US Box Office December 4-6, 2015
เห็นรายได้ในสุดสัปดาห์หลังเทศกาลขอบคุณพระเจ้าแล้ว งานนี้สงสัยว่าฮอลลีวูดคงต้องพึ่งการมาถึงของ Star Wars: The Force Awakens กันแล้ว เมื่อรายได้หนังในสัปดาห์นี้เป็นอีกครั้งที่ทำได้แบบแผ่วๆ โดย The Hunger Games: Mockingjay – Part 2 ยังคงยึดอันดับ 1 ไว้ได้ เมื่อทำเงินในสัปดาห์นี้อีก 18.6 ล้านเหรียญ ส่วนรายได้นอกอเมริกาอีกเก็บได้ 32.4 ล้านเหรียญ ทำให้รายได้จากต่างประเทศขยับไปที่ 296.8 ล้านเหรียญ ซึ่งมากกว่าที่หนังภาคแรกทำได้แล้ว ส่วนรายได้รวมทั่วโลกนั้นอยู่ที่ 523 ล้านเหรียญ
โดยปกติแล้ว สุดสัปดาห์หลังวันขอบคุณพระเจ้า ก็เป็นสัปดาห์หงอยๆ ของบ็อกซ์ออฟฟิศอยู่แล้ว และในปีนี้ ก็ไม่ใช่ข้อแตกต่าง ซึ่งทางสตูดิโอก็รู้ทางเป็นอย่างดี เห็นได้จากมีหนังเปิดตัวในวงกว้างแค่ Krampus หนังตลกร้าย ที่ทำรายได้ไป 16 ล้านเหรียญ อยู่ในอันดับ 2 ขณะที่ทุนสร้างของหนังราวๆ 15 ล้านเหรียญ ถือว่าหนังเปิดตัวได้ดี และมากกว่าที่คาดการณ์กันไว้ หนังทำรายได้ดีในวันศุกร์ และยืนระยะได้มั่นคงในวันเสาร์ ไม่น่าแปลกใจที่หนังจะกลายเป็นงานที่ประสบความสำเร็จในแบบหนังทุนต่ำ
อันดับ 3 เป็น The Good Dinosaur ที่รายได้ตกถึง 60.4% ทำเงินมาอีก 15.3 ล้านเหรียญ กลายเป็นหนังพิกซาร์ที่รายได้สัปดาห์ที่สองตกมากที่สุด มากกว่า 60.3% ของ Cars 2 ในปี 2011 แต่ที่ต่างกันก็คือ หลังจากฉายไปสองสัปดาห์ Cars 2 ทำเงินไปแล้ว 117.2 ล้านเหรียญ แต่ Good Dinosaur ทำได้แค่ 75.9 ล้านเหรียญ แถมยังได้เปรียบจากการเปิดตัวก่อนปกติอีกสองวัน
Creed ที่ได้กระแสรางวัลส่ง รายได้ตกแค่ 49% ทำรายได้ 14.9 ล้านเหรียญ หนังทุนสร้าง 35 ล้านเหรียญเรื่องนี้ทำเงินผ่าน 65 ล้านเหรียญไปแล้วจากการฉาย 12 วันแรก ส่วน Spectre ยังเกาะอยู่ในท็อปไฟว์ รายได้รวมตอนนี้ผ่าน 184 ล้านเหรียญแล้ว ขณะที่รายได้รวมทั่วโลกอยู่ที่ 792 ล้านเหรียญ หลังเก็บเงินนอกอเมริกามาได้อีก 23 ล้านเหรียญ
กับหนังใหม่เรื่องอื่นๆ Chi-Raq ของสไปค์ ลี ทำได้ดีแค่ท็อป 12 ด้วยรายได้ 1.25 ล้านเหรียญจาก 305 โรง แต่ก็เป็นหนังลีที่เปิดตัวได้ดีที่สุด เหนือกว่า 885,000 เหรียญที่ Oldboy ทำเอาไว้ในปี 2013 แถมมีโรงฉายน้อยกว่าถึง 278 โรง หนังเป็นผลงานการสร้างหนังใหญ่เรื่องแรกของอะเมซอน และโรดไซด์ถือสิทธิ์การจัดจำหน่ายในโรงภาพยนตร์ ขณะที่ฟ็อกซ์ เซิร์ชไลท์ก็ปล่อยหนังหวังออสการ์ Youth ฉายในสี่โรง ซึ่งทำรายได้ 80,000 เหรียญ, Macbeth ก็เก็บเงินมาได้ 67,868 จากห้าโรง
