สวนดุสิตโพล ชี้ ‘แพทองธาร-ณัฐพงษ์’ อันดับ 1 นักการเมืองบทบาทโดดเด่น
https://www.khaosod.co.th/politics/news_9569168
 
 
เปิดผลสำรวจ สวนดุสิตโพล ดัชนีการเมืองไทย ประจำเดือน ธ.ค. 2567 ‘แพทองธาร-ณัฐพงษ์’ คว้าอันดับ 1 นักการเมืองที่มีบทบาทโดดเด่น
 
วันที่ 29 ธ.ค. 2567 สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ดัชนีการเมืองไทย ประจำเดือนธันวาคม 2567” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 2,154 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 16-25 ธ.ค. 2567
 
พบว่า กลุ่มตัวอย่างให้คะแนนภาพรวมดัชนีการเมืองไทยประจำเดือนธันวาคม 2567 เฉลี่ย 4.97 คะแนน เพิ่มขึ้นจากเดือนพ.ย. ที่ได้ 4.92 คะแนน
ตัวชี้วัดที่ได้คะแนนสูงสุด คือ การมีส่วนร่วมของประชาชน ลดจาก 5.39 คะแนน เหลือ 5.37 คะแนน ผลงานรัฐบาล เพิ่มจาก 5.18 คะแนน เป็น 5.33
คะแนน ผลงานฝ่ายค้าน เพิ่มจาก 5.24 คะแนน เป็น 5.25 คะแนน ผลงานนายกรัฐมนตรี ลดจาก 5.25 คะแนน เหลือ 5.23 คะแนน
 
ตัวชี้วัดที่ได้คะแนนต่ำ สุด คือ การแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน ความโปร่งใส เพิ่มจาก 4.52 คะแนน เป็น 4.60 คะแนน
 
นักการเมืองฝ่ายรัฐบาลที่มีบทบาทโดดเด่นประจำเดือน คือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ร้อยละ 51.25 รองลงมา คือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ร้อยละ 26.36
 
ด้านนักการเมืองฝ่ายค้านที่มีบทบาทโดดเด่นประจำเดือน คือ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ร้อยละ 45.78 รองลงมา คือ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ร้อยละ 33.13
 
ผลงานฝ่ายรัฐบาลที่ชื่นชอบประจำเดือน คือ เยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วม 9,000 บาท ร้อยละ 40.05 ผลงานฝ่ายค้านที่ชื่นชอบประจำเดือน คือ ตรวจสอบรัฐบาลเพื่อความโปร่งใส ร้อยละ 42.72

---

พรรคประชาชนลงพื้นที่ช่วยหาเสียงนายกฯ และสมาชิกสภา อบจ.มุกดาหาร
https://siamrath.co.th/n/590877

มุกดาหาร พรรคประชาชนลงพื้นที่ช่วยหาเสียงนายกฯ และสมาชิกสภา อบจ.มุกดาหาร
 
เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2567 นายกรุณพล  เทียนสุวรรณ  รองโฆษกพรรคประชาชน นายศรายุทธิ์  ใจหลัก  เลขาธิการพรรค  พร้อมด้วย นายณกร  ชารีพันธ์ สส.เขต 2 พรรคประชาชน  เดินทางลงพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงเลือกตั้งนายก และสมาชิกสภา อบจ.มุกดาหาร  ซึ่งช่วงเช้าได้เดินทางหาเสียงในพื้นที่อำเภอหว้านใหญ่ และอำเภอเมืองมุกดาหาร  ในการลงพื้นที่หาเสียงครั้งนี้พรรคได้ชู นายสุพจน์  สุอริยพงษ์  ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร  เบอร์ 1 อดีตรองนายก อบจ.มุกดาหาร  ลงสมัครในนามพรรคประชาชนมาหลายรอบ  ผลงานที่ผ่านมามีลุ้นทุกสนามในการเลือกตั้งทุกสมัย  รอบนี้ปักป้ายหาเสียงพรรคประชาชนทั่วบ้านก่อนผู้ใด  มีการเตรียมความพร้อมมาก่อนทุกค่าย  
 
สนามนี้คาดหวังต้องมาเต็มที่  ทั้งแรงสนับสนุนจาก สส.ทั้ง 2 เขต ของพรรคประชาชนคอยเป็นแรงหนุน แม้ไม่มีหัวคะแนนแบบบ้านใหญ่ทั่วไป  แต่ได้กระแสพรรคประชาชนคนรุ่นใหม่ที่จะส่งให้ถึงฝั่งฝันได้ไม่น้อย  เป็นอีกเบอร์ที่มีลุ้นค่อนข้างสูง   และสมาชิกลูกทีมที่ส่งลงสมัครในการเลือกตั้งครั้งนี้พรรคประชาชนได้ส่งครบ 24 เขต  และในวันนี้ได้ลงพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 2  อำเภอเมืองมุกดาหาร  ช่วยหาเสียง นายขันเพ็ชร์  คำโพธิ์  ผู้สมัคร เบอร์ 1  ในช่วงบ่ายเดินทางหาเสียงช่วย นายเอกนิรันดร์  แข็งแรง และนายชยธร  จิตรส่องแสง 
 
