9
ไม่กี่วันหลังจากทำพิธีรับขวัญวันลูกของแม่นิ่ม พิมพ์มาดาก็เต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่เธอเองพยายามหลีกเลี่ยงมาโดยตลอด เรือเก๋งลำใหญ่
ที่เทียบท่าเข้ามานั้นสร้างความหวาดกลัวให้กับหญิงสาวที่กำลังเริงร่าอยู่กลางสวนกลัวจนต้องรีบวิ่งจู๊ดกลับขึ้นเรือน
“พะยอม ถ้ามีใครมาตามข้า ให้บอกไปว่าข้าไม่สบายนะ” พิมพ์มาดาสั่งกับสาวใช้อย่างร้อนรนแล้วรีบหนีเข้าห้องลงกลอนอย่างแน่นหนา
คราวนี้จะมาไม้ไหนอีกนะ เห็นเงียบไปตั้งนาน กลับมาอีกทำไมเนี่ย เฮ้อ เมื่อลองแอบดูผ่านช่องหน้าต่างก็เห็นพระยาท้ายน้ำเดินคู่มากับชายสูง
อายุอีกคนที่เธอไม่เคยรู้จัก เมื่อดูจากบ่าวไพร่ที่ตามมาเป็นพรวนก็เห็นได้ว่าชายแปลกหน้าคนนี้คงไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ
แล้วก็เป็นอย่างที่หญิงสาวคาดไว้ ไม่นานนักบ่าวจากเรือนใหญ่ก็มาตามพิมพ์มาดาให้ขึ้นไปเรือน
“นายหญิงข้าเป็นไข้หัวลม มิอาจไปพบคุณหญิงได้ดอก ข้าฝากไปเรียนที” พะยอมทำตามคำสั่ง
“คุณหญิงนวลมีคำสั่ง เจ้ากล้าขัดฤา” บ่าวจากเรือนใหญ่ยืนกราน
“แล้วเจ้าล่ะกล้าขัดข้าไหม” พิมพ์มาดาตวาดเสียงดัง เสียงดังทะลุประตูที่ลงกลอนทำเอาสาวใช้ทั้งสองถึงกับสะดุ้ง
“ข้าบอกแล้วว่าข้าไม่สบาย อยากจะนอนพัก เจ้าเข้ามารบกวนข้าเช่นนี้ ระวังเถอะ ไม่เคยได้ยินสิ่งที่คนลือกันหรือ ว่าข้ามีเวทย์มนต์คาถา อยาก
จะลองดูไหมล่ะ” พิมพ์มาดาขู่ต่อ ซึ่งคำขู่นี้ก็ได้ผลอย่างดี บ่าวที่ถูกใช้ให้มาตามหญิงสาวถึงกับหน้าถอดสีเดินตัวสั่นกลับไปทันที
ส่วนคนที่ออกปากไล่ตอนนี้ก็เดินเป็นหนูติดจั่นอยู่ในห้องด้วยกลัว หากคราวนี้คุณหญิงนวลมาเองแล้วเธอจะหนีไปไหนได้ โชคดีที่ไม่เป็นอย่าง
พิมพ์มาดาคิดเพราะหลังจากนั้นก็ไม่มีใครมาตามเธออีก แต่หญิงสาวก็กลัวจนไม่กล้าออกจากห้องแม้จะเห็นว่าแขกผู้มาเยือนทั้งสองกลับไป
แล้ว
“พะยอม เดี๋ยวพะยอมช่วยไปสืบทีว่าพวกเขามาทำอะไรกัน”
“แล้วบ่าวจะสืบอย่างไรล่ะเจ้าคะ”
“ก็ลองลงไปเลียบๆเคียงถามคนในครัวก็ได้ ลองถามพี่
งดูก็ได้ ข้าเชื่อว่าแม้จะดูแลปรนนิบัติแม่หญิงนิ่มอยู่แต่ไม่มีข่าวไหนที่จะเล็ดลอดผ่าน
หูพี่
