ทุกสิ่งที่ปรากฏในภพทั้งสามล้วนเกิดจากจิต[1]*
ดังนั้น พระพุทธเจ้า[2]* ทั้งในอดีตและอนาคต ย่อมสอนด้วยวิธีจิตสู่จิต โดยไม่ยึดรูปแบบตายตัวใด ๆ[3]*
“ แต่ถ้าไม่ใช่รูปแบบตายตัว พระพุทธเจ้าเหล่านั้นจะใช้จิตโดยวิธีใด ? ”
“ สิ่งที่ท่านถามนั้นแหละคือจิตของท่าน ”
“ สิ่งที่ฉันตอบนั้นแหละคือจิตของฉัน ”
“ ถ้าฉันไม่คิดฉันจะตอบได้อย่างไร ”
“ ถ้าท่านไม่คิดท่านจะถามได้อย่างไร ”
“ สิ่งที่ท่านถามก็คือความคิด ของท่าน ”
" ตลอดกัปกัลป์ อันหาเบื้องต้นและที่สุดไม่ได้
ท่านทำสิ่งใดก็ตาม อยู่ที่ไหนก็ตาม
สิ่งนั้นคือจิตที่แท้จริงของท่าน
สภาวะนั้นคือพระพุทธเจ้าที่แท้จริงของท่าน
จิตนี้คือพุทธะ
ท่านกล่าวว่าเป็นสิ่งเดียวกัน นอกเหนือจากจิตนี้แล้ว
ท่านจะพบพระพุทธเจ้าที่อื่นไม่ได้เลย
การแสวงหาโพธิ หรือนิพพานนอกจากจิตนี้ย่อมเป็นไปไม่ได้
ความเป็นจริงของธรรมชาติของท่านเองที่เป็นสภาพที่เหตุปัจจัยปรุงแต่งไม่ได้ ก็เกิดมาจากจิตด้วย
เพราะภาวะแห่งนิพพานมีอยู่แล้วในจิตของท่าน
ท่านอาจคิดเอาเองก็ได้ว่าท่านสามารถค้นพบพระพุทธเจ้าหรือโพธิอยู่นอกจิตนี้ แต่สถานที่เช่นนั้นจะไม่มีอยู่จริงได้เลย
ความพยายามค้นหาพระพุทธเจ้า หรือค้นหาการบรรลุธรรม ก็เหมือนการจับฉวยเอาอากาศ ซึ่งมีแต่ชื่อแต่ไร้ตัวตน มันไม่ใช่สิ่งที่ท่านจะสามารถหยิบขึ้นหรือวางลงได้
และท่านไม่สามารถจะจับฉวยมันได้ พระพุทธเจ้าเกิดจากจิตของท่าน แล้วจะค้นหาพระพุทธเจ้านอกจิตนี้ไปทำไม ?
พระพุทธเจ้าทั้งในอดีตและอนาคตล้วนแต่กล่าวถึงจิตนี้เท่านั้น ดังนั้น จิตนี้จึงคือพุทธะ และพุทธะก็คือจิตนั่นเอง
นอกเหนือจากจิตไม่มีพุทธะ และนอกเหนือพุทธะก็ไม่มีจิต ถ้าท่านคิดว่ามีพุทธะที่เหนือจิตนี้แล้ว พระพุทธเจ้าอยู่ที่ไหนกันล่ะ
ธรรมเทศนาดุจกระแสเลือด โลหิตสูตร... ปรมาจารย์ตั๊กม้อ มหาโพธิธรรม
ทุกสิ่งที่ปรากฏในภพทั้งสามล้วนเกิดจากจิต[1]*
ดังนั้น พระพุทธเจ้า[2]* ทั้งในอดีตและอนาคต ย่อมสอนด้วยวิธีจิตสู่จิต โดยไม่ยึดรูปแบบตายตัวใด ๆ[3]*
“ แต่ถ้าไม่ใช่รูปแบบตายตัว พระพุทธเจ้าเหล่านั้นจะใช้จิตโดยวิธีใด ? ”
“ สิ่งที่ท่านถามนั้นแหละคือจิตของท่าน ”
“ สิ่งที่ฉันตอบนั้นแหละคือจิตของฉัน ”
“ ถ้าฉันไม่คิดฉันจะตอบได้อย่างไร ”
“ ถ้าท่านไม่คิดท่านจะถามได้อย่างไร ”
“ สิ่งที่ท่านถามก็คือความคิด ของท่าน ”
" ตลอดกัปกัลป์ อันหาเบื้องต้นและที่สุดไม่ได้
ท่านทำสิ่งใดก็ตาม อยู่ที่ไหนก็ตาม
สิ่งนั้นคือจิตที่แท้จริงของท่าน
สภาวะนั้นคือพระพุทธเจ้าที่แท้จริงของท่าน
จิตนี้คือพุทธะ
ท่านกล่าวว่าเป็นสิ่งเดียวกัน นอกเหนือจากจิตนี้แล้ว
ท่านจะพบพระพุทธเจ้าที่อื่นไม่ได้เลย
การแสวงหาโพธิ หรือนิพพานนอกจากจิตนี้ย่อมเป็นไปไม่ได้
ความเป็นจริงของธรรมชาติของท่านเองที่เป็นสภาพที่เหตุปัจจัยปรุงแต่งไม่ได้ ก็เกิดมาจากจิตด้วย
เพราะภาวะแห่งนิพพานมีอยู่แล้วในจิตของท่าน
ท่านอาจคิดเอาเองก็ได้ว่าท่านสามารถค้นพบพระพุทธเจ้าหรือโพธิอยู่นอกจิตนี้ แต่สถานที่เช่นนั้นจะไม่มีอยู่จริงได้เลย
ความพยายามค้นหาพระพุทธเจ้า หรือค้นหาการบรรลุธรรม ก็เหมือนการจับฉวยเอาอากาศ ซึ่งมีแต่ชื่อแต่ไร้ตัวตน มันไม่ใช่สิ่งที่ท่านจะสามารถหยิบขึ้นหรือวางลงได้
และท่านไม่สามารถจะจับฉวยมันได้ พระพุทธเจ้าเกิดจากจิตของท่าน แล้วจะค้นหาพระพุทธเจ้านอกจิตนี้ไปทำไม ?
พระพุทธเจ้าทั้งในอดีตและอนาคตล้วนแต่กล่าวถึงจิตนี้เท่านั้น ดังนั้น จิตนี้จึงคือพุทธะ และพุทธะก็คือจิตนั่นเอง
นอกเหนือจากจิตไม่มีพุทธะ และนอกเหนือพุทธะก็ไม่มีจิต ถ้าท่านคิดว่ามีพุทธะที่เหนือจิตนี้แล้ว พระพุทธเจ้าอยู่ที่ไหนกันล่ะ