สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
ผิดทั้งหมดครับ...พลาดทุกความเห็น
ขออธิบาย.................................
นักวิ่งมือใหม่ วันแรกของชีวิตวิ่งน่าจะสามารถและควรจะวิ่งได้นาน 20 นาทีเป็นต้นไปทุกท่าน
ในความฟิตระดับกลาง อายุ 40ปีลงมา โดยปราศจากโรคภัยส่วนตัวใดๆ
ที่ทุกท่านวิ่งกันได้น้อยอย่างที่บรรยายมา เป็นเพราะ "เร็ว" เกินไป
อันเกิดจากการนิยามความหมายของการวิ่งว่าต้องหมายถึงวิ่งเร็วสุดฝีเท้า หรือเร็วมากๆ
เมื่อกล่าวดังนี้ คุณอาจนึกไม่ออกว่าวิ่งอย่างไร ต้องช้ามากๆกระนั้นหรือ ก็คงจะต้องเป็นอย่างนั้นแหละ
อุปสรรคด่านใหญ่สำหรับมือใหม่คือ "ความบาดเจ็บ" จากการวิ่ง เพราะจัดหนักเกินไปโดยประเมินร่างกาย
ตนเองสูงเกินไปกว่าร่างกายเป็นจริง นี้เป็นอมตะคลาสสิคของความผิดพลาดนักวิ่งหน้าใหม่ร้อยละร้อย
วิ่งอย่างไรให้ได้นาน 20 นาที ตั้งแต่ในวันแรกของการวิ่ง
ให้เอาเวลา 20 นาทีเป็นตัวตั้ง และความเร็วเป็นตัวแปรตาม
ความเร็วอาจจะเร็วเท่าเดินหรือช้ากว่าเดินก็ช่างมัน
แต่ให้ร่างกายทำกิริยาเคลื่อนไปคล้ายวิ่ง นี่คือที่เราเรียกว่า "วิ่ง"
จงวิ่งสลับเดิน ช่วงของการเดินคือการเดินปกติเหมือนชีวิตประจำวันธรรมดานี่เอง
เพราะการวิ่งสร้างของเสียขึ้นคือ กรดแลคติกที่ทยอยสะสมในกล้ามเนื้อ
เราช่วยสลายกรดแลคติกนี้ด้วยการเดิน
อย่าเข้าใจผิดประเด็นที่สอง ที่หน้าใหม่มักละอายที่จะเดิน
ทำราวกับว่าเป็นนักปฏิวัติที่ทรยศต่อขบวนการ
การเดินไม่ได้เป็นการหักหลังการวิ่งมากเท่ากับความบาดเจ็บต่างหาก
การเดินไม่ได้เป็นกระทั่งการฟาวด์ ในกติกาสากลของกีฬาวิ่งทุกระยะทาง
ตรงข้ามกีฬาเดินจะช่วยให้นักวิ่งมือใหม่ลดอัตราเสี่ยงความบาดเจ็บ
และช่วยทักษะเกลี่ยกำลังงาน อันเป็นความชำนาญที่มือใหม่ต้องสร้างขึ้นมา
จงเชื่อคำแนะนำ...จากผู้วิ่งมาก่อน อย่าใช้สูตรคิดเอาเอง
จงวิ่งให้ช้าลง จงวิ่งในเทอมของระยะเวลา ไม่ใช่ระยะทาง
อย่างน้อยที่สุด 3 เดือนแรกของการวิ่งขึ้นไป
แม้หน้าใหม่บางคนอาจไม่ได้ทำตามนี้ และอาจจะรอดไม่บาดเจ็บก็มีอยู่
แต่สิ่งที่แนะนำนี้ คือแผนที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่คิดว่าตัวเองอ่อนที่สุด
และป้องกันบาดเจ็บอย่างยิ่งยวด
ขออธิบาย.................................
