อย และบ่อย ขึ้น
(คิดถึงสภาพตอนผอมๆ อยากย้อนเวลากลับไป)
ผมบอกตัวเองว่าต้องลอง (ใช้คำว่า ต้องลอง) ลดน้ำหนักบ้าง เริ่มต้นจาก "วิ่ง" ต้องวิ่งเท่านั้นเพื่อนบอกมา
ผมตั้งใจมาก ชุดพร้อม น้ำพร้อม และวางแผนอาหารเย็นไว้แล้วเรียบร้อย ทำแลปเรียนเสร็จ จัดเลยครับ
วิ่งได้ 2 รอบครึ่ง เริ่มไม่ไหวหละ หน้าเหมือนจะซีดๆ หายใจแรงขึ้น โอ้คงไม่ไหว เปลี่ยนเป็นเดินแทน เดินไปได้ 2 รอบ
อยากจะเปลี่ยนเป็น คลาน แทน ที่สำคัญรุ่นน้องที่รู้จักเห็นเราเดินแบบเหนื่อก็แซวเหลื้อเกิน สาวๆ ก็พยายามส่งใจเชียร์
(คิดในใจ เห่อๆ ต้องมาน้ำหนักแบบข่อยแล้วเจ้าสิฮู้สึก เด้อ)
และการออกกำลังกายในฝันคือ "ว่ายน้ำ" เพราะกีฬาชนิดนี้ได้ทุกส่วนเลยนะ ได้ยินน้องที่เรียนพละ promote ให้ฟัง
OMG มากครับ ผมลืมสิ่งสำคัญไปเลยว่า "ผมต้องว่ายกับคนอื่น อีกเป็นสิบคน"
เนื่องด้วย ณ ตอนนั้นหุ่นแบบไม่รู้ว่าจะจมน้ำไหม ใส่กางเกงว่ายน้ำธรรมดา ๆ พยายามเคลื่อนย้ายมวลสารตัวเองให้เร็วที่สุด
จากที่อาบน้ำไปสระ (ใครเคยไปสระจุฬาภรณ์ฯ ม.เกษตร คงรู้ระยะทางไปสระที่สึก 1.20 m (ประมาณเกือบ 30-40 m) )นะครับ
ต้องเดินผ่านผู้ปกครองของน้องที่นั่งบนอัฒจันทร์บ้างหละ สาวๆ ที่ออกมาจากห้องอาบน้ำที่จะเดินลงสระฝั่งตรงข้ามบ้างหละ
นักกีฬาโปโลน้ำ เด็กเรียนว่ายน้ำกลุ่มใหญ่ คนที่มาว่ายด้วยกันทั้งรุ่นพ่อ แม่ อาจารย์ เพื่อนติด มิตร สหาย รุ่นน้อง รวมถึงเด็ก
ทุกคนจะหันมามองและทำการสำรวจเบื้องต้นพร้อมคำติชม ที่ไม่ได้พูดออกมา แต่รู้สึกได้ (ยิ่งกว่าคุณเจน ญาณทิพย์)
ผมเองพยายามเคลื่อนที่เร็วสุดแต่ว่า วิ่งไม่ได้ พอจะลงสระ ต้องแบบเนียนที่สุด โดยการจุ่มตัวแล้วมุดน้ำลงไปเลย
ผมว่ายน้ำก็ไม่เก่งครับ ไม่เคยเรียนว่ายน้ำด้วย (เพราะกลัวผิวดำมากกว่าเดิม) แบบว่าได้แต่ท่า basic คือ ท่าน้องหมาตกน้ำ
(อันนี้ฝึกจากหนองน้ำแถวบ้าน) พร้อมด้วยฟรีสไตล์บ้างบางทีที่ฮึดหน่อย ส่วนท่ากบเป็นท่าช่วยชีวิตยามที่ฟรีสไตล์ไปไม่รอด
ท่าผีเสื้อหรือครับ หึๆ อีกนานกว่าจะทำกระดื๊บๆ เป็นหนอนได้ ก็เลยจัด basic ไปครับ ว่ายครั้งแรกอึดหน่อยจัดไป 25 m
ไปกลับได้ 50 m คิดในใจว่า นายแน่มากเลยจอร์ด นายทำได้หลังจากนั้นยืนเกาะขอบสระหายใจๆ พอรอบที่ 2 จัด 25 m
