นิยายแฟนตาซีสืบสวน
ฝากคอมเมนท์ติชมเพื่อใช้ในการปรับปรุงงานเขียนด้วยคร้าบบ
ปฐมบท
http://ppantip.com/topic/30320076
ปริศนาดอนการ์ด-1 [PART1/2]
http://ppantip.com/topic/30329175
\\\\\\\\\\\\\\\\\\\
บทที่หนึ่ง
ห้องทดลอง
ชายวัยกลางคนไม่ได้ตอบ เขาเดินเลียบ ตรงไปยังบริเวณกำแพงสีขาวสะอาดมุมหนึ่งของห้องแล้วจึงเลื่อนมือคลำกำแพงจนพบปุ่มเล็กๆ แทบบินส์ใช้ปลายนิ้วทั้งห้ากดเบาๆทำให้บานประตูทางลับเปิดกว้างออก เขาหันไปเรียกให้ริคเดินตามตนเองเข้าไปจนพบกับห้องโถงขนาดใหญ่ซึ่งเพดานสูงเป็นรูปโดมดูสง่างามยิ่งนัก
“โว้ว! คุณสร้างห้องลับเอาไว้ข้างใต้บ้านเช่าที่นี่เนี่ยนะ!”เด็กหนุ่มกล่าวด้วยความเหลือเชื่อ
“มันปลอดภัยที่สุดแล้ว”
“คุณนี่แปลกดีชะมัดเลยแทบบินส์! เจ้าของบ้านไม่ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายบ้างหรือไง?”
“พวกเขาควรขอบคุณฉันที่เพิ่มเนื้อที่ให้แก่บ้านโทรมๆหลังนี้มากกว่านะ”ว่าพลางหัวเราะร่าแม้สีหน้าเคร่งเครียดไม่ได้จางลงเลยแม้แต่น้อย
รอบๆห้องเป็นผนังสีขาวสว่าง มีเลเซอร์นับร้อยพันเส้นตรวจกวาดพื้นที่รอบๆทรงกลมแก้วซึ่งตั้งอยู่บริเวณตรงกลางห้องซึ่งภายในทรงกลมแก้วนั้นบรรจุของเหลวใสที่มีอุปกรณ์ขนาดเล็กคล้ายเยื่อบางลอยอยู่ในนั้น
แทบบินส์ป้อนรหัสผ่านแก่ประตูแล้วฉับพลันบรรดาเลเซอร์ทุกเส้นก็อันตรธานหายไป
“มันคืออะไรครับ?”ริคถามอย่างสงสัย
“มันเรียกว่าดอนการ์ด”ชายวัยกลางคนบอกพลางเดินไปตรวจอุปกรณ์ทางการแพทย์วางเรียงรายบนถาดสีเงินก่อนจะเงยหน้ามองกระจกสูงซึ่งเปรียบเสมือนหน้าจอมอนิเตอร์กำลังแสดงผลของข้อมูลตัวเลขทางกายภาพของดอนการ์ด ชายหนุ่มหยิบกระจกนาฬิกาและคีมคีบชุบล้างแอลกอฮอล์ก่อนจะเดินตรงมายังใจกลางห้องเบื้องหน้าทรงกลมแก้วใส
เขาใช้ปลายคีมคีบกดบนกระจกเบาๆแล้วคีมคีบก็หลุดเข้าไปในของเหลวใส แทบบินส์นำอุปกรณ์เยื่อบางๆภายในทรงกลมแก้วใสออกมาใส่เอาไว้ในกระจกนาฬิกาก่อนจะเงยหน้ามองดูเด็กหนุ่ม “ดอนการ์ดเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ฉันสร้างขึ้นมาก่อนจะถูกพัฒนาโดยนักวิจัยจำนวนหนึ่ง มันได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้กับดวงตามนุษย์”
“ใช้กับดวงตามนุษย์?”
“ถูกต้อง เพราะฉะนั้นฉันจะหลอมรวมดอนการ์ดเข้ากับคอนแทคเลนส์ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเลนส์สัมผัสทุกชนิดบนโลกใบนี้ โอ้ แน่นอน ... เธอก็รู้ว่าฉันไม่ควรพูดถึงสิ่งที่ฉันทำได้เป็นปกติราวกับมันน่าอัศจรรย์”ขายหนุ่มกล่าวโดยไม่ใส่ใจนัก “ดอนการ์ดจะเป็นของเธอ”
“ของผม!?”
