น้องเขาแรงจริง หนังวัน ไดเร็คชัน แซงพ่อบ้านสำเร็จ ส่วน Instructions เปิดตัวแบบเซอร์ไพรส์ในวันหยุดแรงงาน

US BOX OFFICE August 30-September 1, 2013

(หมายเหตุ: ตัวเลขที่รายงาน เป็นตัวเลขประเมินจากสตูดิโอ)
(ข้อมูล-แปล/เรียบเรียงจาก www.boxofficemojo.com)
* ขออภัยต้องใช้คำว่า วันหยุดแรงงาน

กับช่วงสุดสัปดาห์ 3 วันที่ดูวุ่นวายกว่าปกติ หนังคอนเสิร์ตสามมิติของวง วัน ไดเร็คชัน One Direction: This is Us ปาดหน้าหนัง The Butler ของลี แดเนียลส์แซงขึ้นที่ 1 สำเร็จ แต่ถ้าหากรวมรายได้ลากมาถึงวันหยุดพิเศษละก็ ขอโทษ พ่อบ้านยังทำหน้าที่ดูแลรักษาอันดับ 1 ของตัวเองไว้อย่างเหนียวแน่น แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์มากมาย เท่ากับความสำเร็จของหนังเบาสมอง ครอบครัว พูดภาษาสแปนิช Instructions Not Included ซึ่งเปิดตัวในอันดับที่ 5 ทั้งๆ ที่เข้าฉายไม่ถึง 400 โรง

ที่น่าสนใจก็คือ ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมารายได้ของหนังมาแบบเป็นกอบเป็นกำ โดยรายได้รวมสุดสัปดาห์ 3 วัน ของหนัง 12 อันดับแรกอยู่ที่ 92.6 ล้านเหรียญ แต่มีหนังที่ทำเงินเกินล้านเหรียญมากถึง 24 เรื่อง

เปิดตัวด้วย 2,735 โรง One Direction: This is Us คว้าที่ 1 ไปครองด้วยรายได้ 15.8 ล้านเหรียญ (18 ล้านเหรียญ สำหรับ 4 วัน) ซึ่งไกลห่างจากหนังคอนเสิร์ตของไมลีย์ ไซรัส, จัสติน บีเบอร์ และ ไมเคิล แจ็คสัน ที่ทำรายได้เปิดตัวกว่า 23 ล้านเหรียญ แต่ก็มากกว่าหนังคอนเสิร์ตที่ถือว่าคว่ำของ แคตี เพอร์รี และเดอะ โจนาส บราเธอร์ส แล้วก็ถือว่าเป็นรายได้ที่ดีทีเดียว สำหรับหนังที่ใช้ทุนไม่มาก และวางเป้าหมายทางการตลาดที่ไม่สูงนัก

โดยทางโซนีวางเป้าหมายหนังคอนเสิร์ตของกลุ่มบอย แบนด์จากอังกฤษวงนี้ ไว้ที่กลุ่มคนดูวัยรุ่นสาวๆ แล้วก็ทำได้จริงๆ เพราะคนดูเกือบทั้งหมดก็คือพวกเธอ โดย 87% ของคนดูเป็นผู้หญิง และ 65% อายุต่ำกว่า 17 ปี คนดูให้คะแนน A กับซีนีมาสกอร์ แต่ไม่ได้หมายความว่าหนังจะยืนระยะได้ยาว ที่น่าสังเกตก็คือ รายได้ของหนังมาจากวันศุกร์มากถึง 55.8% ของรายได้ทั้งหมด ซึ่งแสดงให้เห็นว่า หนังทำเงินได้จากกระแสในช่วงแรกเท่านั้น

อันดับ 2 เป็นของ The Butler ที่ยังเดินหน้าสร้างความมหัศจรรย์ต่อไปเรื่อยๆ ด้วยการเติมเงินลงมาอีก 14.0 ล้านเหรียญ (20 ล้านเหรียญจาก 4 วัน) มาถึงตอนนี้ หนังทำเงินไปแล้ว 79.3 ล้านเหรียญ และกำลังพุ่งเข้าสู่ร้อยล้าน

