ต้องแจ้งก่อนนะคะ ว่าปุ้ยนำเรื่องของพี่คนหนึ่งมาเขียน เนื่องจากเห็นหลายๆคนยังลดความอ้วนกัน แบบผิดๆอยู่ จึงอยากนำเรื่องราวดีๆมาแบ่งปัน เพื่อเป็นแนวทางให้ทุกคน มีสุขภาพและรูปร่างที่ดีค่ะ
พี่สาวคนนี้ อายุ 44 ปี ไม่ชอบการออกกำลังกาย จนเมื่อต้นปี น้ำหนักใกล้ทะลุ 70 ด้วยความรักสวยรักงาม จึงคิดที่จะลดความอ้วน โดยหันไปลดแป้ง ลดแป้งทุกมื้อ มื้อเย็นงดแป้ง แต่ก็ยังอ้วนเอา อ้วนเอา... หันไปทดลองยาลดความอ้วน ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ สุดท้ายก็ปลง และปลอบใจตัวเอง "ฉันก็แค่ อวบๆ น่ารักดีออก ไม่ได้อ้วนซักหน่อย พุงมีนิดเดียวเอง"
ในวันหนึ่ง... จากสาวห้องบลูก็เข้ามาห้องแป้งและบังเอิญมาเจอกระทู้ที่ปุ้ยตั้งไว้ "เมื่อสาวๆ... ออกกำลังกายแล้วไม่ทานอะไรยังไงก็ผอม แต่ถ้าออกกำลังกายและทานอาหารยังไงก็เฟิร์ม" ด้วยความที่ไม่อยากอดข้าวอีก และเห็นแก่กิน... จึงได้ตามไปเป็นเพื่อนในเฟสบุ๊ค ไปเจอคำว่า... เวทเทรนนิ่งและคาร์ดิโอ ไม่รู้จักสักอัน(ไม่เคยออกกำลังกายมาก่อน) จึงลงมือหาข้อมูล (ซึ่งปกติ หาแต่ข้อมูล โปรฯ กิน เที่ยว) ... พอเริ่มลงมือ ก็ได้รับคำปลอบใจว่า จะทำได้กี่วันว๊าาาา เชื่อเห๊อะ เดี๋ยวก็เลิก.. แต่เมื่อตั้งใจแล้ว อะไรก็ฉุดไม่อยู่... ปัจจุบัน "การออกกำลังกาย จึงเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต" ทุกอย่างอยู่ที่ใจ ของเราจริงๆ
"การลงมือทำ ในสิ่งที่ตัวเอง ไม่เคยทำมาก่อน มันท้าทาย และวัดใจ ว่าเราจะทำได้ และทำได้ดีแค่ไหน"
เริ่มออกกำลังกาย วันที่ 15 มิถุนายน จนถึงปัจจุบัน ก็สองเดือนครึ่งพอดี...
- เดือนแรก เล่นเวททุกส่วน ขา อก แขน หน้าท้อง ก้น... ช่วงเย็นวันละ 40-50 นาที แบบงูๆปลาๆ ด้วยดัมเบลล์ ข้างละ 1 โล(วันแรกๆใช้ขวดน้ำ ขวดเล็ก) ทำแบบ ลองทำดูซักเดือน ถ้าไม่เห็นผล ว่าจะเลิกทำ ส่วนอาหารก็ทาน 3 มื้อตามปรกติ แต่เลี่ยงของทอด ของมัน และของหวาน
- เดือนที่สอง คาร์ดิโอช่วงเช้า 30-40 นาที (เต้นตามคลิป, ปั่นจักรยาน) ช่วงเย็นเล่นเวท 50-60 นาที ออกกำลังกายทั้งวันรวม 1.30 ชม อาหารเหมือนเดิม เลี่ยงของทอด ของมัน และของหวาน (คลีน 20%)
ซึ่งจะหยุดพัก วันพฤหัสกับอาทิตย์ของทุกสัปดาห์
"การออกกำลังกาย ถ้าเราวางเป้าหมายไว้ เราจะสนุกไปกับมัน ไม่มีเบื่อง่ายๆ"
อาหารก็จะทาน 3 มื้อหลัก(ข้าว โปรตีน จัดเต็ม) และ 2-3 มื้อของว่าง สาย บ่าย ดึก
ของว่าง เป็นพวก ธัญพืช ขนมปังโฮลวีท โยเกิร์ต ผลไม้ ทานเยอะกว่าเดิม แต่เลือกทาน
เค้กกิน 1-2 ชิ้น/เดือน (อ้วนเพราะ เบเกอรี่ ชอบมากกกกก)
ขนมปังอื่นๆ 1-2 ชิ้น/เดือน (ขนมปัง ชอบมากกกก)
ไอติม 3-4 คำ/เดือน
น้ำหวานทุกชนิด ไม่กิน (ปกติ ก็ไม่ดื่ม อยู่แล้ว)
ขนมปัง ที่กินตลอด โฮลวีท
กาแฟดำ ไม่น้ำตาล ตลอด (ปกติ ติดน้ำตาลครีม หักดิบ ดื่มกาแฟดำเลย)