งได้ เชื่อข้าสิ”พิมพ์มาดาเชื่อมั่น
พะยอมกลับมาอีกทีตอนฟ้าใกล้มืด เธอวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาในห้อง ทำท่าเหมือนจะพูดอะไรแต่ก็ยังไม่พูดเสียที จนพิมพ์มาดาต้องเอ่ยปากถาม
“มีอะไรหรือเปล่า พะยอม”
“คือบ่าวได้ข่าวมาว่าขุนนางมีชื่อทั้งสองท่านนั้นมาเพื่อสู่ขอแม่หญิงเจ้าคะ”พะยอมละล่ำละลักพูด
“หา บ้าหรือเปล่า”พิมพ์มาดาแทบไม่เชื่อหู
“ไม่บ้าเจ้าคะ บ่าวได้ยินมาเต็มสองหู เขาอึงกันว่าท่านทั้งสองจัดการวันหมั้นหมายให้เรียบร้อยแล้วด้วยนะเจ้าคะ”
“แล้วคุณหญิงนวลล่ะ ตกลงไปหรือเปล่า”
พอถึงจุดนี้สาวพะยอมก็ก้มหน้าลงต่ำไม่ตอบคำถาม
“ตกลงหรือ ทำไมตกลงง่ายๆแบบนั้นล่ะ ไม่ความเห็นข้าก่อนเลยหรือ”
พะยอมเงยหน้ามองนายหญิงของเธอเองซึ่งตอนนี้มีแต่ความเสียใจอยู่ในแววตา ร่างบอบบางทรุดลงกับพื้นเหมือนนกน้อยที่อับจนหนทาง
“นายหญิงของบ่าวเจ้าคะ อย่าเสียใจไปเลยเจ้าค่ะ บ่าวว่าอาจเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำ ขุนนางผู้นั้นมีมีบุญอำนาจวาสนา แลผู้ใหญ่เลือกคู่ให้ลูกให้
หลานก็ธรรมดาไปนี่เจ้าคะ”
“พะยอมเธอเคยรักใครไหม หากต้องแต่งงานไปกับคนที่เราไม่ได้รักมันก็เหมือนกับตกนรกทั้งเป็น ข้าจะไปคุยกับคุณหญิงนวล ถึงอย่างไรฉันก็
ไม่แต่ง”
“จะดีหรือเจ้าคะ นายหญิง คุณหญิงตกลงไปแล้วจะไปแก้ไขอะไรก็คงมิได้แล้ว นายหญิงปลงใจเถิดเจ้าค่ะ”
“ข้าไม่นั่งเฉยๆรอให้ใครมากำหนดโชคชะตาข้าได้หรอก” พิมพ์มาดาลุกขึ้นแล้ววิ่งไปที่เรือนใหญ่หมายใจจะต้องคุยกับคุณหญิงนวลให้รู้เรื่อง
“คุณหญิงนวลเจ้าคะ ข้ามีเรื่องอยากจะคุยด้วยเจ้าค่ะ”
“โผล่หน้ามาเสียที หายป่วยหายไข้แล้วฤา” น้ำเสียงที่ฟังดูประชดประชันของคุณหญิงนวลยิ่งทำให้คนที่ฟังอยู่ถึงกับหงุดหงิดในใจ
“คุณหญิงเจ้าคะ ข้าไม่ยอมแต่งงานกับพระยาท้ายน้ำเด็ดขาดนะเจ้าคะ” เสียงกร้าวของพิมพ์มาดาทำเอาพระยาเทพรังสรรค์ที่นั่งสูบยาเส้นอยู่
ห่างๆถึงกับวางยาเส้นแล้วหันมามองที่ต้นตอของเสียง
“เจ้าขัดคำสั่งไม่ได้ เจ้ารู้ฤาไม่ว่าวันนี้เจ้าพระยายมราชเป็นผู้ใหญ่มาสู่ขอเอง เจ้าจักให้ข้าทำการอันใดได้”คุณหญิงนวลเองก็ดูลำบากใจไปไม่
น้อยกว่ากัน
กรุงเทพนิรมิตร ตอนที่ 9
ไม่กี่วันหลังจากทำพิธีรับขวัญวันลูกของแม่นิ่ม พิมพ์มาดาก็เต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่เธอเองพยายามหลีกเลี่ยงมาโดยตลอด เรือเก๋งลำใหญ่
ที่เทียบท่าเข้ามานั้นสร้างความหวาดกลัวให้กับหญิงสาวที่กำลังเริงร่าอยู่กลางสวนกลัวจนต้องรีบวิ่งจู๊ดกลับขึ้นเรือน
“พะยอม ถ้ามีใครมาตามข้า ให้บอกไปว่าข้าไม่สบายนะ” พิมพ์มาดาสั่งกับสาวใช้อย่างร้อนรนแล้วรีบหนีเข้าห้องลงกลอนอย่างแน่นหนา
คราวนี้จะมาไม้ไหนอีกนะ เห็นเงียบไปตั้งนาน กลับมาอีกทำไมเนี่ย เฮ้อ เมื่อลองแอบดูผ่านช่องหน้าต่างก็เห็นพระยาท้ายน้ำเดินคู่มากับชายสูง
อายุอีกคนที่เธอไม่เคยรู้จัก เมื่อดูจากบ่าวไพร่ที่ตามมาเป็นพรวนก็เห็นได้ว่าชายแปลกหน้าคนนี้คงไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ
แล้วก็เป็นอย่างที่หญิงสาวคาดไว้ ไม่นานนักบ่าวจากเรือนใหญ่ก็มาตามพิมพ์มาดาให้ขึ้นไปเรือน
“นายหญิงข้าเป็นไข้หัวลม มิอาจไปพบคุณหญิงได้ดอก ข้าฝากไปเรียนที” พะยอมทำตามคำสั่ง
“คุณหญิงนวลมีคำสั่ง เจ้ากล้าขัดฤา” บ่าวจากเรือนใหญ่ยืนกราน
“แล้วเจ้าล่ะกล้าขัดข้าไหม” พิมพ์มาดาตวาดเสียงดัง เสียงดังทะลุประตูที่ลงกลอนทำเอาสาวใช้ทั้งสองถึงกับสะดุ้ง
“ข้าบอกแล้วว่าข้าไม่สบาย อยากจะนอนพัก เจ้าเข้ามารบกวนข้าเช่นนี้ ระวังเถอะ ไม่เคยได้ยินสิ่งที่คนลือกันหรือ ว่าข้ามีเวทย์มนต์คาถา อยาก
จะลองดูไหมล่ะ” พิมพ์มาดาขู่ต่อ ซึ่งคำขู่นี้ก็ได้ผลอย่างดี บ่าวที่ถูกใช้ให้มาตามหญิงสาวถึงกับหน้าถอดสีเดินตัวสั่นกลับไปทันที
ส่วนคนที่ออกปากไล่ตอนนี้ก็เดินเป็นหนูติดจั่นอยู่ในห้องด้วยกลัว หากคราวนี้คุณหญิงนวลมาเองแล้วเธอจะหนีไปไหนได้ โชคดีที่ไม่เป็นอย่าง
พิมพ์มาดาคิดเพราะหลังจากนั้นก็ไม่มีใครมาตามเธออีก แต่หญิงสาวก็กลัวจนไม่กล้าออกจากห้องแม้จะเห็นว่าแขกผู้มาเยือนทั้งสองกลับไป
แล้ว
“พะยอม เดี๋ยวพะยอมช่วยไปสืบทีว่าพวกเขามาทำอะไรกัน”
“แล้วบ่าวจะสืบอย่างไรล่ะเจ้าคะ”
“ก็ลองลงไปเลียบๆเคียงถามคนในครัวก็ได้ ลองถามพี่งดูก็ได้ ข้าเชื่อว่าแม้จะดูแลปรนนิบัติแม่หญิงนิ่มอยู่แต่ไม่มีข่าวไหนที่จะเล็ดลอดผ่าน
