โรม ข้องใจ เบรกออกหมายจับหม่องชิต ตู่ จี้ รบ.ปราบปรามถึงรากถึงโคน
https://www.matichon.co.th/politics/news_5046722
โรม ข้องใจเบรกออกหมายจับหม่องชิต ตู่ ทั้งที่หลายประเทศคว่ำบาตร จี้ รบ.ปราบปรามถึงรากถึงโคน ชวนจับตาหลังมีข่าวเมียนมาขนน้ำมันผ่านอันดามัน
เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา นาย
รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ได้การเชิญ นาย
ชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก พร้อมด้วยนายอำเภอชายแดนอีก 5 อำเภอ สภาความมั่นคงแห่งชาติ ผู้แทนปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนผู้บัญชาการทหารบก ผู้แทนผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ และหน่วยเฉพาะกิจราชมนู มาให้ข้อมูลข้อมูลปัญหาท่าข้ามชายแดนที่มีความเชื่อมโยงกับประเด็นปัญหาคอลเซ็นเตอร์และยาเสพติดตามแนวชายแดน หลังไทยตัดไฟฟ้าสัญญาณอินเทอร์เน็ต และงดส่งน้ำมันไปยังประเทศเมียนมา
นาย
รังสิมันต์ กล่าวก่อนการประชุมว่าเราพยายามกดดันไปที่การปราบปรามโครงสร้าง และเห็นว่าจำเป็นต้องมีการจับกุม ซึ่งได้เห็นสัญญาณในการย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่อาจมีความเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์และขบวนการการค้ามนุษย์ ตนเองจึงอยากได้ความชัดเจนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าจะมีข้อสรุปเมื่อใด
สำหรับวันนี้เป็นประเด็นเรื่องท่าข้าม ซึ่งจังหวัดตากมี 59 ท่า แต่ละท่ามีวัตถุประสงค์เพื่อการค้า แต่มีข้อมูลว่าท่าที่ตั้งอยู่ตรงข้าม กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือกาสิโน ไม่ได้มีไว้เพื่อขนส่งเท่านั้น แต่ต้องยอมรับว่าที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์สามารถก่อร่างสร้างตัวได้เร็ว เพราะมีการขนอิฐ หิน ดิน ปูนมาจากไทย ซึ่งตนเองเห็นมากับตาและไม่รู้ว่า สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มีมาตรการอย่างไร ว่าท่าข้ามจะมีความปลอดภัยต่อคนไทยได้จริง
ตนเองมีความกังวลเรื่องการออกหมายจับพันเอกหม่องชิต ตู่ ซึ่งรู้ดีว่าเป็นความท้าทายและต้องวัดฝีมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง แต่อย่างน้อยที่สุดการออกหมายจับ จะทำให้ทุนสีเทาฝั่งไทยไม่สามารถสมคบคิดกับ แก๊งอาชญากรข้ามชาติได้อย่างง่ายดายอีกต่อไป เพราะเสี่ยงผิดกฎหมาย โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐ หากไปพูดคุยกับคนเหล่านี้ แบบฉันท์มิตรเหมือนที่ผ่านมา ก็อาจจะผิดกฎหมายไปด้วย การออกหมายจับเป็นการแยกสิ่งชั่วร้ายออกไป แต่เป็นเรื่องน่าเสียดาย ไม่รู้ว่าเกิดความผิดพลาดอย่างไร อัยการจึงไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้จนไม่สามารถทำให้ออกหมายจับได้สำเร็จ
หลายประเทศมอง
หม่องชิต ตู่ เป็นผู้ก่อการร้าย มีการคว่ำบาตรคนอย่าง
หม่องชิต ตู่ และ