ส่วนหนังเบาสมองฮิต We're the Millers ทำเงินไป 12.7 ล้านเหรียญ (15.9 ล้านเหรียญจาก 4 วัน) รายได้รวมเป็น 112.9 ล้านเหรียญ ถือเป็นหนังเรื่องที่ 6 ของเจนนิเฟอร์ อนิสตัน ที่ทำเงินในอเมริกาเกินร้อยล้าน

แม้จะมีโรงฉายแค่ 347 โรง แต่ Instructions Not Included ก็คว้าที่ 4 มาได้หน้าตาเฉยด้วยรายได้ถึง 7.8 ล้านเหรียญ (10 ล้านเหรียญจาก 4 วัน) กลายเป็นหนังพูดสแปนิชที่ทำเงินสูงกว่าหนังเรื่องอื่นๆ ที่แพนทาไลออน บริษัทลูกของไลออนเกทส์ รับจัดจำหน่าย ก่อนหน้านี้ Girl in Progress กับ No Eres Tu, Soy Yo ต่าง
ทำเงิน 2.6 และ 1.34 ล้านเหรียญตามลำดับ ที่น่าสนใจก็คือ หนังทั้งสามเรื่องนี้ มียูเจนิโอ เดอร์เบซแสดงทั้งหมด ซึ่งน่าจะทำให้ Instructions เปิดตัวได้แรงเมื่อเปรียบเทียบกัน

ไม่ใช่แค่เป็นเชื้อชาติที่มีประชากรมากขึ้นเรื่อยๆ ในอเมริกา พวกฮิสปานิค (คนที่มีเชื้อสายละติน) ยังเป็นกลุ่มที่สร้างรายได้ให้กับภาพยนตร์ที่สูงแบบไม่ได้สัดส่วนกับจำนวนประชากร จากสถิติในปี 2012 พวกฮิปานิคมีจำนวนเพิ่มขึ้น 17% แต่ในกลุ่มคนดูหนัง เป็นพวกเขามากถึง 26% ที่น่าประหลาดใจก็คือ แม้จะเป็นกลุ่มคนดูที่ใหญ่ แต่ก็ไม่มีหนังที่สร้างเพื่อเจาะคนดูกลุ่มนี้มากนัก แต่การทำหนังเพื่อคนดูกลุ่มนี้ก็ยังไม่ใช่ปัจจัยความสำเร็จทั้งหมดเมื่อดูจากรายได้ของ Girl in Progress และ No Eres Tu, Soy Yo ซึ่งไม่มากไม่มายอะไร เนื้อหาของหนังก็เป็นองค์ประกอบสำคัญอีกองค์ประกอบหนึ่ง และ Instructions Not Included ก็พุ่งไปที่คนดูกลุ่มครอบครัวด้วย ซึ่งทำสำเร็จ หนังได้คะแนน A+ ซึ่งหาได้ยากมากๆ จากซีนีมาสกอร์ และแสดงเป็นนัยๆ ว่าหนังน่าจะไปได้ไกล ด้วยแรงบอกปากต่อปาก และกับรายได้เฉลี่ยต่อโรงที่มากขนาดนี้ ไม่ต้องกลัวเลยว่าทางไลออนเกทส์ จะไม่หาทางเพิ่มโรงเป็นการฉายในวงกว้างสุดสัปดาห์นี้

อย่างไรก็ตาม หนังเรื่องอื่นที่เปิดตัวในสัปดาห์นี้ เละเทะกันถ้วนหน้า Getaway เปิดตัวในอันดับ 9 รายได้แค่ 4.5 ล้านเหรียญ (4 วัน 5.53 ล้านเหรียญ) ซึ่งพอๆ กับ Bullet to the Head จากค่าย ดาร์ค คาสเซิล หน้าหนังไม่ได้ดูดี แถมการตลาดก็ทำกันแบบเนาะแนะ คำวิจารณ์ก็แยะ ถือว่าหนังได้มาครบ แต่ก็ทำรายได้อยู่ในระดับตามความคาดหมาย คะแนนซีนีมาสกอร์นั้นได้แค่ C+ และน่าจะลาโรงไปอย่างรวดเร็ว