นายสุพจน์  สุอริยพงษ์  ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร  เบอร์  1  กล่าวว่า  การเลือกตั้งในครั้งนี้ได้ชูนโยบายมุกดาหาร บ้านเฮาอยู่ดีมีกิน คนมุกคุณภาพชีวิตดี น้ำบ่อเพื่อนาไร่  น้ำประปาดื่มได้ เรียนรู้ไม่น้อยหน้าใคร เศรษฐกิจสะพัดชายแดน  โรงเรียนคุณภาพ สอนทักษะ อนาคตเรียนไปใช้ได้จริง  อบจ.โปร่งใส  ทำงานไวรับใช้ประชาชน  สาธารณสุขบริการทั่วถึง อยู่ไหนก็ใกล้หมอ  

---

ปภ. แจ้งเตือนด่วน "น้ำล้นตลิ่ง" จ.นครศรีธรรมราช ให้หลายพื้นที่เร่งย้ายของ-อพยพ
https://www.thairath.co.th/news/local/south/2833595

ปภ. แจ้งเตือนด่วน น้ำล้นตลิ่ง "คลองนาป่า-คลองทุ่งปรัง" เขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช และพื้นที่ใกล้เคียง อ.เมือง ให้ขนย้ายสิ่งของ อพยพกลุ่มเปราะบางไปที่ปลอดภัย
 
วันที่ 29 ธันวาคม 2567 เพจเฟซบุ๊ก กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM ได้โพสต์ข้อความระบุว่า 
 
"ด่วน ปภ.ส่ง SMS แจ้งเตือน น้ำล้นตลิ่งคลองนาป่า เขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช และพื้นที่ใกล้เคียง อ.เมืองฯ จ.นครศรีธรรมราช ให้ขนย้ายสิ่งของและอพยพกลุ่มเปราะบาง ไปที่ปลอดภัย สอบถาม โทร.1784"
 
ซึ่งในเวลาต่อมา ได้มีการแจ้งเตือนเพิ่มเติมในอีก 4 พื้นที่ ระบว่า ด่วน ปภ.ส่ง SMS แจ้งเตือนน้ำล้นตลิ่งคลองทุ่งปรัง ในพื้นที่ 4 ชุมชน และเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช และพื้นที่ใกล้เคียง อ.เมืองฯ จ.นครศรีธรรมราช ให้ขนย้ายสิ่งของและอพยพกลุ่มเปราะบางไปที่ปลอดภัย สอบถาม โทร.1784
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสถานการณ์น้ำหลากส่งท้ายปีที่นครศรีธรรมราช ว่า ทำเอาหลายคนใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอีกครั้ง ตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ ต้นน้ำแถบฝั่งตะวันออกของเทือกเขาหลวง โดยเฉพาะต้นน้ำท่าดี อ.ลานสกา ต้นน้ำเขาขุนน้ำ อ.เมืองนครศรีธรรมราช ต้นน้ำพรหมโลก วังลุง อ้ายเขียว อ.พรหมคีรี ต้นน้ำยอดเหลือง กรุงชิง อ.นบพิตำ ต้นน้ำท่าทน อ.สิชล มีปริมาณน้ำหลากลงมาอย่างหนักอีกครั้งแต่กินเวลาไม่นาน ปริมาณน้ำจำนวนมากได้หลากเข้าทำลายสิ่งปลูกสร้างชั่วคราวเพื่อแก้ไขปัญหาจากน้ำหลากรอบที่แล้วหลายจุดเช่นสะพานชั่วคราวบ้านเขาเคี่ยม
โดยต้นน้ำจากพรหมโลก อำเภอพรหมคีรี นครศรีธรรมราช ปริมาณน้ำหลากลงมาอย่างต่อเนื่องกินเวลาเกือบ 1 ชั่วโมงก่อนที่จะคลี่คลาย ระดับน้ำในระลอกนี้แม้ไม่เท่ากับช่วงวันที่ 15-16 ที่ผ่านมา แต่ปริมาณน้ำได้หลากเข้าท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำ พื้นที่รับน้ำซึ่งมีปริมาณน้ำท่วมขังและความชุ่มน้ำเต็มขีดอยู่แล้ว ทำให้หลายชุมชนในตำบลบ้านเกาะ อำเภอพรหมคีรี อยู่ในสภาพน้ำหลากเข้าท่วมบ้านเรือนหลายหลังยังไม่เก็บของลงจากที่สูงและทำความสะอาดจากน้ำหลากรุนแรงระลอกที่แล้ว
 