ติ่งวิน แต่เป็นไปได้อย่างไรที่ประเทศไทยไม่รับรู้เรื่องอย่างนี้เลย เป็นเรื่องที่รับไม่ได้และขอเรียกร้อง ให้กระบวนการยุติธรรมเอาจริงเอาจัง ถ้าเราไม่อยากให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับมาอีกแล้ว เราจำเป็นต้องปราบปรามโครงสร้างอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
หม่องชิต ตู่ คือผู้คุมความลับหลายอย่าง เขาเคยบอกว่าถ้าเขาเป็นอะไร คนอื่นก็ไม่รอดด้วย ถ้าเราไม่ดำเนินการอย่างจริงจังกับ
หม่องชิต ตู่ หมายความว่าอะไร หรือถ้าเราเจอตอ หรือทุนสีเทาของประเทศไทยมีอิทธิพลใหญ่กว่ากฎหมาย
หม่องชิต ตู่ ก็รู้ว่าข้อมูลเหล่านี้จะทำให้เขารอดได้ ถ้ารัฐบาลนี้อยากทำให้กฎหมายเป็นกฎหมาย และเอาจริงกับการปราบปรามคอลเซ็นเตอร์ มีทางเลือกเดียวคือ เราต้องดำเนินการทางกฎหมายอย่างถึงที่สุดกับ
หม่องชิต ตู่ หลายประเทศคว่ำบาตร
หม่องชิต ตู่ แต่ประเทศไทยกลับบอกหลักฐานไม่เพียงพอ ตนเองมองว่าเป็นเรื่องที่ตลกมาก
นอกจากนี้ยังต้องดูเรื่องการฟอกเงินด้วย หากหม่องชิต ตู่ มีทรัพย์สินในประเทศไทย และรัฐบาลไทยปล่อยไว้ให้เกิดการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน เจ้าหน้าที่รัฐคนใดจะรับผิดชอบตนไม่เข้าใจว่ารออะไรกันอยู่ ควรเร่งดำเนินการอีกที และอาจมีเรื่องยาเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เหมือนที่ตนเองเคยเปิดประเด็นเรื่อง บริษัท SMTY เป็นประเด็นหนึ่งที่ศาลเคยพิพากษาประหารชีวิตไปแล้ว จึงอยากใช้โอกาสนี้กระตุ้นเตือนนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งวันนี้เห็นความพยายามในการตัดกระแสไฟฟ้าและอื่น ๆ แต่วันนี้เราต้องเร่งออกหมายจับเพื่อทำลายโครงสร้าง
นายรังสิมันต์ ระบุว่าขบวนการเหล่านี้จะใหญ่โตไม่ได้เลย ถ้าไม่มีคนช่วย แต่เราลืมหรือเปล่าว่าบริษัทอินเตอร์เน็ตต่าง ๆ จะไม่รู้เลยว่ามีการลากสายเน็ตข้ามไปประเทศอื่น ใช้อินเตอร์เน็ตมากมายมหาศาล เป็นเรื่องที่เราต้องการความชัดเจนเหมือนกันว่า การปราบปรามจะถึงลูกถึงคน ถอนรากถอนโคนจริง ๆ
ส่วนที่มีข้อมูลว่ามีการส่งน้ำมันไปยังเมียนมาเข้ามาจากเส้นทางอันดามัน นายรังสิมันต์ กล่าวว่าได้รับข้อมูลมาเช่นเดียวกัน จากการลงพื้นที่กับผู้นำฝ่ายค้านเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา จึงได้แจ้งผู้บัญชาการภาคที่ 9 ว่ามีข่าวแบบนี้ ซึ่งท่านก็ได้ยินทำนองเดียวกัน เรื่องนี้คงต้องติดตามกันต่อไปว่ามีจริงหรือไม่และมีความพยายามในการป้องกันหรือไม่ คิดว่าทุกภาคส่วนต้องกระตือรือร้น เพราะบางส่วนก็มีข่าวว่า เมเนเจอร์ทุนจีนเทาได้หลบหนีไปยังจังหวัดเชียงใหม่แล้ว แต่ทุกภาคส่วนต้องตื่นตัวเพราะนี่เป็นวาระแห่งชาติ
สภาล่ม เหลือแค่ 204 คน ไม่ครบองค์ประชุม ถกแก้รธน.ไม่ได้ วันนอร์ นัดใหม่ 14 ก.พ.
https://www.matichon.co.th/politics/news_5046869
สภาล่ม เหลือแค่ 204 คน ไม่ครบองค์ประชุม ถกแก้รธน.ไม่ได้ วันนอร์ นัดใหม่ 14 ก.พ.
เมื่อเวลา 11.37 น. วันที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 โดย นาย
วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม
นพ.
