ถนนเทพรักษ์นั่นก็คือจุดเชื่อมต่อระหว่างพหลโยธินและสุขาภิบาล 5 สายไหมทะลุออกจังหวัดปทุมธานีได้อย่างสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้นโดยปัจจุบันมีร้านอาหารใหม่แลดูน่าสนใจอีกเพียบซึ่งวันนี้เพื่อนผมแชทส่งข้อความชวนแวะมานั่งกินดื่มสังสรรค์เสพติดบรรยากาศอบอุ่นชิลๆกันที่ "Spice Thai Cuisine And Bar" (สไปซ์ไทยควิซีนแอนด์บาร์) ภัตตาคารเสิร์ฟเมนูตำรับไทยรสชาติจัดจ้านถึงเครื่องสมุนไพรเคล้าเครื่องดื่มคราฟต์พร้อมการแสดงเล่นดนตรีเคล้าเสียงเพลงจังหวะสนุกช่วยฟื้นร่างกายผ่อนคลายอาการเหนื่อยล้านับเป็นแหล่งพบปะพิเศษเหมาะสำหรับทุกคนภายในครอบครัวเพิ่งเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 09 พฤศจิกายน 2567 แต่ได้รับรีวิวบนเว็บไซต์คะแนนเฉลี่ยสูงถึง 4.9 เต็ม 5 ดาวจากลูกค้าจำนวนทั้งหมดเกือบ 100 ท่านบ่งบอกถึงความอร่อยเด็ดไม่ธรรมดา วิธีการเดินทางถ้าเลือกใช้รถยนต์ส่วนตัวกดปักหมุดค้นหาชื่อแบรนด์ขับตามระบบแผนที่บนมือถือของคุณสามารถจอดด้านหน้าฟรียาวตลอดทั้งแนวไร้ข้อจำกัดเรื่องเวลา/กฎหมายบังคับ ผู้โดยสารขนส่งสาธารณะแนะนำขึ้นบีทีเอสสายสีเขียวลง ณ สถานีสายหยุดบันไดทางออกลำดับ 3 ค่อยโบกมือเรียกแท็กซี่หรือซ้อนท้ายวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างบริเวณใกล้เคียงต่อเพื่อเข้าสู่จุดหมายแค่ประมาณ 750 เมตร เห็นป้ายพื้นสีแดงตัวอักษรอังกฤษชื่อแบรนด์เด่นชัดแบบนี้แสดงว่าถึงแล้วครับผม
บรรยากาศข้างในร้าน "Spice Thai Cuisine And Bar" (สไปซ์ไทยควิซีนแอนด์บาร์) ถนนเทพรักษ์แห่งนี้เขาเลือกใช้การตกแต่งแบบผสมหลายสไตล์เข้ากันอย่างได้ลงตัวเช่น Modern Retro แขวนภาพวาดศิลปะวินเทจสีสันสดใสบนผนังให้ความรู้สึกย้อนยุคแต่ยังคงความทันสมัย / Mid Century Modern เฟอร์นิเจอร์วัสดุไม้แท้ทำดีไซน์เรียบหรูเก้าอี้โต๊ะขาเฉียงออกซึ่งเป็นเอกลักษณ์เด่นของช่วงยุค 50s ถึง 60s / Industrial Touch กระจกใสบานขนาดใหญ่โชว์ห้องครัวหลักล้อมกรอบโลหะให้ความรู้สึกประดุจดั่ง Chef Table โดยเราสามารถมองดูวิธีจัดเตรียมวัตถุดิบไปจนถึงการปรุงอาหารทุกขั้นตอน / Art Deco Influence ประดับตกแต่งเชิงเทียนทองเหลืองโบราณ,ขนนกสีขาว,โคมไฟโทนเหลืองอบอุ่นฝั่งตะวันตก,ผ้าปูโต๊ะไปจนถึงม่านบังแสงแดดกำมะหยี่แดงสื่อถึงความหรูหราแลดูมีระดับ ติดตั้งเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำเปิดเพลงไทยสลับสากลบนโทรทัศน์เชื่อมต่อเครื่องเสียงคุณภาพสูงฟังเพลินยาวตลอดวันใครชื่นชอบดนตรีสดมีบริการทุกวันเริ่มตั้งแต่เวลา 19:30-22:00 น. หรือต้องการเหมาเลี้ยงสังสรรค์ควรจองล่วงหน้าอย่างน้อย 3-4 วัน พร้อมเก็บเงินค่ามัดจำ 25,000 บาท (หักลบค่าอาหาร,เครื่องดื่มหลังจบงาน) รองรับสมาชิกจำนวนสูงสุดถึง 35 คน กดเพื่อชมเล่มเมนูฉบับออนไลน์ที่นี่ >
https://citly.me/0cekF < ครับผม
เมนูจานแรกเป็น Signature แนะนำอันดับ 1 ของทางร้าน "Spice Thai Cuisine And Bar" (สไปซ์ไทยควิซีนแอนด์บาร์) นั่นก็คือ "เนื้อรีเจนซี่" ราคา 318 บาท สะโพกพิคานย่าวัวสายพันธุ์ Australian Angus ตัดชิ้นแบ่งชั่งน้ำหนักเสิร์ฟปริมาณจานละ 180 กรัม แนบกระทะพอสุกระดับ Medium Well สีผิวด้านนอกดูกรอบเกรียมเล็กน้อยตรงกลางอมชมพูสวยงามชุ่มฉ่ำหั่นเรียงใส่ภาชนะราดน้ำมันพืชผสมซอสถั่วเหลืองกับพริกไทยดำกำปอตนำเข้าจากเวียดนามผสานเทคนิคครัวฝรั่งเศสซึ่งเรียกว่าฟล็องเบโดยเติมแอลกอฮอล์ดีกรีแรงสูงอย่างรีเจนซี่บรั่นดีฝั่งไทยจุดไฟลุกโชนสวยงามอลังการดึงดูดสายตาผู้คนรอบข้าง รับประทานคู่แจ่วฉบับอีสานเคียงพริกขี้หนู,หอมหัวแดงปิ้งเคียงผักหอมป้อมและผักชีฝรั่งใบเลื่อยอร่อยครบสูตร / "คอหมูย่างรมควันไม้เชอร์รี่" ราคา 228 บาท เชฟเลือกใช้เฉพาะคอหมูแท้ๆ 100% เลี้ยงฟาร์มระบบปิดควบคุมมาตรฐานเกรดอนามัยปลอดภัยไร้ยาปฏิชีวนะตกค้างหมักคลุกเคล้าเหล่าเครื่องสมุนไพรเข้าเตาอบควบคุมอุณหภูมิปานกลางต้องอดทนรอสักพักเพราะเริ่มปรุงใหม่เมื่อรับออเดอร์ลูกค้าเท่านั้น วางบนถาดก่อไฟจากเศษไม้เชอร์รี่สัญชาติอเมริกันดูดเอาควันขาวบรรจุลงฝาชีแก้วปิดสนิทคุณสมบัติพิเศษได้แก่กลิ่นหอมเบาบางหวานอมเปรี้ยวติดปลายจมูกช่วยเพิ่มความซับซ้อนเจริญอาหารอีกรูปแบบหนึ่งครับผม
