สภาฯเริ่มแล้ว ถกวาระแก้รธน. ภท.ลุกขอไม่ร่วมพิจารณา ส.ว.เสนอโหวตส่งศาลรธน.ตีความ
https://www.matichon.co.th/politics/news_5046593
ประชุมร่วมรัฐสภา ถกวาระแก้รธน.เริ่มแล้ว ‘ไชยชนก’ แจ้งประธานฯ ‘ภท.’ ขอไม่ร่วมพิจารณา ด้าน ‘หมอเปรมศักดิ์’ เสนอญัตติด่วนขอสมาชิกโหวตส่งศาลรธน.ตีความอำนาจหน้าที่
เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 โดย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ทั้งนี้ ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระ นาย
ไชยชนก ชิดชนก ส.ส.บุรีรัมย์ และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ลุกขึ้นอภิปรายในฐานะตัวแทนพรรค ว่า วาระที่กำลังจะพิจารณาค่อนข้างผิด และขัดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ พรรคภูมิใจไทยจึงขอไม่เข้าร่วมพิจารณา
จากนั้น ประธานรัฐสภากล่าวว่า นพ.
เปรมศักดิ์ เพียยุระ ส.ว. ได้เสนอญัตติด่วนขอให้รัฐสภาขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 250 ววรคหนึ่ง (2) ทำให้นาย
ณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายว่า แน่นอนว่าการเข้าชื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญไม่น่าจะเป็นญัตติด่วนด้วยวาจา แต่ต้องเป็นการยื่นญัตติด่วนด้วยหนังสือ และมีสมาชิกรับรองไม่น้อยกว่า 40 คน แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีใครเห็นตัวญัตติ และหากมีการเสนอเพิ่มเติมหรือการบรรจุระเบียบวาระเพิ่มเติมเป็นอำนาจประธานรัฐสภา แต่ต้องแจ้งไม่น้อยกว่าวันประชุม 1 วัน ดังนั้น ระหว่างมีการแจกเอกสารให้สมาชิกพิจาณาเนื้อหา ขอให้พักการประชุม 15 นาที ได้หรือไม่เพื่อให้วิปแต่ละฝ่ายได้หารือกัน
ขณะที่ นพ
.เปรมศักดิ์กล่าวว่า ระเบียบของการเสนอญัตติด่วนตนทราบดี และได้รวบรวมรายชื่อของสมาชิกรัฐสภาทั้ง ส.ส.และ ส.ว. เนื่องจากเห็นความสำคัญว่าเป็นเรื่องใหญ่จึงควรมีสมาชิกทั้ง 2 สภา โดยรวมรายชื่อกันแล้วเกินกว่า 40 รายชื่อ และเอกสารนั้นเราดำเนินการตามขั้นตอนทุกอย่าง และท่านสมาชิกที่อภิปรายสักครู่ไม่ต้องห่วงใย ตนเป็นสมาชิกสภามานาน ท่านสมาชิกที่เพิ่งมาใหม่อาจจะมองว่าทำถูกระเบียบหรือไม่ ซึ่งตนเป็นคนมีวุฒิภาวะทำอย่างไรก็ต้องให้ถูกต้องตามระเบียบ รวมถึงตนได้เข้าหารือกับประธานก่อนที่จะเข้าประชุมวันนี้เพื่อทราบว่าการประชุมจะมีการดำเนินการอย่างไร และวันนี้ตนอยากให้การประชุมมีความเรียบร้อยเพราะประชาชนทั่วประเทศกำลังเฝ้ามองเราอยู่ว่าสมาชิกรัฐสภาจะมีแนวคิดในเรื่องนี้อย่างไร จึงขอให้สมาชิกอย่าได้กังวลเรื่องรายละเอียดญัตติ ตนคิดว่าได้บรรจงเขียนสุดยอดในชีวิตแล้วและคิดว่าขอให้มีการพิจารณาตามขั้นตอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นาย
วันมูหะมัดนอร์ จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่แจกเอกสารแก่สมาชิก จากนั้น เวลา 09.48 น. ได้สั่งพักการประชุม 15 นาที เพื่อให้วิป 3 ฝ่ายหารือร่วมกัน
หมอเปรม แจง ปมยื่นญัตติ ศาลรธน. จวก พวก วอล์กเอาต์ เลิกใช้ลูกไม้ทางการเมือง.
