US Box Office November 21-23, 2014

(แปล/ เรียบเรียงจาก www.boxofficemojo.com)

เป็นไปตามคาดเมื่อ The Hunger Games: Mockingjay - Part 1 ครองอันดับ 1 หนังทำเงินประจำสัปดาห์นี้แบบสบายๆ และกลายเป็นหนังเปิดตัวสูงสุดของปีนี้ไปพร้อมๆ กัน แต่หนังก็ทำรายได้ตกจากภาคแรก แล้วเมื่อเทียบกับหนังภาคต่อ ที่ภาคสุดท้ายแยกเป็นสองภาคเหมือนกัน อย่าง Harry Potter และ Twilight หนังก็ทำได้ไม่ดีเท่า

เปิดตัวด้วย 4,151 โรง  Mockingjay ทำรายได้ 121.9 ล้านเหรียญ มากกว่า 100 ล้านเหรียญของ Transformers: Age of Extinction ที่ครองแชมป์หนังเปิดตัวรายได้มากสุดของปีนี้อยู่ รวมทั้งกลายเป็นหนังเปิดตัวมากสุดตลอดกาลอันดับ 15 ซึ่งไม่มากพอที่จะเทียบกับหนังเรื่องอื่นๆ ในชุดนี้ โดยน้อยกว่ารายได้ 158 ล้านเหรียญของ Catching Fire 23% แล้วก็ต่ำกว่าหนังภาคแรกที่ทำได้ 152 ล้านเหรียญ ที่น่าประหลาดใจก็คือ หนังทำรายได้ต่ำกว่า Harry Potter and the Deathly Hallows Part 1 ซึ่งทำไว้ 125 ล้านเหรียญ และ The Twilight Saga: Breaking Dawn Part 1 ที่เปิดตัว 138 ล้านเหรียญ โดยน่าสังเกตว่า ทางไลออนเกทส์นั้นลงเงินไปกันหนังชุดนี้มากพอดู ทั้งตลาดอเมริกาและต่างประเทศ กับรายได้เปิดตัวระดับนี้เป็นการย้ำความเชื่อที่ว่า The Hunger Games เป็นหนึ่งในงานภาคต่อที่ได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จมากที่สุด ในเวลาเดียวกัน รายได้ที่หายไป 23% ก็กลายเป็นเรื่องที่น่างุงนงงเหมือนกับ กับหนังชุดที่มีการจัดการและได้รับการตอบรับที่ดีมาโดยตลอดเรื่องนี้

ซึ่งนั่นทำให้บางอย่างที่ถูกบดบังมาตลอดเปิดเผยออกมา นั่นก็คือความจริงที่ว่า หนังสือเล่มสุดท้าย ไม่ได้ประสบความสำเร็จมหาศาลสักเท่าไหร่ และบรรดาคนดูก็ไม่อยากที่จะจ่ายตังไปดูแค่ครึ่งแรกของเรื่องราวเช่นกัน ขณะที่หนังก็ขาดแผนการตลาดแบบโดนๆ เหมือนที่สองภาคแรกมี แบบ "ถ้าอยากดูเกม คุณก็ต้องซื้อตั๋วดู" แถมคำวิจารณ์ก็ไม่ดีนักซ้ำ ท้ายที่สุดนี่ยังเป็นหนังเรื่องแรกในชุด ที่ไม่ได้ฉายในโรงไอแมกซ์  

ถ้า Mockingjay ยืนระยะได้ประมาณหนังสองภาคแรก ก็น่าจะทำรายได้แถวๆ 325 ล้านเหรียญ ซึ่งน้อยกว่า Guardians of the Galaxy แต่จากที่เห็นกัน หนังเรื่องที่ 3 ในชุดมักจะทำได้ไม่ดีเท่าเรื่องก่อนๆ เพราะงั้นรายได้ของหนังก็ไม่น่าจะเกิด 300 ล้านเหรียญ

ตามมาห่างๆ ในอันดับ 2 คือ Big Hero 6 รายได้ตก 42% เก็บเงินมาได้ 20.1 ล้านเหรียญ ทำให้รายได้รวมขยับเป็น 135.7 ล้านเหรียญ และยังเดินหน้าได้เรื่อยๆ เพื่อจบรายได้ที่อย่างน้อย 200 ล้านเหรียญ ซึ่งหมายความว่า หนังต้องบดกับ Penguins of Madagascae ให้ได้ด้วย