ส่วนต้นน้ำจากท่าดี จากเทือกเขาหลวงในตำบลกำโลน อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้หลากลงมาตั้งแต่ช่วงเช้าปริมาณน้ำได้ยกระดับในลำคลองหลายสายโดยเฉพาะคลองท่าดีสายน้ำหลักที่ไหลเข้าสู่ตัวเมืองนครศรีธรรมราช และจะต้องเข้าสู่เขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ล่าสุดได้มีการแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ชุมชนลุ่มต่ำถึงภาวะน้ำอาจล้นตลิ่งและได้แจ้งเตือนรหัสธงสีเหลืองในพื้นที่เสี่ยงแล้ว

---

 
“บขส.” เปิดตัวเลขปชช.แห่เดินทางช่วงปีใหม่พุ่งกว่า 1.6 แสนคน
https://siamrath.co.th/n/590860

นายอรรถวิท รักจำรูญ กรรมการฯ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า ข้อมูลการเดินทางกลับภูมิลำเนา ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 เมื่อวานนี้ (28 ธันวาคม 2567) มีผู้โดยสารเดินทางออกจากกรุงเทพฯ เที่ยวไป จำนวน 105,245 คน เที่ยวกลับ จำนวน
60,998 คน รวมทั้งสิ้น จำนวน 166,243 คน ใช้รถโดยสาร (รถ บขส., รถร่วม, รถตู้) เที่ยวไป จำนวน 4,277 เที่ยว เที่ยวกลับ จำนวน 3,987 เที่ยว รวมทั้งสิ้น จำนวน 8,264 เที่ยว โดยสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ 50,000 กว่าคน จากเดิมที่คาดการณ์ไว้จะมีผู้โดยสารเดินทางเที่ยวไป - กลับ อยู่ที่ 110,000 คน ทั้งนี้เมื่อวานนี้เป็นการเดินทางมากที่สุดในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 เมื่อเทียบกับการเดินทางช่วงตั้งแต่วันที่ 25 – 27 ธันวาคม 2567 ซึ่ง บขส. สามารถบริหารจัดการเดินรถได้อย่างเพียงพอ และไม่มีผู้โดยสารตกค้าง
 
ส่วนวันนี้ (29 ธันวาคม 2567) คาดการณ์ว่าจะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาด้วยรถโดยสารในเส้นทางที่มีระยะสั้น เช่น กรุงเทพฯ – นครราชสีมา, กรุงเทพฯ – สระบุรี, กรุงเทพฯ - กาญจนบุรี เป็นต้น โดยคาดการณ์ว่าจะมีประชาชนเดินทาง (เที่ยวไป - กลับ) เฉลี่ยกว่า 90,000 – 100,000 คน ใช้รถโดยสาร (รถ บขส., รถร่วม, รถตู้) ประมาณ 4,000 – 5,000 เที่ยว และได้เตรียมรถโดยสารไม่ประจำทาง (รถเสริม 30) ไว้รองรับการเดินทางในช่วงเวลาดังกล่าว ให้เพียงพอ
 
นายอรรถวิท กล่าวต่อว่า ในส่วนของการเดินทางเที่ยวกลับ หลังจากฉลองเทศกาลปีใหม่ 2568 ระหว่างวันที่ 1 – 3 มกราคม 2568 จะมีผู้โดยสารเดินทางเฉลี่ยวันละ 70,000 - 90,000 คน ใช้รถโดยสาร (รถ บขส. รถร่วม รถตู้) เฉลี่ยวันละ 4,200 – 4,500 เที่ยว ทั้งนี้ บขส. ได้ร่วมมือกับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จัดรถโดยสาร (รถเมล์) เข้าจอดรับ - ส่ง บริการประชาชนในสถานีขนส่งฯ หมอชิต 2, เพิ่มการจัดคิวให้บริการแท็กซี่ เพื่อความสะดวกและเป็นระเบียบ ไม่แออัด รวมทั้งจัดกำลังเจ้าหน้าที่ อำนวยความสะดวก ผู้โดยสารที่เดินทางกลับจากภูมิลำเนา 
 
นอกจากนี้ บขส. ได้กำชับให้นายสถานีเดินรถทั่วประเทศ เตรียมพร้อมรองรับการเดินทางในเที่ยวกลับเข้ากรุงเทพฯ จัดรถโดยสาร และพนักงานขับรถ ให้เพียงพอพร้อมบริการประชาชน รวมทั้งบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ในการตรวจความพร้อมรถโดยสารสาธารณะและพนักงานขับรถ ก่อนเดินทางทุกคันทุกคน ตาม Checklist และ จุด Checking Point ไม่ว่าจะเป็น อุปกรณ์ด้านความปลอดภัย ค้อนทุบกระจก ถังดับเพลิง ประตูฉุกเฉิน ตรวจสารเสพติด และ ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ต้องเป็นศูนย์ ใช้ความเร็วบนรถโดยสาร ไม่เกิน 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง และ จัดพนักงานขับรถ 2 คน ในเส้นทางสายยาวที่ใช้เวลาเดินทางเกิน 4 ชั่วโมง เป็นต้น