ปลายเดือนที่แล้วผมได้พาแฟนไปหาร้านกิน โดยมีโจทย์คือ ร้านสไตล์ยุโรป นั่งสบาย บรรยากาศสวยๆ เลยมาจบที่ Vantage Point 
ร้านบุฟเฟ่ต์แนวยุโรปชื่อดังบน  ศูนย์ประชุมแห่งชาติ สิริกิติ์ ชั้น 2 ที่จริงแล้วร้านนี้สามารถไปคนเดียวได้ แต่ไหนๆก็แล้ว 
พาแฟนมาช่วยกินช่วยรีวิวเสียเลยดีกว่า 

ก่อนจะมาที่นี่ก็ทำการจับจองเสียก่อนครับ ผ่านทางเวป Hungry Hub โดยจะสามารถเลือกได้ว่าจะกินวันเวลาไหน ซึ่งแต่ละวันจะมีด้วยกัน 
2 รอบ นั่นคือ 11 โมง-บ่าย 3 กับ 6 โมงเย็น-4 ทุ่ม ที่จริงจะเลือกเวลาอื่นก็ได้นะ แต่ถ้ายิ่งเลือกช้าในแต่ละรอบก็จะมีเวลากินน้อยลงไป
เพราะงั้นก็จองๆกันไปเถอะครับ ในช่วงเวลาแรกสุดของแต่ละรอบ


สำหรับวันนี้ ผมมาโดนราคา 998 บาทถ้วนครับ เวลากินก็เต็มที่เลย 4 ชั่วโมง ถ้าหากว่ามารอบเวลาแรกนะ
ร้านนี้จะสั่งอาหารด้วยการสแกนโค้ดด้วยแผ่นบาร์โค้ดแตะกับหน้าจอในแต่ละสเตชั่น คล้ายกับที่ร้าน โออิชินั่นแหละ 

และนี่คือเมนูที่มีในร้าน (ไปแตะสเตชั่นไหนก็ได้ มีเมนูให้เลือกเหมือนกันหมด)

เครื่องดื่มต่างๆ ทั้งพวกซอฟดริ๊ง น้ำชงแบบพิเศษ หรือพวกชากาแฟ เอาแก้วมาให้บาร์เทนเดอร์ที่สเตชั่นนี้ให้เขารีฟิลให้


ส่วนพวกอาหารทะเลต้มแช่เย็น พิซซ่า และขาหมูทอด หยิบเองได้เลยครับ พ่อครัวจะคอยเสิร์ฟให้

หลังจากสแกนสั่งอาหารแล้วเดินเติมน้ำกับหยิบนู่นนี่เสร็จ ของเรียกน้ำย่อยก็มาแล้ว 
เป็นซุปฟักทองแครอท รสชาติอุ่นๆ มันหอมหวล และได้กลิ่นหวานหอมฟักทองแบบขั้นสุด 

ซุปอีกจาน เป็นมันฝรั่งครีม รสชาติออกไปทางนมข้นจืดและได้รสมันฝรั่งสดต้มที่ปลายลิ้น เค็มอมเปรี้ยวเล็กน้อย

ตักจ้วงซุปกันอยู่ สลัด ของทอด และ จานหลัก ก็ตามมาติดๆ

สลัดคีนัว ผักกรอบและสดดี ได้รสชาติหวานๆของซอสราดที่ทำจากมะม่วงผสมกับพริกหวาน แล้วยังมีเมล็ดคีนัวกรอบๆฟัน กินแล้วสดชื่นดีครับ

ฟิชฟิงเกอร์ เมนูจั๊งค์ฟู้ดสไตล์อังกฤษ เป็นเนื้อปลากะพงทอด เนื้อปลาขาวแน่นและหอม แป้งก็กรอบดี 
แต่เสียตรงที่เเป้งทอดกับเนื้อปลาหลุดรุ่ยไปหมด

เนื้อปลากับทาร์ทาร์ซอส เข้ากันสุดๆแล้ว

จานหลักมาเสิร์ฟแทรกกลาง นั่นคือเป็ดรมควัน เลยลองชิมดูก่อน เนื้อเป็ดหนานุ่ม แต่หั่นขาดยากมากๆ รสชาติเค็มพอดีคล้ายกินแฮมทอด 
ราดมากับซอสบีทรูทผสมเลมอน หวานอมเปรี้ยว

ใช้แรงเยอะเอาการกว่าจะตัดให้ขาดได้ ไม่รู้เนื้อหนาเกิน หรือมีดไม่คมกันแน่

จานหลักอีกอันที่ผมเฝ้ารอที่จะชิม นั่นก็คือ
สเต๊กเนื้อราดซอส Cafe De Paris เนื้อวัวติดมันนุ่มหอม หวานมันลิ้น พร้อมกับซอสรสมันกลิ่นโหระพา กระเทียม และหอมใหญ่ นัวปากฟินมากๆ

ย่างมาแบบมีเดียมดันเลยมั้ง ดูจากสีเนื้อแล้ว บางส่วนจึงแอบแห้งไปหน่อย แต่โดยรวมก็คือยังชุ่มฉ่ำดีมากครับ

