วันแห่งความหวังก็เกิดขึ้น ทาง รพ.โทรมาแจ้งว่าได้คิวการรักษาแล้ว เตรียมตัวออกเดินทางได้ แต่การเดินทางไปรักษาตัวครั้งนี้มาพร้อมกับอาการปวดที่รออยู่ พอวันนัดมาถึง เราก็พาพ่อเดินทางไปที่ รพ.ศูนย์ประจำจังหวัด และอีกเช่นเคย บอกพ่อว่าไปหาหมอกัน แต่คงจะงงแน่ๆ ถ้าต้องไปรอที่หน้าห้องมะเร็ง พอไปถึง คนก็เยอะ รถก็เยอะแทบจะไม่มีที่จอดรถ เราพาพ่อลงที่จุดรับ-ส่งผู้ป่วย เวรเปลได้เข็นเปลมารับและให้พ่อรอที่จุดลงทะเบียน เราซึ่งไม่มีประสบการณ์เรื่องแบบนี้เลย ในหัวคือ ใช้อะไรบ้าง ต้องยื่นอะไรบ้าง และทำอะไรอีกบ้าง ( ซึ่งพยายามหาข้อมูลและคิดว่าเตรียมตัวมาดีแล้ว ) อีกอย่างเรากลัวมาก ว่าจะถูกเจ้าหน้าที่หรือคุณพยาบาลดุ ซึ่งที่ผ่านมาๆ ก็เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาบ้างแล้ว แต่กลับไม่เป็นแบบที่คิด เจ้าหน้าที่ช่วยแนะนำเราดีมาก พอลงทะเบียนเสร็จ เราต้องไปยื่นขอลงประวัติ และทำตามขั้นตอนที่เจ้าหน้าที่แจ้ง พร้อมกับรอพบคุณหมอมะเร็ง เราจะต้องขึ้นไปอีกชั้น ทันทีที่ขึ้นไปถึง เราได้แต่หันไปมองหน้ากัน เพราะคนเยอะมากแทบจะไม่มีพื้นที่ว่าง พวกเราต้องอยู่กันหน้าลิฟท์ ก็ดีนะไม่ได้อยู่หน้าห้องมะเร็ง เพราะเข้าไปไม่ถึง หน้าห้องตรวจจะมีเก้าอี้สำหรับนั่งรอ และผู้ป่วยที่ใกล้ถึงคิวที่จะตรวจ ส่วนเราอยู่กันในโซนเปลนอนและรถนั่ง ในการไปครั้งแรก ให้เตรียมตัวได้เลยว่าใช้เวลาทั้งวัน ซึ่งเรากับพี่ชายต้องทั้งดูพ่อด้วย รอฟังเรียกชื่อด้วย จนถึงขั้น ห๊ะ!! กันหลายๆครั้งว่าใช่ชื่อของผู้ป่วยหรือไม่ เสียงพูดคุยที่มีอยู่ตลอดเวลากับการวิ่งวุ่นของเจ้าหน้าที่และคุณพยาบาล พอจะไปกินข้าวกันก็กลัวจะเลยคิว ได้แต่หาอะไรรองท้องให้พ่อ เพราะพ่อเองก็กินอะไรไม่ค่อยลง อยากจะหาหมอให้ชัดเจน จนเวลาล่วงเลยมาจนถึงตอนเที่ยง พร้อมกับเสียงประกาศว่าพักเที่ยง เอาล่ะ ได้เวลาไปกินข้าวแน่ๆ ส่วนพ่อก็นอนมองเตียงข้างๆ คนนู้นทีคนนี้ที ส่วนเราก็ได้แต่บ่นว่า ติดเที่ยงแบบนี้เมื่อไรจะถึงคิวสักที (ไม่ได้คิดเลยว่าคนอื่นเขาก็เหมือนกัน) จนกระทั่งเวลาผ่านไป น่าจะคิวท้ายๆแล้วล่ะ คุณพยาบาลเรียกชื่อ ให้เรากับพี่ชายเข้าไปก่อน สิ่งที่คุณหมอถามคือ คนไข้รู้เกี่ยวกับตัวโรคมากแค่ไหน เรากับพี่ได้แต่ส่ายหน้า ซึ่งจริงๆแล้า เราต้องบอกให้คนไข้รับรู้ถึงตัวโรคและตัดสินใจกับแพลนการรักษาที่จะเกิดขึ้น แต่เรากลัวคำว่าทรุดกับโรคมะเร็งนี้มาก คุณหมอบอกว่ากระดูกเป็นเยอะพอสมควร พอออกจากห้อง พยาบาลถามว่าคนไข้อยู่ตรงไหน เราก็รีบไปพร้อมกับบอกว่า คนไข้อยู่เปลนอนค่ะ เลยจะไปแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข็นไปหน้าห้องตรวจให้ แล้วเราก็เดินกลับมาที่พ่อ เพื่อแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข็นเปลไปหน้าห้องตรวจ แต่พอเรากำลังจะไป เราเห็นคุณหมอเดินมาถึงที่ แล้วพูดกับพ่อเราว่า สวัสดีค่ะคุณตา เป็นอย่างไรบ้าง คุณตาเป็นที่กระดูกนะ เดี๋ยวส่งไปหาคุณหมอกระดูกดู ว่าผ่าตัดเอาออกได้ไหม คุณตาต้องผ่านะจะได้หาย พ่อรีบรับปากกับคุณหมอว่า ผ่าครับ แต่เราแอบเห็นนะว่า กลัวมากๆแหละ พรุ่งนี้มาเจาะเลือดและพบหมอกระดูกกันแล้วขึ้นมาพบคุณหมออีกครั้ง พวกเราได้แต่ขอบคุณคุณหมอ พร้อมกลับบ้าน ระหว่างนั่งรถก็ยังได้แต่บอกพ่อว่า เห็นไหมผ่าตัดเดี๋ยวก็หาย แต่พ่อได้แต่นั่งเงียบด้วยความกังวล
สถานีต่อไป พบหมอกระดูก ความหวังของเราเริ่มเลือนลางอีกครั้ง พบกัน Ep.4 นะคะ
มะเร็งระยะสุดท้าย…สู่ปลายทาง การเดินทางที่ยังไม่ถึง Ep.3
สถานีต่อไป พบหมอกระดูก ความหวังของเราเริ่มเลือนลางอีกครั้ง พบกัน Ep.4 นะคะ