https://www.matichon.co.th/politics/news_5046597
หมอเปรมนำส.ว. สีขาว ยื่นญัตติ วันนอร์ ส่งศาลรธน.ตีความทำประชามติกี่ครั้ง ก่อนแก้รัฐธรรมนูญ แฉ พรรคการเมืองให้ส.ว.ถอนชื่อออก ไล่คนให้ข้อมูลผิดกลับไปอ่านหนังสือใหม่ เลิกโยนบาป คนเห็นต่าง ชี้เป็นการเมืองเก่า เด็กอนุบาลเขารู้ทัน
เวลา 08.50 น. วันที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา นพ.
เปรมศักดิ์ เพียรยุระ สมาชิกวุฒิสภา กลุ่มส.ว.สีขาว ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อเวลา 08.30 น. ตนได้ยื่นญัตติด่วน เรื่องขอให้สภามีมติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 210 วรรคหนึ่ง (2)ต่อนายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาเรียบร้อยแล้ว โดยมีผู้ร่วมลงชื่อทั้ง ส.ส.และส.ว. กว่า 40 คน จึงถือว่าเป็นญัตติร่วมกันของสมาชิกทั้ง 2 สภา เพราะวันนี้ที่ประชุมรัฐสภาวันนี้จะมีการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 และ เพิ่มหมวด 15/1 ของนายพริษฐ์ วัชระสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน และของนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย
ซึ่งพวกตนได้ฟังเสียงของสมาชิกรัฐสภา เห็นว่า มีความเห็นที่แตกต่างกันมากมายที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ เพราะการยื่นเพื่อขอให้รัฐสภาแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นเคยมีมาหลายครั้ง แต่มีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2564 ระบุชัดเจนว่า การจะแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นต้องมีการทำประชามติก่อน ซึ่งการยื่นแก้ไขในครั้งนี้เราเห็นว่า เป็นการข้ามขั้นตอน ยังไม่มีการทำประชามติ จึงขอให้รัฐสภามีมติให้ไปทำประชามติก่อน
ส่วนประชามติจะต้องทำกี่ครั้งก็ยังเป็นความสับสนอยู่ ทำให้เราต้องยื่นญัตติในวันนี้เช่นกัน เพราะยังไม่มีข้อสรุปที่เป็นทางการว่าต้องทำกี่ครั้ง ดังนั้นองค์กรที่จะชี้ขาดว่าจะทำ 2 หรือ 3 ครั้ง คือศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อมีคำวินิจฉัยแล้วก็จะต้องผูกพันทุกองค์กร และเมื่อมีการเปิดประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาญัตตินี้ ตนจะขออภิปรายถึงเหตุผลในการยื่นต่อไป
เมื่อถามว่า มีการมองว่า การยื่นญัตติครั้งนี้เป็นการขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะศาลรัฐธรรมนูญ ปี 2564 ได้วินิจฉัยไปแล้วว่าเป็นอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติ นพ.
เปรมศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อปี 2564 เป็นการวินิจฉัยว่า จะต้องให้ประชาชน ซึ่งเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยเห็นชอบเสียก่อน ในการที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ขั้นตอนเห็นชอบ คือการทำประชามติ ยังไม่มีข้อสรุปว่า ต้องทำกี่ครั้ง
ตนจึงต้องยื่นญัตติดังกล่าวเพื่อให้เกิดความชัดเจน เพราอะไรที่เป็นความคลุมเครือก็ต้องเป็นหน้าที่ของรัฐสภาที่ต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ยืนยันว่าการยื่นครั้งนี้ไม่ซ้ำซ้อนกับการยื่นครั้งก่อน และแตกต่างกัน เพราะครั้งก่อน เป็นการยื่นโดยที่ยังไม่มีการบรรจุญัตติในที่ประชุมัฐสภา แต่ครั้งนี้ยื่นหลังจากประธานสภารับญัตติของนายพริษฐ์ และนายวิสุทธิ์ไปแล้ว
“
ยืนยันว่า การยื่นครั้งนี้ไม่ใช่เกมสกัดการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะพวกผมเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ สมาชิกส.ว. กลุ่มสีขาวไมมีใครต่อต้าน แต่อยากให้ทำถูกตามขั้นตอน เข้าตามตรอกออกตามประตู เพื่อที่จะไม่เกิดปัญหาภายหลัง การที่บุ่มบ่ามกระทำการใดๆ โดยไม่คำนึงถึงขั้นตอน ถ้ามีความเสียหายเกิดขึ้น ใครจะรับผิดชอบ เราเป็นวุฒิสภา ต้องมีวุฒิภาวะในการแก้ปัญหา” นพ.