ของทอดสั่งมาลองเล่นๆ 2 ลูกนี้ คือ แซลมอนบอล กับ Arancini Parma Ham 

Arancini ไส้ในเป็นเหมือนข้าวคลุกกับพวกครีมรสมันๆ ไม่ค่อยเท่าไหร่นะ

ส่วนแซลมอนบอล รสชาติแบบ สเปดแซลมอนกระป๋อง แต่จะได้รสเผ็ดจี๊ดขึ้นหัวของซอสครีมวาซาบิ ช่วยให้หอมขึ้น

ระหว่างพักยกก็ไปตักพิซซ่ามาครับ สามารถเลือกได้เป็นชิ้นๆเลย  
พิซซ่า มาการิต้า รสชาติมะเขือเทศและใบโหระพาเพียวๆ ชีสมันๆแต่ชืดไปหน่อยเลยไม่สะใจ
ส่วนหน้า โฟมักกิ แน่นชีสมันและหวานซอสครีมชีส คล้ายๆกับหน้าชีสฮอกไกโดที่กินในร้านพิซซ่าฮัท 
ที่จริงมีหน้าให้เลือกเยอะกว่านี้ แต่รอบที่ผมไป เขาทำออกมาแค่ 2 หน้านี้เท่านั้นเอง ทีเหลือไม่ทำเสียที เลยอดลองเลยครับ

เมนูหยิบเองอีกอย่าง ขาหมูทอด รสชาติเค็มเกลือและได้กลื่นขาหมูต้มแบบพอเป็นพิธี หนังกรอบพองอร่อยมาก

ต่อกันที่ยกสอง กับของหนักท้องทั้งสี่จานนี้

เริ่มที่ ผักโขมอบชีสก่อนเลย รีบรีวิวรีบกินครับ เดี๋ยวเย็น รสชาติตก ผักหอมนุ่มกับชีสเค็มอ่อนๆและมันลิ้น แถมยืดได้ยืดดี ช่างเป็นอะไรที่ลงตัวมากๆ

พาสต้าซอสเพรสโต้ซีฟู้ด เส้นเรียวเล็ก ลื่นๆปากดี ซอสผัดรสชาติมันๆหอมโหระพาแบบเต็มสตรีม มีเผ็ดพริกแห้งเล็กน้อยพอหอม
 
พวกเนื้อหอยหวานลิ้น กุ้งต้มก็หวานหอมดีแต่เนื้อแข็งไปหน่อย

สลัดแซลมอนรมควัน กลิ่นแตงกวาฉุนกึ้ก แซลอมนเนื้อค่อนข้างเค็ม ได้รสชาติมันฉุนครีมวาซาบิมาช่วยดับความเค็ม แต่โดยรวมไม่ค่อยเด็ดเท่าไหร่

ไส้กรอกรวม อันนี้แฟนไปอ่านรีวิวเจ้าอื่นมาบอกว่าของดี เลยลองจัดมา ชิ้นไส้กรอกเนื้ออวบ ผิวเงามันเลื่อม 
สีส้มเข้มเป็นรสชาติคล้ายบาร์บีคิวอออกเผ็ดมันเล็กน้อย สีขาวไม่รู้ใส่อะไรบ้างแต่มันสุด 
ส่วนสีส้มนวลๆ รสชาติเค็มอมหวานกำลังดี ทั้งสามรสฉ่ำชุ่มไปด้วยมันหมูที่ยัดไส้มาด้วย อร่อยปากมากๆอันนี้

เจอยกสองเข้าไปหนักๆทั้งนั้น เลยจำต้องเบรคของคาวก่อน กลัวไม่ได้กินขนมหวาน เลยจัดซุปล็อปสเตอร์

แบบเบาๆมาซดเลยรอย่อย ปรากฎว่ารสมันกุ้งชัดเจน รสมันอมชมจัดมาก กลายเป็นแอบหนักท้องไปเสียอย่างนั้นสำหรับจานนี้ 


หลังจากแอบไปนั่งย่อยถ่ายรูปเล่นตรงระเบียงด้านนอก ก็กลับเข้ามาลุยขนมหวานกันต่อ กับขนมซิกเนเจอร์ของร้าน 
แอปเปิ้ลมูสครัมเบิ้ล มูสครีมรสเปรี้ยวหวานแต่ไม่สดชื่นเท่าไหร่ เพราะเหมือนเนื้อครีมจะหนักไปและไม่หอม ไส้ในเป็นแอปเปิ้ลและลูกเกดเชื่อม
กลิ่นฟุ้งดีในคำแรกๆ พอหลายคำเข้าจะเริ่มเอียนละแฮะ

ช็อคโกแลตมูส เนื้อมูสเนียนนุ่มละลายปาก หอมหวานรสช็อคโกแลตนม อร่อยสุดๆ ส่วนรากบัวอบแห้งที่ประดับมาด้วยก็กรุบกรอบดีมาก