Carol ยังคงเก็บเล็กผสมน้อย จากการฉายในวงจำกัดต่อไป และในสัปดาห์นี้ หนังทำเงินมาได้ 147,241 ล้านเหรียญจากสี่โรง คิดเป็นรายได้เฉลี่ยสูงถึง 36,810 เหรียญต่อโรง หนัง Spotlight และ Brooklyn ก็เดินหน้าไปอย่างช้าๆ แต่มั่นคง รายได้ตกแค่ 33.6% และ 38.4% ตามลำดับ และยังอยู่ในท็อปเทน
ที่ออกตัวไม่ดีนักคงเป็นหนังเกี่ยวกับแม่ชีเทเรซา The Letters ที่ทำรายได้แค่ 802,000 เหรียญจาก 886 โรง
สำหรับในสุดสัปดาห์นี้ หนัง 12 อันดับแรกทำเงินรวมกันแค่ 90 ล้านเหรียญ ดีกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 22.9%
ในตลาดนอกอเมริกา In the Heart of the Sea เปิดตัวแล้วก่อนที่จะเข้าฉายในอเมริกาสัปดาห์หน้า หนังทำเงินไปได้แค่ 17.1 จาก 38 ตลาด แต่ก็พอมีมุมดีอยู่บ้าง เพราะหนังถือว่าเปิดตัวได้ดีกว่าหนังที่ว่าด้วยเรื่องในท้องทะเลคล้ายๆ กันอย่าง Master and Command และ Captain Phillips ถึง 32% ซึ่งหนังทั้งสองเรื่อประสบความสำเร็จใช้ได้ในตลาดต่างประเทศ แล้วหากเทียบกับ Rush หนังเรื่องก่อนของผู้กำกับรอน โฮเวิร์ด และคริส เฮมสเวิร์ธ หนังทำเงินได้มากกว่าถึง 47% ด้วยทุนสร้างที่ต่ำกว่าร้อยล้านเหรียญ หาก In the Heart of the Sea หวังจะได้กำไร ก็ต้องทำรายได้ในต่างประเทศให้เป็นกอบเป็นกำ เพราะในอเมริกา หนังมีเวลาเพียงแค่สัปดาห์เดียว หลังจากนั้นก็เจอคู่แข่งอย่าง Star Wars: The Force Awakens
กับการที่ In the Heart of the Sea ไม่สามารถสร้างกระแสอะไรได้ ทำให้ The Hunger Games: Mockingjay – Part 2 ยังยึดอันดับ 1 ในตลาดนอกอเมริกาต่อไป ด้วยรายได้อีก 32.4 ล้านเหรียญ ทำให้รายได้รวมทั่วโลกอยู่ที่ 523.9 ล้านเหรียญ
อันดับสองเป็น Spectre ที่ทำเงินมาอีก 23 ล้านเหรียญ หนังทำเงินทั่วโลกไปแล้ว 792 ล้านเหรียญ และน่าจะผ่าน 800 ล้านในสัปดาห์หน้า แต่ด้วยรายได้ที่ลดลงเรื่อยๆ ดูท่าว่าหนังไม่น่าจะทำรายได้ถึงพันล้านเหรียญอย่างที่ Skyfall ทำได้ ส่วน The Good Dinosaur และ The Martian ยังอยู่ในท็อปไฟว์ หนังแอนิเมชันทำเงินมาได้อีก 19.4 ล้านเหรียญ รายได้ทั่วโลกเพิ่มเป็น 131.3 ล้านเหรียญ ในส่วนของ The Martian หนังได้เงินอีก 13.5 ล้านเหรียญ รายได้รวมทั่วโลกพุ่งไปถึง 570.8 ล้านเหรียญแล้ว
Point Break เปิดตัวในหกประเทศแถบเอเชียแล้ว และทำรายได้ 14.1 ล้านเหรียญ โดย 12 ล้านมาจากประเทศจีน ซึ่งหนังเองก็ได้บริษัท DMG ของจีนร่วมทุนสร้างด้วย
อ่านแล้วถูกใจ คลิกไลค์กันได้ที่
www.facebook.com/Sadaos