เปรมศักดิ์ เพียยุระ ส.ว. ได้เสนอญัตติให้ประธานรัฐสภานับองค์ประชุม เพราะมีสมาชิกรัฐสภาวอล์กเอาต์ออกจากห้องประชุมหลายคน จากนั้น ประธานรัฐสภาได้ขอให้มีการแสดงตนปรากฏว่ามีสมาชิกแสดงตนในห้องประชุม 204 คน ไม่ครบองค์ประชุม ทำให้ประธานรัฐสภา สั่งนัดประชุมร่วมรัฐสภาอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (14 ก.พ.) เวลา 09.30 น. ก่อนสั่งปิดการประชุมในเวลา 12.04 น.
เพชรบูรณ์ ไฟป่าไหม้มากสุด ฝุ่นพิษ PM2.5 ฟุ้งทั่วจังหวัด หวิดไหม้สำนักสงฆ์-บ้านปชช.
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_9631720
เพชรบูรณ์ ภาคเหนือเผาหนักมาก 401 จุด เมืองมะขามหวาน ไฟป่าลุกไหม้มากสุด 82 จุด ฝุ่นพิษ PM2.5 ฟุ้งกระจายปกคลุมเกือบทั้งจังหวัด หวิดไหม้สำนักสงฆ์-บ้านเรือนประชาชน โชคดีดับทัน
13 ก.พ. 68 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเพชรบูรณ์ได้รายงานสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันประจำวันที่ 13 ก.พ.2568 เวลา 07.00 น.ว่า
ศูนย์ปฏิบัติการดับไฟป่า ภาค 3 ได้แจ้งผลการติดตามสถานการณ์ไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละอองในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ค่าเฉลี่ยสะสม ประจำวันที่ 13 ก.พ. 68 เวลา 07.00 น. ตรวจพบจุดความร้อน ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ จำนวน 401 จุด โดยจังหวัดเพชรบูรณ์พบมากที่สุด จำนวน 82 จุด ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นป่าสงวนฯ รองลงมาคือ ป่าอนุรักษ์ และ เขต สปก.
ซึ่งจากจำนวนที่พบจุดความร้อน 82 จุดในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์นั้น พบว่า อ.หล่มสัก พบมากที่สุด 21 จุด รองลงมาคือ อ.วิเชียรบุรี 18 จุด อ.ศรีเทพ 17 จุด อ.ชนแดน 9 จุด อ.น้ำหนาว 5 จุด อ.หล่มเก่า 5 จุด อ.เมือง 4 จุด และ อ.บึงสามพัน โดยแบ่งเป็นพื้นที่พบในป่าสงวน 32 จุด พื้นที่ สปก. 21 จุด พื้นที่เกษตร 15 จุด ป่าอนุรักษ์ 11 จุด และในชุมชน 3 จุด รวม 82 จุด
ทั้งนี้จากการพบจุดความร้อนสะสมในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ตั้งแต่วันที่ 1-13 ก.พ. 68 พบจุดความร้อนทั้งหมด 587 จุดโดยพบมากที่สุดในพื้นที่ สปก.จำนวน 198 จุด พื้นที่ป่าสงวน 161 จุด พื้นที่เกษตร 109 จุด ส่วนท้องที่ที่พบจุดความร้อนมากที่สุดคือ อันดับ 1 อำเภอชนแดน 118 จุด และอำเภอศรีเทพ 118 จุด อำเภอวิเชียรบุรี 110 จุด อำเภอหล่มสัก98 จุด และอำเภอน้ำหนาว 34 จุด
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.น้ำหนาวได้รับแจ้งว่า มีไฟไหม้ป่าและกำลังจะมายังสำนักปฏิบัติธรรมพุทธรักษา ต.โคกมน อ.น้ำหนาว จึงได้ระดมกำลังไปช่วยดับไฟพร้อมทั้งประสานไปยัง อบต.โคกมนให้นำรถน้ำมาช่วยดับและสกัดจนสามารถดับไฟได้ก่อนที่จะลุกลามเข้ามายังสำนักสงฆ์
