"ที่ละมันไม่ได้ เพราะอะไร?
เพราะ...ไม่เห็นมัน
เพราะ...ไม่รู้เท่าทันมัน
เห็นว่ามันเป็นเรา เห็นเราว่าเป็นมัน
เห็นเราว่าเป็นสุข เห็นสุขว่าเป็นเรา
เห็นทุกข์ว่าเป็นเรา เห็นเราว่าเป็นทุกข์
มันแยกออกจากกัน ไม่ได้
เมื่อแยกออกจากกัน ไม่ได้ ก็แปลว่า...
เราไม่เห็นธรรม
คือธรรมชาติอย่างนี้
มัน ไม่เป็นเรา แต่เราเข้าใจว่า...เป็นเรา
สุข มาก็ถูกเรา
ทุกข์ มาก็ถูกเรา
เสียใจ ก็มาถูกเรา
เพราะเราเข้าไปขวาง อยู่...ตรงนั้น
เรา ก็คือก้อนอัตตา ตัวตน
เมื่อมีก้อนอัตตา ตัวตน เมื่อใดแล้ว
สุข ก็ถูกเรา ทุกข์ ก็ถูกเรา อะไรก็ถูกเราหมด
ฉะนั้น สมเด็จพระบรมศาสดา
ท่านจึงว่า...ให้ทำลายก้อนอัตตา
เมื่อทำลายก้อนอัตตา คือสักกายทิฐินี้แล้ว
หมดก้อนอัตตาแล้ว...
อัตตา มันก็ไม่ต้องเรียก มันเป็นของมันเอง
เมื่อหมดอัตตา
อนัตตา...ก็เกิดขึ้นมาเอง."
----------------------------------------------------------------------
หลวงพ่อชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง
การที่เรา ละ กิเลสไม่ได้ เพราะเห็นว่า กิเลสเป็นตัว เรา
เพราะ...ไม่เห็นมัน
เพราะ...ไม่รู้เท่าทันมัน
เห็นว่ามันเป็นเรา เห็นเราว่าเป็นมัน
เห็นเราว่าเป็นสุข เห็นสุขว่าเป็นเรา
เห็นทุกข์ว่าเป็นเรา เห็นเราว่าเป็นทุกข์
มันแยกออกจากกัน ไม่ได้
เมื่อแยกออกจากกัน ไม่ได้ ก็แปลว่า...
เราไม่เห็นธรรม
คือธรรมชาติอย่างนี้
มัน ไม่เป็นเรา แต่เราเข้าใจว่า...เป็นเรา
สุข มาก็ถูกเรา
ทุกข์ มาก็ถูกเรา
เสียใจ ก็มาถูกเรา
เพราะเราเข้าไปขวาง อยู่...ตรงนั้น
เรา ก็คือก้อนอัตตา ตัวตน
เมื่อมีก้อนอัตตา ตัวตน เมื่อใดแล้ว
สุข ก็ถูกเรา ทุกข์ ก็ถูกเรา อะไรก็ถูกเราหมด
ฉะนั้น สมเด็จพระบรมศาสดา
ท่านจึงว่า...ให้ทำลายก้อนอัตตา
เมื่อทำลายก้อนอัตตา คือสักกายทิฐินี้แล้ว
หมดก้อนอัตตาแล้ว...
อัตตา มันก็ไม่ต้องเรียก มันเป็นของมันเอง
เมื่อหมดอัตตา
อนัตตา...ก็เกิดขึ้นมาเอง."
----------------------------------------------------------------------
หลวงพ่อชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง