JJNY : ร้านชำเมินร่วมดิจิทัลวอลเล็ต│อัยการจว.รับรองตำแหน่งอัยการเก๊│วุฒิสภาป่วน!สว.สีน้ำเงินขู่│แฮร์ริสเดินหน้าท้าทรัมป์

ร้านชำ เมินร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ต หวั่นทุนจม บอกขายเงินสดอุ่นใจกว่า
https://www.matichon.co.th/region/news_4710043


ร้านชำ เมินร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ต หวั่นทุนจม บอกขายเงินสดอุ่นใจกว่า
 
เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อีกไม่กี่ชั่วโมงแล้ว ที่ทางราชการจะเปิดให้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ต10,000 บาท ในวันที่ 1 ส.ค.นี้ ซึ่งในวันนี้มีเสียงสะท้อนจากร้านขายของชำในพื้นที่ จ.ชัยนาท ที่ส่วนใหญ่บอกว่า จะไม่เข้าร่วมโครงการเพราะกังวลกับสารพัดปัญหาที่จะต้องเจอ

รายแรกเจ๊โบีะ แม่ค้าร้านชำประจำหมู่บ้านเขาดิน ต.เขาท่าพระ อ.เมือง จ.ชัยนาท บอกกับทีมข่าวว่า ตนเองจะไม่ลงทะเบรยนเข้าร่วมโครงการอย่างแน่นอน เพราะเป็นการขายที่ไม่ได้รับเป็นเงินสด ซึ่งตนกังวลว่าจะจมทุน เพราะเงินดิจิทัลที่ได้มา ไม่สามารถเอาไปใช้จ่ายอย่างอื่นได้สะดวกนัก เพราะถ้าจะแปลงเป็นเงินสดก็ต้องใช้เวลา ซึ่งตนมองว่าจะเป็นการจมทุนเสียเปล่าๆ ยิ่งร้านตนเป็นร้านเล็กๆทุนน้อย ยิ่งจะเอาทุนไปจมกับเงินดิจิทัลก็จะเกิดความเสี่ยง จึงตัดสินใจไม่เข้าร่วมดีกว่า ขายเงินสดก็เพียงพอที่จะมีกำไรและอยู่ได้
 
ด้านเฮียเป้า เจ้าของร้านขายของชำหน้าวัดท่าช้าง อ.เมืองชัยนาท ก็พูดทำนองเดียวกันว่า ตนเคยเหนื่อยกับโครงการบัตรคนจนมาแล้ว และจะไม่ขอเหนื่อยกับโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ตอีกอย่างแน่นอน เพราะตนมองเห็นปัญหาล่วงหน้า ทั้งระบบการสแกนจ่าย การยืนยันตัวตน ที่ระบบจะมีปัญหาเวลาคนใช้พร้อมกันมากๆ และที่สำคัญตนเองจะต้องเอาเงินสดลงทุนไปก่อน จึงจะมาขายรับเป็นเงินดิจิทัล ที่จะดึงออกมาเป็นเงินสดก็ไม่สะดวกตามที่ต้องการ ดังนั้นตนจึงไม่เข้าร่วมโครงการนี้อย่างเด็ดขาด เพราะเห็นความยุ่งยากลำบากที่กำลังจะเกิดขึ้น
 
ส่วนลุงจงเจ้าของร้านชำอีกแห่งหนึ่งก็ยอมรับว่า ตนเองมีความกังวลกับการแปลงเงินดิจิทัลเป็นเงินสดในดครงการนี้ แต่เมื่อนึกถึงว่า ลูกค้ามีเงินอยู่ในมือคนละ10,000 บาท นั่นหมายถึงกำลังซื้อมหาศาลที่รออยู่ จะปฏิเสธรายได้จุดนี้โดยไม่เข้าร่วมก็น่าเสียดาย ตนจึงจะลงทะเบียนร่วมโครงการในวันพรุ่งนี้อย่างแน่นอน แม้จะมีความกังวลอยู่บ้างก็ตาม
 


แชร์ว่อน อัยการจังหวัดธัญบุรีรับรองตำแหน่ง อัยการเก๊ เทียบเท่าอัยการชั้น 5 ชี้ทำโดยไร้อำนาจ
https://www.matichon.co.th/local/crime/news_4710004

แชร์ว่อน อัยการจังหวัดธัญบุรีเซ็นรับรอง ‘มงคล’ อัยการเก๊ ตำแหน่งเทียบเท่าอัยการชั้น 5 วิจารณ์แซ่ด ทำโดยไม่มีอำนาจ
 
เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในไลน์กลุ่มของอัยการมีการแชร์หนังสือรับรองที่ อส 0058 (ธัญบุรี)/พิเศษ ของสำนักงานอัยการจังหวัดธัญบุรี ถนนรังสิต-นครนายก ปทุมธานี ลงนามโดยอัยการจังหวัดธัญบุรีในขณะนั้น เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2566
 
รับรองว่า นายมงคล ที่ปรึกษาอธิบดีอัยการ งานการสอบสวน (ร้อยตำรวจโท อุทัย) ตำแหน่ง อธิบดีอัยการการสอบสวน รักษาการในตำแหน่งรองอัยการสูงสุด มีตำแหน่งเทียบเท่า ข้าราชการอัยการระดับ 5 เทียบเท่าตำแหน่งผู้บริหาร ปฏิบัติราชการ ให้แก่ผลดีแก่สำนักงานอัยการสูงสุด เป็นผู้มีระเบียบวินัย มีคุณธรรม มีความประพฤติเรียบร้อย ช่วยเหลืองานราชการในสำนักงานอัยการสูงสุดด้วยความเรียบร้อยและสุจริต
 
ขอรับรองว่า ข้อความนี้เป็นความจริงทุกประการ ดังนั้น จึงออกหนังสือรับรองตำแหน่งและความประพฤติของนายมงคล ที่ปรึกษาอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน (ร้อยตำรวจโท อุทัย) รักษาการในตำแหน่งรองอัยการสูงสุด ให้ไว้เป็นสำคัญ
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการขอหนังสือรับรองดังกล่าว เนื่องจากนายมงคลจะไปขอเครื่องหมายอาสายิ่งชีพของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งการจะขอได้มักเป็นข้าราชการระดับอัยการชั้น 5 ขึ้นไป และเป็นอำนาจของกระทรวงมหาดไทย
 
โดยหนังสือรับรองดังกล่าวเป็นที่วิพากวิจารณ์ว่า เป็นการกระทำโดยไม่มีอำนาจกระทำได้ เนื่องจากตำแหน่งที่ปรึกษาอธิบดีอัยการเป็นตำแหน่งที่ตั้งขึ้นมาเองส่วนตัว ไม่สามารถเทียบเท่ากับชั้นใดๆ ของอัยการได้เลย และไม่มีในระเบียบกฎหมายของอัยการ
 
โดย อัยการชั้น 5 เป็นตำแหน่งเทียบเท่าระดับอัยการจังหวัด หรืออัยการผู้เชี่ยวชาญ


  
วุฒิสภาป่วน! สะพัด สว.สีน้ำเงิน ขู่คว่ำร่างข้อบังคับกลุ่มอื่น ‘หมอเปรม’ขยี้แบ่งเค้กกมธ.
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_777777863540

“วุฒิสภา” ป่วน! สะพัด สว.สีน้ำเงิน ขู่คว่ำร่างข้อบังคับกลุ่มอื่น “หมอเปรม” ไม่สบายใจ “มงคล” ไม่เร่งเปิดประชุม ขยี้ปมแบ่งเค้ก กมธ.
 
เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2567 นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. กลุ่มสีขาว ให้สัมภาษณ์ว่า ตนทราบว่านายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา จะไม่นัดประชุมวุฒิสภา ในวันที่ 2 ส.ค. ซึ่งตนไม่สบายใจ เพราะการทำงานของวุฒิสภาไม่ควรเชื่อมโยงกับองค์กรอื่น หรือรอดูการวินิจฉัยคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญที่จะตัดสินคดีในช่วงต้นเดือนส.ค.นี้
 
อย่างไรก็ตาม ตนได้ยื่นญัตติเพื่อให้บรรจุเป็นระเบียบวาระพิจารณาแล้ว คือ ร่างข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา ฉบับใหม่ จึงถือว่าเป็นสารตั้งต้นที่ที่ประชุมวุฒิสภาจะนัดประชุมและพิจารณาได้ หากการประชุมวุฒิสภานัดต่อไปไม่ชัดเจน และไม่ทราบว่าประธานวุฒิสภาจะนัดประชุมวันไหนกันแน่ ถือเป็นความน่าสงสัย แต่ตนไม่คิดว่าจะมีปัญหาภายในของวุฒิสภา เพราะเป็นวาระที่ต้องพิจารณาตามหลักการการทำงานทั่วไป
 
นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ในการประชุมวุฒิสภาต้องมีการหารือในหลักการทำงานปกติ อาทิ การนัดประชุมวุฒิสภาประจำสัปดาห์ การกำหนดวาระ  เช่น กระทู้ถามรัฐบาล ที่อาจต้องปรับเป็นวันจันทร์ เพราะวันอังคารจะซ้อนกับการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทำให้ไม่มีรัฐมนตรีมาตอบกระทู้
 