ยังนึกไม่ออกว่าจะสั่งอะไรกินดีเลยนั่งมองสังเกตรอบข้างเกือบทุกโต๊ะออเดอร์รายการนี้เยอะมากที่สุดนั่นก็คือ "ทอด-มัน-จุ้ง" ราคา 258 บาท มันหมูขาวเข้าเครื่องบดละเอียดคลุกสามเกลอไทย (รากผักชี,กระเทียม,พริกไทย) ผสมเนื้อกุ้งแชบ๊วยทะเลปั่นและน็อกน้ำแข็งเด้งสู้ฟันสับชิ้นพอหยาบๆช่วยเสริมสัมผัสตอนเคี้ยวสนุกมากยิ่งขึ้น ค่อยปั้นก้อนรูปทรงกลมแบนกดให้เกิดหลุมตรงกลางลักษณะคล้ายโดนัทฉบับอเมริกันเคล้าผงแป้งสาลีอเนกประสงค์,ไข่ไก่สด,เกล็ดขนมปังทอดน้ำมันท่วมใช้ไฟอุณหภูมิค่อนข้างต่ำรอผิวข้างนอกกรอบฟูสีทองแลดูสวยงามส่วนด้านในสุกชุ่มฉ่ำเด้งสู้ฟันเสิร์ฟคู่น้ำจิ้มบ๊วยเจี่ยเปรี้ยวอมหวานเหนียวหนืดเล็กน้อยช่วยตัดเลี่ยนส่วนตัวถือว่าอร่อยประทับใจยิ่งกว่าภัตตาคารสัญชาติจีนแท้หลายเจ้าแนะนำว่าห้ามพลาดเด็ดขาด / "แกงเขียวหวาน" ไม่ว่าจะเป็นหมู,ไก่,เนื้อวัวคิดราคาเดียวกัน 198 บาท วันนี้เราขอเลือกเป็นเนื้อหมูในครัวเลือกใช้เฉพาะบริเวณสันนอกสไลซ์ขนาดพอดีคำผัดพริกแกงเขียวหวานกับหัวกะทิจนแตกไขมันลอยเต็มห้าส่งกลิ่นหอมแบบไทยโบราณเพิ่มมะเขือเปราะผ่าแช่น้ำเกลือสมุทรไร้ความด่างดำ,มะเขือพวงลูกเล็กจิ๋ว,ใบมะกรูดปิดท้ายด้วยยอดโหระพา,พริกชี้ฟ้าแดงประดับนิดหน่อยปรุงโดยเน้นแนวปานกลางเค็มหวานกลมกล่อม ถ้าลิ้นของคุณติดรสชาติจัดจ้านสามารถแจ้งน้องพนักงานขอน้ำปลาพริกฟรีครับ
รายการถัดไปเป็นเมนูแนวไทยเหมาะสำหรับผู้ชื่นชอบวัตถุดิบกลิ่นแบบรุนแรงโดยเฉพาะนั่นก็คือ "ผัดสามฉุน" ราคา 248 บาท ประกอบไปด้วยเมล็ดสะตอปักษ์ใต้,ยอดใบชะอมก้านอ่อน,กระเทียมโทนดองน้ำผึ้ง,วุ้นเส้นถั่วเขียวคุณภาพดีลวกแค่สุกนำผัดลงกระทะก้นหลุมลึกสไตล์ภัตตาคารดินแดนมังกรเร่งไฟสุดให้ติดไหม้ปลายจมูกเล็กน้อยใส่พริกขี้หนูเผ็ดร้อนสีสันสดใสสวยงาม เพิ่มโปรตีนด้วยไข่ไก่กับกุ้งแชบ๊วยไซส์ใหญ่ทิ้งหัวแกะเปลือกดึงเส้นดำกลางลำตัวออกเหลือปลายหางจับถือรับประทานสะดวกน็อกน้ำแข็ง-เกลือสมุทรอุณหภูมิติดลบเพื่อรักษาสัมผัสเด้งสู้ฟันฟินฉบับของแกล้มพร้อมกระดกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เย็นชื่นใจหรือคู่ข้าวสวยหอมมะลิหุงร้อนๆอร่อยเด็ดลงตัวครบทุกมิติ / "ผัดพริกเหลือง" สามารถเลือกได้ทั้งหมึกหรือกุ้งราคา 248 บาท / ทะเลรวมราคา 288 บาท / สำหรับวันนี้เราออเดอร์กรรเชียงปูราคา 448 บาท ปูม้าทะเลเกรดพรีเมียมคัดพิเศษเทียบส่งตรงจากเรือประมงพื้นบ้านจังหวัดสุราษฎร์ธานีขนาดจัมโบ้นึ่งสุกกรรเชียงเนื้อแน่นเต็มปากเคี้ยวหวานฉ่ำหัวหน้าเชฟจัดการเตรียมพริกขี้หนู,พริกชี้ฟ้าสีเหลือง,กระเทียมโขลกบนครกหินแหลกละเอียดเจียวน้ำมันพืชจนส่งกลิ่นหอมเอกลักษณ์ตำรับโบราณฟุ้งกระจายฉุนแสบจมูกเคล้าทุกอย่างพอเข้ากันเติมถั่วฝักยาวหั่นท่อนกรุบกรอบปรุงรสชาติเค็มเผ็ดกลมกล่อมไม่ติดหวานครับผม
