ลิขิตรักยัยตัวร้ายยัง yuri ตอนที่ 8

กระทู้สนทนา
กีรดาค่อยๆเคลื่ยนรถออกช้าๆ เนื่องจากกลัวว่าแรงกระชากของรถจะทำให้คนข้างๆเกิดปฏิกริยาโต้ตอบ(ที่น่า กลัวม๊ากกก)แบบเมื่อกี้อีก ได้ผลไม่มีเสียงบ่น ไม่มีการอาการใดๆปรากฏออกมาให้เห็น เฮ้ย...โล่งอกไปที นึกว่าวันนี้จะต้องจบชีวิตลงซะแล้ว T0T
เงียบ เงียบ เงียบบบบบบ นี่ยังหายใจอยู่เปล่าเนื่ย... กีรดาหันไปมองคนข้างๆ จะว่าหลับก็ไม่น่าจะใช่ คิดอะไรของเขาอยู่นะ แต่จะว่าไปเป็นแบบนี้ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ ไม่ต้องทนฟังยัยนี่พูดออกคำสั่ง ไม่ต้องเห็นสายตา(พิฆาต)คู่นั้นเวลาที่มองมาทางเธอแล้วชวนให้ขนลุก แบบนี้ดีแล้ว...แบบนี้ดีแล้ว...เธอพูดกับตัวเอง แต่...เอ...ทำไมไม่รู้สึกดีใจเลยนะเรา ท่าจะบ้าไปแล้วฉ่ายยยย >-<
ทางด้านคนที่นั่งเงียบก็ยังคงนั่งนิ่งไม่มีการขยับตัวแม้แต่น้อย เป็นอย่างนี้เสมอเวลาที่เธอใช้ความคิดเธอมักจะไม่สนใจกับสิ่งรอบข้าง ไม่อยากรับรู้ว่าจะมีใครมานั่งจ้องเธอว่าตอนนี้เธอเป็นอะไร เขาเรียกว่าอะไรน้า .. .. .. ออ คนโลกส่วนตัวสูง แต่อย่างเธอคงไม่ใช่ เพราะเธอต้องคลุคลีกับคนมากหน้าหลายตา หลายประเภท แต่ไอ้...ประเภทที่กำลังขับรถอยู่ข้างๆเธอนี่สิ ทำไมนะถึงได้ทำให้อารมณ์เธอแปรปวนได้มากมายถึงเพียงนี้ ขึ้นๆลงๆแบบหาสาเหตุไม่ได้ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันนะ...ไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ
ชวิตราสูดลมหายใจเข้าปอดอย่างช้าๆ เธอทำอย่างนี้อยู่หลายครั้งเพราะทำแล้วรู้สึกว่าช่วยผ่อนคลายร่างกายและจิต ใจ เอาเถอะไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไรก็ช่างมันเถอะ ลืมมันไปซะ คิดมากไปก็เปลืองพื้นที่ในสมอง คิดเรื่องงานยังจะได้ประโยชน์มากกว่า
“ พรุ่งนี้เราจะกลับกันแล้ว หวังว่าเธอคงจะเก็บรายละเอียดอย่างครบถ้วนไม่มีตกหล่นนะ...”
คำขู่ เอ้ย..คำพูดที่ออกจากปากของคนที่นั่งเงียบอยู่นาน ทำเอาคนขับถึงกับสะอึกไปเลยทีเดียว พูดอย่างนี้นั่งเงียบไปเลยดีกว่ามั้ยเจ๊ ไม่ใช่อัจฉริยะนะจะได้เรียนรู้จักคนๆหนึ่งภายในไม่กี่วัน กลับกรุงเทพคราวนี้งานเข้าแน่ๆ กีรดาเอ๋ย...ไม่เข้าธรรมดานะ เข้าแบบ NONSTOP !!! ถ้าหยุดไม่ได้มี..เฮ..อย่างเดียวนะ อาจถึงตายเลยก็ว่าได้...จะจองวัดรอไว้เลยดีมั้ยเนื่ย ฮ่าฮ่า..TOT
ห๊าววว.....กีรดายกมือป้องปาก พร้อมกับยกไม้ยกมือบิดตัวไปมาเพื่อขับไล่ความง่วงให้ออกไปจากร่างกาย นี่ล่ะที่เขาว่าเหนื่อยกายยังพอทน แต่เหนื่อยใจนี่สิ ทนแทบไม่ได้ (แต่ก็ต้องทน) เกิดเป็นกีรดาต้องอดทนจริงๆ เล้ยยย........