นอกจากนั้นยังมีวาระสำคัญ คือ การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 เพื่อใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งเป็นวาระสำคัญที่วุฒิสภาต้องเร่งพิจารณา
 
เมื่อถามถึงกระแสการล็อกการจัดสรรโควตาประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ที่อาจเป็นปัญหาได้ นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องวางกรอบว่าจะมีกมธ.สามัญกี่คณะ มากกว่าคำนึงถึงโควตา เพราะจะผิดขั้นตอน
 
อีกทั้งตำแหน่งประธานหรือรองประธานกมธ. ควรหารือร่วมกันว่าใครเหมาะสมไม่ใช่จับยัดหรือบล็อกโหวต และไม่ควรเอาทุกอย่างในประเทศเป็นของตัวเอง ต้องเฉลี่ยให้กับสว.ที่สนใจในการทำงานด้วย ไม่ใช่เอาคนมาประธานกมธ. แล้วถูกร้องยี้ ดังนั้น ไม่ควรแบ่งเค้กกัน
 
ผมได้ยินการแบ่งเค้กประธานกมธ.มาบ้าง แต่ไม่ต้องการให้เป็นแบบนี้ ซึ่งอาจเป็นการชี้นำจากมือที่มองไม่เห็น ผมไม่แน่ใจว่าทำไมประธานกมธ.ไม่คลายล็อกสักที ทั้งที่มีหลายคนที่เหมาะสมกับการทำงาน” นพ.เปรมศักดิ์ กล่าว
 
เมื่อถามว่าได้พูดคุยกับประธานวุฒิสภาแล้วหรือไม่ นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า ได้พูดคุย เรื่องการตั้งกมธ.ที่สว.ถูกคาดหวังการทำงานจากประชาชน หากไม่มีสถานะที่ชัดเจน จะตอบประชาชนได้อย่างไร อีกทั้งการประชุมวุฒิสภาก็ไม่แน่นอน ยังไม่เปิดประชุมอีก ซึ่งประธานวุฒิสภาตอบมาว่า จะพยายามดูแลให้ แต่สิ่งที่จะพิสูจน์คำพูดได้ คือ การกระทำผ่านการนัดประชุมวุมิสภาโดยเร็ว
 
รายงานข่าวแจงว่า จากกรณีที่ประธานวุฒิสภาไม่นัดประชุมวุฒิสภา ตามที่แจ้งสว.เป็นการภายในว่าจะมีการประชุมในวันที่ 2 ส.ค. นั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะปัญหาของการพิจารณาข้อบังคับการประชุมวุฒิสภาในประเด็นจำนวนคณะกมธ.
 
ซึ่งขณะนี้พบว่ามีสว.ที่เสนอญัตติดังกล่าว รวม 3 ญัตติ คือ ของนพ.เปรมศักดิ์ ที่เสนอให้มี กมธ. 28 คณะ ของนายสรชาติ วิชย สุวรรณพรหม สว. ที่เสนอปรับลดกมธ.เหลือ 23 คณะ และของสว.กลุ่มพันธุ์ใหม่ ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือ
 
ทั้งนี้ ในกลุ่มของนายสรชาตินั้น ถือเป็นสว.กลุ่มใหญ่ และต้องการให้การผ่านข้อบังคับการประชุมวุฒิสภาดำเนินการโดยรวดเร็ว ด้วยการพิจารณาด้วยกมธ.เต็มสภา เพื่อผ่าน 3 วาระรวดในรอบเดียว แต่ขณะนี้มีความเห็นแย้งจาก สว.กลุ่มอื่น และมองว่าควรตั้งกมธ.วิสามัญ เพื่อพิจารณาให้รอบคอบตามสัดส่วนที่เหมาะสมกับจำนวนสว. และภาระงาน
 
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า จากปัญหาของกลุ่มนายสรชาติที่ต้องการให้พิจารณา 3 วาระรวด ยังมีคนไม่เห็นด้วย ทำให้นายสรชาติยังไม่เสนอญัตติเพื่อแก้ไขข้อบังคับให้ที่ประชุมวุฒิสภา จนกว่าจะได้ตามที่ต้องการ
 
แม้มีสว.กลุ่มอื่นยื่นญัตติให้ที่ประชุมวุฒิสภา และวุฒิสภาประชุมได้ สว.ในกลุ่มของนายสรชาติที่เป็นกลุ่มใหญ่ พร้อมจะโหวตคว่ำ เพื่อให้เหลือร่างข้อบังคับของนายสรชาติ อีกทั้งการไม่นัดประชุมวุฒิสภาในวันที่ 2 ส.ค.นั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะยังไม่มีความลงตัวในประเด็นดังกล่าวด้วย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่