จานต่อมาไม่ต้องสตาร์ตรถออกจากกรุงเทพมหานครตรงไปยังจังหวัดอยุธยาก็ได้ฟินวัตถุดิบเกรดเดียวกันนั่นก็คือ "กุ้งแม่น้ำใหญ่ทอดดอกเกลือ" ราคา 848 บาท กุ้งก้ามกรามดักจับตามธรรมชาติส่งตรงจากชาวประมงพื้นบ้านริมแม่น้ำเจ้าพระยาเกรดสดใหม่คัดพิเศษขนาด 5 ตัว 1 กิโลกรัม (เฉลี่ย 200 กรัม) แกะหัวแบบเหลือคางเอาไว้ปอกเปลือกกลางลำตัวเก็บปลายหางและก้ามจับถือรับประทานสะดวกทอดลงกระทะส่งกลิ่นหอมหวนตามด้วยมันบนหัวสีส้มสดใสสวยงามปรุงเพียงผลึกดอกเกลือชื่อดังแห่งแม่กลองสมุทรสงครามคุณภาพสูงอันดับหนึ่งของประเทศไทยเค็มนัวละมุนกลมกล่อมเนื้อเด้งสู้ฟันเพิ่มน้ำจิ้มซีฟู้ดมะนาวแท้เปรี้ยวเผ็ดอร่อยต้องคลุกเคล้าเหมาข้าวจนหมดเกลี้ยงหม้อ / "ปลากะพงทอดน้ำปลายำมะม่วง" ราคา 338 บาท ทางร้านเลือกใช้เฉพาะกะพงทะเลไซส์จัมโบ้วางเครื่องชั่งน้ำหนักอย่างน้อย 800-900 กรัมบรรจงขอดเกล็ดควักไส้นำเครื่องในออกแล่ฉบับฟิลเลโดยเก็บส่วนประกอบอื่นๆครบไม่เหลือทิ้ง ชุบแป้งสาลีอเนกประสงค์เบาบางทอดน้ำมันอุณหภูมิปานกลางประมาณ 180 องศาเซลเซียสรอผิวด้านนอกกรอบสีเหลืองทองประกอบร่างวางเสิร์ฟภาชนะทรงเปล ราดซอสน้ำปลาเค็มอมหวานแทรกซึมเข้าเนื้อกินคู่ยำมะม่วงเขียวปรับเปลี่ยนสายพันธุ์ตามฤดูกาลใส่หัวหอมแดง,พริกขี้หนู,สะระแหน่แซ่บจี๊ดจ๊าดช่วยตัดเลี่ยนครับผม
ช่วงนี้อาหารไทยชื่อเสียงโด่งดังยอดนิยมในหมู่ชาวต่างชาติมากที่สุดทุกคนโดยต้องพูดถึง "ผัดกะเพรา" ซึ่งทางร้าน "Spice Thai Cuisine And Bar" (สไปซ์ไทยควิซีนแอนด์บาร์) มีให้พวกเราเลือกชิมหลากหลายวัตถุดิบตามงบประมาณของคุณลูกค้าเช่นหมู,ไก่ราคา 148 บาท / หมึก,กุ้ง,หอยลาย,กากหมูราคา 238 บาท / ทะเลรวมราคา 248 บาท / กรรเชียงปูราคา 388 บาท และวันนี้ขอออเดอร์เป็นเนื้อวัวราคา 188 บาท ใช้เนื้อสายพันธุ์ไทยพรีเมียมสับละเอียดปริมาณโปรตีนแทรกไขมันสมดุลกลิ่นหอมเฉพาะคลุกเคล้าพริกขี้หนู,กระเทียมสับผัดไฟแรงฉบับโบราณแห้งสนิทตกแต่งใบกะเพราทอดกรอบต้องรับประทานพร้อม "ข้าวเปล่า" หอมมะลิชั้นดีหุงสุกใหม่ๆราคาจานละ 20 บาท / โถละ 68 บาท เพิ่ม "ไข่ดาวไก่" ขอบด้านนอกฟูกรอบตรงกลางไม่สุกปรับเปลี่ยนเองตามใจคิดราคาฟองละ 15 บาท ส่วนน้ำปลาพริกขอบรรจุลงถ้วยไซส์จิ๋วฟรีไม่คิดเงิน / "หมูสับต้มบ๊วย" ราคา 178 บาท น้ำซุปใสเสิร์ฟร้อนแก้สร่างเมาสำหรับซดให้คล่องคอประดุจกดปุ่มรีเฟรชช่วยฟื้นฟูร่างกายหลังดื่มแอลกอฮอล์อย่างหนักส่วนประกอบหลักได้แก่เนื้อหมูสับเลี้ยงฟาร์มอนามัยไร้ยาปฏิชีวนะติดไขมันน้อยหมักสมุนไพรสามเกลอ (รากผักชี,กระเทียม,พริกไทย) ปรุงเพียงซีอิ๊ว,บ๊วยดองหมั่นช้อนฟองออกเทลงภาชนะชามใหญ่โรยผักชีซอยรู้สึกอุ่นสดชื่นสบายท้องดีครับผม
******* เกิน 10,000 ตัวอักษร ขออนุญาตเขียนรีวิวต่อในช่อง Comment แทนนะครับ *******
[CR] รีวิว "Spice" (เทพรักษ์-สะพานใหม่) ร้านนั่งกินดื่มสุดชิลเสิร์ฟเมนูไทยรสชาติจัดจ้านพร้อมเครื่องดื่มคราฟต์และดนตรีสดทุกคืน
บรรยากาศข้างในร้าน "Spice Thai Cuisine And Bar" (สไปซ์ไทยควิซีนแอนด์บาร์) ถนนเทพรักษ์แห่งนี้เขาเลือกใช้การตกแต่งแบบผสมหลายสไตล์เข้ากันอย่างได้ลงตัวเช่น Modern Retro แขวนภาพวาดศิลปะวินเทจสีสันสดใสบนผนังให้ความรู้สึกย้อนยุคแต่ยังคงความทันสมัย / Mid Century Modern เฟอร์นิเจอร์วัสดุไม้แท้ทำดีไซน์เรียบหรูเก้าอี้โต๊ะขาเฉียงออกซึ่งเป็นเอกลักษณ์เด่นของช่วงยุค 50s ถึง 60s / Industrial Touch กระจกใสบานขนาดใหญ่โชว์ห้องครัวหลักล้อมกรอบโลหะให้ความรู้สึกประดุจดั่ง Chef Table โดยเราสามารถมองดูวิธีจัดเตรียมวัตถุดิบไปจนถึงการปรุงอาหารทุกขั้นตอน / Art Deco Influence ประดับตกแต่งเชิงเทียนทองเหลืองโบราณ,ขนนกสีขาว,โคมไฟโทนเหลืองอบอุ่นฝั่งตะวันตก,ผ้าปูโต๊ะไปจนถึงม่านบังแสงแดดกำมะหยี่แดงสื่อถึงความหรูหราแลดูมีระดับ ติดตั้งเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำเปิดเพลงไทยสลับสากลบนโทรทัศน์เชื่อมต่อเครื่องเสียงคุณภาพสูงฟังเพลินยาวตลอดวันใครชื่นชอบดนตรีสดมีบริการทุกวันเริ่มตั้งแต่เวลา 19:30-22:00 น. หรือต้องการเหมาเลี้ยงสังสรรค์ควรจองล่วงหน้าอย่างน้อย 3-4 วัน พร้อมเก็บเงินค่ามัดจำ 25,000 บาท (หักลบค่าอาหาร,เครื่องดื่มหลังจบงาน) รองรับสมาชิกจำนวนสูงสุดถึง 35 คน กดเพื่อชมเล่มเมนูฉบับออนไลน์ที่นี่ > https://citly.me/0cekF < ครับผม
