โซเชียล เดือด ฐปนีย์ โพสต์ ว่าใคร พาดหัวข่าว ‘อย่ามารับบทเหยื่อ’ ลั่น ทำไมด่วนสรุป
https://www.matichon.co.th/local/news_5052486
โซเซียลเดือด ฐปนีย์ โพสต์ ว่าใคร พาดหัวข่าว อย่ามารับบทเหยื่อ ลั่น ทำไมด่วนสรุป
วันที่ 17 กุมภาพันธ์ น.ส.
ฐปนีย์ เอียดศรีชัย ผู้ก่อตั้งสำนักข่าว #TheReporters โพสต์โซเชียลเดือด หลังจากสำนักข่าวดังแห่งหนึ่ง ได้นำเสนอข่าว การเข้าไปช่วยเหลือ ผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือจากการบุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จำนวน 260 คน โดยเฟซบุ๊ก ของ น.ส.
ฐปนีย์ ได้นำส่วนหนึ่งของภาพชายคนหนึ่งที่ถูกช่วยเหลือออกมา แล้วนำคำพาดหัวของสำนักข่าวแห่งหนึ่ง ที่ระบุว่า “
อย่ามารับบทเหยื่อ” พร้อมทั้งระบุด้วยว่า ทำให้รู้สึกว่าเรากำลังช่วยกันสร้างวาทกรรมลอยนวลพ้นผิดหรือไม่ #อย่าสร้างวาทกรรมลอยนวลพ้นผิด
ทั้งนี้ ในเนื้อหาที่ น.ส.ฐปนีย์ โพสต์นั้น มีดังต่อไปนี้
‘อย่ามารับบทเหยื่อ‘
คำพาดหัวข่าวของสื่อสำนักหนึ่ง ทำให้รู้สึกว่าเรากำลังช่วยกันสร้างวาทกรรมลอยนวลพ้นผิดหรือไม่
#อย่าสร้างวาทกรรมลอยนวลพ้นผิด
รัฐไทยกำลังมีส่วนร่วมกับการก่ออาชญากรรมที่เลวร้ายมากๆ หากพยายามเบี่ยงเบนประเด็น สร้างชุดความคิดว่า ชาวต่างชาติที่ทำงานอยู่ในเมืองสแกมเมอร์ ไม่ใช้หยื่อค้ามนุษย์ เต็มใจไปทำงาน ไม่ได้ถูกหลอก
เอาแค่หลักฐาน 260 คนที่ได้รับการช่วยเหลือมาเมื่อวันที่ 12 ก.พ.68 เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ใช่เหยื่อค้ามนุษย์
ทั้งตำรวจและสื่อไทยเข้าใจนิยามการค้ามนุษย์กันแค่ไหน ถึงได้พาดหัวข่าวแบบไร้สำนึกของความเป็นมนุษย์
ได้สัมภาษณ์เหยื่อทั้ง 260 คนเองหรือไม่ แม้จะมาอ่านข่าวตามการให้สัมภาษณ์ของตำรวจ ก็ควรที่จะดูข้อเท็จจริงในด้านของเหยื่อบ้าง ได้สัมภาษณ์พวกเขาเองไหม พวกเขาไม่มีสิทธิจะพูด ยิ่งเมื่อถูกเข้าสู่ระบบการคัดกรอง เราไม่รู้เลยว่าคำถามการคัดกรองจะชี้นำไปในทิศทางใด
ถ้ามีข้อเท็จจริงอีกด้านหนึ่งต้องนำเสนอกัน ในฐานะที่เราเป็นสื่อที่ได้สัมภาษณ์คน 260 คน ด้วยตัวเอง และมีภาพหลักฐานการถูกทำร้าย ก็อยากนำเสนอเพื่อให้ได้รับฟังกันให้รอบด้าน
ในภาพนี้เป็นร่องรอยการถูกทำร้ายของเหยื่อชาวบราซิล และเคนยา ที่พวกเขาหนีออกมาจากบริษัทสแกมเมอร์ในบ้านช่องแคบ และ DKBA ช่วยเหลืออกมาอย่างปลอดภัยก่อนส่งให้ทางการไทย
