ผมว่า งบประมาณ 3.5 แสนล้านไม่มีความจำเป็นแม้แต่น้อยครับ!!!
เราอยู่กันมากี่ร้อยปีไม่ต้องมีการบริหารจัดการน้ำเลยเราก็อยู่ของเรามาได้
การกู้เงินดังกล่าวเราไม่สามารถล่วงรู้ได้เลยว่ามันจะตอบโจทย์การแก้ปัญหา
ได้จริงหรือเปล่า เพราะในอดีตที่ผ่านมายังไม่มีใครอุตริคิดโครงการแบบนี้ขึ้นมา
ให้เกิดปัญหาความแตกต่างทางความคิดได้มากมายขนาดนี้
เราสามารถใช้โมเดลแบบเดิมที่เคยใช้อยู่แก้ปัญหาได้อยู่แล้ว.......เช่น
1.น้ำท่วมไม่กี่วันก็แห้งแล้ว อาจจะนานหน่อยไม่เป็นไรคนไทยทนได้เพราะเราทนมา
ได้เป็นหลายร้อยปีแล้วครับ
2.เรามีหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐ และเอกชนพร้อมจะบริจาคช่วยน้ำท่วมกันมากมาย ทั้งถุงยังชีพ
ถุงพระราชทาน น้ำดื่ม ข้าวสารอาหารแห้งของอุปโภค บริโภคครบครัน คนไทยมีน้ำใจครับ พี่น้อง
เราตกทุกข์ได้ยากคนไทยมีน้ำใจเสมอ
3.ความเสียหายหลังน้ำท่วมเราก็ค่อยๆบูรณะซ่อมแซมตามที่หน่วยงานของรัฐเข้ามาช่วยเหลือ
เดี๋ยวก็กลับเข้าสู่สภาวะปกติ เหมือนที่ผ่านมา
4.เรามีหน่วยงานของรัฐที่รู้ปัญหาเหล่านี้เป็นอย่างดีแล้วครับ เราไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยี่การบริหาร
จัดการน้ำของต่างประเทศที่มีประสบการณ์ในด้านต่างๆเลย เพราะหน่วยงานรัฐเช่น กรมชลประทานถือว่า
แก้ปัญหาตามโมเดลข้างต้นได้เองอยู่แล้ว ใครจะมารู้ดีเท่าคนที่เป็นเจ้าของประเทศ......
รัฐบาลนายก ยิ่งลักษณ์ ได้สร้างนโยบายที่เสี่ยงต่อความล้มเหลวในการแก้ปัญหาครับ ทั้งยังมีโอกาสขัดรัฐธรรมนูญ
อีกครับ
ผมเสนอทางออกให้นะครับ......
"นโบายบายต่างๆของพรรค(เฉพาะพรรคเพื่อไทย)ให้ส่งให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญตีความ
หรือวินิจฉัยก่อนที่จะประกาศเป็น นโยบายพรรคเพื่อหาเสียงครับ"
เพื่อลดปัญหาความขัดแย้งต่างๆที่จะเกิดขึ้น
ผมว่า งบประมาณ 3.5 แสนล้านไม่มีความจำเป็นแม้แต่น้อยครับ!!!
เราอยู่กันมากี่ร้อยปีไม่ต้องมีการบริหารจัดการน้ำเลยเราก็อยู่ของเรามาได้
การกู้เงินดังกล่าวเราไม่สามารถล่วงรู้ได้เลยว่ามันจะตอบโจทย์การแก้ปัญหา
ได้จริงหรือเปล่า เพราะในอดีตที่ผ่านมายังไม่มีใครอุตริคิดโครงการแบบนี้ขึ้นมา
ให้เกิดปัญหาความแตกต่างทางความคิดได้มากมายขนาดนี้
เราสามารถใช้โมเดลแบบเดิมที่เคยใช้อยู่แก้ปัญหาได้อยู่แล้ว.......เช่น
1.น้ำท่วมไม่กี่วันก็แห้งแล้ว อาจจะนานหน่อยไม่เป็นไรคนไทยทนได้เพราะเราทนมา
ได้เป็นหลายร้อยปีแล้วครับ
2.เรามีหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐ และเอกชนพร้อมจะบริจาคช่วยน้ำท่วมกันมากมาย ทั้งถุงยังชีพ
ถุงพระราชทาน น้ำดื่ม ข้าวสารอาหารแห้งของอุปโภค บริโภคครบครัน คนไทยมีน้ำใจครับ พี่น้อง
เราตกทุกข์ได้ยากคนไทยมีน้ำใจเสมอ
3.ความเสียหายหลังน้ำท่วมเราก็ค่อยๆบูรณะซ่อมแซมตามที่หน่วยงานของรัฐเข้ามาช่วยเหลือ
เดี๋ยวก็กลับเข้าสู่สภาวะปกติ เหมือนที่ผ่านมา
4.เรามีหน่วยงานของรัฐที่รู้ปัญหาเหล่านี้เป็นอย่างดีแล้วครับ เราไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยี่การบริหาร
จัดการน้ำของต่างประเทศที่มีประสบการณ์ในด้านต่างๆเลย เพราะหน่วยงานรัฐเช่น กรมชลประทานถือว่า
แก้ปัญหาตามโมเดลข้างต้นได้เองอยู่แล้ว ใครจะมารู้ดีเท่าคนที่เป็นเจ้าของประเทศ......
รัฐบาลนายก ยิ่งลักษณ์ ได้สร้างนโยบายที่เสี่ยงต่อความล้มเหลวในการแก้ปัญหาครับ ทั้งยังมีโอกาสขัดรัฐธรรมนูญ
อีกครับ
ผมเสนอทางออกให้นะครับ......
"นโบายบายต่างๆของพรรค(เฉพาะพรรคเพื่อไทย)ให้ส่งให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญตีความ
หรือวินิจฉัยก่อนที่จะประกาศเป็น นโยบายพรรคเพื่อหาเสียงครับ"
เพื่อลดปัญหาความขัดแย้งต่างๆที่จะเกิดขึ้น