“ณัฐพงษ์” นำพรรคประชาชน หาเสียง ลต.พิษณุโลก
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_772234/
“ณัฐพงษ์”นำพรรคประชาชน เดินหน้าหาเสียงพิษณุโลก ชี้เลือก “ณฐชนน” ส่งสัญญาณเปลี่ยนแปลงการเมือง
แกนนำพรรคประชาชน พร้อมด้วย สส. และผู้ช่วยหาเสียง ร่วมกิจกรรมหาเสียงและประชาสัมพันธ์การเลือกตั้ง สส. เขต 1 จ.พิษณุโลก แทนตำแหน่งที่ว่างลง ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 15 กันยายน 2567 โดยพรรคประชาชนได้ส่ง นายณฐชนน ชนะบูรณาศักดิ์ หมายเลข 1 เป็นผู้สมัครในการเลือกตั้งครั้งนี้
โดยบรรดาแกนนำ สส. และผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน อาทิ นาย
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน, นาย
พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ กรรมการบริหารพรรคประชาชน, นาย
ฉัตร สุภัทรวณิชย์ สส.นครราชสีมา เขต 1, นาย
พงศธร ศรเพชรนรินทร์ สส.ระยอง เขต 3, น.ส.
ชลธิชา แจ้งเร็ว สส.ปทุมธานี เขต 3, นาย
กันตภณ ดวงอัมพร สส.กรุงเทพฯ เขต 6
รวมถึง นาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และนาย
ชัยธวัช ตุลาธน ผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ได้ร่วมกันดาวกระจายหาเสียงไปตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วทั้งเขต 1 ทั้งการเดินแจกแผ่นพับประชาสัมพันธ์ ขึ้นรถแห่กระจายเสียง และเปิดวงกาแฟพบปะพูดคุยกับผู้สนับสนุนและประชาชน โดยตลอดการหาเสียง ทั้งหมดได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากประชาชนในพื้นที่ ที่ทั้งออกมาต้อนรับ ถ่ายรูป และส่งเสียงให้กำลังใจตลอดเส้นทาง
นาย
พิจารณ์ กล่าวระหว่างการหาเสียงช่วงหนึ่งว่า การเพิ่ม สส. อีก 1 คน ให้พรรคประชาชนเป็น 144 มีความสำคัญมาก แม้จะมีบางคนบอกว่าเลือก สส. จากพรรครัฐบาลดีกว่า เพราะประสานงานกับรัฐบาลแก้ปัญหาได้ แต่ประสบการณ์บอกกับเราแล้วว่า ต่อให้มี สส. จากฝ่ายรัฐบาล แต่ถ้ารัฐบาลไม่กล้าแตะกับต้นตอของปัญหา ปัญหาของประชาชนก็จะไม่ได้รับการแก้ไข แต่ถ้ามีผู้แทนจากฝ่ายค้าน
เมื่อฝ่ายค้านมีความเข้มแข็ง ตรวจสอบได้มากขึ้น รัฐบาลก็ต้องทำงานให้ดีขึ้น เกิดประโยชน์กับประชาชนทั้งประเทศ การเลือกตั้งครั้งนี้สำคัญกว่าการได้ผู้แทนของคนพิษณุโลก แต่เป็นการยืนยันในการทำงานของอดีตพรรคก้าวไกล และให้เราเตรียมความพร้อมสำหรับการเป็นรัฐบาลในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
ด้านนาย
ณัฐพงษ์ ระบุว่า ตนมีความมั่นใจว่า นาย
ณฐชนน จะเป็นปากเป็นเสียงให้คนพิษณุโลกเขต 1 ได้อย่างแน่นอน เพราะเป็นคนธรรมดาคนหนึ่งที่พร้อมสู้เพื่อทุกคนที่ถูกกระทำอย่างไม่ถูกต้องจากการใช้อำนาจรัฐและการใช้งบประมาณ นี่คือสิ่งที่สำคัญสำหรับพรรคประชาชน
ตั้งแต่เป็นอดีตพรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกล คือวิธีการทำงานของเราที่ถือว่าเราทุกคนเป็นคนธรรมดา นักการเมืองไม่ใช่ผู้ยิ่งใหญ่มาจากไหน นี่คือระบบการเมืองที่เราอยากทำให้เกิด ไม่ต้องมีนายทุนมีเงินในกระเป๋า ไม่ต้องเป็นลูกหลานนักการเมืองก็มาทำงานการเมืองได้
ทั้งนี้ ตนขอขอบคุณที่มีคนลงแข่งเพื่อให้ประชาชนมีตัวเลือกและให้ชัยชนะมีความสง่างามมากขึ้น วันนี้การเลือกตั้งมีสองเบอร์ชัดเจน และสิ่งที่เป็นเส้นแบ่งชัดเจนคือพรรคประชาชนต้องการเข้ามาสร้างการเมืองเพื่อการเปลี่ยนแปลง การเลือก”
ณฐชนน” คือ การส่งสัญญาณว่าประชาชนต้องการเปลี่ยนการเมืองให้ดีขึ้นเป็นจุดหมายปลายทาง
นาย
ณัฐพงษ์ กล่าวต่อไปว่า ตอนนี้สนามพิษณุโลก คือ ต้นทาง ถ้าอยากทำให้ก้าวแรกของการเปลี่ยนแปลงง่ายขึ้น ขอให้ทุกคนช่วยกันบอกต่อ ชวนเพื่อนบ้าน ชวนทุกคนที่มีสิทธิเลือกตั้งในเขต 1 พิษณุโลก ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ให้ช่วยกันกลับมายึดเก้าอี้นี้คืน ส่ง นาย
ณฐชนน เข้าไปทำหน้าที่นี้ต่อเนื่องในสภาผู้แทนราษฎรต่อจากปดิพัทธ์ สันติภาดา ที่ทำผลงานครองใจชาวพิษณุโลกมาตั้งแต่อนาคตใหม่จนถึงก้าวไกลอีกครั้ง
กัณวีร์ ห่วงทหารชายแดนใต้ ยึดธงปาเลสไตน์-รูปผู้นำศาสนา ย้ำสิทธิเสรีภาพทั่วโลกแสดงออกได้
https://www.matichon.co.th/politics/news_4779299
กัณวีร์ ห่วงทหารชายแดนใต้ ยึดธงปาเลสไตน์-รูปผู้นำศาสนา ย้ำสิทธิเสรีภาพทั่วโลกแสดงออกได้
เมื่อวันที่ 8 กันยายน นายกัณวีร์ สืบแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม กล่าวว่า ตนเองขอร่วมแสดงความกังวลต่อเหตุการณ์ที่หน่วยงานกองกำลังทหารพรานพื้นที่ ต.โคกสะตอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ยึดธงปาเลสไตน์ในขบวนพาเหรดชุมชนมุสลิมและยึดรูปผู้นำศาสนาที่เยาวชนใช้ในกิจกรรมดังกล่าว
นาย
กัณวีร์ระบุว่า กรณีที่ทหารพรานได้แจ้งว่าการเดินขบวนพาเหรดของเยาวชนที่ชูรูปอูลามาอ์ขัดกับวัตถุประสงค์ของการจัดงานสืบสานประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่นนั้น คงเป็นอีกหนึ่งบทเรียนที่ยังทบทวนกันไม่กระจ่างของหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ที่ไม่เข้าใจบริบทที่สำคัญและละเอียดอ่อนอันนี้
นายกัณวีร์กล่าวว่า ปัญหาในเขตพื้นที่ปาเลสไตน์ที่ประชาคมโลกกล่าวประณามการใช้ความรุนแรงฆ่าฟันประชาชนผู้บริสุทธิ์ในขณะเหตุการณ์ความรุนแรงทางทหารและสงครามที่เกิดขึ้น และโดยเฉพาะประชาชนที่ได้รับผลกระทบทั้งหมดเป็นพี่น้องมุสลิมด้วยแล้ว จึงทำให้พี่น้องมุสลิมทั่วโลกจึงมีความรู้สึกร่วมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“
