สวัสดีค่ะ นี้คือกระทู้แรกของเรา หากเขียนไม่ดีหรือดูงงๆต้องขอโทษด้วยนะคะ
เกริ่นเลยว่าเราเป็นนิสิตที่กำลังซิ่วปี 2 กลับมาซิ่วอยู่ที่บ้านได้ 2 เดือนแล้ว
ชีวิตเราค่อนข้างจะเรียบๆเป็นเด็กกลางๆไม่ค่อยมีความฝันอะไรมาก ไม่รู้อยากจะเป็นอะไรอยากจะเข้าอะไร ตอนเด็กๆเรายังสามารถใช้ชีวิตแบบมีกำหนดการได้ว่าจะทำอะไรบ้าง แต่พอมาช่วง ม.3-6 เรามีปัญหาเรื่องครอบครัวเข้ามาซึ่งมันเป็นปัญหาเรื้อรังมานานแล้ว เป็นปัญหาทางฝั่งแม่ บ้านเรามีแต่ลูกผู้หญิงล้วน ยายเรามีลูก 3 คน คือ แม่ น้า และน้องเล็กสุด ปัญหาคือน้องคนเล็กนี่แหละค่ะ ยายชอบโอ๋เขา พยายามให้แม่กับน้าเอาเงินมาซัพพอร์ตน้องคนเล็กที่ไม่ได้ทำอะไรเลยสักอย่าง เขาค่อนข้างเป็นคนเสเพล ใช้เงินไปเที่ยว เลี้ยงเพื่อน เปลี่ยนโทรศัพท์นับไม่ถ้วน หนักสุดก็คงจะเป็นรถที่ยายออกให้ 2 คัน เงินแม่กับน้าและยายนี่แหละค่ะที่เอาไปดาวน์ให้ แย่สุดก็มีมีแฟนหลายคน มั่วผู้ชาย เขาชอบมาๆไปๆที่บ้านเราตั้งแต่เรายังเด็ก
ตอนเด็กเราก็สนิทกับเขานะคะ เพราะเขาอยู่บ้าน แม่เราไปทำงานตลอด จนโตมาเราก็เริ่มได้รู้ความจริงว่าเขาเป็นอย่างนี้นี่แหละค่ะ เราเลยเริ่มปลีกตัวออกห่างเขา แต่สุดท้ายก็ไม่พ้นอยู่บ้านเดียวกัน เวลาเจอเขาก็จะชอบหลบไปอยู่ในห้องตลอด เขาก็สนิทกับยายเลยค่ะเวลาเงินหมดก็ชอบมาหา อยู่กับแฟนได้ไม่นานก็ชอบกลับมา บางทีก็เอาแฟนมาด้วย ซึ่งเราไม่ชอบหรอก เราเองก็พยายามไม่สนใจเขา
จนมาถึงช่วง ม.3-4 ตอนนั้นยุคโควิดค่ะ เราเองก็ไม่ได้ทำอะไรเลย ชีวิตมีแต่ตื่น นอน กิน เล่นโทรศัพท์ ยอมรับค่ะว่าไม่ค่อยเอาการเรียน ตื่นมาเช็คชื่อเฉยๆและปล่อยไว้งั้น ตอนนั้นลูกคนเล็กเขาก็เริ่มมาเกาะแกะที่บ้านทั้งปี แฟนคนล่าสุดเขาตอนนั้นพึ่งเสียจากอุบัติเหตุ เขาได้เงินประกันมาหลักแสน แต่เขาก็ไม่เลือกที่จะเอามาคืนแม่หรือน้าเราเลยค่ะ ยายเราเป็นช่างเย็บผ้าแกชอบทำบ้านรถ มีแต่จักรผ้า แทบไม่มีที่เดิน แม่เลยเลือกที่จะสร้างร้านหน้าบ้านให้ ซึ่งเราคิดว่ามันค่อนข้างไม่คุ้มเลย เสียเงินเป็นแสนสุดท้ายเขาก็ทำหน้าบ้านรก และเขาก็เริ่มทำงานไม่ได้แล้วเพราะแก่
เวลาอยู่บ้านช่วงนั้นแม่เราไม่ค่อยกลับบ้านเลย กลับมาตอนดึกตลอดเพราะเขาเองก็ไม่ค่อยชอบน้องคนเล็ก เข้าขั้นเกลียดเลยก็ว่าได้ แต่เพราะยายนี่แหละค่ะแม่เลยจะต้องยอม ยอมทุกอย่าง และตอนนั้นเราก็ได้เจอเหตุการณ์หลายอย่าง บางทีเขาก็กินเหล้ากันเหม็นไปทั้งข้างล่าง ทะเลาะกันเข้าขั้น กรี้ดใส่กัน เขาทะเลาะกันเป็นเรื่องปกติ แต่สำกรับเรา เราเครียดค่ะ เราไม่รู้ว่าสองคนนั้นเป็นอะไรกัน และทำไมต้องมาอยู่กับเรา ทำไมต้องมาทำอย่างงี้กัน ไม่นานเขาก็พาแฟนใหม่มา กับลูกติดเขา พามาเล่นมานอนในบ้าน และสิ่งที่แย่ที่สุดคือ เขาท้องค่ะ