มือบางๆค่อยเอื้อมมาสกิดคนที่ยืนทำท่าขี้เกียจอย่างรวดเร็ว ทำเอาคนที่ถูกสกิดถึงกับปลิวไปตามแรงไม่รู้ว่าเพราะความตกใจหรือว่าที่ ถูกกระทำนั้นเขาไม่ได้เรียกว่าสกิดแต่เรียกว่า...........
“ ทำไมแกต้องถีบฉันด้วย ”
คนถูกกระทำหันมาต่อว่าคนตรงหน้าอย่างเอาเป็นเอาตาย ใจจะวายนึกว่าเป็นเจ้านายสุดโหด โถ่...ตกใจแทบตาย แต่พอหันมาเป็นยัยเพื่อนตัวแสบก็แทบอยากจะกระโดดถีบตอบ.....ตกใจหม๊ดเลย!!!
“ ไม่ได้ถีบ.....แค่.....สกิดเฉยๆ เวอร์ไปเปล่าแก ”
น้ำค้างอดไม่ได้ที่จะ-ดันเพื่อนรักกลับบ้างไม่ได้ จะบ้าหรือไงคนนะไม่ใช่ช้างสกิดนิดสกิดหน่อยทำเป็นปลิว เดี๋ยวแม่ก็พ่นน้ำในงวงใส่เลยนี่ เอ้ย....ไม่ช่ายยยยย... - -
“ นี่ขนาดแกแค่สกิดนะ ถ้าแกถีบฉัน ฉันไม่ปลิวไปถึงขั้วโลกเหนือเหรอ ”
น้ำค้างกำมือทั้งสองข้างแน่นบดเข้าหากัน พร้อมกับทำงวง เอ้ย...ปากขมุบขมิบไปมา แต่ข้อความที่ออกมาก็เล่นเอากีรดาแทบจะหงายหลัง ไม่ใช่เพราะความกลัวหรอกนะ แต่หลุดหัวเราะออกมาแบบอั้นไม่อยู่จริงๆ
“ ก็ไม่เคยคิดนะว่าทำได้ แต่...แกนี่ล่ะที่จะต้องไปอยู่ขั้วโลกเหนือเป็นคนแรกไอ้กี ”
น้ำค้างทำท่าเดินเข้าไปอย่างช้าๆพร้อมกับยกงวง เอ้ย...มือ (บอกแล้วว่าเป็นช้างไม่ใช่คน น่านนน..ไม่ใช่ คนนะไม่ใช่ช้าง เดียวเห่อ... - - )
“ เอาจริงเหรอเนื่ย ”
กีรดาทำหน้าอ้อนสำนึกผิด แล้วก็กระพริบตาถี่ๆ ฉีกยิ้มกว้างๆ เพื่อเป็นการประกาศว่า ฉันยอมแพ้ ซึ้งการกระทำอย่างนี้เป็นอันรู้กันว่า เป็นการยกธงขาว ยอม ย๊อม ยอม แม้ไม่อยากยอมก็ต้องยอมมมมมม ไม่งั้นได้ไปอยู่ขั้วโลกเหนือจริงๆแน่ แฮ่..แฮ่ *-*
เอาล่ะ ฉันจะยังไม่ส่งแกไปขั้วโลกเหนือก็ได้ แต่แกต้องบอกมาก่อนว่าแกหายไปไหนมา....”
น้ำค้างจ้องหน้าเพื่อนสาวอย่าเอาเป็นเอาตายเพื่อหาคำตอบว่าเหตุใดหนอ คุณเพื่อนของเธอจึงได้หายหน้าหายตาไปโดยไม่บอกกล่าวแก่ใครเลย แม้แต่เธอผู้ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทยังไม่รู้เลยว่าหายไปไหน อันนี้แหละที่หน้าแปลกและต้องหาคำตอบให้ได้
“ อะไร ใคร ใคร หายไปไหน ไม่มี ฉัน...”