เราเห็นครับว่าพี่น้องมุสลิมทั่วโลกเดินขบวนเรียกร้องความยุติธรมให้เกิดขึ้นและเรียกร้องการยุติความรุนแรงที่มีผลกระทบต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ในปาเลสไตน์ การเดินขบวนเพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนการเรียกร้องที่มีทั่วทุกมุมโลก จึงถือเป็นสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกที่ไม่ได้ส่อเสียดถึงการกระทำใดๆ ที่จะก่อให้เกิดความรุนแรง”
นาย
กัณวีร์กล่าวว่า ในทางตรงกันข้ามแสดงถึงจุดยืนด้านสิทธิมนุษยชนและมนุษยธรรม ที่ร้องขอให้เกิดสันติภาพ ยุติการใช้ความรุนแรง และยึดหลักการด้านสิทธิมนุษยชนและมนุษยธรรมในการดูแลและปกป้องพี่น้องผู้บริสุทธิ์ ดังนั้นการกระทำใดๆ ที่หักล้างต่อการแสดงจุดยืนดังกล่าวจึงถือว่าเป็นการลิดรอนสิทธิขั้นพื้นฐานในการใช้เสรีภาพทางความคิดและการแสดงออก (Freedom of Opinion and Expression-FOE)
“
หรือนี่คือผลสะท้อนของนโยบายที่รัฐบาลที่นำโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ที่จะแถลงต่อรัฐสภาในวันที่ 12 กันยายนนี้ที่แถลงว่าไทยจะไม่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งระหว่างประเทศ”
นาย
กัณวีร์กล่าวย้ำว่า หากเป็นเช่นนั้นจริง ไทยจะลำบาก เพราะนี่จะเท่ากับการที่ไทยหันหลังอย่างไม่มีเยื่อใยต่อหลักสิทธิมนุษยชนและมนุษยธรรมที่ไม่มองถึงความสำคัญในการให้ความคุ้มครองระหว่างประเทศต่อผู้บริสุทธิ์ที่ได้รับผลกระทบในภาวะสงคราม และที่มากไปกว่านั้นมันเป็นการแสดงออกว่าไทยไม่ได้เคารพต่อกฎหมายระหว่างประเทศด้านมนุษยธรรมที่ปกป้องคุ้มครองประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องกับสงครามนั่นเอง
“
จะได้เจอกันในรัฐสภาครับท่านนายกรัฐมนตรีและ ครม.ชุดใหม่ จะขออภิปรายเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมในสังคม และเพื่อลดเงื่อนไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขอให้เตรียมพร้อมตอบกันให้ได้นะครับ” นายกัณวีร์กล่าวทิ้งท้าย
สุโขทัยอ่วม หลังระดับน้ำยมเพิ่มขึ้น ชาวบ้านเผย ปีนี้ท่วมสูงมาก เกือบ 3 เมตร
https://www.matichon.co.th/region/news_4779361
สุโขทัยอ่วม หลังระดับน้ำยมเพิ่มขึ้น ชาวบ้านเผย ปีนี้ท่วมสูงมาก เกือบ 3 เมตร
8 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงาน สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดสุโขทัย ส่วนใหญ่ในพื้นนที่ที่เคยถูกน้ำท่วม ระดับน้ำที่เคยท่วมขังใน อ.ศรีสัชนาลัย อ.ศรีนคร อ.สวรรคโลก อ.ศรีสำโรง อ.เมืองสุโขทัย ขณะนี้ได้ลดลงจนเข้าสู่สภาวะปกติ ประชาชนสามารถเข้าไปทำความสะอาดบ้านเรือนของตนเองได้บ้างแล้ว ยังคงมีบ้างพื้นที่ที่อยู่ในระดับตำเป็นแองกระทะ น้ำยังไม่สามารถระบายออกได้ และยังมีน้ำท่วมขังอยู่บ้าง