บอกเลยนะคะ ว่าน้องคนเล็กคนนี้ ไม่ทำงาน ไม่ทำอะไรเลย มีดีแค่ให้ผู้ชายเลี้ยง ให้ยายเลี้ยงให้แม่ให้น้าเราเลี้ยง ทีนี่ก็วีนแตกทั้งบ้านเลยค่ะ มาท้องและใครจะเลี้ยง เขาทะเลาะกับแฟนด้วย และพยายามอยากให้แม่เราเลี้ยงเด็กคนนี้
ใช่ค่ะ เราเป็นพี่ของเด็กคนนี้ คนที่เราแทนว่าน้องเล็กเขาคือแม่ของเราเอง ส่วนแม่ที่เราเรียกคือป้า เขาสงสารเราเลยรับเราเป็นลูกบุญธรรม ซึ่งเราก็มารู้ความจริงตอน ป.6 นี่แหละค่ะ ไม่ได้อะไร แต่ในใจมันรู้สึกจุกๆมันเป็นความลับที่เราไม่เคยบอกใครเลย ไม่คิดที่จะบอกด้วยน่าจะเก็บไปยันตาย ว่ามีแม่แบบนั้น
ตอนนั้นครอบครัวเราแตกแยกมาก เพราะเขามีลูก และเราขึ้นกำลังขึ้น ม.6
ส่วนตัวเป็นคนที่ร่าเริงค่ะ สดใสกับเพื่อนทำเหมือนว่าเรายังโอเคเวลาไปเรียน แต่พอกลับบ้านไปเราก็ขึ้นห้องอย่างเดียว ไม่อยากทำอะไร เราแค่อยากนอนให้มันลืมๆอะไรก็ได้ การเรียนเราเริ่มไม่ค่อยดี งานที่สั่งเราก็เริ่มไม่อยากทำ เราไม่อยากทำอะไรเลยค่ะ เวลาที่มียายกับเขาอยู่ด้วย ห้องมันเหมือนสิ่งที่เราอยู่แล้วสบายใจ เราเริ่มโฟกัสชีวิตไม่ค่อยได้ ทำอะไรก็ทำนานๆไม่ได้ รู้สึกไม่เหมือนเพื่อนคนอื่นที่เขาดูมีความฝัน ทำนู้นนี้นั้นตอน ม.ปลาย อยากเข้าคณะนู้นนี้นั้น ส่วนเราไม่รู้ว่าชีวิตจะเอายังไงนอกจากขังตัวเองอยู่ในห้อง ใช้ชีวิตในโลกออนไลน์ หนีความจริง
เรารู้ทุกอย่างแหละค่ะ ว่าเราเป็นแบบนี้ แต่ตอนนั้นเราไม่รู้จะทำยังไง ไม่เคยเล่าให้ใครฟัง พยายามคิดว่าเราไม่ได้เป็นอะไรหรอก พยายามวางแพลนสุดท้ายเราก็ทำไม่ได้ เราไม่มีสังคม ไม่มีอะไร กลุ่มเพื่อนเขาก็ไม่รู้อะไรหรอกค่ะ เพราะเราไม่ได้เล่าชีวิตส่วนตัว ครอบครัวให้ฟังมาก เราเองก็รู้สึกผิดกับตัวเองค่ะ ว่าทำไมเป็นแบบนี้
มาสู่ช่วง.6 เราแย่กว่าเดิมค่ะ เพราะเขาคลอดลูก ในวันที่เราอยู่บ้าน เราไม่อยากรับรู้อะไรทั้งสิ้นเลยค่ะ พยายามทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นแต่ในใจ เราก็รู้หมดว่าเขาทำอะไรบ้างในบ้านสุดท้ายเราไปสอบเข้ามหาลัย คะแนนเราได้น้อยเลยได้เรียนคณะพวกนานาชาติ เราเลือกที่ไกลๆจะได้ออกไปจากตรงนี้ได้ ออกไปจากคนบ้าได้ (ยายเราเริ่มไม่ปกติค่ะ หลงๆลืมๆจำไม่ได้ว่าตัวเองทำอะไรบวกกับทะเลาะกับลูกคนเล็กอีก) เราเลยเลือกที่จะไปเรียน ม.ต่างจังหวัดทั้งๆที่อยู่แถวๆกรุงเทพ