นอกจากนั้น ในพื้นที่ ต.พุเตย อ.วิเชียรบุรี ได้มีการแชร์ภาพไฟไหม้อย่างรุนแรง และกำลังจะลุกลามเข้าไหม้บ้านของประชาชน โชคดีที่อาสากู้ภัยนำรถดับเพลิงเข้าไปช่วยดับได้ทัน
JJNY : โรม ข้องใจ เบรกออกหมายจับ│สภาล่ม เหลือแค่ 204คน│เพชรบูรณ์ ไฟป่าไหม้มากสุด PM2.5 ฟุ้ง│เดนมาร์กเสนอซื้อแคลิฟอร์เนีย
https://www.matichon.co.th/politics/news_5046722
เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ได้การเชิญ นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก พร้อมด้วยนายอำเภอชายแดนอีก 5 อำเภอ สภาความมั่นคงแห่งชาติ ผู้แทนปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนผู้บัญชาการทหารบก ผู้แทนผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ และหน่วยเฉพาะกิจราชมนู มาให้ข้อมูลข้อมูลปัญหาท่าข้ามชายแดนที่มีความเชื่อมโยงกับประเด็นปัญหาคอลเซ็นเตอร์และยาเสพติดตามแนวชายแดน หลังไทยตัดไฟฟ้าสัญญาณอินเทอร์เน็ต และงดส่งน้ำมันไปยังประเทศเมียนมา
นายรังสิมันต์ กล่าวก่อนการประชุมว่าเราพยายามกดดันไปที่การปราบปรามโครงสร้าง และเห็นว่าจำเป็นต้องมีการจับกุม ซึ่งได้เห็นสัญญาณในการย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่อาจมีความเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์และขบวนการการค้ามนุษย์ ตนเองจึงอยากได้ความชัดเจนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าจะมีข้อสรุปเมื่อใด
สำหรับวันนี้เป็นประเด็นเรื่องท่าข้าม ซึ่งจังหวัดตากมี 59 ท่า แต่ละท่ามีวัตถุประสงค์เพื่อการค้า แต่มีข้อมูลว่าท่าที่ตั้งอยู่ตรงข้าม กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือกาสิโน ไม่ได้มีไว้เพื่อขนส่งเท่านั้น แต่ต้องยอมรับว่าที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์สามารถก่อร่างสร้างตัวได้เร็ว เพราะมีการขนอิฐ หิน ดิน ปูนมาจากไทย ซึ่งตนเองเห็นมากับตาและไม่รู้ว่า สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มีมาตรการอย่างไร ว่าท่าข้ามจะมีความปลอดภัยต่อคนไทยได้จริง
ตนเองมีความกังวลเรื่องการออกหมายจับพันเอกหม่องชิต ตู่ ซึ่งรู้ดีว่าเป็นความท้าทายและต้องวัดฝีมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง แต่อย่างน้อยที่สุดการออกหมายจับ จะทำให้ทุนสีเทาฝั่งไทยไม่สามารถสมคบคิดกับ แก๊งอาชญากรข้ามชาติได้อย่างง่ายดายอีกต่อไป เพราะเสี่ยงผิดกฎหมาย โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐ หากไปพูดคุยกับคนเหล่านี้ แบบฉันท์มิตรเหมือนที่ผ่านมา ก็อาจจะผิดกฎหมายไปด้วย การออกหมายจับเป็นการแยกสิ่งชั่วร้ายออกไป แต่เป็นเรื่องน่าเสียดาย ไม่รู้ว่าเกิดความผิดพลาดอย่างไร อัยการจึงไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้จนไม่สามารถทำให้ออกหมายจับได้สำเร็จ