ขณะที่ อ.กงไกรลาซที่เป็นอำเภอสุดท้ายในจังหวัดสุโขทัย น้ำยมไหลผ่านก่อนที่จะไหลลงสู่ทุ่งบางระกำ อ.บางระกำ จ. พิษณุโลก ยังมีหลายพื้นที่ของ อ.กงไกรลาศ ซึ่งอยู่ติดสองฝั่งแม่น้ำยม ประสบปัญหาน้ำล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตร
โดยเฉพาะที่ ชุมชนเกาะกง หมู่ 1 ต.กง อ.กงไกรลาศ ซึ่งเป็นชุมชนอยู่ใกล้แม่น้ำมาก ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพประมง น้ำในแม่น้ำยมได้เอ่อล้นเพิ่มสูงขึ้น จากระดับพื้นบ้านด้านล่างถูกน้ำท่วมสูงเกือบ 3 เมตร ชาวบ้านกว่า 50 หลังคาเรือน ได้รับความเดือดร้อน เสมือนถูกตัดขาดขาดโลกภายนอก ต้องใช้เรือพายสัญจรไปมาแทน
ชาวบ้านเกาะกง เล่าว่า ตั้งแต่เกิดมาจนปัจจุบัน เห็นชุมชนเกาะกง ประสบปัญหาน้ำท่วมเป็นประจำทุกปี เสมือนอยู่บนเกาะจริงๆ ปีนี้ระดับน้ำสูงมาก ถ้าน้ำในแม่น้ำยมยังมาเพิ่มอีก หรือมีฝนตกซ้ำ มาอีก ระดับน้ำก็จะขึ้นสูงกว่านี้ ชาวบ้านบางหลังอาจต้องย้ายออกไปอยู่บ้านญาติ ด้านนอกเป็นการชั่วคราวไปก่อนจนกว่าน้ำจะลดลง
JJNY : “ณัฐพงษ์”นำหาเสียงลต.พิษณุโลก│กัณวีร์ห่วงทหารชายแดนใต้ยึดธง│สุโขทัยอ่วม│หน.หน่วยข่าวกรอง ชี้ระเบียบโลกถูกคุกคาม
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_772234/
“ณัฐพงษ์”นำพรรคประชาชน เดินหน้าหาเสียงพิษณุโลก ชี้เลือก “ณฐชนน” ส่งสัญญาณเปลี่ยนแปลงการเมือง
แกนนำพรรคประชาชน พร้อมด้วย สส. และผู้ช่วยหาเสียง ร่วมกิจกรรมหาเสียงและประชาสัมพันธ์การเลือกตั้ง สส. เขต 1 จ.พิษณุโลก แทนตำแหน่งที่ว่างลง ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 15 กันยายน 2567 โดยพรรคประชาชนได้ส่ง นายณฐชนน ชนะบูรณาศักดิ์ หมายเลข 1 เป็นผู้สมัครในการเลือกตั้งครั้งนี้
โดยบรรดาแกนนำ สส. และผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน อาทิ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน, นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ กรรมการบริหารพรรคประชาชน, นายฉัตร สุภัทรวณิชย์ สส.นครราชสีมา เขต 1, นายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ สส.ระยอง เขต 3, น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว สส.ปทุมธานี เขต 3, นายกันตภณ ดวงอัมพร สส.กรุงเทพฯ เขต 6