ทุกคนตอบตรงกันว่าได้รับการชักชวนให้มาทำงานในไทย ในหน้าที่ต่างๆ เพราะได้เงินดีถึงมา แต่เมื่อมาถึงก็ถูกพาข้ามมาที่เมียวดี โดยที่ไม่รู้จัก และให้ทำงานเป็นสแกมเมอร์ เมื่อไม่ยินยอมก็ถูกทำร้ายร่างกายด้วยการชอตไฟฟ้า ทุบตี ใช้พลาสติกร้อน บางคนถูกยิงถ้าจะหลบหนี
เราอย่าหลงประเด็นค่ะ
เราอย่าไปปกปิดความผิดให้อาชญากรเหล่านี้
ด้วยการไปชี้นำว่าก็พวกเขาเต็มใจมาทำงาน
ต่อให้เต็มใจหรือถูกหลอกมา
พวกเขาไม่สมควรต้องถูกทารุณกรรม
หรือถูกทำร้ายร่างกายแบบนี้
อย่าไปฟอกขาวให้อาชญากร
หรืออยากปกปิดความผิดที่รู้กันดีว่า
ชาวต่างชาติเหล่านี้เข้ามาในไทย
เจ้าหน้าที่รัฐไทยคนไหนล่ะ
ปล่อยปละละเลยจนเป็นแบบนี้
เราต้องช่วยกันตั้งคำถามแบบนี้ค่ะ
เราต้องช่วยกันค้นหาความจริง
ว่าเหตุใดคนพวกนี้ถึงมีสภาพแบบนี้
อย่าให้ประเทศไทยต้องดูน่าอับอายไปมากกว่านี้
เราเป็นประเทศที่มีน้ำใจ
ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์
พอช่วยเขามาได้แล้ว
อย่าไปบิดเบือนว่าเขาไม่ใช่เหยื่อ
เพียงเพราะอยากปัดความผิดให้พ้นต้นตัว
หรือจะติดนิสัยในการสร้างวาทกรรมลอยนวลพ้นผิด
เราสัมภาษณ์เหยื่อมามาก
จะรวบรวมหลักฐานนำเสนอต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ น.ส.
ฐปนีย์ หรือ
แยม ได้โพสต์เรื่องนี้ออกไป มีชาวโซเชียลจำนวนมาก ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็น ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เช่น
นาย
รณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความชื่อดัง ระบุว่า
เหยื่อไม่เหยื่อก็บอกอยู่ว่าให้ไปตามดูทรัพย์สินรอบตัวของเหยื่อสิว่า ครอบครัวมันรวยขึ้นไหมถ้ามันยังปกติดีอยู่ มันก็คือเหยื่อแต่ถ้ามันรวยขึ้นมันไม่ใช่เหยื่อมันคัดกรองได้ไม่ยากเลย ถ้าคิดจะคัดกรองกันจริงๆ ส่วนตัวทุกคนที่ไปไม่ใช่เหยื่อครับเพราะพวก-ึงหลอกเค้าทั้งนั้น กลับมาประเทศไทยไม่โดนเหยื่อที่หลอกเค้าไปกระทืบตรงชายแดนก็บุญทูนหัวเท่าไหร่แล้วกลับมาได้ครบ 32 ก็ดีเท่าไหร่แล้วอย่ามาถามหาความรักความเมตตา
หรือ อีกคนหนึ่งที่ระบุว่า
แล้วถามว่าเราควรต้องทำตัวยังไงเหรอคะ?
ควรเก็บเค้ามาเลี้ยง ให้อยู่อาศัยในไทยตามที่เค้าต้องการกันไปเลยเหรอคะ?
ต้องให้เงินช่วยเหลือด้วยมั้ย?
เลี้ยงดูปูเสื่อให้สำราญกันไปเลยมั้ย?
