นิทานขนานโลก #2 จักรยานเมื่อวานนี้

ขออนุญาตเอานิทานตอนที่สองที่น้องชายแต่งไว้มาลงต่อนะครับ

............................................................................................................

นิทานขนานโลก #2 จักรยานเมื่อวานนี้

ดินสอน้ำหมึก



ภายใต้ท้องฟ้ายามเย็น

แสงสีแดงอมม่วงจากพระอาทิตย์จะลาลับไป

กับ

ถนนที่ทอดยาวอยู่เบื้องหน้าอย่างหาจุดสิ้นสุดไม่ได้

แสงแดดยามเย็นผมไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่มันดูชวนหดหู่เกินไป

และด้วยความรู้สึกหดหู่นั้นเองผมจึงคว้าจักรยานออกมาปั่นไปเรื่อยๆ



จากเย็นกลายเป็นค่ำ

ดวงจันทร์ตั้งตระหง่าน

ประกอบด้วยดวงดาวระยิบระยับ ส่องสกาวเต็มไปหมด

ผมยังคงปั่นจักรยานคันนั้นอยู่

ปั่นไปโดยไร้จุดหมาย

…..



..

เหนื่อย

…..



เหนื่อยมากๆเลย



ผมหันไปมองข้างทาง เจอเด็กหนุ่มคนหนึ่ง

ผมรีบปั่นไปตามแล้วตะโกนทักทาย

“เฮ้! สวัสดีครับ ..น้องกำลังจะไปไหน?”

เด็กหนุ่มไม่ได้กล่าวตอบอะไร เนื่องจากเขาใส่หูฟัง ฟังเพลงอยู่

ใบหน้าของเด็กหนุ่มเต็มไปด้วยเหงื่อ ที่แสดงให้เห็นว่าเหนื่อยมากขนาดไหน

แต่ก็ทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมเขาถึงมีความสุขมากขนาดนั้น …



จากค่ำกลายเป็นเช้า

ภายใต้ท้องฟ้าที่สดใส

แสงแดดยามเช้าที่แสนละมุน

ผมยังคงปั่นจักรยานอยู่

……

….

..

ปั่นไปโดยไร้จุดหมาย

ตลอดทั้งคืนผมยังอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมเด็กหนุ่มคนนั้นถึงดูคุ้นนัก



แต่แล้ว



ข้างทางเช่นเคย

ผมพบกับเด็กชายวัยกระเตาะ ตัวเล็กนิดเดียว

กำลังปั่นจักรยานอย่างมุ่งมั่น

เหงื่อโชก และมีรอยแผลที่เหมือนจะล้มจักรยานมาใหม่ๆ

ผมรีบปั่นตามไปและตะโกนทัก

“แล้วกำลังจะปั่นไปไหนล่ะนั้น?”

เด็กชายรีบหันกลับมาแล้วยิ้มพร้อมตอบกลับมาว่า

“ไปหลายที่ครับ”

“แล้วแผลนั้นไปล้มที่ไหนมา”

“ที่บ้านครับผมเพิ่งปั่นจักรยานเป็นเมื่อเช้ามืดนี้เอง หกล้มไปหลายทีแล้วล่ะ”

“แล้วทำไมไม่ไปให้แม่ใส่ยาให้ที่บ้าน”

“ก็อุตส่าห์ปั่นเป็นแล้วนิ ยังไงก็ต้องปั่นให้มันคุ้มค่ากับความพยายามหน่อย”

“เออ แล้วที่ว่าจะไปหลายที่แล้วจะไปที่ไหนบ้างล่ะ”

“ผมอยากปั่นไปที่ๆมีดนตรีอยู่ ผมเล่นดนตรี แล้วก็ผมจะปั่นไปที่ๆมีหนังสือเยอะๆ แล้วก็ …. ฯลฯ”

เด็กชายตัวเล็กคนนั้น คุยโม้ว่าอยากทำนู้นทำนี้มาตลอดทาง



ผมปั่นจักรยานและคุยกับเด็กชายตัวกระเปี๊ยกนั้นมาจนถึงเย็น

เขายังไม่เจอที่ๆมีดนตรี หนังสือ หรือสิ่งอื่นๆที่เขาอยากเจอ

ผมจึงบอกให้เด็กชายคนนั้นกลับบ้านไป

“กลับบ้านไปได้แล้วล่ะ”

“ครับ แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะมาปั่นใหม่ เผื่อจะเจอ”

เด็กชายกล่าวอย่างมุ่งมั่น

“แล้วนี้เอ็งไม่เหนื่อยบ้างหรอ?”

“ผมมีแรงเยอะ”

เด็กชายกล่าวแล้วยิ้มอย่างภาคภูมิใจ

“มีแรงอะไรเยอะแยะ? ตัวก็เล็กกระเปี๊ยกเดียว”

…...



..



“แรงบันดาลใจ ครับ”

เด็กชายหันกลับมากล่าวและยิ้มก่อนจะปั่นจักรยานกลับบ้านไป



และนั้นทำให้ผมปั่นจักรยานต่อไป



…………

…….



..



อย่าได้ถามผมว่าจะหยุดเขียนเมื่อไหร่

ตราบใดที่ผม ยังคงมี แรงบันดาลใจ

ผมจะเขียนมันต่อไป

แม้ จะไม่มีใครอ่านก็ตาม

ผมก็จะเขียน เผื่อจะเจอ คนที่จะอ่านมัน

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่