เปรมศักดิ์ กล่าว
เมื่อถามว่า อย่างนี้จะแก้ไขรัฐธรรมนูญทันสมัยการประชุมนี้หรือไม่ นพ.
เปรมศักดิ์ กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่จำเป็นต้องไปบอกว่าให้ทันการเลือกตั้งปี 2570 คนที่จะกำหนดว่าแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ทันปี 2570 ตนคิดว่าน่าจะมีความคิดเผด็จการมากกว่า จะไปทึกทักเอาตามใจได้อย่างไร
รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุด จะทำแบบเล่นขายของ แก้กฎหมายเล็กๆ ไม่ได้ และไม่จำเป็นต้องบอกว่าให้ทันการเลือกตั้ง เพราะประชาชนไม่ได้มีผลประโยชน์ต่อการเลือกตั้ง มีแต่พรรคการเมืองที่พยายามกำหนดให้ได้ตามใจของตนเอง ให้ทันการเลือกตั้งปี 2570
ต่อข้อถามว่า มีพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลังการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความครั้งนี้ เหมือนเป็นการแบ่งกลุ่มออกมาจากส.ว.สีน้ำเงิน นพ.
เปรมศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่า ส.ว.สีน้ำเงินเป็นอย่างไร รู้แต่ว่าตนมีความคิดอิสระ และไม่มีใครมาควบคุมการทำงานที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนได้ ส่วนส.ว.สีน้ำเงิน ท่านจะทำอย่างไรก็สุดแล้วแต่ท่าน ตนไม่ก้าวล่วง มีแต่ส.ว.สีน้ำเงินที่มาก้าวล่วงพวกตน
“รู้หรือไม่ครับ มีการบีบให้สมาชิกวุฒิสภาถอนตัวจากญัตตินี้ แต่มีจำนวนหนึ่งที่ถอนตัว ผมก็ไม่ว่า ท่านอาจจะเข้าใจผิด โดยอาจจะเข้าใจถึงขั้นว่าลงชื่อประชุมก็มีความผิด ตรงนี้ผมคิดว่า เป็นการให้ข้อมูลข่าวสารที่ไม่ถูกต้อง เพราะการลงชื่อเข้าประชุม เป็นสิทธิของสมาชิกรัฐสภาทุกท่าน และการลงมติในสภา ก็เป็นสิทธิของทุกท่าน ไม่ใช่ว่าลงมติแล้วจะถูกถอดถอน หรือมีความเสี่ยง
ผมอยากเตือนคนให้ข้อมูลที่ผิดนี้ ผมขอให้กลับไปอ่านหนังสือเสียใหม่ เพราะมันไม่ใช่ ถ้าคุณไม่เข้าประชุมถือเป็นการไม่รับผิดชอบทางการเมืองต่อประชาชน ประชาชนเขาให้มาทำงาน และการทำงานของนักการเมืองคือการเข้าประชุม แล้วจะมีความผิดได้อย่างไร
ถ้าไม่เข้าประชุมถือว่าผิด หากไม่ลงมติ ก็ต้องถามว่าทำไม เพราะสามารถลงมติได้ทั้ง 3 แบบ คือ เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย และงดออกเสียง ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรเลย การที่มาโยนพวกตนให้เข้ากับพรรคการเมือง เป็นการกระทำแบบเก่าๆ
ขอให้เลิกทำเสียเถอะ ลูกไม้ทางการเมืองแบบนี้ เด็กอนุบาลก้าวตามทันแล้ว ใครคิดไม่ตรงกับตัวเอง ก็หาว่ามีเบื้องหลัง คนที่กล่าวว่าการประชุมแก้ไขรัฐธรมนูญเป็นการกระทำที่หมิ่นเหม่ ผมคิดว่า นั่นแหละที่เป็นการกระทำน่าละอายมากกว่า” นพ.
