สวัสดีค่ะ วันนี้อยากเล่าเรื่องเรื่องราวของเราที่ต้องเริ่มดูแลพ่อ ที่ป่วยเป็นมะเร็งระยะแพร่กระจายแบบงงๆ ย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เดือน พ.ย. 65 พ่อในวัย 65 ปี ที่แข็งแรงออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานทุกวัน กินผักกินผลไม้ ไม่กินเหล้ากินเบียร์ ไม่สูบบุหรี่ รวมทั้งไม่มีโรคประจำตัว เป็นเพียงวัยรุ่นที่เป็นอะไรก็กินยาทัมใจซองเขียวๆแล้วหาย ซึ่งเราก็ยังแอบคิดว่ายาวิเศษหรอ 555 และแล้วจุดเริ่มต้นก็เกิดขึ้น เช้าวันหนึ่งพ่อเรากำลังจะเปิดประตูร้านค้า ซึ่งเป็นประตูเหล็กม้วนๆ พ่อตะโกนบอกเรากับพี่ชายว่า พ่อเปิดประตูบ้านไม่ได้ เพราะเจ็บหลังพร้อมกับเสียงร้อง โอ๊ย!! เรากับพี่ยืนมองหน้ากันว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อวานพ่อยังปั่นจักรยานอยู่เบย หรือแค่ปวดหลัง พอเวลา 9.00 น. คลินิกกระดูกแถวบ้านเปิด ซึ่งเราไม่ได้ไปด้วย พี่ชายเราพาพ่อกลับมาถึงบ้าน ทันทีที่เราเห็นพ่อลงมาจากรถ พร้อมกับการใส่เกราะที่ลำตัว เดินลงมาเหมือนหุ่นยนต์ แล้วบอกเราว่ากระดูกทรุดพร้อมกับหัวเราะ ซึ่งมันดูเหมือนจะเบาใจใช่ไหมคะ พอเข้าสู่วันที่ ก็พ่อบอกว่าเจ็บ นอนไม่ได้เลย ตกเย็นเราพาพ่อไปหาคลินิกอีกครั้ง หมอให้ฉีดยาเข้าที่หลังและพูดว่านอนเฉยๆ จะได้หายและให้ยากลับมากิน โอเคกลับบ้าน แต่มันกลับเป็นแบบนี้จนกินเวลาไป 2 ทิตย์ที่ต้องไปฉีดยาทุกวัน แล้วพ่อเจ็บจนอาเจียน (ไม่ใช่แหละหลอกกินเงินทุกวันเลย ไม่หายสักที 555) เราและพี่ชายเลยตัดสินใจพาพ่อไป รพ. แถวศาลายา ที่เลือก รพ.นี้ เราต้องบอกก่อนว่า เรากับพี่ไม่ได้มีฐานะดีร่ำรวย เลยเลือกพาพ่อไปด้วยความคิดที่ว่าไปก่อน ค่อยว่ากัน เอาล่ะ พอไปถึง ลงทะเบียนทุกอย่างเสร็จพวกเราอยู่หน้าห้องออร์โธปิดิกส์ แน่ล่ะเกี๋ยวกับกระดูกสิ ปวดหลังเอง จำได้ว่าพอคุณหมอตรวจเสร็จ สิ่งแรกที่ต้องทำคือ พ่อต้องรักษาอาการกล้ามเนื้ออักเสบก่อนเลย เพราะใส่เกราะมานานขนาดนั้น ขับรถไปกลับกันวันละ 100 กม. ดีแค่อาทิตย์ละ 3 วัน ทำกายภาพและลดการอักเสบ ทำแบบนี้อยู่เกือบ 2 เดือน คุณหมอเห็นว่าทำไมอาการปวดยังคงอยู่ จึงส่งให้ทำ bone scan แล้วมาดูผลกัน ไปกันต่อจ้า ทำปุ๊บ รู้เลยที่นี้ ของจริงแน่ กระดูกมีปัญหา ไปต่อที่ MRI ซึ่งก็ทำกับที่ รพ.นี้แหละ ไปทำนัดกับดูยอดค่าใช้จ่าย กับบ้านสิไปนับเงินในกระเป๋า พร้อมกับบ่นกันว่าแพงจัง 555 ถึงคิววันนัด ถามพ่อตื่นเต้นไหม เงียบเลย (คงตื่นเต้นแหละปกติชิลๆ ไม่เคยจะเข้า รพ. เหมือนคนอื่น) หลังจากทำเสร็จเราก็กลับมาบ้าน เผื่อรอทาง รพ.เรียกไปฟังผล คนป่วยก็กังวล พวกเราก็กังวล พ่อถามทุกวันรู้ผลวันไหน เราได้แต่บอกว่าไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องกังวล ตัดภาพมาที่พี่ชายเรา ซื่งเป็นเดอะแบกของบ้าน นั่งคิดแล้วเดินมาบอกเราว่า ถ้าผลพ่ออกมาไม่ดีเป็นโรคมะเร็ง จะให้พ่อเข้ารักษาตัวที่ รพ.รัฐบาลเพื่อใช้สิทธิรักษาฟรี แน่แหละพวกเรารู้ว่ามีอะไรรออยู่แน่ ก่อนวันไปฟังผล พี่ชายเราจะไปทำงานและแวะไปฟังผลที่ รพ.ตอนบ่าบ ในตอนเช้าของวันฟังผล ยังให้กำลังใจกันและกันวันว่าไม่น่าจะมีอะไรหรอก ส่วนเรานั้นถือโทรศัพท์เผื่อรอฟังผลจากพี่ชายทั้งวันและคิดว่าทำไมมันผ่านไปช้าจัง....
รอติดตามการเล่าสู่กันฟัง EP.2 นะคะ มีเรื่องที่ คนป่วยคนดูแล มองตากันก็เข้าใจกันอีกเยอะค่ะ ที่นี้ของจริงกำลังเริ่มขึ้นอีกครั้ง
มะเร็งระยะสุดท้าย…สู่ปลายทาง การเดินทางที่ยังไม่ถึง EP.1
รอติดตามการเล่าสู่กันฟัง EP.2 นะคะ มีเรื่องที่ คนป่วยคนดูแล มองตากันก็เข้าใจกันอีกเยอะค่ะ ที่นี้ของจริงกำลังเริ่มขึ้นอีกครั้ง