Interstellar อยู่ที่ 3 รายได้สัปดาห์นี้ 15.3 ล้านเหรียญลดลงจากเดิม 46% ผ่านมาสามสัปดาห์ รายได้ของหนังอยู่ที่ 120.9 ล้านเหรียญ และน่าจะไปจบที่แถว 175 ล้านเหรียญ

หลัเปิดตัวอันดับ 1 เมื่อสัปดาห์ก่อน Dumb and Dumber To ก็หล่นวูบถึง 61% ทำรายได้แค่ 14.1 ล้านเหรียญ รายได้ 10 วันทำได้ 57.7 ล้านเหรียญ ขณะที่ Horrible Bosses 2 จ่อเข้าฉายอยู่ หนังไม่น่าจะไปได้แค่ใกล้ๆ ร้อยล้านเท่านั้น

หนัง Gone Girl ยังเหนียวไม่หลุดจากห้าอันดับแรก คามาเป็นสัปดาห์ที่แปดติดต่อกัน หนังได้เงินมาเพิ่มอีก 2.8 ล้านเหรียญ รายได้รวมอยู่ที่ 156.8 ล้านเหรียญ

หนังประวัติสตีฟเน ฮอว์กิง The Theory of Everything เพิ่มโรงเป็น 140 โรง และทำรายได้ขึ้นมาติดสิบอันดับแรกได้ ที่ตัวเลข 1.51 ล้านเหรียญ คิดเป็นรายได้ต่อโรง 10,798 เหรียญ ซึ่งถือว่าแข็งแรงมากๆ สำหรับหนังที่เปิดตัวในแบบนี้

นอกอเมริกา The Hunger Games: Mockingjay—Part 1 เปิดตัว 85 ตลาดพร้อมๆ อเมริกา ซึ่งรวมตลาดใหญ่ๆ ทุกตลาด ยกเว้นจีน และญี่ปุ่น หนังทำเงินไป 152 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นจากภาคก่อนหน้า 4% จากตลาดเดียวกัน และตลาดที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคือที่อังกฤษ 19.9 ล้านเหรียญ และ เยอรมันนี 13.7 ล้านเหรียญ โดยทำสถิติเป็นหนังที่เปิดตัวมากที่สุดของปีนี้ทั้งที่นี่ และที่อังกฤษ ขณะที่รัสเซียหนังเปิดตัว 11.1 ล้านเหรียญ ดีกว่า Catching Fire 19% ถือว่าเป็นก้าวกระโดดที่มากที่สุดในกลุ่มตลาดใหญ่

ที่อื่นๆ ที่ Mockingjay เปิดตัวได้ดีก็มีที่ฝรั่งเศส 10.5 ล้านเหรียญ, เม็กซิโก 12.1 ล้านเหรียญ, ออสเตรเลีย 10.1 ล้านเหรียญ, บราซิล 8.8 ล้านเหรียญ, อิตาลี 5.3 ล้านเหรียญ, สเปน 5.2 ล้านเหรียญ และเกาหลีใต้ 3.5 ล้านเหรียญ หนัง Catching Fire ทำรายได้นอกอเมริกาเอาไว้ 440 ล้านเหรียญ กับจีนและญี่ปุ่นที่ยังไม่เปิดตัว  Mockingjay น่าจะทำได้ในระดับเดียวกัน

Interstellar ได้เงินมาอีก 70 ล้านเหรียญ ซึ่งถือว่าทำได้ดี ทั้งๆ ที่มี Mockingjay เป็นคู่แข่งสำคัญ โดยหนังเปิดตัว 1.9 ล้านเหรียญที่ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตลาดใหญ่แห่งสุดท้าย แต่รายได้ที่น่าประทับใจมาจากบ้านใกล้เรือนเคียงอย่างจีน และเกาหลีใต้ โดยที่จีน หนังทำเงินได้อีก 30.6 ล้านเหรียญตกจากสัปดาห์ก่อนแค่ 26% ผ่าน 12 วันหนังทำเงินที่นี่ได้อย่างน่าประทับใจ 82.3 ล้านเหรียญ รั้งอันดับ 2 หนังวอร์เนอร์ทำเงินสูงสุดที่จีน ส่วนที่เกาหลีนั้น หนังกลายเป็นปรากฏการณ์แล้ว เมื่อครองอันดับ 1 เป็นสัปดาห์ที่ 3 ด้วยรายได้ 10.4 ล้านเหรียญ และกลายเป็นหนังวอร์เนอร์ ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด ที่นี่ด้วยรายได้ 50.5 ล้านเหรียญ

ถูกใจอย่าลืมแวะไปกด Like ที่ www.facebook.com/Sadaos ด้วยนะครับ