เปรมศักดิ์ กล่าว
โคราชยังมีคนแอบเผาหญ้าข้างทางPM 2.5 พุ่ง
https://www.innnews.co.th/news/local/news_840514/
โคราชยังมีคนแอบจุดไฟเผาหญ้าข้างทางที่ อ.ชุมพวง ทำฝุ่นควันฟุ้ง PM 2.5 พุ่ง
เจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยองค์การบริหารส่วนตำบลชุมพวง อำเภอชุมพวง จังหวัดนครราชสีมา ได้รับแจ้งเกิดเหตุไฟไหม้หญ้าข้างทาง ถนนสาย-บ้านพันธ์เจริญหมู่ที่ 12 ตำบลชุมพวง อำเภอชุมพวง จึงได้ออกไปตรวจในที่เกิดพร้อมด้วยรถดับเพลิงขององค์การบริหารส่วนตำบลชุมพวง
ในที่เกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้หญ้าข้างทางอย่างรุนแรง เป็นระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร เป็นช่วงๆ ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงช่วยกันระดมฉีดน้ำดับเพลิงเพื่อไม่ให้ลุกลามไปติดบ้านเรือนของชาวบ้านที่อยู่ริมถนน ใช้เวลาประมาณ 40 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้
ซึ่งสาเหตุเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะมีคนแอบลักลอบจุดไฟเผาหญ้าข้างทาง หรือไม่ก็มีคนทิ้งก้นบุหรี่ลงข้างทาง จึงเป็นเหตุทำให้ไฟไหม้หญ้าริมถนนลุกลามเป็นบริเวณกว้างส่งผลทำให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนได้รับความเดือดร้อน มองไม่เห็นเส้นทาง ประกอบกับยังสร้างความเดือดร้อนให้กับเด็กและผู้ป่วย ผู้สูงอายุ หลังควันไฟลอยปกคลุมหมู่บ้าน และยังเป็นต้นเหตุทำให้มีฝุ่น PM 2.5 พุ่งสูงในบริเวณนี้อีกด้วย
JJNY : สภาฯเริ่มแล้วถกวาระแก้รธน.│หมอเปรมจวกพวกวอล์กเอาต์│โคราชยังมีคนแอบเผาหญ้า│“ทรัมป์”ว่ารัสเซียยูเครนต้องการสันติภาพ
https://www.matichon.co.th/politics/news_5046593
ประชุมร่วมรัฐสภา ถกวาระแก้รธน.เริ่มแล้ว ‘ไชยชนก’ แจ้งประธานฯ ‘ภท.’ ขอไม่ร่วมพิจารณา ด้าน ‘หมอเปรมศักดิ์’ เสนอญัตติด่วนขอสมาชิกโหวตส่งศาลรธน.ตีความอำนาจหน้าที่
เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 โดย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ทั้งนี้ ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระ นายไชยชนก ชิดชนก ส.ส.บุรีรัมย์ และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ลุกขึ้นอภิปรายในฐานะตัวแทนพรรค ว่า วาระที่กำลังจะพิจารณาค่อนข้างผิด และขัดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ พรรคภูมิใจไทยจึงขอไม่เข้าร่วมพิจารณา
จากนั้น ประธานรัฐสภากล่าวว่า นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ ส.ว. ได้เสนอญัตติด่วนขอให้รัฐสภาขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 250 ววรคหนึ่ง (2) ทำให้นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายว่า แน่นอนว่าการเข้าชื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญไม่น่าจะเป็นญัตติด่วนด้วยวาจา แต่ต้องเป็นการยื่นญัตติด่วนด้วยหนังสือ และมีสมาชิกรับรองไม่น้อยกว่า 40 คน แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีใครเห็นตัวญัตติ และหากมีการเสนอเพิ่มเติมหรือการบรรจุระเบียบวาระเพิ่มเติมเป็นอำนาจประธานรัฐสภา แต่ต้องแจ้งไม่น้อยกว่าวันประชุม 1 วัน ดังนั้น ระหว่างมีการแจกเอกสารให้สมาชิกพิจาณาเนื้อหา ขอให้พักการประชุม 15 นาที ได้หรือไม่เพื่อให้วิปแต่ละฝ่ายได้หารือกัน