ผลไม้ หมุนเวียนกัน หลากหลายอย่าง ยกเว้นที่หวานมากๆ เช่น ทุเรียน ขนุน จะไม่ทาน
ตัวอย่างอาหารบางส่วนค่ะ
เมื่อทานอาหารเพียงพอ ผลที่ได้จึงน่าพอใจ
ตารางออกกำลังกายปัจจุบัน ช่วงเช้าคาร์ดิโอ 30-45 นาที ช่วงเย็นเวทตามตาราง
วันจันทร์ หน้าท้อง + คาร์ดิโอ 30-45 นาที
วันอังคาร ขา,ก้น + คาร์ดิโอ 30 นาที
วันพุธ หลัง + ไบเซ็ปส์
วันพฤหัส พัก
วันศุกร์ ขา, ก้น + หน้าท้อง + คาร์ดิโอ 30 นาที
วันเสาร์ อก
วันอาทิตย์ พัก
"ถ้าคุณ เสพย์ติดการออกกำลังกายแล้ว คุณจะรู้ว่า เวลาเหงื่อท่วมตัว 'ฟิน' แค่ไหน"
ก่อนออกกำลังกายน้ำหนัก 68 กก. ปัจจุบัน 67 กก "น้ำหนักลดลงแค่ 1 กก แต่ความแตกต่างที่เห็น เจ้าตัวยัง ทึ่ง !!!"
แต่ก่อนเวลาถ่ายรูปจะซ่อนหลังต้นไม้ หลังเพื่อน กิ่งไม้ ดอกไม้ "อาศัย ต้นไม้ ใบหญ้า บดบัง เซลลูไลท์ ตามแขนขา"
"วัย" ไม่ใช่อุปสรรค ในการออกกำลังกาย
"ใจ" ต่างหากที่เป็น อุปสรรค
สุดท้ายนี้... หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับทุกๆคนนะคะ การออกกำลังกายและเลือกทานอาหาร อาจจะไม่ทำให้น้ำหนักลดลงมากมาย แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือความเฟิร์มของร่างกาย ความมั่นใจ และความภาคภูมิใจในตัวเองค่ะ
เมื่ออายุหลักสี่ เป็นเพียงตัวเลข อ้วนได้.. ย้วยได้... ก็ผอมลง เฟิร์ม หุ่นดีขึ้นได้
พี่สาวคนนี้ อายุ 44 ปี ไม่ชอบการออกกำลังกาย จนเมื่อต้นปี น้ำหนักใกล้ทะลุ 70 ด้วยความรักสวยรักงาม จึงคิดที่จะลดความอ้วน โดยหันไปลดแป้ง ลดแป้งทุกมื้อ มื้อเย็นงดแป้ง แต่ก็ยังอ้วนเอา อ้วนเอา... หันไปทดลองยาลดความอ้วน ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ สุดท้ายก็ปลง และปลอบใจตัวเอง "ฉันก็แค่ อวบๆ น่ารักดีออก ไม่ได้อ้วนซักหน่อย พุงมีนิดเดียวเอง"
ในวันหนึ่ง... จากสาวห้องบลูก็เข้ามาห้องแป้งและบังเอิญมาเจอกระทู้ที่ปุ้ยตั้งไว้ "เมื่อสาวๆ... ออกกำลังกายแล้วไม่ทานอะไรยังไงก็ผอม แต่ถ้าออกกำลังกายและทานอาหารยังไงก็เฟิร์ม" ด้วยความที่ไม่อยากอดข้าวอีก และเห็นแก่กิน... จึงได้ตามไปเป็นเพื่อนในเฟสบุ๊ค ไปเจอคำว่า... เวทเทรนนิ่งและคาร์ดิโอ ไม่รู้จักสักอัน(ไม่เคยออกกำลังกายมาก่อน) จึงลงมือหาข้อมูล (ซึ่งปกติ หาแต่ข้อมูล โปรฯ กิน เที่ยว) ... พอเริ่มลงมือ ก็ได้รับคำปลอบใจว่า จะทำได้กี่วันว๊าาาา เชื่อเห๊อะ เดี๋ยวก็เลิก.. แต่เมื่อตั้งใจแล้ว อะไรก็ฉุดไม่อยู่... ปัจจุบัน "การออกกำลังกาย จึงเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต" ทุกอย่างอยู่ที่ใจ ของเราจริงๆ
"การลงมือทำ ในสิ่งที่ตัวเอง ไม่เคยทำมาก่อน มันท้าทาย และวัดใจ ว่าเราจะทำได้ และทำได้ดีแค่ไหน"
เริ่มออกกำลังกาย วันที่ 15 มิถุนายน จนถึงปัจจุบัน ก็สองเดือนครึ่งพอดี...