คนพวกนี้ก็มีความตั้งใจมาเองส่วนนึง
และถูกหลอกอีกส่วนนึงในคนๆ เดียว
ตั้งใจมาทำงาน แต่ใช้วีซ่าท่องเที่ยวมา ไม่ได้มีการทำวีซ่าทำงานและ work permit มาจากต้นทาง
อันนี้ก็น่าจะเอ๊ะ ได้แล้วว่างานแบบนี้มันผิดปกติ แสดงว่าก็มีความตั้งใจมาอยู่แบบผิดประเภทวีซ่าแต่แรก แถมบอกค่าแรงสูงอีกยิ่งน่าเอ๊ะไปใหญ่ แต่ก็ยังมากัน
อันนี้เราควรมีการรีมาร์คไว้ในประวัติเข้าประเทศว่าตั้งใจเข้ามาใช้วีซ่าผิดประเภทว่าไปตามความผิด
พอมาถึงแล้วถูกหลอกพาไปพม่า ถูกทำร้ายร่างกาย แทนที่จะอยู่ดีกินดี ส่วนนี้เราก็เยียวยาเค้าโดยการให้การรักษาอาการบาดเจ็บตามสมควรก่อนการส่งตัวกลับไปประเทศต้นทาง ยังต้องให้การช่วยอะไรอีกเหรอ?
อย่าลืมว่าเราโดนคนอื่นทั้งใส่ร้าย ทั้งทำให้เสื่อมเสีย เสียงบประมาณไปช่วยเค้ามานะ
คือมีแต่เสียกับเสีย ยังต้องไปสงสารคนที่มีความตั้งใจจะเข้ามาอยู่ทำงานแบบเถื่อนแต่แรกเองอีกเหรอ
(แค่นี้ก็มีพวกนี้เยอะแยะทั่วประเทศแล้ว เข้ามาแบบฟรีวีซ่า อยู่ทำงานหาเงินจนครบเวลาออกไปต่อเวลาตามชายแดนเป็นล่ำเป็นสัน)
หรืออีกคนที่ระบุว่า
ทุกอย่างสามารถทำให้ยุติธรรมได้ หากทุกคน”สำนึกหน้าที่ของตนเอง” ยกตัวอย่าง คนต่างชาติที่เข้ามาขอความช่วยเหลือจากไทย ไม่ได้มีคดึความหลอกลวงคนไทย สำหรับคนไทย การที่เค้าอธิบายตนเองว่าถูกหลอก ถูกบังคับ เราก็ควรจบแค่นั้นแล้วรีบส่งเค้ากลัประเทศไป แต่หลังจากกลับประเทศตนเองแล้ว ทางรัฐบาลของเขา จะตัดสินใจเองว่าควรเป็นผู้ต้องหาหรือไม่ ต่างคนต่างรู้จักหน้าที่ตนเองคือจบ ดังนั้นการที่ “มีสื่อ” ไปกล่าวหาว่า เค้าไม่ใช่เหยื่อ นั่นคือ “เ-ือกเกินหน้าที่” เท่านั้นครับ ยกเว้นคุณมีหลักฐานระบุแต่ละตัวบุคคลว่ากระทำผิดในฐานะผู้ได้รับผลประโยชน์อย่างไร แล้วนำเสนอมา จึงจะไม่โดนว่า”เ-ือก” ครับ
หรืออีกคน
ส่วนตัวมองว่าทางการไทยรีบสรุปไปหน่อย การตรวจสอบว่าโดนหลอกหรือให้ความร่วมมือจริงๆก็ใช้เวลา ไม่ว่าจะการตรวจสอบเส้นทางการเงินของคนๆนั้น การเงินของครอบครัวและอื่นๆ แต่นี่ 200 กว่าคนใช้เวลาแค่ข้ามวันตรวจฟันธงแล้วเร็วไปมั้ย
น.ส.