ขณะที่ นพ.เปรมศักดิ์กล่าวว่า ระเบียบของการเสนอญัตติด่วนตนทราบดี และได้รวบรวมรายชื่อของสมาชิกรัฐสภาทั้ง ส.ส.และ ส.ว. เนื่องจากเห็นความสำคัญว่าเป็นเรื่องใหญ่จึงควรมีสมาชิกทั้ง 2 สภา โดยรวมรายชื่อกันแล้วเกินกว่า 40 รายชื่อ และเอกสารนั้นเราดำเนินการตามขั้นตอนทุกอย่าง และท่านสมาชิกที่อภิปรายสักครู่ไม่ต้องห่วงใย ตนเป็นสมาชิกสภามานาน ท่านสมาชิกที่เพิ่งมาใหม่อาจจะมองว่าทำถูกระเบียบหรือไม่ ซึ่งตนเป็นคนมีวุฒิภาวะทำอย่างไรก็ต้องให้ถูกต้องตามระเบียบ รวมถึงตนได้เข้าหารือกับประธานก่อนที่จะเข้าประชุมวันนี้เพื่อทราบว่าการประชุมจะมีการดำเนินการอย่างไร และวันนี้ตนอยากให้การประชุมมีความเรียบร้อยเพราะประชาชนทั่วประเทศกำลังเฝ้ามองเราอยู่ว่าสมาชิกรัฐสภาจะมีแนวคิดในเรื่องนี้อย่างไร จึงขอให้สมาชิกอย่าได้กังวลเรื่องรายละเอียดญัตติ ตนคิดว่าได้บรรจงเขียนสุดยอดในชีวิตแล้วและคิดว่าขอให้มีการพิจารณาตามขั้นตอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวันมูหะมัดนอร์ จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่แจกเอกสารแก่สมาชิก จากนั้น เวลา 09.48 น. ได้สั่งพักการประชุม 15 นาที เพื่อให้วิป 3 ฝ่ายหารือร่วมกัน
หมอเปรม แจง ปมยื่นญัตติ ศาลรธน. จวก พวก วอล์กเอาต์ เลิกใช้ลูกไม้ทางการเมือง.
https://www.matichon.co.th/politics/news_5046597
หมอเปรมนำส.ว. สีขาว ยื่นญัตติ วันนอร์ ส่งศาลรธน.ตีความทำประชามติกี่ครั้ง ก่อนแก้รัฐธรรมนูญ แฉ พรรคการเมืองให้ส.ว.ถอนชื่อออก ไล่คนให้ข้อมูลผิดกลับไปอ่านหนังสือใหม่ เลิกโยนบาป คนเห็นต่าง ชี้เป็นการเมืองเก่า เด็กอนุบาลเขารู้ทัน
เวลา 08.50 น. วันที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา นพ.เปรมศักดิ์ เพียรยุระ สมาชิกวุฒิสภา กลุ่มส.ว.สีขาว ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อเวลา 08.30 น. ตนได้ยื่นญัตติด่วน เรื่องขอให้สภามีมติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 210 วรรคหนึ่ง (2)ต่อนายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาเรียบร้อยแล้ว โดยมีผู้ร่วมลงชื่อทั้ง ส.ส.และส.ว. กว่า 40 คน จึงถือว่าเป็นญัตติร่วมกันของสมาชิกทั้ง 2 สภา เพราะวันนี้ที่ประชุมรัฐสภาวันนี้จะมีการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 และ เพิ่มหมวด 15/1 ของนายพริษฐ์ วัชระสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน และของนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย
ซึ่งพวกตนได้ฟังเสียงของสมาชิกรัฐสภา เห็นว่า มีความเห็นที่แตกต่างกันมากมายที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ เพราะการยื่นเพื่อขอให้รัฐสภาแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นเคยมีมาหลายครั้ง แต่มีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2564 ระบุชัดเจนว่า การจะแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นต้องมีการทำประชามติก่อน ซึ่งการยื่นแก้ไขในครั้งนี้เราเห็นว่า เป็นการข้ามขั้นตอน ยังไม่มีการทำประชามติ จึงขอให้รัฐสภามีมติให้ไปทำประชามติก่อน