“ใช่ ... ฉันให้เธอ ตอนนี้มันจะเป็นของเธอเพียงผู้เดียว”แทบบินส์บอกพลางเรียกให้ริคเดินไปตรวจวัดสายตา “สั้นพอสมควร โดยปกติเธอคงไม่เคยใส่แว่น”
ริคต้องยักไหล่ตอบ “ผมสวมแว่นตาเฉพาะเวลานั่งเรียน”
ชายหนุ่มรีบนำดอนการ์ดใส่เข้าไปในเครื่องจักร มันใช้เวลาในการทำงานเพียงห้านาทีแล้วคอนแทคเลนส์สีฟ้าประกายเงินก็เสร็จสมบูรณ์
“คุณให้ดอนการ์ดกับผมทำไม?”
แทบบินส์ยังคงง่วนอยู่กับการตรวจสอบขั้นตอนสุดท้ายของดอนการ์ดก่อนจะกล่าวตอบ “จงใช้มันและเก็บรักษามันให้ดี”ว่าจบก็ยื่นกล่องผ้าเก็บดอนการ์ดให้แก่ริค
“นั่นไม่ใช่คำตอบนะครับ”
แทบบินส์วางมือบนไหล่ของเด็กหนุ่มก่อนจะถอนหายใจยาวๆ “ฉันบอกเธอไม่ได้ ริคโทเฟ่น มันสำคัญมาก”น้ำเสียงของเขากระตือรือร้นพอๆกับสีหน้า “มันสำคัญสำหรับชีวิตของฉัน ของพวกเรา ของครีตเชีย และของโลก! ที่สำคัญคือมันสำคัญต่อเธอมาก”
ริคโทเฟ่นมองปลายนิ้วของอีกฝ่ายชี้ย้ำบนอกของเขา
“ดอนการ์ดมีข้อมูลบางอย่างซึ่งตอนนี้มีเพียงเธอเท่านั้นที่สามารถรับรู้ได้ ... มันเลือกเจ้านายและดอนการ์ดก็เลือกเธอเพราะนั่นคือความต้องการของฉัน ริคโทเฟ่น ฉันให้เธอและห้ามเธอปริปากบอกแก่ใคร จงเก็บเป็นความลับเอาไว้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามที!สัญญากับฉัน”
สีหน้าทุกข์ร้อนของแทบบินส์ส่อแววกังวลเป็นอย่างยิ่ง
ริคโทเฟ่นยอมพยักหน้าพร้อมรับดอนการ์ดเอาไว้ “ครับผมสัญญา”เด็กหนุ่มบอกพลางมองดูกล่องผ้า “ผม ... คือว่า ... ผมควรจะใช้มันเพื่ออะไร?”
“นั่นคือสิ่งที่เธอต้องรู้ด้วยตนเอง ฉันตอบเธอไม่ได้! มันอันตรายเกินไป! ทันทีที่เธอรู้จักดอนการ์ดด้วยตัวของเธอเอง เธอจะตระหนักได้ว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่น่ากลัวเกิดขึ้นในโลกใบนี้ มันเกินกว่าที่เธอจะคาดคิดคำนึงถึง จงรักษาดอนการ์ดเอาไว้เท่าชีวิต! ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับฉันก็ตาม”
“อะไรนะครับ!? หมายความว่าอย่างไร!?”
“ริค...ฟังฉันให้ดีนะ...ตอนนี้ฉันต้องหนี! พวกเขารู้แล้วว่าฉันอยู่ที่ไหนภายในเมืองหลวงดรัมลิงตัน เซสเซแห่งนี้ ฉันอยู่ที่นี่ไม่ได้อีกแล้ว!”