พูดยังไม่ทันจบน้ำค้างก็เดินเข้ามาประชิดตัวพร้อมกับส่งแววตาคาดคั้น แต่ไม่ทันได้ทำอะไรมาก เธอก็ต้องสะดุ้งกับสายตา ( พิฆาต ) คู่หนึ่งที่จู่ๆก็สัมผัสได้ถึงความรุนแรงอันมหาศาลกำลังจ้องมายังที่เธอ เล่นเอาแข็งขาสั่นไปหมด น่ากลัวจริงๆ
กีรดาแปลกใจที่จู่ๆเพื่อนสาวที่ดูเอาเป็นเอาตายกับเรื่องที่เธอหายไป จู่ๆก็ถอยตัวออกห่างไปแบบไม่มีปี่ไม่มีชลุ่ย เป็นอะไรของมัน ท่าจะบ้า....- -
“ เป็นอะไรของแก ”
กีรดาเอ่ยถามเพื่อนสาวอย่างสงสัย และแล้วคำตอบก็มาแบบจรวดแต่ไม่ได้ออกมาจากปากคนตรงหน้านะ
“ เวลาทำงานไม่ใช่เหรอ ”
นั้นประไร คำตอบแบบไม่ต้องมีคำบรรยาย เพียงแค่ได้ยินเสียงก็รู้แล้วว่ามันคืออะไร นี่สินะที่เขาเรียกว่าความสยองที่ไม่ต้องมีคำบรรยาย โอ้ววว ขนลุกซู่ๆๆ...น่ากลัวได้อีกกกกกก
“ ยังจะยืนนิ่งอีก จ้างมาทำงานอ๊อฟฟิคนะ ไม่ได้จ้างมาเป็นก้อนหินยืนนิ่งอยู่ได้ คนถามก็ไม่ตอบ ”
น้ำเสียงสะบัดแบบไม่พอใจจากนายสาวเล่นเอาทั้งสองสาวยืนตัวเกร็งหายใจแทบจะ ไม่ทั่วท้อง ฉี่จะราดอยู่แล้วฉ่ายยยย น้ำค้างคิด ไม่คิดเล้ย....ว่าจะได้เห็นนางฟ้ากลายร่างเป็นนางยักษ์ จะดีใจหรือเสียใจดีนะยัยน้ำค้าง แงๆๆๆๆๆ >-<
ชวิตราตวัดสายตามาจ้องคนที่เป็นสาเหตุให้อารมณ์เธอเป็นแบบนี้ ยัยบ้าเอ้ย ทำหน้าซื่อบึ้ออยู่ได้ จับโยนลงหน้าต่างดีมั้ยเนื่ย!!!
“ อีกอย่าง...อย่ามาทำอะไรประเจิดประเจ้อ!!! ไปทำงานได้แล้ว เชิญ... ”
เป็นคำพูดที่ฟังดูแปลกๆ แต่ทั้งสองสาวก็ไม่ได้เอะใจเลยแม้แต่น้อย ตอนนี้รู้เพียงว่าต้องรีบกลับไปโต๊ะทำงานให้เร็วที่สุด ไม่งั้นได้เฮกันทั้งคณะแน่ๆ T0T
กระเป๋าราคาแพงถูกโยนลงบนโต๊ะทำงานอย่างไม่ใส่ใจว่ามันจะบุบสลายเลยแม้แต่ น้อย พร้อมกับเจ้าตัวที่กระแทกก้นลงเก้าอี้อย่างตั้งใจ นี่ถ้าใครมาเห็นเธอในตอนนี้มีหวังวิ่งร้องไห้ออกไปแทบไม่ทัน คิดเอาเองว่าน่ากลัวขนาดหน่ายยยยยย
เธอไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ ทั้งที่ก่อนออกจากบ้านเธอก็อารมณ์ดีมาตลอดทาง ขนาดว่าวันนี้รถติดแบบชนิดที่เรียกได้ว่าแทบจะไม่กระดิกไปไหนเลยร่วมชั่วโมง เธอยังไม่คิดจะใส่ใจเก็บมาเป็นอารมณ์ แต่แค่เดินออกมาจากลิฟท์เท่านั้นแหละ ภาพคนสองคนที่กำลังหยอกล้อกันแบบสนิทสนมกลับทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา โดยไม่รู้สาเหตุ แต่ผลที่ตามมาก็...อย่างที่เห็น... ชวิตราส่ายหัวช้าๆอย่างไม่เข้าใจตัวเอง แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่ออยู่ๆ ก็ถูกมือใครบางคนแตะเข้าให้ที่หน้าผากจนตัวเธอเองต้องรีบปัดมือนั้นออกอย่าง เร็ว
สายตาตำหนิที่จ้องมาทำให้ชายหนุ่มรู้สึกอึดอัดไม่น้อย ก็เขาแค่เป็นห่วงกลัวคนตรงหน้าไม่สบาย ถึงได้รีบเอื้อมมือไปแตะหน้าผากเพื่อจะดูว่าตัวร้อนหรือเปล่า โดยที่ลืมคิดไปว่ามันไม่สมควร แต่มันก็ไม่เห็นจะผิดมากมายขนาดนี้นี่นา ชายหนุ่มแอบชำเลืองตาดูคนตรงหน้าที่ตอนนี้เริ่มละสายตาจากเขาแล้วหันกลับไป สนใจงานเอกสารตรงหน้าแทน แต่ก็ดูเหอะ...คนอะไรขนาดทำหน้าดุยังสวยเลย แล้วจะปล่อยให้หลุดมือไปได้ยังไง ยังไง๊ ยังไง เกมส์นี้เขาก็ต้องชนะ เมื่อคิดได้ดังนั้นรอยยิ้มน้อยๆก็ค่อยๆปรากฏขึ้นโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันสัง เกตุ
เวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงแต่ภายในห้องกลับไม่มีการสนทนาใดๆเลย ชวิตราทำเหมือนกับว่าเขาไม่มีตัวตนอยู่ในห้องนี้อย่างนั้นแหละ ก็ดูเอาสิ ก้มหน้าก้มตาทำแต่งาน งาน แล้วก็งาน มันน่าน้อยใจจริงๆ ชายหนุ่มก้มหน้าหลับตาลงก่อนที่จะสูดลมหายใจเข้าปอดเพื่อเรียกความมั่นใจให้ กลับคืนมา นี่มันเพิ่งเริ่มนพรุจ เกมส์นี่มันเพิ่งเริ่มนายจะยอมแพ้ไม่ได้ คนที่แพ้ต้องเป็นคนอื่นไม่ใช่นาย ใช่..ฉันต้องชนะ จบความคิดสุดท้าย เขาค่อยๆลืมตาและเริ่มรุกคนตรงหน้าแบบไม่ทันได้ตั้งตัว
“ จะเที่ยงแล้วไปทานข้าวกันเถอะครับ ”
ชายหนุ่มพูดออกมาโดยค่อยๆเงยหน้าขึ้นมามองคนฟังพร้อมกับส่งยิ้มหวานชนิดที่ ว่าเกิดมายังไม่เคยทำให้ใครที่ไหนได้เห็นเลย ขนาดเขายิ้มธรรมดาสาวๆยังติดตรึม แล้วยิ้มแบบสุดใจขาดดิ้นขนาดนี้ ฮ่าฮ่า
ชวิตราก็ชวิตราเถอะ เสร็จแน่....อิอิ^-^
เพล้งงงงง!!! แก้วแตก เอ้ย ไม่ใช่ หน้าแตกแบบหมอที่ไหนก็ไม่รับเย็บ จะใครซะอีกล่ะ ก็หนุ่มหน้ามนคนซื่อ คนที่ตั้งใจฉีกยิ้มแบบสุดชีวิตให้กับเก้าอี้ตรงหน้า...แล้วคนหายไปหน่าย ยยยยย T0T เห่อ เห่อ ชวิตราคนใจร้าย........
“ น่ารำคาญ ”
เสียงบ่นออกมาจากปากของชวิตราอย่างเก็บกักเอาไว้ไม่อยู่ เธอก็ตั้งใจไว้แล้วนะว่าจะไม่แสดงกิริยาอะไรออกมามากมาย แต่จนแล้วจนรอดก็อดไม่ได้สักที เธอจึงตัดสินใจเดินออกมาเข้าห้องน้ำในขณะที่อีกฝ่ายก้มหน้า แย่จริง!!!
เธอจ้องมองตัวเองหน้ากระจกอยู่นาน ไม่รู้ทำไมกันนะเวลาอยู่กับผู้ชายคนนี้เธอถึงได้รู้สึกอึดอักมากขนาดนี้ เป็นเพราะอะไรกันนะ รอยยิ้มเยาะค่อยๆปรากฏขึ้นบนใบหน้างาม ช่วงนี้เป็นอะไรของเธอกันแน่นะ
ชวิ ตรา หาเหตุผลให้กับชีวิตแทบจะไม่ได้เลย และแล้วเปลือกตาก็ค่อยๆปิดลงมาอย่างช้าๆ เอาล่ะขอพักสายตาสัก 5 นาทีก็ยังดี เผลอๆลืมขึ้นมาเธออาจจะพบกับคำตอบที่กำลังค้นหาก็ได้
แต่แล้วยังไม่ทันที่จะลืมตาแก้มเนียนใสของเธอก็ถูกบางสิ่งที่มีความเย็นจัด สัมผัสเข้าให้ เธอจึงค่อยๆลืมตาและรีบใช้มือจับพร้อมกับรีบสบัดออกไปแต่...ยังไม่ทันที่จะ สบัด ก็มาสะดุ้งกับเจ้าของสิ่งเย็นเฉียบนี้ซะก่อน คนบ้าอะไรมือเย็นชมัด เธอคิด พร้อมกับจ้องหน้าหาคำตอบว่ามีปัญหาอะไรมิทราบถึงมาทำแบบนี้
ทางด้านคนมือเย็นก็ชักจะเริ่มใจไม่ดี อันที่จริงไม่ได้ตั้งใจจะแตะต้องแม่คุณเลยแม้แต่ปลายก้อย แต่ก็อดไม่ได้ ก็คุณเธอเล่นยืนหลับตานิ่งอยู่เป็นนานสองนาน ไอ้เราก็หวังดีกลัวเป็นอะไร(กลางอากาศ มีมั้ยหว่า?) ก็เลยเสี่ยงเอื้อมมือไปจับเพื่อจะได้รู้ว่ายังโอเคอยู่เปล่า กลัวก็กลัวแต่ก็ต้องทำใจดีสู้ยักษ์..เฮ้ย!!!..สู้เสือ
“ เอ่อ..นึกว่าคุณไม่สบายก็เลย...เอ่อ...”