นักวิ่งมือใหม่ วันแรกของชีวิตวิ่งน่าจะสามารถและควรจะวิ่งได้นาน 20 นาทีเป็นต้นไปทุกท่าน
ในความฟิตระดับกลาง อายุ 40ปีลงมา โดยปราศจากโรคภัยส่วนตัวใดๆ
ที่ทุกท่านวิ่งกันได้น้อยอย่างที่บรรยายมา เป็นเพราะ "เร็ว" เกินไป
อันเกิดจากการนิยามความหมายของการวิ่งว่าต้องหมายถึงวิ่งเร็วสุดฝีเท้า หรือเร็วมากๆ
เมื่อกล่าวดังนี้ คุณอาจนึกไม่ออกว่าวิ่งอย่างไร ต้องช้ามากๆกระนั้นหรือ ก็คงจะต้องเป็นอย่างนั้นแหละ
อุปสรรคด่านใหญ่สำหรับมือใหม่คือ "ความบาดเจ็บ" จากการวิ่ง เพราะจัดหนักเกินไปโดยประเมินร่างกาย
ตนเองสูงเกินไปกว่าร่างกายเป็นจริง นี้เป็นอมตะคลาสสิคของความผิดพลาดนักวิ่งหน้าใหม่ร้อยละร้อย
วิ่งอย่างไรให้ได้นาน 20 นาที ตั้งแต่ในวันแรกของการวิ่ง
ให้เอาเวลา 20 นาทีเป็นตัวตั้ง และความเร็วเป็นตัวแปรตาม
ความเร็วอาจจะเร็วเท่าเดินหรือช้ากว่าเดินก็ช่างมัน
แต่ให้ร่างกายทำกิริยาเคลื่อนไปคล้ายวิ่ง นี่คือที่เราเรียกว่า "วิ่ง"
จงวิ่งสลับเดิน ช่วงของการเดินคือการเดินปกติเหมือนชีวิตประจำวันธรรมดานี่เอง
เพราะการวิ่งสร้างของเสียขึ้นคือ กรดแลคติกที่ทยอยสะสมในกล้ามเนื้อ
เราช่วยสลายกรดแลคติกนี้ด้วยการเดิน
อย่าเข้าใจผิดประเด็นที่สอง ที่หน้าใหม่มักละอายที่จะเดิน
ทำราวกับว่าเป็นนักปฏิวัติที่ทรยศต่อขบวนการ
การเดินไม่ได้เป็นการหักหลังการวิ่งมากเท่ากับความบาดเจ็บต่างหาก
การเดินไม่ได้เป็นกระทั่งการฟาวด์ ในกติกาสากลของกีฬาวิ่งทุกระยะทาง
ตรงข้ามกีฬาเดินจะช่วยให้นักวิ่งมือใหม่ลดอัตราเสี่ยงความบาดเจ็บ
และช่วยทักษะเกลี่ยกำลังงาน อันเป็นความชำนาญที่มือใหม่ต้องสร้างขึ้นมา
จงเชื่อคำแนะนำ...จากผู้วิ่งมาก่อน อย่าใช้สูตรคิดเอาเอง
จงวิ่งให้ช้าลง จงวิ่งในเทอมของระยะเวลา ไม่ใช่ระยะทาง
อย่างน้อยที่สุด 3 เดือนแรกของการวิ่งขึ้นไป
แม้หน้าใหม่บางคนอาจไม่ได้ทำตามนี้ และอาจจะรอดไม่บาดเจ็บก็มีอยู่
แต่สิ่งที่แนะนำนี้ คือแผนที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่คิดว่าตัวเองอ่อนที่สุด
และป้องกันบาดเจ็บอย่างยิ่งยวด
แสดงความคิดเห็น
จะแปลกมั้ยคะ วิ่งได้ไม่ถึง3นาทีก็เหนื่อยแล้ว --" [วันนี้วิ่งวันแรก]
พอจะออกกำลังจริงๆจังๆ ก็ช่วงนี้ล่ะค่ะ รู้สึกอยากวิ่งมาก หาข้อมูลมาประมาณนึง
ก่อนวิ่งก็วอร์มโดยการเดินสักพัก แต่ทำไมพอวิ่งจริงแล้ว 200m ยังเหนื่อย แฮ่กๆ
ที่จริงไม่ได้ตั้งเป้าไว้สูงเลย ครึ่งโล ก็หรูแล้ว แต่นี่ เอิ่ม... วิ่งระยะ 200 เหมือนวิ่งได้แค่นั้น ต้องกลับมาเดินต่อไป
มองคนรอบข้าง วิ่งกันได้อย่างน้อยก็เป็นกิโลล่ะ
เราเองก็ไม่ได้นนเยอะมาก สูง 165 หนัก 53 kg
สรุป วิ่งจริง 400 m (รอบละ200) ที่เหลือเดินประมาณ4โล
ปกติมั้ยคะแบบนี้ หรือเราอ่อนแอกว่าชาวบ้าน T T