“ทำไม!”ริคต้องอุทานอย่างตกใจยิ่งนัก
“เธอรู้ดีว่าฉันเป็นนักวิจัย...ใช่ ฉันเป็นอย่างนั้น ฉันมีทีมงานคอยสนับสนุนนับเป็นร้อยๆชีวิต บางคนก็ถูกบังคับให้ทำงานเพื่อภารกิจบางอย่าง บางคนก็เป็นพวกคลั่งไคล้การค้นคว้าใหม่ๆจนเห็นประโยชน์แก่ตัวเองผู้เดียว ... แต่ฉันทำงานวิจัยเพื่อลบล้างการค้นคว้าที่น่าสะพรึงกลัวนั่นออกไปจากวงการวิทยาศาสตร์! ลบล้างสิ่งที่นักวิจัยบางกลุ่มสร้างการทดลองประหลาดๆขึ้นมา และฉันก็ทำอย่างนี้เพื่อปกปิดมันเอาไว้ให้เป็นความลับตราบจนนิรันดร์ ... ซ่อนมันไว้เพื่อไม่ให้พวกเขารู้ ... ไม่ให้นักวิจัยเลวทรามบางคนรู้หรือลูกชายของฉันรู้อย่างเด็ดขาด!”
ริคโทเฟ่นต้องเบิกตามอง ... ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ค่อยเข้าใจคำพูดของอีกฝ่ายมากนักแต่ท่าทีที่แสดงออกของแทบบินส์นั้นก็บอกให้รู้ได้ว่าสิ่งที่เขากำลังเอ่ยถึงอาจส่งผลต่อริค
“ซ่อนเอาไว้ในไหน?”
“ดอนการ์ด” ฟังจบริคก็แทบสะดุ้ง ... เขารู้ในทันทีนั้นว่าแทบบินส์ต้องการให้เขาช่วยเหลือ “ทุกอย่าง ... ทุกๆอย่างที่สำคัญมาก ... เธอทำลายดอนการ์ดไม่ได้และเธอก็ไม่ควรให้ใครรู้โดยเด็ดขาดว่าดอนการ์ดยังคงอยู่ในการปกครองของเธอ เธอต้องรักษามันให้ดี”
“ครับ”ริคบอกด้วยความไม่แน่ใจ
“มีเพียงแค่เธอคนเดียวที่ใช้มันได้ ริคโทเฟ่น”แทบบินส์บอก “เอาล่ะ คราวนี้เราต้องการทำลายห้องนี้ เราต้องทำลายหลักฐานทิ้งเสียก่อนที่ใครจะพยายามเข้ามาตรวจค้น”
“อะไรนะ!”ริคอ้าปากหวอ
(ต่อด้านล่าง)
DonGuard:ปริศนาดอนการ์ด-1 [PART2/2]
ฝากคอมเมนท์ติชมเพื่อใช้ในการปรับปรุงงานเขียนด้วยคร้าบบ
ปฐมบท
http://ppantip.com/topic/30320076
ปริศนาดอนการ์ด-1 [PART1/2]
http://ppantip.com/topic/30329175
\\\\\\\\\\\\\\\\\\\
บทที่หนึ่ง
ห้องทดลอง
ชายวัยกลางคนไม่ได้ตอบ เขาเดินเลียบ ตรงไปยังบริเวณกำแพงสีขาวสะอาดมุมหนึ่งของห้องแล้วจึงเลื่อนมือคลำกำแพงจนพบปุ่มเล็กๆ แทบบินส์ใช้ปลายนิ้วทั้งห้ากดเบาๆทำให้บานประตูทางลับเปิดกว้างออก เขาหันไปเรียกให้ริคเดินตามตนเองเข้าไปจนพบกับห้องโถงขนาดใหญ่ซึ่งเพดานสูงเป็นรูปโดมดูสง่างามยิ่งนัก
“โว้ว! คุณสร้างห้องลับเอาไว้ข้างใต้บ้านเช่าที่นี่เนี่ยนะ!”เด็กหนุ่มกล่าวด้วยความเหลือเชื่อ
“มันปลอดภัยที่สุดแล้ว”
“คุณนี่แปลกดีชะมัดเลยแทบบินส์! เจ้าของบ้านไม่ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายบ้างหรือไง?”