ฐปนีย์ ได้ให้สัมภาษณ์กับ มติชนออนไลน์ ว่า เรื่องนี้ ทางผู้ว่าราชการจังหวัด บอกกับตนว่า ทั้งหมดยังไม่มีข้อสรุป ชัดเจน อย่างไรก็ตาม ชาวบราซิล และเคนยานั้นตนสัมภาษณ์มาเอง ยืนนันตามที่ตนได้โพสต์ ว่า อย่าไปปรักปรำหรือให้ร้ายว่าเขาทำความผิดแล้วแกล้งทำเป็นเหยื่อ
https://www.facebook.com/thapanee.ietsrichai/posts/pfbid02jhrLkCQDUyaMtidd4N8RRZUsU3dyhZYznM7tBvB81tCJBtDDGRF7RqDLk3XRtoZyl
ชาวแม่สอดโพสต์เฟซบุ๊กถึง'รังสิมันต์ โรม'ช่วยสะสางปัญหาต่างด้าวแย่งอาชีพคนไทย
https://siamrath.co.th/n/601603
ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ชาวแม่สอด โพสต์เฟซบุ๊ก ขอให้ "รังสิมันต์ โรม" สะสาง ปัญหาต่างด้าวแย่งอาชีพคนไทย หลังนำคณะ กมธ. ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ ฯ มาแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์-เชื่อมโยงกับประเด็นปัญหาคอลเซ็นเตอร์
โดยในช่วงที่นาย
รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร และคณะกรรมาธิการฯ ลงพื้นที่ชายแดนไทย-เมียน อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อเพื่อรับทราบข้อมูล ข้อเท็จจริง ข้อจำกัด และข้อท้าทาย เกี่ยวกับการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ การค้ามนุษย์ และยาเสพติดตามแนวชายแดนไทย - เมียนมา ด้าน จ.ตาก เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา ตลอดจนการส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจ ในพื้นที่ ระหว่างวันที่ 17-18 กุมภาพันธ์ 2568. นั้น ได้มีประชาชน พ่อค้า แม่ค้า ชาวแม่สอด ได้โพสต์เฟซบุ๊d และลงในกลุ่มเพจ ต่างๆ โดยมีข้อความระบุว่า
“ ขอให้“รังสิมันต์ โรม” ไหนๆก็มาแม่สอดแล้ว มาจัดระเบียบต่างด้าวในแม่สอดหน่อย เรื่องมาแย่งอาชีพคนไทย”
รายงานข่าวแจ้งว่า ในพื้นที่ชายแดน อ.แม่สอด มีแรงงานต่างด้าว จากประเทศเพื่อนบ้านมาอาศัยและทำกินในพื้นที่จำนวนมาก และที่เป็นประเด็นสำคัญคือ อาชีพหลายอาชีพที่สงวนไว้ให้คนไทย กลับถูกต่างด้าวมาแย่งคนไทย ดังจะเห็นได้จาก ในตลาดใหญ่ ของนครแม่สอด มีต่างด้าวมาประกอบอาชีพ ต้องห้าม จำนวนมาก ซึ่งชาวบ้านคนไทยในพื้นที่ต้องการให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง และคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ในช่วงลงพื้นที่แม่สอด ได้จัดระเบียบ แก้ไขปัญหาและสะสางเรื่องนี้ อย่างทันที เพราะเป็นปัญหาที่คั่งค้างรอการแก้ไข มานานแล้ว
สภาพอากาศวันนี้ กรมอุตุฯ เปิดชื่อ 30 จังหวัด เตือน ฝนถล่ม ลมแรง ฟ้าผ่า
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_9636851
สภาพอากาศวันนี้ กรมอุตุฯ เปิดชื่อ 30 จังหวัดทั่วไทย ฝนถล่ม ลมกระโชกแรง ฟ้าผ่า กทม.โดนด้วย ระวังอันตราย ตกหนักร้อยละ 30 ของพื้นที่ หลังจากนั้นอุณหภูมิลดลง
วันที่ 17 ก.พ.2568