เปิดตัวแค่ 870 โรง Closed Circuit ทำรายได้มาแค่ 2.54 ล้านเหรียญจาก 3 วัน และถ้ารวมรายได้จากวันพุธ/ พฤหัสบดีแล้ว หนังจะทำรายได้ไป 3.06 ล้านเหรียญ แม้จะมองได้ว่าหนังเปิดฉายแบบไม่มากโรง แต่เมื่อเทียบกับหนังโฟกัส ฟีเจอร์ส ในช่วงวันแรงงานเรื่องอื่นๆ อย่าง The Constant Gardener, The American และ The Debt ถือว่าหนังเปิดตัวย่ำแย่มากๆ.

หลังเปิดฉายแบบจำกัดโรงในสัปดาห์ก่อน The Grandmaster เพิ่มโรงเป็น 749 โรง และทำเงินมาอีก 2.48 ล้านเหรียญ (4 วัน 3.12 ล้านเหรียญ)

กับการลงโรงอีกครั้งแบบฉายควบกันของ Star Trek Into Darkness และ World War Z fทำให้หนังสามารถทำเงินผ่าน 200 ล้านเหรียญในอเมริกาได้สำเร็จ ส่วน Pacific Rim ผ่านร้อยล้านมาได้เล็กน้อย

ส่วนรายได้นอกอเมริกาสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นสัปดาห์เหงาๆ โดย Elysium นำจ่าฝูงด้วยรายได้ 17.9 ล้านเหรียญ โดยเปิดตัวได้ดีที่เกาหลีใต้ (5 ล้านเหรียญ) และ อิตาลี (2 ล้านเหรียญ) มาถึงตอนนี้หนังแม็ทท์ เดมอนเรื่องนี้ทำเงินไปทั้งหมด 97.7 ล้านเหรียญ นอกอเมริกา

ขณะที่ One Direction: This is Us เปิดตัวใน 53 ตลาด ทำเงินมาได้ 14.5 ล้านเหรียญ โดยทางโซนีเสริมด้วยว่า รายได้เฉลี่ยของหนังมากเป็น 2 เท่าของ Justin Bieber: Never Say Never และไปได้ดีในอังกฤษ บ้านเกิดของวัน ไดเร็คชัน ที่ทำรายได้ไป 5.7 ล้านเหรียญ รวมรายได้จากรอบพรีวิว หนังผี The Conjuring ยังเดินหน้าทำรายได้ต่อไป ทำเงินมาอีก 12.1 ล้านเหรียญจาก 41 ตลาด โดยขึ้นอันดับ 1 ได้ในเม็กซิโก 4.2 ล้านเหรียญ รายได้รวมนอกอเมริกาอยู่ที่ 109.5 ล้านเหรียญ และยังไม่เปิดตัวที่ บราซิล, เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นส่วน Percy Jackson: Sea of Monsters ทำเงินมาอีก 11.4 ล้านเหรียญ รายได้รวมเพิ่มเป็น 82.1 ล้านเหรียญ แถมยังมีตลาดใหญ่รอเปิดตัวอยู่อีก 5 แห่งใน 3 เดือนข้างหน้า ท้ายที่สุดแล้วหนังน่าจะทำเงินได้มากกว่าภาคแรก ที่ทำไว้ 138 ล้านเหรียญ

ปิดท้ายด้วย Monsters University ที่ในที่สุดก็ทำเงินผ่าน 700 ล้านเหรียญทั่วโลกอย่างเป็นทางการ เป็นหนังเรื่องที่ 4 ของพิกซาร์ที่ทำได้ ต่อจาก Finding Nemo, Up และ Toy Story 3

อ่านแล้วชอบคลิก Like ได้ที่ www.facebook.com/Sadaos
และติดตามข่าวสาร, อ่านเรื่องราว บทวิจารณ์หนัง-เพลงได้ที่ www.sadaos.com
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่