เมนูจานแรกเป็น Signature แนะนำอันดับ 1 ของทางร้าน "Spice Thai Cuisine And Bar" (สไปซ์ไทยควิซีนแอนด์บาร์) นั่นก็คือ "เนื้อรีเจนซี่" ราคา 318 บาท สะโพกพิคานย่าวัวสายพันธุ์ Australian Angus ตัดชิ้นแบ่งชั่งน้ำหนักเสิร์ฟปริมาณจานละ 180 กรัม แนบกระทะพอสุกระดับ Medium Well สีผิวด้านนอกดูกรอบเกรียมเล็กน้อยตรงกลางอมชมพูสวยงามชุ่มฉ่ำหั่นเรียงใส่ภาชนะราดน้ำมันพืชผสมซอสถั่วเหลืองกับพริกไทยดำกำปอตนำเข้าจากเวียดนามผสานเทคนิคครัวฝรั่งเศสซึ่งเรียกว่าฟล็องเบโดยเติมแอลกอฮอล์ดีกรีแรงสูงอย่างรีเจนซี่บรั่นดีฝั่งไทยจุดไฟลุกโชนสวยงามอลังการดึงดูดสายตาผู้คนรอบข้าง รับประทานคู่แจ่วฉบับอีสานเคียงพริกขี้หนู,หอมหัวแดงปิ้งเคียงผักหอมป้อมและผักชีฝรั่งใบเลื่อยอร่อยครบสูตร / "คอหมูย่างรมควันไม้เชอร์รี่" ราคา 228 บาท เชฟเลือกใช้เฉพาะคอหมูแท้ๆ 100% เลี้ยงฟาร์มระบบปิดควบคุมมาตรฐานเกรดอนามัยปลอดภัยไร้ยาปฏิชีวนะตกค้างหมักคลุกเคล้าเหล่าเครื่องสมุนไพรเข้าเตาอบควบคุมอุณหภูมิปานกลางต้องอดทนรอสักพักเพราะเริ่มปรุงใหม่เมื่อรับออเดอร์ลูกค้าเท่านั้น วางบนถาดก่อไฟจากเศษไม้เชอร์รี่สัญชาติอเมริกันดูดเอาควันขาวบรรจุลงฝาชีแก้วปิดสนิทคุณสมบัติพิเศษได้แก่กลิ่นหอมเบาบางหวานอมเปรี้ยวติดปลายจมูกช่วยเพิ่มความซับซ้อนเจริญอาหารอีกรูปแบบหนึ่งครับผม
ยังนึกไม่ออกว่าจะสั่งอะไรกินดีเลยนั่งมองสังเกตรอบข้างเกือบทุกโต๊ะออเดอร์รายการนี้เยอะมากที่สุดนั่นก็คือ "ทอด-มัน-จุ้ง" ราคา 258 บาท มันหมูขาวเข้าเครื่องบดละเอียดคลุกสามเกลอไทย (รากผักชี,กระเทียม,พริกไทย) ผสมเนื้อกุ้งแชบ๊วยทะเลปั่นและน็อกน้ำแข็งเด้งสู้ฟันสับชิ้นพอหยาบๆช่วยเสริมสัมผัสตอนเคี้ยวสนุกมากยิ่งขึ้น ค่อยปั้นก้อนรูปทรงกลมแบนกดให้เกิดหลุมตรงกลางลักษณะคล้ายโดนัทฉบับอเมริกันเคล้าผงแป้งสาลีอเนกประสงค์,ไข่ไก่สด,เกล็ดขนมปังทอดน้ำมันท่วมใช้ไฟอุณหภูมิค่อนข้างต่ำรอผิวข้างนอกกรอบฟูสีทองแลดูสวยงามส่วนด้านในสุกชุ่มฉ่ำเด้งสู้ฟันเสิร์ฟคู่น้ำจิ้มบ๊วยเจี่ยเปรี้ยวอมหวานเหนียวหนืดเล็กน้อยช่วยตัดเลี่ยนส่วนตัวถือว่าอร่อยประทับใจยิ่งกว่าภัตตาคารสัญชาติจีนแท้หลายเจ้าแนะนำว่าห้ามพลาดเด็ดขาด / "แกงเขียวหวาน" ไม่ว่าจะเป็นหมู,ไก่,เนื้อวัวคิดราคาเดียวกัน 198 บาท