แพนนาคอตต้า อะโวคาโด้ เนื้อวุ้นมันๆแบบอะโวคาโด้ เนียนดี ได้ซอสมะม่วงและพวกครัมมาชูรส

จากลากันด้วย ช็อคโกแลตลาวาเค้ก แป้งเค้กรสเข้ม ไส้ลาวาก็หวานหอมช็อคโกแลตแบบถึงใจ ไอศครีมวานิลาก็หอมเด่น 
ถ้าจานมูสช็อคเป็นจานหวานแบบหนักหน่วง อันนี้ก็หวานแบบเย็นชื่นรื่นรมย์มากๆ

ตัดเกรด
รสชาติอาหาร : ****1/2
จานหลักร้านนี้ถือว่าทำถึงมากๆ เริ่มจากสเต๊กที่ซอสหอมมันและเนื้อวัวนุ่มชุ่มฉ่ำไปด้วยมันวัว หอมฟุ้งไปทั่วปากเลย 
ยกให้เป็นเดอะเบสต์ของการกินครั้งนี้ รองลงมาก็ไส้กรอกครับ เนื้อแน่นชุ่มฉ่ำด้านในและเปลือกกรุบกรอบ สลัดแซลมอนไม่ปังทั้งซอส
และเนื้อแซลมอน ไม่น่าสั่งมาเลยเสียพื้นที่กระเพาะมาก พาสต้า ซุป รสเข้มข้นแต่ก็หนักท้องเช่นกัน ของทอดสำหรับผมมองว่าไม่เท่าไหร่ 
ถ้าไม่มีซอสก็เฉยๆ พิซซ่าถ้าทำสดแล้วเสิร์ฟเลยจะดีกว่านี้ ทางด้านขนมหวาน จานช็อคโกแลตยอดเยี่ยมมากๆ ทั้งมูสและลาวา เข้มข้นหวานมัน 
สายหวานต้องถูกใจอย่างมากแน่ ส่วนเมนูหน้าตาของร้านอย่างครัมเบิ้ลเค้ก งั้นๆครับ บอกเลย

อร่อยมากสุด : สเต๊ก คาเฟ่เดอปารีส
อร่อยน้อยสุด : สลัดแซลมอนรมควัน

บรรยากาศในร้าน : *****
จัดแต่งได้เลิศหรู ทั้งแสงไฟและของประดับต่างๆ โต๊ะเก้าอี้สบาย น่านั่ง ระหว่างรอย่อยก็ยังสามารถเดินออกไปที่ระเบียงเพื่อรับลม 
ชมวิวสวนเบญจกิติข้างล่าง ถ่ายรูปสักสามสี่ช็อตยังได้

การบริการ : ****
การต้อนรับและแนะนำการสั่งอาหารต่างๆทำได้ดี การเสิร์ฟมีช้าบ้างสำหรับเมนูที่ต้องการความประณีต เก็บจานเร็ว แต่ช่วงเวลาท้ายๆ 
หลังบ่ายสองไปแล้ว เริ่มมีออเดอร์ช้าจนต้องตามเหมือนกัน

ความหลากหลาย : ****1/2
มีให้เลือกสั่งเลือกกินเยอะ ไม่ว่าจะเป็น สเต๊ก ซุป สลัด พาสต้า ของทอด ทั้งหมดซึ่งเหล่านี้ผมได้ลองเพียงอย่างละ 1-2 เมนู เท่านั้นเอง 
ยังอิ่มจุกไปต่อไม่ไหว 

ราคา : 1/2
สูงมากๆเลย ก็ไม่แปลก ตามสไตล์ร้านอาหารประเภทนี้ แถมค่าโลเกชั่นไปด้วย 

การเข้าถึง : *****
ไปได้ง่าย ถ้าไม่อยากคิดอะไรมากก็นั่งรถไฟฟ้าสีน้ำเงินไปลงศูนย์ประชุม เข้าทางออก 3 จากทางออก สถานีตรงไปเรื่อยๆ
แล้วเลี้ยวซ้ายขึ้นบันไดเลื่อน จบปิ๊งครับ

ความคุ้มค่า : *****
ต้องยกให้เต็มไปแหละครับ สำหรับมื้อสุดพิเศษนี้ รสชาติอาหารจานเนื้อผมให้สามผ่านเลย ขนมหวานเน้นช๊อคโกแลตครับแล้วคุณจะไม่ผิดหวัง 
ส่วนจานอื่นๆที่แนะนำก็ พาสต้ากับขาหมู ส่วนอย่างอื่นๆถ้าอยากจะตามรอยก็ไม่ว่า หรือจะลองเมนูอื่นที่นอกเหนือจากการรีวิวก็ได้ครับ 
ไหนจะบรรยากาศในร้านที่เลิศหรูเหมาะกับการออกเดท พบปะครอบครัว สร้างโมเม้นต์ดีๆอันน่าประทับใจให้กัน มากๆเลยสำหรับที่นี่ 
นานทีปีหน กับมื้อพิเศษในโอกาสพิเศษ พันนึง จ่ายไปเถอะครับ คุ้ม

ภาพรวม : ****1/2