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางระลอกใหม่จากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และทะเลจีนใต้แล้ว
ลักษณะเช่นนี้ส่งผลทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน
ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียสในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยภาคเหนือยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางมีอากาศเย็นในตอนเช้า
ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังอ่อนที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้เริ่มมีกำลังแรงขึ้นเป็นกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร อ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย
สภาวะอากาศที่มีผลต่อการสะสมฝุ่นละอองในระยะนี้ : การสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันบริเวณประเทศไทยตอนบน อยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงค่อนข้างมาก เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมมีกำลังอ่อน
JJNY : ‘อย่ามารับบทเหยื่อ’│ชาวแม่สอดโพสต์ถึง'รังสิมันต์ โรม'│30 จังหวัดเตือนฝนถล่ม│เซเลนสกีลั่นยังไม่ใช่เวลาจัดเลือกตั้ง
https://www.matichon.co.th/local/news_5052486
วันที่ 17 กุมภาพันธ์ น.ส.ฐปนีย์ เอียดศรีชัย ผู้ก่อตั้งสำนักข่าว #TheReporters โพสต์โซเชียลเดือด หลังจากสำนักข่าวดังแห่งหนึ่ง ได้นำเสนอข่าว การเข้าไปช่วยเหลือ ผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือจากการบุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จำนวน 260 คน โดยเฟซบุ๊ก ของ น.ส.ฐปนีย์ ได้นำส่วนหนึ่งของภาพชายคนหนึ่งที่ถูกช่วยเหลือออกมา แล้วนำคำพาดหัวของสำนักข่าวแห่งหนึ่ง ที่ระบุว่า “อย่ามารับบทเหยื่อ” พร้อมทั้งระบุด้วยว่า ทำให้รู้สึกว่าเรากำลังช่วยกันสร้างวาทกรรมลอยนวลพ้นผิดหรือไม่ #อย่าสร้างวาทกรรมลอยนวลพ้นผิด
ทั้งนี้ ในเนื้อหาที่ น.ส.ฐปนีย์ โพสต์นั้น มีดังต่อไปนี้
‘อย่ามารับบทเหยื่อ‘
คำพาดหัวข่าวของสื่อสำนักหนึ่ง ทำให้รู้สึกว่าเรากำลังช่วยกันสร้างวาทกรรมลอยนวลพ้นผิดหรือไม่
#อย่าสร้างวาทกรรมลอยนวลพ้นผิด
รัฐไทยกำลังมีส่วนร่วมกับการก่ออาชญากรรมที่เลวร้ายมากๆ หากพยายามเบี่ยงเบนประเด็น สร้างชุดความคิดว่า ชาวต่างชาติที่ทำงานอยู่ในเมืองสแกมเมอร์ ไม่ใช้หยื่อค้ามนุษย์ เต็มใจไปทำงาน ไม่ได้ถูกหลอก
เอาแค่หลักฐาน 260 คนที่ได้รับการช่วยเหลือมาเมื่อวันที่ 12 ก.พ.68 เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ใช่เหยื่อค้ามนุษย์
ทั้งตำรวจและสื่อไทยเข้าใจนิยามการค้ามนุษย์กันแค่ไหน ถึงได้พาดหัวข่าวแบบไร้สำนึกของความเป็นมนุษย์