วันนี้เราขอเลือกเป็นเนื้อหมูในครัวเลือกใช้เฉพาะบริเวณสันนอกสไลซ์ขนาดพอดีคำผัดพริกแกงเขียวหวานกับหัวกะทิจนแตกไขมันลอยเต็มห้าส่งกลิ่นหอมแบบไทยโบราณเพิ่มมะเขือเปราะผ่าแช่น้ำเกลือสมุทรไร้ความด่างดำ,มะเขือพวงลูกเล็กจิ๋ว,ใบมะกรูดปิดท้ายด้วยยอดโหระพา,พริกชี้ฟ้าแดงประดับนิดหน่อยปรุงโดยเน้นแนวปานกลางเค็มหวานกลมกล่อม ถ้าลิ้นของคุณติดรสชาติจัดจ้านสามารถแจ้งน้องพนักงานขอน้ำปลาพริกฟรีครับ
รายการถัดไปเป็นเมนูแนวไทยเหมาะสำหรับผู้ชื่นชอบวัตถุดิบกลิ่นแบบรุนแรงโดยเฉพาะนั่นก็คือ "ผัดสามฉุน" ราคา 248 บาท ประกอบไปด้วยเมล็ดสะตอปักษ์ใต้,ยอดใบชะอมก้านอ่อน,กระเทียมโทนดองน้ำผึ้ง,วุ้นเส้นถั่วเขียวคุณภาพดีลวกแค่สุกนำผัดลงกระทะก้นหลุมลึกสไตล์ภัตตาคารดินแดนมังกรเร่งไฟสุดให้ติดไหม้ปลายจมูกเล็กน้อยใส่พริกขี้หนูเผ็ดร้อนสีสันสดใสสวยงาม เพิ่มโปรตีนด้วยไข่ไก่กับกุ้งแชบ๊วยไซส์ใหญ่ทิ้งหัวแกะเปลือกดึงเส้นดำกลางลำตัวออกเหลือปลายหางจับถือรับประทานสะดวกน็อกน้ำแข็ง-เกลือสมุทรอุณหภูมิติดลบเพื่อรักษาสัมผัสเด้งสู้ฟันฟินฉบับของแกล้มพร้อมกระดกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เย็นชื่นใจหรือคู่ข้าวสวยหอมมะลิหุงร้อนๆอร่อยเด็ดลงตัวครบทุกมิติ / "ผัดพริกเหลือง" สามารถเลือกได้ทั้งหมึกหรือกุ้งราคา 248 บาท / ทะเลรวมราคา 288 บาท / สำหรับวันนี้เราออเดอร์กรรเชียงปูราคา 448 บาท ปูม้าทะเลเกรดพรีเมียมคัดพิเศษเทียบส่งตรงจากเรือประมงพื้นบ้านจังหวัดสุราษฎร์ธานีขนาดจัมโบ้นึ่งสุกกรรเชียงเนื้อแน่นเต็มปากเคี้ยวหวานฉ่ำหัวหน้าเชฟจัดการเตรียมพริกขี้หนู,พริกชี้ฟ้าสีเหลือง,กระเทียมโขลกบนครกหินแหลกละเอียดเจียวน้ำมันพืชจนส่งกลิ่นหอมเอกลักษณ์ตำรับโบราณฟุ้งกระจายฉุนแสบจมูกเคล้าทุกอย่างพอเข้ากันเติมถั่วฝักยาวหั่นท่อนกรุบกรอบปรุงรสชาติเค็มเผ็ดกลมกล่อมไม่ติดหวานครับผม
จานต่อมาไม่ต้องสตาร์ตรถออกจากกรุงเทพมหานครตรงไปยังจังหวัดอยุธยาก็ได้ฟินวัตถุดิบเกรดเดียวกันนั่นก็คือ "กุ้งแม่น้ำใหญ่ทอดดอกเกลือ" ราคา 848 บาท กุ้งก้ามกรามดักจับตามธรรมชาติส่งตรงจากชาวประมงพื้นบ้านริมแม่น้ำเจ้าพระยาเกรดสดใหม่คัดพิเศษขนาด 5 ตัว 1 กิโลกรัม (เฉลี่ย 200 