ระเบียบและกฎเกณฑ์การจัดทำราคากลางงานก่อสร้างภาครัฐ

อย่างที่เราเห็น งานในลักษณะเดียวกัน ทำไม ภาครัฐ ถึงได้ทำแพงกว่า เอกชน ยกตัวอย่าง งานก่อสร้างทั้งหลาย สิ่งที่งานภาครัฐมี อย่างแรกประกันผลงาน 2 ปี ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่พังภายใน 2 ปี แต่พอเลยมาไม่กี่วันก็ไม่แน่ อย่างที่ 2 หลักประกันผลงานที่ตั้งวางไว้จนกว่าจะหมดประกัน ถึงจะขอคืนได้ ซึ่งก็เป็นต้นทุนแฝง ยังค่าโน้นค่านี่ที่อธิบายไม่ได้เดี๋ยวจะโดนฟ้องอีก ด้วยประการทั้งปวง ราคากลางภาครัฐ จึงสูงกว่างานเอกชน ประกอบกับช่องว่างของหลักเกณฑ์การจัดทำราคากลางงานก่อสร้าง ที่สามารถใช้ราคาสืบ จากผู้จัดจำหน่ายหรือผู้มีอาชีพ 3 ราย นำมาเป็นราคาตั้งได้ จุดนี้แหละ ถ้าเป็นต่างประเทศบางประเทศเค้าผูกระบบทั้งบัญชีบริษัท ภาษี ฯลฯ การเสนอจึงตั้งอยู่บนความถูกต้อง พิสูจน์ที่มาที่ไปได้ แต่บ้านเราราคาสืบก็คือราคาสืบ แล้วแต่คุยกัน เอ้ยไม่ใช่ แล้วแต่สืบจากบริษัทไหน วิธีสืบก็สำคัญ การแจ้งขัอมูลไม่หมด เช่น ขอทราบราคาเครื่องXXX พร้อมติดตั้งและอุปกรณ์ประกอบ เป็นคนธรรมดาเดินดินปกติก็คงเข้าใจว่า เครื่องXXX พร้อมติดตั้งและอุปกรณ์ประกอบ พร้อมใช้งานเลย ก็จะเสนอ ราคาของรวมค่าติดตั้งและอุปกรณ์ประกอบ รวมค่าดำเนินการต่างๆนานา รวมทั้งกำไร และภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมทำพร้อมใช้ว่างั้น แต่เมื่อเป็นราคากลางงานก่อสร้าง ทางรัฐจะให้สืบราคาค่างานต้นทุน เดียวจะอธิบายค่างานต้นทุนให้ฟังอีกที โดยรัฐ กำหนดให้เอา ราคาต้นทุนไป คูณกับ Factor F งานก่อสร้าง ซึ่งจะแบ่งออกเป็นงานก่อสร้างแต่ละประเภท ตามลักษณะงานนั้นๆ Factor F คืออะไร คือค่าดำเนินการ กำไร ภาษี ดอกเบี้ย เกือบ 30% โดยประมาณ ค่า Factor F นี้แหละค่าผลตอบแทนที่เอกชนเข้ามารับทำงานของภาครัฐจะได้ตอบแทน ถ้าเป็นงานต้นทุนจริงๆ ก็ถือว่าแฟร์ๆกันทั้งสองฝ่าย ภาครัฐได้สาธารณูปโภค ภาคเอกชนได้ค่าดำเนินการ กำไร และดอกเบี้ย ส่วนภาษีไงก็เข้ารัฐ แต่ถ้าราคาต้นทุนเป็นราคาที่พร้อมทำ ส่วนที่เป็น Factor F เกือบ 30% ไปอยู่ไหน ภาคเอกชนจะได้ ค่าดำเนินการเพิ่มขึ้นไหม หรือได้กำไรเพิ่มขึ้น แล้วอย่าลืมว่าราคาสืบ ใครจะบอกราคาจริงๆ จะต้องมีการเผื่อส่วนต่าง ส่วนลดและค่าอื่นๆไว้ เพราะไม่จำเป็นที่ผู้ให้ราคาจะได้เป็นคู่สัญญากับภาครัฐโดยตรง ราคาสินค้าต้องถูกกว่าราคาที่เสนอแน่นอน เมื่อรวมกับ 30% ข้างต้น ราคาที่ภาครัฐจะต้องจ่ายจะมากกว่าความเป็นจริงขนาดไหน ถึงมีผู้ที่ทำสัญญากับภาครัฐ แล้วนำงานไปจ้างต่อ หักหัวคิวเอา ทั้งๆที่สัญญากำหนดไว้ชัดเจนว่า " ผู้รับจ้างจะต้องไม่เอางานทั้งหมดหรือแต่บางส่วนแห่งสัญญานี้ไปจ้างช่วงอีกทอดหนึ่ง เว้นแต่การจ้างช่วงงานแต่บางส่วนที่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากผู้ว่าจ้างแล้ว การที่ผู้ว่าจ้างได้อนุญาตให้จ้างช่วงงานแต่บางส่วนดังกล่าวนั้น ไม่เป็นเหตุให้ผู้รับจ้างหลุดพ้นจาก ความรับผิดหรือพันธะหน้าที่ตามสัญญานี้ และผู้รับจ้างจะยังคงต้องรับผิดในความผิดและความประมาทเลินเล่อของผู้รับจ้างช่วง หรือของตัวแทนหรือลูกจ้างของผู้รับจ้างช่วงนั้นทุกประการ " ซึ่งการบริหารสัญญาส่วนใหญ่ก็จะไม่อนุญาตเป็นหนังสือจากผู้ว่าจ้าง เพราะเดี๋ยวก็มีปัญหาตามมาอีก ทำไมเข้ามาทำสัญญาแล้วทำเองไม่ได้ต้องจ้างคนอื่นมาทำให้ ทำไมไม่จ้างคนอื่นทำเลยล่ะ โดยเฉพาะถ้างานนั้นเป็นงานหลักของโครงการ ยกตัวอย่างเช่น งานเสาเข็มดินที่ใช้เป็นโครงสร้างหลักป้องกันแรงดันน้ำของทางระบายน้ำขนาดใหญ่ ตลอด 2 ฝั่งระยะทางเป็นสิบๆกิโลเมตร เป็นงานหลักของโครงการ การนำบริษัทอื่นที่ไม่ใช่คู่สัญญา เข้ามาทำงาน โดยอ้างว่าเป็นการเช่าเครื่องจักร แต่งานเสาเข็มดินซีเมนต์ เป็นงานเฉพาะต้องมีความเชี่ยวชาญในการทำ ถ้าเครื่องจักรมาพร้อมผู้ปฎิบัติงานที่มีความเชี่ยวชาญ จะเป็นการจ้างช่วงไหมต้องพิสูจน์ ซึ่งก็จะมีผลกระทบกับสัญญาที่กำหนดไว้ "ผู้รับจ้างจะต้องไม่เอางานทั้งหมดหรือแต่บางส่วนแห่งสัญญานี้ไปจ้างช่วงอีกทอดหนึ่ง" โดยกำหนดไว้ว่าถ้าผิดสัญญา จะโดยปรับ 10% ของมูลค่างาน ถ้างานทางระบายน้ำนี้มีมูลค่ารวม 2.2หมื่นล้านบาท งานเสาเข็มดินซีเมนต์ถ้าเป็นบางส่วนแห่งสัญญานี้ 10% ก็ไม่น้อย คุ้มค่าคุ้มเวลาถ้า ปปป. ปปท. ปปช. เข้าไปตรวจสอบ ยิ่งมีผู้รับช่วงมากก็ยิ่งจะพบหลักฐานมากเข้าไปด้วย แล้วยิ่งถ้าแก้ปัญหาการกำหนดราคาค่างานต้นทุนให้เป็นไปตาม 

พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 มาตรา 8 การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุของหน่วยงานของรัฐต้องก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่หน่วยงานของรัฐ และต้องสอดคล้องกับหลักการ ดังต่อไปนี้
(1) คุ้มค่า โดยพัสดุที่จัดซื้อจัดจ้างต้องมีคุณภาพหรือคุณลักษณะที่ตอบสนองวัตถุประสงค์ในการใช้งานของหน่วยงานรัฐ มีราคาที่เหมาะสม และมีแผนการบริหารพัสดุที่เหมาะสมและชัดเจน
(2) โปร่งใส โดยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุต้องกระทำโดยเปิดเผย เปิดโอกาสให้มีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม มีการปฎิบัติต่อผู้ประกอบการทุกรายโดยเท่าเทียมกัน มีระยะเวลาที่เหมาะสมและเพียงพอต่อการยื่นข้อเสนอ มีหลักฐานการดำเนินงานชัดเจน และมีการเปิดเผยข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุในทุกขั้นตอน
(3) มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล โดยต้องมีการวางแผนการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุล่วงหน้าเพื่อให้การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุเป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีกำหนดเวลาที่เหมาะสม โดยมีการประเมินและเปิดเผยผลสัมฤทธิ์ของการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ
 (4) ตรวจสอบได้ โดยมีการเก็บข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุอย่างเป็นระบบ เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบ

ซึ่ง พรบ.ซื้อจ้าง มีศักดิ์กว่าหลักเกณฑ์ราคากลางงานก่อสร้าง ที่ยังมีช่องว่างอยู่ การแก้ไขและปฎิบัติตาม พรบ.ซื้อจ้าง มาตรา 8 ประเทศชาติคงได้ใช้เงินภาษีประชาชนคุ้มค่ามากขึ้น ซึ่งก็จะเป็นประโยชน์กับพวกเราทุกคน รวมทั้งเอกชนทุกท่าน เราทราบดีว่าท่านทำธุรกิจไม่ได้ทำมูลนิธิ ท่านย่อมแสวงหากำไรและผลตอบแทน แต่ขอเพียงอยู่บนหลักการณ์ความซื่อสัตย์สุจริต ถ้าไม่ร่วมมือ ใครที่จ้องแสวงหาผลประโยชน์ที่ไม่ควรจะได้ ก็ทำไม่ได้ ถึงเค้ายังให้ช่องว่างหรือการให้ข้อมูลที่ไม่ครบ กรรมก็เป็นของเค้า ภาษีเป็นของคนทั้งประเทศ เจ้ากรรมนายเวรเค้าก็คือคนทั้งประเทศ
(เรื่องนี้ไม่ได้พาดพิงใครเพียงยกตัวอย่าง และอยากให้ประเทศนี้ดีขึ้นเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่