รวมถึง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และนายชัยธวัช ตุลาธน ผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ได้ร่วมกันดาวกระจายหาเสียงไปตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วทั้งเขต 1 ทั้งการเดินแจกแผ่นพับประชาสัมพันธ์ ขึ้นรถแห่กระจายเสียง และเปิดวงกาแฟพบปะพูดคุยกับผู้สนับสนุนและประชาชน โดยตลอดการหาเสียง ทั้งหมดได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากประชาชนในพื้นที่ ที่ทั้งออกมาต้อนรับ ถ่ายรูป และส่งเสียงให้กำลังใจตลอดเส้นทาง
นายพิจารณ์ กล่าวระหว่างการหาเสียงช่วงหนึ่งว่า การเพิ่ม สส. อีก 1 คน ให้พรรคประชาชนเป็น 144 มีความสำคัญมาก แม้จะมีบางคนบอกว่าเลือก สส. จากพรรครัฐบาลดีกว่า เพราะประสานงานกับรัฐบาลแก้ปัญหาได้ แต่ประสบการณ์บอกกับเราแล้วว่า ต่อให้มี สส. จากฝ่ายรัฐบาล แต่ถ้ารัฐบาลไม่กล้าแตะกับต้นตอของปัญหา ปัญหาของประชาชนก็จะไม่ได้รับการแก้ไข แต่ถ้ามีผู้แทนจากฝ่ายค้าน
เมื่อฝ่ายค้านมีความเข้มแข็ง ตรวจสอบได้มากขึ้น รัฐบาลก็ต้องทำงานให้ดีขึ้น เกิดประโยชน์กับประชาชนทั้งประเทศ การเลือกตั้งครั้งนี้สำคัญกว่าการได้ผู้แทนของคนพิษณุโลก แต่เป็นการยืนยันในการทำงานของอดีตพรรคก้าวไกล และให้เราเตรียมความพร้อมสำหรับการเป็นรัฐบาลในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
ด้านนายณัฐพงษ์ ระบุว่า ตนมีความมั่นใจว่า นายณฐชนน จะเป็นปากเป็นเสียงให้คนพิษณุโลกเขต 1 ได้อย่างแน่นอน เพราะเป็นคนธรรมดาคนหนึ่งที่พร้อมสู้เพื่อทุกคนที่ถูกกระทำอย่างไม่ถูกต้องจากการใช้อำนาจรัฐและการใช้งบประมาณ นี่คือสิ่งที่สำคัญสำหรับพรรคประชาชน
ตั้งแต่เป็นอดีตพรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกล คือวิธีการทำงานของเราที่ถือว่าเราทุกคนเป็นคนธรรมดา นักการเมืองไม่ใช่ผู้ยิ่งใหญ่มาจากไหน นี่คือระบบการเมืองที่เราอยากทำให้เกิด ไม่ต้องมีนายทุนมีเงินในกระเป๋า ไม่ต้องเป็นลูกหลานนักการเมืองก็มาทำงานการเมืองได้
ทั้งนี้ ตนขอขอบคุณที่มีคนลงแข่งเพื่อให้ประชาชนมีตัวเลือกและให้ชัยชนะมีความสง่างามมากขึ้น วันนี้การเลือกตั้งมีสองเบอร์ชัดเจน และสิ่งที่เป็นเส้นแบ่งชัดเจนคือพรรคประชาชนต้องการเข้ามาสร้างการเมืองเพื่อการเปลี่ยนแปลง การเลือก”ณฐชนน” คือ การส่งสัญญาณว่าประชาชนต้องการเปลี่ยนการเมืองให้ดีขึ้นเป็นจุดหมายปลายทาง
นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อไปว่า ตอนนี้สนามพิษณุโลก คือ ต้นทาง ถ้าอยากทำให้ก้าวแรกของการเปลี่ยนแปลงง่ายขึ้น ขอให้ทุกคนช่วยกันบอกต่อ ชวนเพื่อนบ้าน ชวนทุกคนที่มีสิทธิเลือกตั้งในเขต 1 พิษณุโลก ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ให้ช่วยกันกลับมายึดเก้าอี้นี้คืน ส่ง นายณฐชนน เข้าไปทำหน้าที่นี้ต่อเนื่องในสภาผู้แทนราษฎรต่อจากปดิพัทธ์ สันติภาดา ที่ทำผลงานครองใจชาวพิษณุโลกมาตั้งแต่อนาคตใหม่จนถึงก้าวไกลอีกครั้ง