แล้วเกาะขอบสระ (นิ่งๆเลย) ที่สำคัญจะอ้วกครับเพราะเหนื่อยมาก ไม่ได้เตรียมตัวมาก่อนด้วย จากนั้นผมทำการเดินเอาครับ
เดินริมขอบสระ ไปเรื่อยๆ ดูน้องตัวเล็กว่ายน้ำไป สังเวดตัวเองไป น้องว่ายท่าผีเสื้อเหมือนผีเสื้อตอมดอกไม้
ส่วนเราเหมือนหมาดำตัวเป้งถูกจับโยนลงสระน้ำ (อะไรประมาณนั้น) หลังจากนั้นเดินเหนื่อยแล้วผมก็ขึ้นจากสระน้ำไปอาบน้ำ
รวมเวลาได้ดีมากครับ ตั้งแต่เริ่มมาถึงสระถึงอาบน้ำจะกลับห้อง รวมแล้วได้ครึ่งชม. กับเงิน 30 บาท (ผมคิดแพงมาก)
ผมต้องสู้ ๆ สู้เพื่อตัวเอง (แต่เหนื่อยเหลือเกิน) พอจะไปกินข้าวที่โรงอาหารใกล้ๆ กำลังจะสั่งราดหน้าห่อไข่ของโปรด
รุ่นน้องเดินมาชวนกินผลไม้กับยำผลไม้ ผมก็เลยเนียนๆตามเค้าไปทิ้งเมนูเด็ดไปต่อหน้าต่อตา ตกกลางคืนหิวๆมากกกกกกก
อีกกีฬาที่ฮิตติดลมบนคือ แบตมินตัน เพื่อนผมใจดีมากครับจะชวนไปเล่น ถ้า ในกรณีทีมเค้าไม่ครบครับ
ผมก็เลยตามความต้องการของเพื่อนและผม ผมชอบครับ ชอบที่ได้ดูเพื่อนตี มันสนุกดี พอทีผมเล่นผมจะพยายามวิ่งให้เยอะ
ไม่ใช่ว่าอยากลดน้ำหนักนะครับ แต่วิ่งเพื่อไม่ให้เพื่อนที่เล่นทีมเดียวกันเสียกำลังใจกับเราว่า ตีแย่แล้วไม่พยายาม ผมก็เลยจัดให้ครับ
วิ่งวุ่นทั่วคอร์ดเลยทีนี้ (แต่ได้ผลแฮะ เหนื่อยมาก) แต่กว่าที่จะเล่นกีฬานี้ได้ต้องลงทุนเยอะเหมือนกันทั้งไม้แบตฯ ลูกแบต รองเท้า
( ปกติผมใช้ นันยาง รุ่นเท่ห์ตั้งแต่รุ่นพ่อ) ที่สำคัญ ค่าคอร์ด ครั้งหละ 60 บาทชม. (แต่มีแชร์ราคาในกลุ่ม) การออกกำลังกายต้องอดทน
ต้องเหนื่อย ต้องเสียเงิน ร่างกายถึงจะดี (มั้ง?) ที่สำคัญอีกอย่างคือ เพื่อนเจ้ากรรมต้องเยอะหน่อย อย่างน้อยก็สองคนอย่างต่ำ
แต่คิดดูตี 2 คน ถ้าจอง 1 h คนที่ไม่เคยเล่นมาก่อนจนจะสลบหละ เวลายังไม่หมด จะพักก็ไม่งามเพราะต้องจ่ายเงิน แล้วคนอื่นคอร์ดข้างๆ
เค้าซัดกันป๊าบๆ เราก็ต้องพยายามนิสหนึ่งหละกัน สรุปแล้ว เหนื่อยตามเคย แต่กีฬานี้อยากบอกว่าเสียเงินบ้างแต่ก็สนุกดี
แต่เล่นไปเล่นมาก็ไม่ลด น้ำหนักเท่าๆ เดิม แต่เริ่มหายใจได้สะดวกมากขึ้น
ผมเล่นแบตทุกวันจันทร์ สอง ชม. คนเล่น 8 คน (เสียเงิน) , อังคาร พฤหัสบดี ผมว่ายน้ำ (เสียเงิน), พุธ ศุกร์ วิ่ง เดิน หรือแทบคลาน (ฟรี)
ตอนนี้คือเริ่มเอาจริงแล้ว แต่พอผมได้ลองคิดดูแล้วว่า มีกีฬาอะไรไหมที่ไม่ต้องใช้อะไรมาก คือใช้แค่แรงแต่ได้แบบแรงๆ เต็มๆ บ้าง