Hunger Games ครองอันดับ 1 หนังทำเงินอเมริกาเป็นสัปดาห์ที่สาม Krampus เปิดตัวดีเกินคาด
เห็นรายได้ในสุดสัปดาห์หลังเทศกาลขอบคุณพระเจ้าแล้ว งานนี้สงสัยว่าฮอลลีวูดคงต้องพึ่งการมาถึงของ Star Wars: The Force Awakens กันแล้ว เมื่อรายได้หนังในสัปดาห์นี้เป็นอีกครั้งที่ทำได้แบบแผ่วๆ โดย The Hunger Games: Mockingjay – Part 2 ยังคงยึดอันดับ 1 ไว้ได้ เมื่อทำเงินในสัปดาห์นี้อีก 18.6 ล้านเหรียญ ส่วนรายได้นอกอเมริกาอีกเก็บได้ 32.4 ล้านเหรียญ ทำให้รายได้จากต่างประเทศขยับไปที่ 296.8 ล้านเหรียญ ซึ่งมากกว่าที่หนังภาคแรกทำได้แล้ว ส่วนรายได้รวมทั่วโลกนั้นอยู่ที่ 523 ล้านเหรียญ
โดยปกติแล้ว สุดสัปดาห์หลังวันขอบคุณพระเจ้า ก็เป็นสัปดาห์หงอยๆ ของบ็อกซ์ออฟฟิศอยู่แล้ว และในปีนี้ ก็ไม่ใช่ข้อแตกต่าง ซึ่งทางสตูดิโอก็รู้ทางเป็นอย่างดี เห็นได้จากมีหนังเปิดตัวในวงกว้างแค่ Krampus หนังตลกร้าย ที่ทำรายได้ไป 16 ล้านเหรียญ อยู่ในอันดับ 2 ขณะที่ทุนสร้างของหนังราวๆ 15 ล้านเหรียญ ถือว่าหนังเปิดตัวได้ดี และมากกว่าที่คาดการณ์กันไว้ หนังทำรายได้ดีในวันศุกร์ และยืนระยะได้มั่นคงในวันเสาร์ ไม่น่าแปลกใจที่หนังจะกลายเป็นงานที่ประสบความสำเร็จในแบบหนังทุนต่ำ
อันดับ 3 เป็น The Good Dinosaur ที่รายได้ตกถึง 60.4% ทำเงินมาอีก 15.3 ล้านเหรียญ กลายเป็นหนังพิกซาร์ที่รายได้สัปดาห์ที่สองตกมากที่สุด มากกว่า 60.3% ของ Cars 2 ในปี 2011 แต่ที่ต่างกันก็คือ หลังจากฉายไปสองสัปดาห์ Cars 2 ทำเงินไปแล้ว 117.2 ล้านเหรียญ แต่ Good Dinosaur ทำได้แค่ 75.9 ล้านเหรียญ แถมยังได้เปรียบจากการเปิดตัวก่อนปกติอีกสองวัน
Creed ที่ได้กระแสรางวัลส่ง รายได้ตกแค่ 49% ทำรายได้ 14.9 ล้านเหรียญ หนังทุนสร้าง 35 ล้านเหรียญเรื่องนี้ทำเงินผ่าน 65 ล้านเหรียญไปแล้วจากการฉาย 12 วันแรก ส่วน Spectre ยังเกาะอยู่ในท็อปไฟว์ รายได้รวมตอนนี้ผ่าน 184 ล้านเหรียญแล้ว ขณะที่รายได้รวมทั่วโลกอยู่ที่ 792 ล้านเหรียญ หลังเก็บเงินนอกอเมริกามาได้อีก 23 ล้านเหรียญ
กับหนังใหม่เรื่องอื่นๆ Chi-Raq ของสไปค์ ลี ทำได้ดีแค่ท็อป 12 ด้วยรายได้ 1.25 ล้านเหรียญจาก 305 โรง แต่ก็เป็นหนังลีที่เปิดตัวได้ดีที่สุด เหนือกว่า 885,000 เหรียญที่ Oldboy ทำเอาไว้ในปี 2013 แถมมีโรงฉายน้อยกว่าถึง 278 โรง หนังเป็นผลงานการสร้างหนังใหญ่เรื่องแรกของอะเมซอน และโรดไซด์ถือสิทธิ์การจัดจำหน่ายในโรงภาพยนตร์ ขณะที่ฟ็อกซ์ เซิร์ชไลท์ก็ปล่อยหนังหวังออสการ์ Youth ฉายในสี่โรง ซึ่งทำรายได้ 80,000 เหรียญ, Macbeth ก็เก็บเงินมาได้ 67,868 จากห้าโรง