กัณวีร์ ห่วงทหารชายแดนใต้ ยึดธงปาเลสไตน์-รูปผู้นำศาสนา ย้ำสิทธิเสรีภาพทั่วโลกแสดงออกได้
https://www.matichon.co.th/politics/news_4779299
กัณวีร์ ห่วงทหารชายแดนใต้ ยึดธงปาเลสไตน์-รูปผู้นำศาสนา ย้ำสิทธิเสรีภาพทั่วโลกแสดงออกได้
เมื่อวันที่ 8 กันยายน นายกัณวีร์ สืบแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม กล่าวว่า ตนเองขอร่วมแสดงความกังวลต่อเหตุการณ์ที่หน่วยงานกองกำลังทหารพรานพื้นที่ ต.โคกสะตอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ยึดธงปาเลสไตน์ในขบวนพาเหรดชุมชนมุสลิมและยึดรูปผู้นำศาสนาที่เยาวชนใช้ในกิจกรรมดังกล่าว
นายกัณวีร์ระบุว่า กรณีที่ทหารพรานได้แจ้งว่าการเดินขบวนพาเหรดของเยาวชนที่ชูรูปอูลามาอ์ขัดกับวัตถุประสงค์ของการจัดงานสืบสานประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่นนั้น คงเป็นอีกหนึ่งบทเรียนที่ยังทบทวนกันไม่กระจ่างของหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ที่ไม่เข้าใจบริบทที่สำคัญและละเอียดอ่อนอันนี้
นายกัณวีร์กล่าวว่า ปัญหาในเขตพื้นที่ปาเลสไตน์ที่ประชาคมโลกกล่าวประณามการใช้ความรุนแรงฆ่าฟันประชาชนผู้บริสุทธิ์ในขณะเหตุการณ์ความรุนแรงทางทหารและสงครามที่เกิดขึ้น และโดยเฉพาะประชาชนที่ได้รับผลกระทบทั้งหมดเป็นพี่น้องมุสลิมด้วยแล้ว จึงทำให้พี่น้องมุสลิมทั่วโลกจึงมีความรู้สึกร่วมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“เราเห็นครับว่าพี่น้องมุสลิมทั่วโลกเดินขบวนเรียกร้องความยุติธรมให้เกิดขึ้นและเรียกร้องการยุติความรุนแรงที่มีผลกระทบต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ในปาเลสไตน์ การเดินขบวนเพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนการเรียกร้องที่มีทั่วทุกมุมโลก จึงถือเป็นสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกที่ไม่ได้ส่อเสียดถึงการกระทำใดๆ ที่จะก่อให้เกิดความรุนแรง”
นายกัณวีร์กล่าวว่า ในทางตรงกันข้ามแสดงถึงจุดยืนด้านสิทธิมนุษยชนและมนุษยธรรม ที่ร้องขอให้เกิดสันติภาพ ยุติการใช้ความรุนแรง และยึดหลักการด้านสิทธิมนุษยชนและมนุษยธรรมในการดูแลและปกป้องพี่น้องผู้บริสุทธิ์ ดังนั้นการกระทำใดๆ ที่หักล้างต่อการแสดงจุดยืนดังกล่าวจึงถือว่าเป็นการลิดรอนสิทธิขั้นพื้นฐานในการใช้เสรีภาพทางความคิดและการแสดงออก (Freedom of Opinion and Expression-FOE)
“หรือนี่คือผลสะท้อนของนโยบายที่รัฐบาลที่นำโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ที่จะแถลงต่อรัฐสภาในวันที่ 12 กันยายนนี้ที่แถลงว่าไทยจะไม่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งระหว่างประเทศ”