หูพี่งได้ เชื่อข้าสิ”พิมพ์มาดาเชื่อมั่น
พะยอมกลับมาอีกทีตอนฟ้าใกล้มืด เธอวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาในห้อง ทำท่าเหมือนจะพูดอะไรแต่ก็ยังไม่พูดเสียที จนพิมพ์มาดาต้องเอ่ยปากถาม
“มีอะไรหรือเปล่า พะยอม”
“คือบ่าวได้ข่าวมาว่าขุนนางมีชื่อทั้งสองท่านนั้นมาเพื่อสู่ขอแม่หญิงเจ้าคะ”พะยอมละล่ำละลักพูด
“หา บ้าหรือเปล่า”พิมพ์มาดาแทบไม่เชื่อหู
“ไม่บ้าเจ้าคะ บ่าวได้ยินมาเต็มสองหู เขาอึงกันว่าท่านทั้งสองจัดการวันหมั้นหมายให้เรียบร้อยแล้วด้วยนะเจ้าคะ”
“แล้วคุณหญิงนวลล่ะ ตกลงไปหรือเปล่า”
พอถึงจุดนี้สาวพะยอมก็ก้มหน้าลงต่ำไม่ตอบคำถาม
“ตกลงหรือ ทำไมตกลงง่ายๆแบบนั้นล่ะ ไม่ความเห็นข้าก่อนเลยหรือ”
พะยอมเงยหน้ามองนายหญิงของเธอเองซึ่งตอนนี้มีแต่ความเสียใจอยู่ในแววตา ร่างบอบบางทรุดลงกับพื้นเหมือนนกน้อยที่อับจนหนทาง
“นายหญิงของบ่าวเจ้าคะ อย่าเสียใจไปเลยเจ้าค่ะ บ่าวว่าอาจเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำ ขุนนางผู้นั้นมีมีบุญอำนาจวาสนา แลผู้ใหญ่เลือกคู่ให้ลูกให้
หลานก็ธรรมดาไปนี่เจ้าคะ”
“พะยอมเธอเคยรักใครไหม หากต้องแต่งงานไปกับคนที่เราไม่ได้รักมันก็เหมือนกับตกนรกทั้งเป็น ข้าจะไปคุยกับคุณหญิงนวล ถึงอย่างไรฉันก็
ไม่แต่ง”
“จะดีหรือเจ้าคะ นายหญิง คุณหญิงตกลงไปแล้วจะไปแก้ไขอะไรก็คงมิได้แล้ว นายหญิงปลงใจเถิดเจ้าค่ะ”
“ข้าไม่นั่งเฉยๆรอให้ใครมากำหนดโชคชะตาข้าได้หรอก” พิมพ์มาดาลุกขึ้นแล้ววิ่งไปที่เรือนใหญ่หมายใจจะต้องคุยกับคุณหญิงนวลให้รู้เรื่อง
“คุณหญิงนวลเจ้าคะ ข้ามีเรื่องอยากจะคุยด้วยเจ้าค่ะ”
“โผล่หน้ามาเสียที หายป่วยหายไข้แล้วฤา” น้ำเสียงที่ฟังดูประชดประชันของคุณหญิงนวลยิ่งทำให้คนที่ฟังอยู่ถึงกับหงุดหงิดในใจ
“คุณหญิงเจ้าคะ ข้าไม่ยอมแต่งงานกับพระยาท้ายน้ำเด็ดขาดนะเจ้าคะ” เสียงกร้าวของพิมพ์มาดาทำเอาพระยาเทพรังสรรค์ที่นั่งสูบยาเส้นอยู่
ห่างๆถึงกับวางยาเส้นแล้วหันมามองที่ต้นตอของเสียง
“เจ้าขัดคำสั่งไม่ได้ เจ้ารู้ฤาไม่ว่าวันนี้เจ้าพระยายมราชเป็นผู้ใหญ่มาสู่ขอเอง เจ้าจักให้ข้าทำการอันใดได้”คุณหญิงนวลเองก็ดูลำบากใจไปไม่
น้อยกว่ากัน