“พวกเขาควรขอบคุณฉันที่เพิ่มเนื้อที่ให้แก่บ้านโทรมๆหลังนี้มากกว่านะ”ว่าพลางหัวเราะร่าแม้สีหน้าเคร่งเครียดไม่ได้จางลงเลยแม้แต่น้อย
รอบๆห้องเป็นผนังสีขาวสว่าง มีเลเซอร์นับร้อยพันเส้นตรวจกวาดพื้นที่รอบๆทรงกลมแก้วซึ่งตั้งอยู่บริเวณตรงกลางห้องซึ่งภายในทรงกลมแก้วนั้นบรรจุของเหลวใสที่มีอุปกรณ์ขนาดเล็กคล้ายเยื่อบางลอยอยู่ในนั้น
แทบบินส์ป้อนรหัสผ่านแก่ประตูแล้วฉับพลันบรรดาเลเซอร์ทุกเส้นก็อันตรธานหายไป
“มันคืออะไรครับ?”ริคถามอย่างสงสัย
“มันเรียกว่าดอนการ์ด”ชายวัยกลางคนบอกพลางเดินไปตรวจอุปกรณ์ทางการแพทย์วางเรียงรายบนถาดสีเงินก่อนจะเงยหน้ามองกระจกสูงซึ่งเปรียบเสมือนหน้าจอมอนิเตอร์กำลังแสดงผลของข้อมูลตัวเลขทางกายภาพของดอนการ์ด ชายหนุ่มหยิบกระจกนาฬิกาและคีมคีบชุบล้างแอลกอฮอล์ก่อนจะเดินตรงมายังใจกลางห้องเบื้องหน้าทรงกลมแก้วใส
เขาใช้ปลายคีมคีบกดบนกระจกเบาๆแล้วคีมคีบก็หลุดเข้าไปในของเหลวใส แทบบินส์นำอุปกรณ์เยื่อบางๆภายในทรงกลมแก้วใสออกมาใส่เอาไว้ในกระจกนาฬิกาก่อนจะเงยหน้ามองดูเด็กหนุ่ม “ดอนการ์ดเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ฉันสร้างขึ้นมาก่อนจะถูกพัฒนาโดยนักวิจัยจำนวนหนึ่ง มันได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้กับดวงตามนุษย์”
“ใช้กับดวงตามนุษย์?”
“ถูกต้อง เพราะฉะนั้นฉันจะหลอมรวมดอนการ์ดเข้ากับคอนแทคเลนส์ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเลนส์สัมผัสทุกชนิดบนโลกใบนี้ โอ้ แน่นอน ... เธอก็รู้ว่าฉันไม่ควรพูดถึงสิ่งที่ฉันทำได้เป็นปกติราวกับมันน่าอัศจรรย์”ขายหนุ่มกล่าวโดยไม่ใส่ใจนัก “ดอนการ์ดจะเป็นของเธอ”
“ของผม!?”
“ใช่ ... ฉันให้เธอ ตอนนี้มันจะเป็นของเธอเพียงผู้เดียว”แทบบินส์บอกพลางเรียกให้ริคเดินไปตรวจวัดสายตา “สั้นพอสมควร โดยปกติเธอคงไม่เคยใส่แว่น”
ริคต้องยักไหล่ตอบ “ผมสวมแว่นตาเฉพาะเวลานั่งเรียน”
ชายหนุ่มรีบนำดอนการ์ดใส่เข้าไปในเครื่องจักร มันใช้เวลาในการทำงานเพียงห้านาทีแล้วคอนแทคเลนส์สีฟ้าประกายเงินก็เสร็จสมบูรณ์
“คุณให้ดอนการ์ดกับผมทำไม?”
แทบบินส์ยังคงง่วนอยู่กับการตรวจสอบขั้นตอนสุดท้ายของดอนการ์ดก่อนจะกล่าวตอบ “จงใช้มันและเก็บรักษามันให้ดี”ว่าจบก็ยื่นกล่องผ้าเก็บดอนการ์ดให้แก่ริค
“นั่นไม่ใช่คำตอบนะครับ”
แทบบินส์วางมือบนไหล่ของเด็กหนุ่มก่อนจะถอนหายใจยาวๆ “ฉันบอกเธอไม่ได้ ริคโทเฟ่น มันสำคัญมาก”น้ำเสียงของเขากระตือรือร้นพอๆกับสีหน้า “มันสำคัญสำหรับชีวิตของฉัน ของพวกเรา ของครีตเชีย และของโลก! ที่สำคัญคือมันสำคัญต่อเธอมาก”
ริคโทเฟ่นมองปลายนิ้วของอีกฝ่ายชี้ย้ำบนอกของเขา
“ดอนการ์ดมีข้อมูลบางอย่างซึ่งตอนนี้มีเพียงเธอเท่านั้นที่สามารถรับรู้ได้ ... มันเลือกเจ้านายและดอนการ์ดก็เลือกเธอเพราะนั่นคือความต้องการของฉัน ริคโทเฟ่น ฉันให้เธอและห้ามเธอปริปากบอกแก่ใคร จงเก็บเป็นความลับเอาไว้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามที!สัญญากับฉัน”
สีหน้าทุกข์ร้อนของแทบบินส์ส่อแววกังวลเป็นอย่างยิ่ง
ริคโทเฟ่นยอมพยักหน้าพร้อมรับดอนการ์ดเอาไว้ “ครับผมสัญญา”เด็กหนุ่มบอกพลางมองดูกล่องผ้า “ผม ... คือว่า ... ผมควรจะใช้มันเพื่ออะไร?”