ผมเลือกคือ วิ่ง ==> แต่จากที่เล่าให้มาคือ เหนื่อยมาก ก็เลยใจฝ่อๆ หละ แต่ก็เล่นทุกชนิดควบคู่กันมาเรื่อยๆได้เดือนกว่า ได้มีการชักชวน
มีเพื่อนสองคนจากกลุ่มตีแบตชวนผมมาออกกำลังกายเพิ่มเติมคือ "ดึงข้อ" ผมไม่รู้จักหรอกครับ ผมก็เนียนๆ ตามเค้าไปครับด้วย
ตอนนั้นอย่างให้น้ำหนักลง (ตอนนั้นเหลือประมาณ 77 หละ) และเห็นเพื่อนหุ่นดี เราน่าจะทำได้บ้าง เพราะทำมาเยอะหละ
ก็เลยไปทำดู ตอนแรกผมคิดว่าจะเข้าไปใน fitness หรือเปล่า เพราะว่าต้องใช้อุปกรณ์รึเปล่า แต่พอไปเพื่อนพาไปเล่น
บริเวณที่ผมคิดว่าเป็นที่ให้คนแก่ หรือเด็กๆ เล่นสนุกๆ เพราะมันคือ ที่ดึงโหนตัวสีแดงๆ สูงประมาณเกือบ 2 เมตร กว้างประมาณ 1.5 m
ตั้งอยู่ข้างถนนริมสนามฟุตบอล โดยมีสองด้าน ด้านหน้าเป็นเหล็กยื่นออกมาเป็นที่จับสำหรับยกตัวขึ้นลง เตะขาลงๆขึ้นๆ ตามรูปประกอบ
ที่เด็กอนุบาลกำลังสาธิตอยู่อย่างแน่วแน่ อีกด้านเป็นบาร์ยื่นออกมาให้โหนตัวได้ ด้านล่างมีที่วางน้ำสีน้ำเงินเหมือนรองเท้าสิงโตใหญ่ๆ
ดูกุ๊กกิ๊กน่าขัน ผมเลยถามเพื่อนว่า "ที่นี่จริงหรอ เอาจริงอะ" ซึ่งมันเป็นที่ๆ ผมเดินผ่านเกือบทุกวัน แอบขำกับรองเท้าสิงโต
และสีสันอันจัดจ้านคือแดงตัดกับสีน้ำเงิน เพื่อนบอกผมว่า "จัดเลยท่าน จัดเลย" ด้วยความที่เพื่อนยุ อายก็อาย กลัวเสียหน้าก็กลัว
จัดไปเลยครับ ดึงข้อไป 7 ที (แบบใช้ขาดีด มั่วๆ เพราะทำไม่เป็น) แต่พอเพื่อนให้ทำตามที่เพื่อนสอน ผมได้แค่ครึ่งครั้งเอง มันแบบว่า
โอย ๆ ๆ ๆ ๆ และก็โอย ครับ เพื่อนแนะนำอีกหลายท่าทั้ง dip line (อีกด้านที่เหลือ), วิดพื้น, sit up เน้นที่ท้อง และดึงข้ออื่นๆอีก
ครั้งหน้าผมจะมาเล่าตอนที่ผมเริ่มแรกๆ ให้ฟังครับว่าทำอะไรบ้าง เจ็บแค่ไหน กินอะไรอย่างไร (ผมกินปกติ) แล้วมันดียังไง
สำหรับวันนี้ผมอย่างจะเล่า แชร์ประสบการณ์ของผมที่เจอมา ผมพยายามทำตัวเลือกให้ตัวเองและเลือกสิ่งที่สนุกกับมันครับ
และผมเริ่มจะชอบกีฬานี้หละ
ขอบคุณที่ท่านอ่านมา (ค่อนข้างเยอะ) ถ้าผิดพลาดประการใดผมขอโทษด้วยนะครับ ผมลองเองกับตัวเองทุกอย่างเลยครับ
อาจจะไม่ถูกหลักทางวิทยาศาสตร์การกีฬาหรือพละศึกษาบ้าง ขออภัยด้วยครับ
https://www.facebook.com/barblaalum พวกผมทำไว้ครับ เราจะมีท่าในแต่ละวันที่ในกลุ่มเสนอขึ้น ถ้าสนใจลองทำตามได้นะครับ
จาก basic เลยครับ