ปีนั้นเราว่าเรามีความสุขตรงที่ได้มาเช่าหอ มีรถขับ ไปไหนมาไหนเอง แต่ชีวิตมหาลัยก็ไม่ได้ราบรื่นขนาดนั้นค่ะ เราเรียนไม่ค่อยไหวเพราะมันใช้อิ้งหมด มีเพื่อนสนิทใจไม่กี่คนแต่ก็มีค่ะ สุดท้ายเราก็ไม่อยากเรียนคณะนี้รู้สึกมันไม่ใช่หนทางของตัวเอง เพื่อนก็ชวนซิ่วนะคะ แต่เราคิดว่าเรายังไหวไม่อยากให้พ่อแม่หนักใจ คือเราอยากซิ่วตั้งแต่ ม.6 แล้ว ตอนนั้นเราคิดว่าชีวิตเราพังมาก แต่ก็ไม่อยากอยู่บ้านเลยดั้นด้นมาเรียน สุดท้ายเราเปิดใจคุยกับพ่อแม่จนท่านก็อนุญาตค่ะ เราเลยซิ่วปีหน้าแทนที่จะซิ่วพร้อมเพื่อน
เราเองดื้อด้านค่ะ ไม่อยากกลับบ้าน ไม่อยากกลับไปเจอยายลูกคนเล็ก เลยขออยู่ที่นี้ต่อ แต่เราก็คอนโทรลชีวิตไม่ได้อยู่ดี เราไม่ยอมออกไปไหนนอกจากอยู่ในหอ สั่งข้าว สั่งของ สุดท้ายเราเริ่มคิดได้ว่านี่มันไม่ใช่แล้ว เลยพยายามเอาตัวเองออกมาจากความคิด ตอนนั้นเรากลายเป็นคนกลัวเวลาออกไปข้างนอกเลยค่ะ แค่เดินไปเอาข้าวก็มือสั่น ใจสั่น และเราไม่ค่อยดูแลตัวเอง
ตลกดีนะคะ ชีวิตเรา55555555 สุดท้ายก็กลับมาอยู่กับแม่ค่ะ เพระาใช้ขีวิตฟุ่มเฟืแยเกินไปเลยกลับมาประหยัดให้ ตอนนี้ยายกับลูกคนเล็กเขาไม่อยู่แล้วนะคะ โดนให้ไปอยู่ที่อื่นแทน แม่เราไม่ไหวแล้วค่ะ ไม่อยากให้อยู่คือเขาแย่จริงๆค่ะ ขายทรัพย์สินของแม่ไป และเอาเงินไปทำอะไรไม่รู้ ยายก็บังคับให้แม่แบบเลี้ยงน้อง จนแม่เราส่งให้ยายกับลูกคนเล็กเขาไปอยู่กับน้าข้างๆบ้านเรา น้าแท้ๆค่ะ ซึ่งอยู่ได้ไม่ถึงปีก็ทะเลาะกันหนักมากถึงขั้นลงไม้ลงมือกัน ลุงเราไม่ชอบค่ะ เขาไปอยู่เขาก็ชอบทะเลาะกันเองเสียงดัง เลี้ยงลูกก็ไม่ได้ตอนนี้มีการแจ้งหน่วยการอะไรเยอะแยะเลยค่ะ เราขอไม่พิมพ์ถึงละกัน
แย่ที่สุดคือแม่เราเป็นซึมเศร้าค่ะ เขาดิ่งเรื่องยาย ว่าทำไมยายถึงเป็นแบบนี้ ทำไมเขาต้องยอมยายทุกอย่างเพราะแค่คำว่าลูก เราเองก็พยายามปลอบเขาค่ะ แต่เราก็คิดว่าจิตใจเราไม่ได้เข้มแข็งมากหรอก แต่ก็พยายามจะปลอบเขา ดูแลเขา คุยกับเขามากขึ้น เราเองก็อยากลองไปปรึกษาจิตแพทย์เหมือนกันว่าเราควรจะทำยังไงให้ชีวิตมันเดินต่อไปได้ เราพยายามเป็นคนใหม่ คิดอะไรดีๆในชีวิต ออกไปข้างนอก และยอมรับว่ามันก็มาจากตัวเราเองด้วยแหละ แต่สุดท้ายมันก็วนลูบกลับมาเหมือนเดิม เราควรลองไปหาจิตแพทย์ หรือไม่ต้องคิดอะไรดีคะ... แค่อ่านหนังสือให้ได้
ติชมแนะนำเราได้ค่ะ แต่ขอให้เป็นคำที่สุภาพนะคะ ถือว่าเรามาพิมพ์ระบายก็ได้มันอัดอั้นอยู่ในใจค่ะ🥲
รู้สึกเหมือนวนลูปอยู่กับที่ ไร้ไฟ ไร้เป้าหมาย ไม่แน่ใจตัวเองควรพบจิตแพทย์ไหม