นายกัณวีร์กล่าวย้ำว่า หากเป็นเช่นนั้นจริง ไทยจะลำบาก เพราะนี่จะเท่ากับการที่ไทยหันหลังอย่างไม่มีเยื่อใยต่อหลักสิทธิมนุษยชนและมนุษยธรรมที่ไม่มองถึงความสำคัญในการให้ความคุ้มครองระหว่างประเทศต่อผู้บริสุทธิ์ที่ได้รับผลกระทบในภาวะสงคราม และที่มากไปกว่านั้นมันเป็นการแสดงออกว่าไทยไม่ได้เคารพต่อกฎหมายระหว่างประเทศด้านมนุษยธรรมที่ปกป้องคุ้มครองประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องกับสงครามนั่นเอง
“จะได้เจอกันในรัฐสภาครับท่านนายกรัฐมนตรีและ ครม.ชุดใหม่ จะขออภิปรายเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมในสังคม และเพื่อลดเงื่อนไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขอให้เตรียมพร้อมตอบกันให้ได้นะครับ” นายกัณวีร์กล่าวทิ้งท้าย
สุโขทัยอ่วม หลังระดับน้ำยมเพิ่มขึ้น ชาวบ้านเผย ปีนี้ท่วมสูงมาก เกือบ 3 เมตร
https://www.matichon.co.th/region/news_4779361
สุโขทัยอ่วม หลังระดับน้ำยมเพิ่มขึ้น ชาวบ้านเผย ปีนี้ท่วมสูงมาก เกือบ 3 เมตร
8 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงาน สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดสุโขทัย ส่วนใหญ่ในพื้นนที่ที่เคยถูกน้ำท่วม ระดับน้ำที่เคยท่วมขังใน อ.ศรีสัชนาลัย อ.ศรีนคร อ.สวรรคโลก อ.ศรีสำโรง อ.เมืองสุโขทัย ขณะนี้ได้ลดลงจนเข้าสู่สภาวะปกติ ประชาชนสามารถเข้าไปทำความสะอาดบ้านเรือนของตนเองได้บ้างแล้ว ยังคงมีบ้างพื้นที่ที่อยู่ในระดับตำเป็นแองกระทะ น้ำยังไม่สามารถระบายออกได้ และยังมีน้ำท่วมขังอยู่บ้าง
ขณะที่ อ.กงไกรลาซที่เป็นอำเภอสุดท้ายในจังหวัดสุโขทัย น้ำยมไหลผ่านก่อนที่จะไหลลงสู่ทุ่งบางระกำ อ.บางระกำ จ. พิษณุโลก ยังมีหลายพื้นที่ของ อ.กงไกรลาศ ซึ่งอยู่ติดสองฝั่งแม่น้ำยม ประสบปัญหาน้ำล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตร
โดยเฉพาะที่ ชุมชนเกาะกง หมู่ 1 ต.กง อ.กงไกรลาศ ซึ่งเป็นชุมชนอยู่ใกล้แม่น้ำมาก ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพประมง น้ำในแม่น้ำยมได้เอ่อล้นเพิ่มสูงขึ้น จากระดับพื้นบ้านด้านล่างถูกน้ำท่วมสูงเกือบ 3 เมตร ชาวบ้านกว่า 50 หลังคาเรือน ได้รับความเดือดร้อน เสมือนถูกตัดขาดขาดโลกภายนอก ต้องใช้เรือพายสัญจรไปมาแทน
ชาวบ้านเกาะกง เล่าว่า ตั้งแต่เกิดมาจนปัจจุบัน เห็นชุมชนเกาะกง ประสบปัญหาน้ำท่วมเป็นประจำทุกปี เสมือนอยู่บนเกาะจริงๆ ปีนี้ระดับน้ำสูงมาก ถ้าน้ำในแม่น้ำยมยังมาเพิ่มอีก หรือมีฝนตกซ้ำ มาอีก ระดับน้ำก็จะขึ้นสูงกว่านี้ ชาวบ้านบางหลังอาจต้องย้ายออกไปอยู่บ้านญาติ ด้านนอกเป็นการชั่วคราวไปก่อนจนกว่าน้ำจะลดลง