คำพูดติดอ่างค่อยๆออกมาจากปากคนมือเย็นอย่างเชื่องช้าๆ ช้าม๊าก...มาก จนคนฟังเริ่มรำคาญ
“ ฉันท่าทางเหมือนคนไม่สบายเหรอ ”
คำพูดตัดบทคนติดอ่างดังขึ้นอย่างจงใจ แต่ก็เป็นน้ำเสียงที่ทำให้คนตรงหน้ารู้ว่าเธอไม่ได้โกรธอะไร เพียงแค่สงสัยว่าทำไมถึงได้ทำอย่างนี้ก็เท่านั้น
“ ก็...ตะกี้ก็เหมือนค่ะ ”
คำตอบสั้นๆ ที่น่าจะเหมือนเป็นคำตอบที่ดีที่สุด แต่ฟังดูทะยิ้มๆ ยังไงชอบกล ตะกี้....
“ ตะกี้ก็เหมือน ”
ชวิตราทวนคำพูดแล้วคิดตามอย่างช้าๆ
“ ตอนนี้ล่ะ ”
“ ค่ะ..เอ่อ ตอนนี้ดูเป็นปกติแล้วค่ะ ”
กีรดาทำหน้าเห่ยๆตอบออกมา จนคนมองอดแอบอมยิ้มไม่ได้ แต่ก็ต้องรีบเก็บอาการเพราะกลัวคนตรงหน้าจะเห็น
“ งั้นถ้าไม่มีอะไรแล้ว ก็ไปสิ มายืนอยู่เกะกะอยู่ได้ ”
ชวิตราพูดเน้นประโยคเพื่อให้คนฟังได้รู้สึกตัวว่าไม่มีความจำเป็นต้องมายืน ตรงนี้อีกแล้ว แต่ดูสิยังมาทำหน้าเลิกลั่กอยู่ได้ หน้าหมั่นไส้จริงๆ
“ ทำไมอีกล่ะคะคุณกีรดา ”
ชวิตราถามซ้ำอีกครั้งอย่างเป็นทางกลางกึ่งทีเล่นทีจริง ไม่เข้าใจว่าทำไมกีรดาถึงยังไม่ออกไปอีก ที่สำคัญไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าทำไมถึงได้อารมณ์ดีมากขนาดนี่ แต่ก็ได้รับเพียงแค่รอยยิ้มบางๆกับสายตาที่จ้องมายังมือเธอ โอ้วววววว...ว่าแล้วเชียวทำไมมือมันเย็นๆ แฮ่...แฮ่ ^-^ แต่คนอย่างชวิตรา...
“ เธอไม่ไปฉันไปเองก็ได้ ”
ประโยคสุดท้ายถูกพูดออกมาก่อนที่เธอจะรีบปล่อยมือกีรดาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับรีบสาวเท้าออกไปจากห้องน้ำ สิ่งเดียวที่ต้องทำคือรีบออกมาจากที่ตรงนั้น หน้าอาย หน้าอายจริงๆ ^-^
ทางด้านคนที่พึ่งถูกปล่อยมือก็ได้แต่รู้สึก งง งง กับท่าทางแปลกๆของเจ้านายสาว เป็นอะไรของเขา แต่มือนุ๊ม นุ่ม ห๊อม หอม รู้สึกเสียดายเหมือนกันนะเนื่ย อิอิ น่านนนนน ท่าจะเพี้ยนไปอีกคนแล้วฉัน คิดอย่างนี้อยากตายหรือไงกีรดา..........

สนใจอ่านตอนต่อไปและเรื่องอื่นๆได้ที่ http://www.comeon-book.com/comeonv3/prof.php?WID=9007
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่