หลายประเทศมองหม่องชิต ตู่ เป็นผู้ก่อการร้าย มีการคว่ำบาตรคนอย่างหม่องชิต ตู่ และติ่งวิน แต่เป็นไปได้อย่างไรที่ประเทศไทยไม่รับรู้เรื่องอย่างนี้เลย เป็นเรื่องที่รับไม่ได้และขอเรียกร้อง ให้กระบวนการยุติธรรมเอาจริงเอาจัง ถ้าเราไม่อยากให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับมาอีกแล้ว เราจำเป็นต้องปราบปรามโครงสร้างอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
หม่องชิต ตู่ คือผู้คุมความลับหลายอย่าง เขาเคยบอกว่าถ้าเขาเป็นอะไร คนอื่นก็ไม่รอดด้วย ถ้าเราไม่ดำเนินการอย่างจริงจังกับหม่องชิต ตู่ หมายความว่าอะไร หรือถ้าเราเจอตอ หรือทุนสีเทาของประเทศไทยมีอิทธิพลใหญ่กว่ากฎหมาย หม่องชิต ตู่ ก็รู้ว่าข้อมูลเหล่านี้จะทำให้เขารอดได้ ถ้ารัฐบาลนี้อยากทำให้กฎหมายเป็นกฎหมาย และเอาจริงกับการปราบปรามคอลเซ็นเตอร์ มีทางเลือกเดียวคือ เราต้องดำเนินการทางกฎหมายอย่างถึงที่สุดกับหม่องชิต ตู่ หลายประเทศคว่ำบาตรหม่องชิต ตู่ แต่ประเทศไทยกลับบอกหลักฐานไม่เพียงพอ ตนเองมองว่าเป็นเรื่องที่ตลกมาก
นอกจากนี้ยังต้องดูเรื่องการฟอกเงินด้วย หากหม่องชิต ตู่ มีทรัพย์สินในประเทศไทย และรัฐบาลไทยปล่อยไว้ให้เกิดการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน เจ้าหน้าที่รัฐคนใดจะรับผิดชอบตนไม่เข้าใจว่ารออะไรกันอยู่ ควรเร่งดำเนินการอีกที และอาจมีเรื่องยาเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เหมือนที่ตนเองเคยเปิดประเด็นเรื่อง บริษัท SMTY เป็นประเด็นหนึ่งที่ศาลเคยพิพากษาประหารชีวิตไปแล้ว จึงอยากใช้โอกาสนี้กระตุ้นเตือนนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งวันนี้เห็นความพยายามในการตัดกระแสไฟฟ้าและอื่น ๆ แต่วันนี้เราต้องเร่งออกหมายจับเพื่อทำลายโครงสร้าง
นายรังสิมันต์ ระบุว่าขบวนการเหล่านี้จะใหญ่โตไม่ได้เลย ถ้าไม่มีคนช่วย แต่เราลืมหรือเปล่าว่าบริษัทอินเตอร์เน็ตต่าง ๆ จะไม่รู้เลยว่ามีการลากสายเน็ตข้ามไปประเทศอื่น ใช้อินเตอร์เน็ตมากมายมหาศาล เป็นเรื่องที่เราต้องการความชัดเจนเหมือนกันว่า การปราบปรามจะถึงลูกถึงคน ถอนรากถอนโคนจริง ๆ
ส่วนที่มีข้อมูลว่ามีการส่งน้ำมันไปยังเมียนมาเข้ามาจากเส้นทางอันดามัน นายรังสิมันต์ กล่าวว่าได้รับข้อมูลมาเช่นเดียวกัน จากการลงพื้นที่กับผู้นำฝ่ายค้านเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา จึงได้แจ้งผู้บัญชาการภาคที่ 9 ว่ามีข่าวแบบนี้ ซึ่งท่านก็ได้ยินทำนองเดียวกัน เรื่องนี้คงต้องติดตามกันต่อไปว่ามีจริงหรือไม่และมีความพยายามในการป้องกันหรือไม่ คิดว่าทุกภาคส่วนต้องกระตือรือร้น เพราะบางส่วนก็มีข่าวว่า เมเนเจอร์ทุนจีนเทาได้หลบหนีไปยังจังหวัดเชียงใหม่แล้ว แต่ทุกภาคส่วนต้องตื่นตัวเพราะนี่เป็นวาระแห่งชาติ
สภาล่ม เหลือแค่ 204 คน ไม่ครบองค์ประชุม ถกแก้รธน.ไม่ได้ วันนอร์ นัดใหม่ 14 ก.พ.
https://www.matichon.co.th/politics/news_5046869
สภาล่ม เหลือแค่ 204 คน ไม่ครบองค์ประชุม ถกแก้รธน.ไม่ได้ วันนอร์ นัดใหม่ 14 ก.พ.