ได้สัมภาษณ์เหยื่อทั้ง 260 คนเองหรือไม่ แม้จะมาอ่านข่าวตามการให้สัมภาษณ์ของตำรวจ ก็ควรที่จะดูข้อเท็จจริงในด้านของเหยื่อบ้าง ได้สัมภาษณ์พวกเขาเองไหม พวกเขาไม่มีสิทธิจะพูด ยิ่งเมื่อถูกเข้าสู่ระบบการคัดกรอง เราไม่รู้เลยว่าคำถามการคัดกรองจะชี้นำไปในทิศทางใด
ถ้ามีข้อเท็จจริงอีกด้านหนึ่งต้องนำเสนอกัน ในฐานะที่เราเป็นสื่อที่ได้สัมภาษณ์คน 260 คน ด้วยตัวเอง และมีภาพหลักฐานการถูกทำร้าย ก็อยากนำเสนอเพื่อให้ได้รับฟังกันให้รอบด้าน
ในภาพนี้เป็นร่องรอยการถูกทำร้ายของเหยื่อชาวบราซิล และเคนยา ที่พวกเขาหนีออกมาจากบริษัทสแกมเมอร์ในบ้านช่องแคบ และ DKBA ช่วยเหลืออกมาอย่างปลอดภัยก่อนส่งให้ทางการไทย
ทุกคนตอบตรงกันว่าได้รับการชักชวนให้มาทำงานในไทย ในหน้าที่ต่างๆ เพราะได้เงินดีถึงมา แต่เมื่อมาถึงก็ถูกพาข้ามมาที่เมียวดี โดยที่ไม่รู้จัก และให้ทำงานเป็นสแกมเมอร์ เมื่อไม่ยินยอมก็ถูกทำร้ายร่างกายด้วยการชอตไฟฟ้า ทุบตี ใช้พลาสติกร้อน บางคนถูกยิงถ้าจะหลบหนี
เราอย่าหลงประเด็นค่ะ
เราอย่าไปปกปิดความผิดให้อาชญากรเหล่านี้
ด้วยการไปชี้นำว่าก็พวกเขาเต็มใจมาทำงาน
ต่อให้เต็มใจหรือถูกหลอกมา
พวกเขาไม่สมควรต้องถูกทารุณกรรม
หรือถูกทำร้ายร่างกายแบบนี้
อย่าไปฟอกขาวให้อาชญากร
หรืออยากปกปิดความผิดที่รู้กันดีว่า
ชาวต่างชาติเหล่านี้เข้ามาในไทย
เจ้าหน้าที่รัฐไทยคนไหนล่ะ
ปล่อยปละละเลยจนเป็นแบบนี้
เราต้องช่วยกันตั้งคำถามแบบนี้ค่ะ
เราต้องช่วยกันค้นหาความจริง
ว่าเหตุใดคนพวกนี้ถึงมีสภาพแบบนี้
อย่าให้ประเทศไทยต้องดูน่าอับอายไปมากกว่านี้
เราเป็นประเทศที่มีน้ำใจ
ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์
พอช่วยเขามาได้แล้ว
อย่าไปบิดเบือนว่าเขาไม่ใช่เหยื่อ
เพียงเพราะอยากปัดความผิดให้พ้นต้นตัว
หรือจะติดนิสัยในการสร้างวาทกรรมลอยนวลพ้นผิด
เราสัมภาษณ์เหยื่อมามาก
จะรวบรวมหลักฐานนำเสนอต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ น.ส.ฐปนีย์ หรือ แยม ได้โพสต์เรื่องนี้ออกไป มีชาวโซเชียลจำนวนมาก ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็น ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เช่น
นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความชื่อดัง ระบุว่า
เหยื่อไม่เหยื่อก็บอกอยู่ว่าให้ไปตามดูทรัพย์สินรอบตัวของเหยื่อสิว่า ครอบครัวมันรวยขึ้นไหมถ้ามันยังปกติดีอยู่ มันก็คือเหยื่อแต่ถ้ามันรวยขึ้นมันไม่ใช่เหยื่อมันคัดกรองได้ไม่ยากเลย ถ้าคิดจะคัดกรองกันจริงๆ ส่วนตัวทุกคนที่ไปไม่ใช่เหยื่อครับเพราะพวก-ึงหลอกเค้าทั้งนั้น กลับมาประเทศไทยไม่โดนเหยื่อที่หลอกเค้าไปกระทืบตรงชายแดนก็บุญทูนหัวเท่าไหร่แล้วกลับมาได้ครบ 32 ก็ดีเท่าไหร่แล้วอย่ามาถามหาความรักความเมตตา
หรือ อีกคนหนึ่งที่ระบุว่า
แล้วถามว่าเราควรต้องทำตัวยังไงเหรอคะ?
ควรเก็บเค้ามาเลี้ยง ให้อยู่อาศัยในไทยตามที่เค้าต้องการกันไปเลยเหรอคะ?
ต้องให้เงินช่วยเหลือด้วยมั้ย?
เลี้ยงดูปูเสื่อให้สำราญกันไปเลยมั้ย?