- เดือนแรก เล่นเวททุกส่วน ขา อก แขน หน้าท้อง ก้น... ช่วงเย็นวันละ 40-50 นาที แบบงูๆปลาๆ ด้วยดัมเบลล์ ข้างละ 1 โล(วันแรกๆใช้ขวดน้ำ ขวดเล็ก) ทำแบบ ลองทำดูซักเดือน ถ้าไม่เห็นผล ว่าจะเลิกทำ ส่วนอาหารก็ทาน 3 มื้อตามปรกติ แต่เลี่ยงของทอด ของมัน และของหวาน
- เดือนที่สอง คาร์ดิโอช่วงเช้า 30-40 นาที (เต้นตามคลิป, ปั่นจักรยาน) ช่วงเย็นเล่นเวท 50-60 นาที ออกกำลังกายทั้งวันรวม 1.30 ชม อาหารเหมือนเดิม เลี่ยงของทอด ของมัน และของหวาน (คลีน 20%)
ซึ่งจะหยุดพัก วันพฤหัสกับอาทิตย์ของทุกสัปดาห์
"การออกกำลังกาย ถ้าเราวางเป้าหมายไว้ เราจะสนุกไปกับมัน ไม่มีเบื่อง่ายๆ"
อาหารก็จะทาน 3 มื้อหลัก(ข้าว โปรตีน จัดเต็ม) และ 2-3 มื้อของว่าง สาย บ่าย ดึก
ของว่าง เป็นพวก ธัญพืช ขนมปังโฮลวีท โยเกิร์ต ผลไม้ ทานเยอะกว่าเดิม แต่เลือกทาน
เค้กกิน 1-2 ชิ้น/เดือน (อ้วนเพราะ เบเกอรี่ ชอบมากกกกก)
ขนมปังอื่นๆ 1-2 ชิ้น/เดือน (ขนมปัง ชอบมากกกก)
ไอติม 3-4 คำ/เดือน
น้ำหวานทุกชนิด ไม่กิน (ปกติ ก็ไม่ดื่ม อยู่แล้ว)
ขนมปัง ที่กินตลอด โฮลวีท
กาแฟดำ ไม่น้ำตาล ตลอด (ปกติ ติดน้ำตาลครีม หักดิบ ดื่มกาแฟดำเลย)
ผลไม้ หมุนเวียนกัน หลากหลายอย่าง ยกเว้นที่หวานมากๆ เช่น ทุเรียน ขนุน จะไม่ทาน
ตัวอย่างอาหารบางส่วนค่ะ
เมื่อทานอาหารเพียงพอ ผลที่ได้จึงน่าพอใจ
ตารางออกกำลังกายปัจจุบัน ช่วงเช้าคาร์ดิโอ 30-45 นาที ช่วงเย็นเวทตามตาราง
วันจันทร์ หน้าท้อง + คาร์ดิโอ 30-45 นาที
วันอังคาร ขา,ก้น + คาร์ดิโอ 30 นาที
วันพุธ หลัง + ไบเซ็ปส์
วันพฤหัส พัก
วันศุกร์ ขา, ก้น + หน้าท้อง + คาร์ดิโอ 30 นาที
วันเสาร์ อก
วันอาทิตย์ พัก
"ถ้าคุณ เสพย์ติดการออกกำลังกายแล้ว คุณจะรู้ว่า เวลาเหงื่อท่วมตัว 'ฟิน' แค่ไหน"
ก่อนออกกำลังกายน้ำหนัก 68 กก. ปัจจุบัน 67 กก "น้ำหนักลดลงแค่ 1 กก แต่ความแตกต่างที่เห็น เจ้าตัวยัง ทึ่ง !!!"
แต่ก่อนเวลาถ่ายรูปจะซ่อนหลังต้นไม้ หลังเพื่อน กิ่งไม้ ดอกไม้ "อาศัย ต้นไม้ ใบหญ้า บดบัง เซลลูไลท์ ตามแขนขา"
"วัย" ไม่ใช่อุปสรรค ในการออกกำลังกาย
"ใจ" ต่างหากที่เป็น อุปสรรค
สุดท้ายนี้... หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับทุกๆคนนะคะ การออกกำลังกายและเลือกทานอาหาร อาจจะไม่ทำให้น้ำหนักลดลงมากมาย แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือความเฟิร์มของร่างกาย ความมั่นใจ และความภาคภูมิใจในตัวเองค่ะ