เมื่อเวลา 11.37 น. วันที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 โดย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม
นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ ส.ว. ได้เสนอญัตติให้ประธานรัฐสภานับองค์ประชุม เพราะมีสมาชิกรัฐสภาวอล์กเอาต์ออกจากห้องประชุมหลายคน จากนั้น ประธานรัฐสภาได้ขอให้มีการแสดงตนปรากฏว่ามีสมาชิกแสดงตนในห้องประชุม 204 คน ไม่ครบองค์ประชุม ทำให้ประธานรัฐสภา สั่งนัดประชุมร่วมรัฐสภาอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (14 ก.พ.) เวลา 09.30 น. ก่อนสั่งปิดการประชุมในเวลา 12.04 น.
เพชรบูรณ์ ไฟป่าไหม้มากสุด ฝุ่นพิษ PM2.5 ฟุ้งทั่วจังหวัด หวิดไหม้สำนักสงฆ์-บ้านปชช.
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_9631720
เพชรบูรณ์ ภาคเหนือเผาหนักมาก 401 จุด เมืองมะขามหวาน ไฟป่าลุกไหม้มากสุด 82 จุด ฝุ่นพิษ PM2.5 ฟุ้งกระจายปกคลุมเกือบทั้งจังหวัด หวิดไหม้สำนักสงฆ์-บ้านเรือนประชาชน โชคดีดับทัน
13 ก.พ. 68 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเพชรบูรณ์ได้รายงานสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันประจำวันที่ 13 ก.พ.2568 เวลา 07.00 น.ว่า
ศูนย์ปฏิบัติการดับไฟป่า ภาค 3 ได้แจ้งผลการติดตามสถานการณ์ไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละอองในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ค่าเฉลี่ยสะสม ประจำวันที่ 13 ก.พ. 68 เวลา 07.00 น. ตรวจพบจุดความร้อน ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ จำนวน 401 จุด โดยจังหวัดเพชรบูรณ์พบมากที่สุด จำนวน 82 จุด ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นป่าสงวนฯ รองลงมาคือ ป่าอนุรักษ์ และ เขต สปก.
ซึ่งจากจำนวนที่พบจุดความร้อน 82 จุดในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์นั้น พบว่า อ.หล่มสัก พบมากที่สุด 21 จุด รองลงมาคือ อ.วิเชียรบุรี 18 จุด อ.ศรีเทพ 17 จุด อ.ชนแดน 9 จุด อ.น้ำหนาว 5 จุด อ.หล่มเก่า 5 จุด อ.เมือง 4 จุด และ อ.บึงสามพัน โดยแบ่งเป็นพื้นที่พบในป่าสงวน 32 จุด พื้นที่ สปก. 21 จุด พื้นที่เกษตร 15 จุด ป่าอนุรักษ์ 11 จุด และในชุมชน 3 จุด รวม 82 จุด
ทั้งนี้จากการพบจุดความร้อนสะสมในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ตั้งแต่วันที่ 1-13 ก.พ. 68 พบจุดความร้อนทั้งหมด 587 จุดโดยพบมากที่สุดในพื้นที่ สปก.จำนวน 198 จุด พื้นที่ป่าสงวน 161 จุด พื้นที่เกษตร 109 จุด ส่วนท้องที่ที่พบจุดความร้อนมากที่สุดคือ อันดับ 1 อำเภอชนแดน 118 จุด และอำเภอศรีเทพ 118 จุด อำเภอวิเชียรบุรี 110 จุด อำเภอหล่มสัก98 จุด และอำเภอน้ำหนาว 34 จุด
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.น้ำหนาวได้รับแจ้งว่า มีไฟไหม้ป่าและกำลังจะมายังสำนักปฏิบัติธรรมพุทธรักษา ต.โคกมน อ.น้ำหนาว จึงได้ระดมกำลังไปช่วยดับไฟพร้อมทั้งประสานไปยัง อบต.โคกมนให้นำรถน้ำมาช่วยดับและสกัดจนสามารถดับไฟได้ก่อนที่จะลุกลามเข้ามายังสำนักสงฆ์
นอกจากนั้น ในพื้นที่ ต.พุเตย อ.วิเชียรบุรี ได้มีการแชร์ภาพไฟไหม้อย่างรุนแรง และกำลังจะลุกลามเข้าไหม้บ้านของประชาชน โชคดีที่อาสากู้ภัยนำรถดับเพลิงเข้าไปช่วยดับได้ทัน