คนพวกนี้ก็มีความตั้งใจมาเองส่วนนึง
และถูกหลอกอีกส่วนนึงในคนๆ เดียว
ตั้งใจมาทำงาน แต่ใช้วีซ่าท่องเที่ยวมา ไม่ได้มีการทำวีซ่าทำงานและ work permit มาจากต้นทาง
อันนี้ก็น่าจะเอ๊ะ ได้แล้วว่างานแบบนี้มันผิดปกติ แสดงว่าก็มีความตั้งใจมาอยู่แบบผิดประเภทวีซ่าแต่แรก แถมบอกค่าแรงสูงอีกยิ่งน่าเอ๊ะไปใหญ่ แต่ก็ยังมากัน
อันนี้เราควรมีการรีมาร์คไว้ในประวัติเข้าประเทศว่าตั้งใจเข้ามาใช้วีซ่าผิดประเภทว่าไปตามความผิด
พอมาถึงแล้วถูกหลอกพาไปพม่า ถูกทำร้ายร่างกาย แทนที่จะอยู่ดีกินดี ส่วนนี้เราก็เยียวยาเค้าโดยการให้การรักษาอาการบาดเจ็บตามสมควรก่อนการส่งตัวกลับไปประเทศต้นทาง ยังต้องให้การช่วยอะไรอีกเหรอ?
อย่าลืมว่าเราโดนคนอื่นทั้งใส่ร้าย ทั้งทำให้เสื่อมเสีย เสียงบประมาณไปช่วยเค้ามานะ
คือมีแต่เสียกับเสีย ยังต้องไปสงสารคนที่มีความตั้งใจจะเข้ามาอยู่ทำงานแบบเถื่อนแต่แรกเองอีกเหรอ
(แค่นี้ก็มีพวกนี้เยอะแยะทั่วประเทศแล้ว เข้ามาแบบฟรีวีซ่า อยู่ทำงานหาเงินจนครบเวลาออกไปต่อเวลาตามชายแดนเป็นล่ำเป็นสัน)
หรืออีกคนที่ระบุว่า
ทุกอย่างสามารถทำให้ยุติธรรมได้ หากทุกคน”สำนึกหน้าที่ของตนเอง” ยกตัวอย่าง คนต่างชาติที่เข้ามาขอความช่วยเหลือจากไทย ไม่ได้มีคดึความหลอกลวงคนไทย สำหรับคนไทย การที่เค้าอธิบายตนเองว่าถูกหลอก ถูกบังคับ เราก็ควรจบแค่นั้นแล้วรีบส่งเค้ากลัประเทศไป แต่หลังจากกลับประเทศตนเองแล้ว ทางรัฐบาลของเขา จะตัดสินใจเองว่าควรเป็นผู้ต้องหาหรือไม่ ต่างคนต่างรู้จักหน้าที่ตนเองคือจบ ดังนั้นการที่ “มีสื่อ” ไปกล่าวหาว่า เค้าไม่ใช่เหยื่อ นั่นคือ “เ-ือกเกินหน้าที่” เท่านั้นครับ ยกเว้นคุณมีหลักฐานระบุแต่ละตัวบุคคลว่ากระทำผิดในฐานะผู้ได้รับผลประโยชน์อย่างไร แล้วนำเสนอมา จึงจะไม่โดนว่า”เ-ือก” ครับ
หรืออีกคน
ส่วนตัวมองว่าทางการไทยรีบสรุปไปหน่อย การตรวจสอบว่าโดนหลอกหรือให้ความร่วมมือจริงๆก็ใช้เวลา ไม่ว่าจะการตรวจสอบเส้นทางการเงินของคนๆนั้น การเงินของครอบครัวและอื่นๆ แต่นี่ 200 กว่าคนใช้เวลาแค่ข้ามวันตรวจฟันธงแล้วเร็วไปมั้ย
น.ส.ฐปนีย์ ได้ให้สัมภาษณ์กับ มติชนออนไลน์ ว่า เรื่องนี้ ทางผู้ว่าราชการจังหวัด บอกกับตนว่า ทั้งหมดยังไม่มีข้อสรุป ชัดเจน อย่างไรก็ตาม ชาวบราซิล และเคนยานั้นตนสัมภาษณ์มาเอง ยืนนันตามที่ตนได้โพสต์ ว่า อย่าไปปรักปรำหรือให้ร้ายว่าเขาทำความผิดแล้วแกล้งทำเป็นเหยื่อ
https://www.facebook.com/thapanee.ietsrichai/posts/pfbid02jhrLkCQDUyaMtidd4N8RRZUsU3dyhZYznM7tBvB81tCJBtDDGRF7RqDLk3XRtoZyl
ชาวแม่สอดโพสต์เฟซบุ๊กถึง'รังสิมันต์ โรม'ช่วยสะสางปัญหาต่างด้าวแย่งอาชีพคนไทย
https://siamrath.co.th/n/601603
ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ชาวแม่สอด โพสต์เฟซบุ๊ก ขอให้ "รังสิมันต์ โรม" สะสาง ปัญหาต่างด้าวแย่งอาชีพคนไทย หลังนำคณะ กมธ. ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ ฯ มาแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์-เชื่อมโยงกับประเด็นปัญหาคอลเซ็นเตอร์