ส่วนประชามติจะต้องทำกี่ครั้งก็ยังเป็นความสับสนอยู่ ทำให้เราต้องยื่นญัตติในวันนี้เช่นกัน เพราะยังไม่มีข้อสรุปที่เป็นทางการว่าต้องทำกี่ครั้ง ดังนั้นองค์กรที่จะชี้ขาดว่าจะทำ 2 หรือ 3 ครั้ง คือศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อมีคำวินิจฉัยแล้วก็จะต้องผูกพันทุกองค์กร และเมื่อมีการเปิดประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาญัตตินี้ ตนจะขออภิปรายถึงเหตุผลในการยื่นต่อไป
เมื่อถามว่า มีการมองว่า การยื่นญัตติครั้งนี้เป็นการขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะศาลรัฐธรรมนูญ ปี 2564 ได้วินิจฉัยไปแล้วว่าเป็นอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติ นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อปี 2564 เป็นการวินิจฉัยว่า จะต้องให้ประชาชน ซึ่งเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยเห็นชอบเสียก่อน ในการที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ขั้นตอนเห็นชอบ คือการทำประชามติ ยังไม่มีข้อสรุปว่า ต้องทำกี่ครั้ง
ตนจึงต้องยื่นญัตติดังกล่าวเพื่อให้เกิดความชัดเจน เพราอะไรที่เป็นความคลุมเครือก็ต้องเป็นหน้าที่ของรัฐสภาที่ต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ยืนยันว่าการยื่นครั้งนี้ไม่ซ้ำซ้อนกับการยื่นครั้งก่อน และแตกต่างกัน เพราะครั้งก่อน เป็นการยื่นโดยที่ยังไม่มีการบรรจุญัตติในที่ประชุมัฐสภา แต่ครั้งนี้ยื่นหลังจากประธานสภารับญัตติของนายพริษฐ์ และนายวิสุทธิ์ไปแล้ว
“ยืนยันว่า การยื่นครั้งนี้ไม่ใช่เกมสกัดการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะพวกผมเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ สมาชิกส.ว. กลุ่มสีขาวไมมีใครต่อต้าน แต่อยากให้ทำถูกตามขั้นตอน เข้าตามตรอกออกตามประตู เพื่อที่จะไม่เกิดปัญหาภายหลัง การที่บุ่มบ่ามกระทำการใดๆ โดยไม่คำนึงถึงขั้นตอน ถ้ามีความเสียหายเกิดขึ้น ใครจะรับผิดชอบ เราเป็นวุฒิสภา ต้องมีวุฒิภาวะในการแก้ปัญหา” นพ.เปรมศักดิ์ กล่าว
เมื่อถามว่า อย่างนี้จะแก้ไขรัฐธรรมนูญทันสมัยการประชุมนี้หรือไม่ นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่จำเป็นต้องไปบอกว่าให้ทันการเลือกตั้งปี 2570 คนที่จะกำหนดว่าแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ทันปี 2570 ตนคิดว่าน่าจะมีความคิดเผด็จการมากกว่า จะไปทึกทักเอาตามใจได้อย่างไร
รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุด จะทำแบบเล่นขายของ แก้กฎหมายเล็กๆ ไม่ได้ และไม่จำเป็นต้องบอกว่าให้ทันการเลือกตั้ง เพราะประชาชนไม่ได้มีผลประโยชน์ต่อการเลือกตั้ง มีแต่พรรคการเมืองที่พยายามกำหนดให้ได้ตามใจของตนเอง ให้ทันการเลือกตั้งปี 2570