“นั่นคือสิ่งที่เธอต้องรู้ด้วยตนเอง ฉันตอบเธอไม่ได้! มันอันตรายเกินไป! ทันทีที่เธอรู้จักดอนการ์ดด้วยตัวของเธอเอง เธอจะตระหนักได้ว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่น่ากลัวเกิดขึ้นในโลกใบนี้ มันเกินกว่าที่เธอจะคาดคิดคำนึงถึง จงรักษาดอนการ์ดเอาไว้เท่าชีวิต! ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับฉันก็ตาม”
“อะไรนะครับ!? หมายความว่าอย่างไร!?”
“ริค...ฟังฉันให้ดีนะ...ตอนนี้ฉันต้องหนี! พวกเขารู้แล้วว่าฉันอยู่ที่ไหนภายในเมืองหลวงดรัมลิงตัน เซสเซแห่งนี้ ฉันอยู่ที่นี่ไม่ได้อีกแล้ว!”
“ทำไม!”ริคต้องอุทานอย่างตกใจยิ่งนัก
“เธอรู้ดีว่าฉันเป็นนักวิจัย...ใช่ ฉันเป็นอย่างนั้น ฉันมีทีมงานคอยสนับสนุนนับเป็นร้อยๆชีวิต บางคนก็ถูกบังคับให้ทำงานเพื่อภารกิจบางอย่าง บางคนก็เป็นพวกคลั่งไคล้การค้นคว้าใหม่ๆจนเห็นประโยชน์แก่ตัวเองผู้เดียว ... แต่ฉันทำงานวิจัยเพื่อลบล้างการค้นคว้าที่น่าสะพรึงกลัวนั่นออกไปจากวงการวิทยาศาสตร์! ลบล้างสิ่งที่นักวิจัยบางกลุ่มสร้างการทดลองประหลาดๆขึ้นมา และฉันก็ทำอย่างนี้เพื่อปกปิดมันเอาไว้ให้เป็นความลับตราบจนนิรันดร์ ... ซ่อนมันไว้เพื่อไม่ให้พวกเขารู้ ... ไม่ให้นักวิจัยเลวทรามบางคนรู้หรือลูกชายของฉันรู้อย่างเด็ดขาด!”
ริคโทเฟ่นต้องเบิกตามอง ... ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ค่อยเข้าใจคำพูดของอีกฝ่ายมากนักแต่ท่าทีที่แสดงออกของแทบบินส์นั้นก็บอกให้รู้ได้ว่าสิ่งที่เขากำลังเอ่ยถึงอาจส่งผลต่อริค
“ซ่อนเอาไว้ในไหน?”
“ดอนการ์ด” ฟังจบริคก็แทบสะดุ้ง ... เขารู้ในทันทีนั้นว่าแทบบินส์ต้องการให้เขาช่วยเหลือ “ทุกอย่าง ... ทุกๆอย่างที่สำคัญมาก ... เธอทำลายดอนการ์ดไม่ได้และเธอก็ไม่ควรให้ใครรู้โดยเด็ดขาดว่าดอนการ์ดยังคงอยู่ในการปกครองของเธอ เธอต้องรักษามันให้ดี”
“ครับ”ริคบอกด้วยความไม่แน่ใจ
“มีเพียงแค่เธอคนเดียวที่ใช้มันได้ ริคโทเฟ่น”แทบบินส์บอก “เอาล่ะ คราวนี้เราต้องการทำลายห้องนี้ เราต้องทำลายหลักฐานทิ้งเสียก่อนที่ใครจะพยายามเข้ามาตรวจค้น”
“อะไรนะ!”ริคอ้าปากหวอ
(ต่อด้านล่าง)