กรัม) แกะหัวแบบเหลือคางเอาไว้ปอกเปลือกกลางลำตัวเก็บปลายหางและก้ามจับถือรับประทานสะดวกทอดลงกระทะส่งกลิ่นหอมหวนตามด้วยมันบนหัวสีส้มสดใสสวยงามปรุงเพียงผลึกดอกเกลือชื่อดังแห่งแม่กลองสมุทรสงครามคุณภาพสูงอันดับหนึ่งของประเทศไทยเค็มนัวละมุนกลมกล่อมเนื้อเด้งสู้ฟันเพิ่มน้ำจิ้มซีฟู้ดมะนาวแท้เปรี้ยวเผ็ดอร่อยต้องคลุกเคล้าเหมาข้าวจนหมดเกลี้ยงหม้อ / "ปลากะพงทอดน้ำปลายำมะม่วง" ราคา 338 บาท ทางร้านเลือกใช้เฉพาะกะพงทะเลไซส์จัมโบ้วางเครื่องชั่งน้ำหนักอย่างน้อย 800-900 กรัมบรรจงขอดเกล็ดควักไส้นำเครื่องในออกแล่ฉบับฟิลเลโดยเก็บส่วนประกอบอื่นๆครบไม่เหลือทิ้ง ชุบแป้งสาลีอเนกประสงค์เบาบางทอดน้ำมันอุณหภูมิปานกลางประมาณ 180 องศาเซลเซียสรอผิวด้านนอกกรอบสีเหลืองทองประกอบร่างวางเสิร์ฟภาชนะทรงเปล ราดซอสน้ำปลาเค็มอมหวานแทรกซึมเข้าเนื้อกินคู่ยำมะม่วงเขียวปรับเปลี่ยนสายพันธุ์ตามฤดูกาลใส่หัวหอมแดง,พริกขี้หนู,สะระแหน่แซ่บจี๊ดจ๊าดช่วยตัดเลี่ยนครับผม
ช่วงนี้อาหารไทยชื่อเสียงโด่งดังยอดนิยมในหมู่ชาวต่างชาติมากที่สุดทุกคนโดยต้องพูดถึง "ผัดกะเพรา" ซึ่งทางร้าน "Spice Thai Cuisine And Bar" (สไปซ์ไทยควิซีนแอนด์บาร์) มีให้พวกเราเลือกชิมหลากหลายวัตถุดิบตามงบประมาณของคุณลูกค้าเช่นหมู,ไก่ราคา 148 บาท / หมึก,กุ้ง,หอยลาย,กากหมูราคา 238 บาท / ทะเลรวมราคา 248 บาท / กรรเชียงปูราคา 388 บาท และวันนี้ขอออเดอร์เป็นเนื้อวัวราคา 188 บาท ใช้เนื้อสายพันธุ์ไทยพรีเมียมสับละเอียดปริมาณโปรตีนแทรกไขมันสมดุลกลิ่นหอมเฉพาะคลุกเคล้าพริกขี้หนู,กระเทียมสับผัดไฟแรงฉบับโบราณแห้งสนิทตกแต่งใบกะเพราทอดกรอบต้องรับประทานพร้อม "ข้าวเปล่า" หอมมะลิชั้นดีหุงสุกใหม่ๆราคาจานละ 20 บาท / โถละ 68 บาท เพิ่ม "ไข่ดาวไก่" ขอบด้านนอกฟูกรอบตรงกลางไม่สุกปรับเปลี่ยนเองตามใจคิดราคาฟองละ 15 บาท ส่วนน้ำปลาพริกขอบรรจุลงถ้วยไซส์จิ๋วฟรีไม่คิดเงิน / "หมูสับต้มบ๊วย" ราคา 178 บาท น้ำซุปใสเสิร์ฟร้อนแก้สร่างเมาสำหรับซดให้คล่องคอประดุจกดปุ่มรีเฟรชช่วยฟื้นฟูร่างกายหลังดื่มแอลกอฮอล์อย่างหนักส่วนประกอบหลักได้แก่เนื้อหมูสับเลี้ยงฟาร์มอนามัยไร้ยาปฏิชีวนะติดไขมันน้อยหมักสมุนไพรสามเกลอ (รากผักชี,กระเทียม,พริกไทย) ปรุงเพียงซีอิ๊ว,บ๊วยดองหมั่นช้อนฟองออกเทลงภาชนะชามใหญ่โรยผักชีซอยรู้สึกอุ่นสดชื่นสบายท้องดีครับผม
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น