ต่อข้อถามว่า มีพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลังการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความครั้งนี้ เหมือนเป็นการแบ่งกลุ่มออกมาจากส.ว.สีน้ำเงิน นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่า ส.ว.สีน้ำเงินเป็นอย่างไร รู้แต่ว่าตนมีความคิดอิสระ และไม่มีใครมาควบคุมการทำงานที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนได้ ส่วนส.ว.สีน้ำเงิน ท่านจะทำอย่างไรก็สุดแล้วแต่ท่าน ตนไม่ก้าวล่วง มีแต่ส.ว.สีน้ำเงินที่มาก้าวล่วงพวกตน
“รู้หรือไม่ครับ มีการบีบให้สมาชิกวุฒิสภาถอนตัวจากญัตตินี้ แต่มีจำนวนหนึ่งที่ถอนตัว ผมก็ไม่ว่า ท่านอาจจะเข้าใจผิด โดยอาจจะเข้าใจถึงขั้นว่าลงชื่อประชุมก็มีความผิด ตรงนี้ผมคิดว่า เป็นการให้ข้อมูลข่าวสารที่ไม่ถูกต้อง เพราะการลงชื่อเข้าประชุม เป็นสิทธิของสมาชิกรัฐสภาทุกท่าน และการลงมติในสภา ก็เป็นสิทธิของทุกท่าน ไม่ใช่ว่าลงมติแล้วจะถูกถอดถอน หรือมีความเสี่ยง
ผมอยากเตือนคนให้ข้อมูลที่ผิดนี้ ผมขอให้กลับไปอ่านหนังสือเสียใหม่ เพราะมันไม่ใช่ ถ้าคุณไม่เข้าประชุมถือเป็นการไม่รับผิดชอบทางการเมืองต่อประชาชน ประชาชนเขาให้มาทำงาน และการทำงานของนักการเมืองคือการเข้าประชุม แล้วจะมีความผิดได้อย่างไร
ถ้าไม่เข้าประชุมถือว่าผิด หากไม่ลงมติ ก็ต้องถามว่าทำไม เพราะสามารถลงมติได้ทั้ง 3 แบบ คือ เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย และงดออกเสียง ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรเลย การที่มาโยนพวกตนให้เข้ากับพรรคการเมือง เป็นการกระทำแบบเก่าๆ
ขอให้เลิกทำเสียเถอะ ลูกไม้ทางการเมืองแบบนี้ เด็กอนุบาลก้าวตามทันแล้ว ใครคิดไม่ตรงกับตัวเอง ก็หาว่ามีเบื้องหลัง คนที่กล่าวว่าการประชุมแก้ไขรัฐธรมนูญเป็นการกระทำที่หมิ่นเหม่ ผมคิดว่า นั่นแหละที่เป็นการกระทำน่าละอายมากกว่า” นพ.เปรมศักดิ์ กล่าว
โคราชยังมีคนแอบเผาหญ้าข้างทางPM 2.5 พุ่ง
https://www.innnews.co.th/news/local/news_840514/
โคราชยังมีคนแอบจุดไฟเผาหญ้าข้างทางที่ อ.ชุมพวง ทำฝุ่นควันฟุ้ง PM 2.5 พุ่ง
เจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยองค์การบริหารส่วนตำบลชุมพวง อำเภอชุมพวง จังหวัดนครราชสีมา ได้รับแจ้งเกิดเหตุไฟไหม้หญ้าข้างทาง ถนนสาย-บ้านพันธ์เจริญหมู่ที่ 12 ตำบลชุมพวง อำเภอชุมพวง จึงได้ออกไปตรวจในที่เกิดพร้อมด้วยรถดับเพลิงขององค์การบริหารส่วนตำบลชุมพวง
ในที่เกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้หญ้าข้างทางอย่างรุนแรง เป็นระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร เป็นช่วงๆ ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงช่วยกันระดมฉีดน้ำดับเพลิงเพื่อไม่ให้ลุกลามไปติดบ้านเรือนของชาวบ้านที่อยู่ริมถนน ใช้เวลาประมาณ 40 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้
ซึ่งสาเหตุเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะมีคนแอบลักลอบจุดไฟเผาหญ้าข้างทาง หรือไม่ก็มีคนทิ้งก้นบุหรี่ลงข้างทาง จึงเป็นเหตุทำให้ไฟไหม้หญ้าริมถนนลุกลามเป็นบริเวณกว้างส่งผลทำให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนได้รับความเดือดร้อน มองไม่เห็นเส้นทาง ประกอบกับยังสร้างความเดือดร้อนให้กับเด็กและผู้ป่วย ผู้สูงอายุ หลังควันไฟลอยปกคลุมหมู่บ้าน และยังเป็นต้นเหตุทำให้มีฝุ่น PM 2.5 พุ่งสูงในบริเวณนี้อีกด้วย