Carol ยังคงเก็บเล็กผสมน้อย จากการฉายในวงจำกัดต่อไป และในสัปดาห์นี้ หนังทำเงินมาได้ 147,241 ล้านเหรียญจากสี่โรง คิดเป็นรายได้เฉลี่ยสูงถึง 36,810 เหรียญต่อโรง หนัง Spotlight และ Brooklyn ก็เดินหน้าไปอย่างช้าๆ แต่มั่นคง รายได้ตกแค่ 33.6% และ 38.4% ตามลำดับ และยังอยู่ในท็อปเทน
ที่ออกตัวไม่ดีนักคงเป็นหนังเกี่ยวกับแม่ชีเทเรซา The Letters ที่ทำรายได้แค่ 802,000 เหรียญจาก 886 โรง
สำหรับในสุดสัปดาห์นี้ หนัง 12 อันดับแรกทำเงินรวมกันแค่ 90 ล้านเหรียญ ดีกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 22.9%
ในตลาดนอกอเมริกา In the Heart of the Sea เปิดตัวแล้วก่อนที่จะเข้าฉายในอเมริกาสัปดาห์หน้า หนังทำเงินไปได้แค่ 17.1 จาก 38 ตลาด แต่ก็พอมีมุมดีอยู่บ้าง เพราะหนังถือว่าเปิดตัวได้ดีกว่าหนังที่ว่าด้วยเรื่องในท้องทะเลคล้ายๆ กันอย่าง Master and Command และ Captain Phillips ถึง 32% ซึ่งหนังทั้งสองเรื่อประสบความสำเร็จใช้ได้ในตลาดต่างประเทศ แล้วหากเทียบกับ Rush หนังเรื่องก่อนของผู้กำกับรอน โฮเวิร์ด และคริส เฮมสเวิร์ธ หนังทำเงินได้มากกว่าถึง 47% ด้วยทุนสร้างที่ต่ำกว่าร้อยล้านเหรียญ หาก In the Heart of the Sea หวังจะได้กำไร ก็ต้องทำรายได้ในต่างประเทศให้เป็นกอบเป็นกำ เพราะในอเมริกา หนังมีเวลาเพียงแค่สัปดาห์เดียว หลังจากนั้นก็เจอคู่แข่งอย่าง Star Wars: The Force Awakens
กับการที่ In the Heart of the Sea ไม่สามารถสร้างกระแสอะไรได้ ทำให้ The Hunger Games: Mockingjay – Part 2 ยังยึดอันดับ 1 ในตลาดนอกอเมริกาต่อไป ด้วยรายได้อีก 32.4 ล้านเหรียญ ทำให้รายได้รวมทั่วโลกอยู่ที่ 523.9 ล้านเหรียญ
อันดับสองเป็น Spectre ที่ทำเงินมาอีก 23 ล้านเหรียญ หนังทำเงินทั่วโลกไปแล้ว 792 ล้านเหรียญ และน่าจะผ่าน 800 ล้านในสัปดาห์หน้า แต่ด้วยรายได้ที่ลดลงเรื่อยๆ ดูท่าว่าหนังไม่น่าจะทำรายได้ถึงพันล้านเหรียญอย่างที่ Skyfall ทำได้ ส่วน The Good Dinosaur และ The Martian ยังอยู่ในท็อปไฟว์ หนังแอนิเมชันทำเงินมาได้อีก 19.4 ล้านเหรียญ รายได้ทั่วโลกเพิ่มเป็น 131.3 ล้านเหรียญ ในส่วนของ The Martian หนังได้เงินอีก 13.5 ล้านเหรียญ รายได้รวมทั่วโลกพุ่งไปถึง 570.8 ล้านเหรียญแล้ว
Point Break เปิดตัวในหกประเทศแถบเอเชียแล้ว และทำรายได้ 14.1 ล้านเหรียญ โดย 12 ล้านมาจากประเทศจีน ซึ่งหนังเองก็ได้บริษัท DMG ของจีนร่วมทุนสร้างด้วย
อ่านแล้วถูกใจ คลิกไลค์กันได้ที่ www.facebook.com/Sadaos