โดยในช่วงที่นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร และคณะกรรมาธิการฯ ลงพื้นที่ชายแดนไทย-เมียน อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อเพื่อรับทราบข้อมูล ข้อเท็จจริง ข้อจำกัด และข้อท้าทาย เกี่ยวกับการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ การค้ามนุษย์ และยาเสพติดตามแนวชายแดนไทย - เมียนมา ด้าน จ.ตาก เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา ตลอดจนการส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจ ในพื้นที่ ระหว่างวันที่ 17-18 กุมภาพันธ์ 2568. นั้น ได้มีประชาชน พ่อค้า แม่ค้า ชาวแม่สอด ได้โพสต์เฟซบุ๊d และลงในกลุ่มเพจ ต่างๆ โดยมีข้อความระบุว่า
“ ขอให้“รังสิมันต์ โรม” ไหนๆก็มาแม่สอดแล้ว มาจัดระเบียบต่างด้าวในแม่สอดหน่อย เรื่องมาแย่งอาชีพคนไทย”
รายงานข่าวแจ้งว่า ในพื้นที่ชายแดน อ.แม่สอด มีแรงงานต่างด้าว จากประเทศเพื่อนบ้านมาอาศัยและทำกินในพื้นที่จำนวนมาก และที่เป็นประเด็นสำคัญคือ อาชีพหลายอาชีพที่สงวนไว้ให้คนไทย กลับถูกต่างด้าวมาแย่งคนไทย ดังจะเห็นได้จาก ในตลาดใหญ่ ของนครแม่สอด มีต่างด้าวมาประกอบอาชีพ ต้องห้าม จำนวนมาก ซึ่งชาวบ้านคนไทยในพื้นที่ต้องการให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง และคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ในช่วงลงพื้นที่แม่สอด ได้จัดระเบียบ แก้ไขปัญหาและสะสางเรื่องนี้ อย่างทันที เพราะเป็นปัญหาที่คั่งค้างรอการแก้ไข มานานแล้ว
สภาพอากาศวันนี้ กรมอุตุฯ เปิดชื่อ 30 จังหวัด เตือน ฝนถล่ม ลมแรง ฟ้าผ่า
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_9636851
สภาพอากาศวันนี้ กรมอุตุฯ เปิดชื่อ 30 จังหวัดทั่วไทย ฝนถล่ม ลมกระโชกแรง ฟ้าผ่า กทม.โดนด้วย ระวังอันตราย ตกหนักร้อยละ 30 ของพื้นที่ หลังจากนั้นอุณหภูมิลดลง
วันที่ 17 ก.พ.2568 กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางระลอกใหม่จากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และทะเลจีนใต้แล้ว
ลักษณะเช่นนี้ส่งผลทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน
ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียสในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยภาคเหนือยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางมีอากาศเย็นในตอนเช้า
ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังอ่อนที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้เริ่มมีกำลังแรงขึ้นเป็นกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร อ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย
สภาวะอากาศที่มีผลต่อการสะสมฝุ่นละอองในระยะนี้ : การสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันบริเวณประเทศไทยตอนบน อยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงค่อนข้างมาก เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมมีกำลังอ่อน