พิธา บุกเมืองโอ่ง ช่วย ‘ชัยรัตน์’ หาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.ราชบุรี อ้อนเปิดใจให้คนตัวเล็ก.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4694710
“พิธา” บุกเมืองโอ่ง ช่วย “ชัยรัตน์” หาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.ราชบุรี ชู เป็นตัวแทนการเมืองของคนตัวเล็ก ขอชาวราชบุรีเปิดใจ พิจารณาเป็นทางเลือกแทนการเมืองบ้านใหญ่
เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ที่ อ.เมือง จ.ราชบุรี นาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นาย
ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม.พรรคก้าวไกล ร่วมกิจกรรมหาเสียงช่วย นาย
ชัยรัตน์ ศักดิ์อิสระพงศ์ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.ราชบุรีในนามพรรคก้าวไกล
โดยนาย
พิธากล่าวความตอนหนึ่งว่า วันนี้ตนมาขอให้พี่น้องชาวราชบุรีให้ความไว้วางใจและเปิดใจกับพรรคก้าวไกล โดยในการเลือกตั้งใหญ่ครั้งที่ผ่านมาแม้พรรคก้าวไกลจะไม่ได้ สส.เขตในจังหวัดราชบุรี แต่ก็ได้รับความไว้วางใจจากชาวราชบุรีเลือก สส.บัญชีรายชื่อมาเป็นอันดับหนึ่ง รวมกว่า 2 แสนคะแนน วันนี้ตนจึงมาด้วยความถ่อมตน ขอชาวราชบุรีร่วมเปิดใจให้ตนได้รับฟัง ว่าต้องทำอย่างไรให้ชาวราชบุรีมอบคะแนนให้กับพรรคก้าวไกลอีกครั้ง และหลังจากนี้เราทุกคนในพรรคก้าวไกลจะมารับฟังชาวราชบุรีอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะถึงวันเลือกตั้ง
นาย
พิธา กล่าวย้ำว่า การเลือกตั้งนายก อบจ.ราชบุรีครั้งนี้มีความสำคัญอย่างมาก โดยโจทย์สำคัญที่นายก อบจ.ราชบุรีคนต่อไปต้องเร่งเข้ามาแก้ไข คือเรื่องเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม การศึกษา และสาธารณสุข ถึงแม้ราชบุรีจะมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ มีภาคอุตสาหกรรมและการผลิตไฟฟ้าเป็นลำดับต้นๆ ของประเทศ แต่กลับยังมีคนราชบุรีที่ถูกจัดอยู่ในระดับยากจนเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดคำถามว่า คนตัวเล็กตัวน้อยและคนหาเช้ากินค่ำเคยได้รับผลประโยชน์จากการพัฒนาเหล่านี้หรือไม่ ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากภาคอุตสาหกรรมและภาคการเกษตรเคยได้รับการแก้ไขหรือไม่ ราชบุรีมีตัวเลขทันตแพทย์และนักวิชาการสาธารณสุขที่ต่ำมาก และยังมีปัญหาในด้านการศึกษา โดยเฉพาะงบประมาณการพัฒนาเด็กเล็กอายุ 0-6 ขวบที่ขาดแคลน
นาย
พิธา กล่าวต่อไปว่า พรรคก้าวไกลเชื่อในการเมืองของคนตัวเล็ก เชื่อในความเป็นไปได้ของราชบุรีที่จะขับเคลื่อนโดยคนตัวเล็กอย่างชัยรัตน์ ผู้เคยเป็นพนักงานเอกชน และไต่เต้าขึ้นมาเป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่ผ่านมาชาวราชบุรีอาจจะคุ้นเคยกับการเมืองบ้านใหญ่และระบบอุปถัมภ์ แต่วันนี้ตนอยากเสนอว่า ราชบุรีก็มีทางเลือกเช่นเดียวกัน
“
ชัยรัตน์คือคนตัวเล็กคนหนึ่งในจังหวัดราชบุรี ถ้าชาวราชบุรีอยากได้ผู้แทนคนตัวเล็กในระดับเดียวกัน คนที่เข้าใจว่าอะไรที่ทำให้ประชาชนนอนไม่หลับ เข้าใจว่าประชาชนต้องการการเปลี่ยนแปลงอะไร ถ้าเชื่อในการเมืองแบบนี้ ผมอยากขอให้ทุกคนลองเปิดใจ ลองศึกษาตัวตน นโยบาย มุมมองปัญหา แล้วตัดสินใจ ประเทศยังไม่เปลี่ยน แต่ราชบุรีเปลี่ยนได้” นาย
พิธากล่าว
‘รุ้ง’ ลุกถาม นักวิชาการตอบชัด ‘นิรโทษกรรม’ ต้องรวม 112
https://www.matichon.co.th/politics/news_4694772
‘รุ้ง’ ลุกถาม นักวิชาการตอบชัด ‘นิรโทษกรรม’ ต้องรวม 112
เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ที่ห้อง ร.103 คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์) เขตพระนคร กรุงเทพฯ กลุ่ม ThumbRights ร่วมกับ องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) และ แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม จัดงาน เสวนา “
4 ปี 18 กรกฎา : เมื่อประชาชนมารวมตัว“
บรรยากาศภายในงาน มีวงเสวนาแบ่งออกเป็น 2 ช่วง รวมถึงนิทรรศการ ที่พาย้อนเวลาไปพบกับความหวัง ความฝันและความเจ็บปวดของเยาวชนและประชาชนซึ่งออกมาชุมนุมในช่วงเวลาดังกล่าว ทั้งนี้ เพื่อย้ำเตือนถึงความคืบหน้าในการบรรลุข้อเรียกร้องของเยาวชนปลดแอก ในการชุมนุม
#ม็อบ18กรกฏาคม เมื่อปี 2563 ทั้ง 3 ข้อ ได้แก่ 1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องยุบสภา 2.หยุดคุกคามประชาชน 3.ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และสะท้อนถึงภารกิจที่ต้องสานต่อในปัจจุบัน โดยเฉพาะการผ่านร่าง พ.ร.บ.การนิรโทษกรรมประชาชน โดยรวมคดีมาตรา 112
บรรยากาศภายในงาน มีวงเสวนาแบ่งออกเป็น 2 ช่วง รวมถึงนิทรรศการ ที่พาย้อนเวลาไปพบกับความหวัง ความฝันและความเจ็บปวดของเยาวชนและประชาชนซึ่งออกมาชุมนุมในช่วงเวลาดังกล่าว ทั้งนี้ เพื่อย้ำเตือนถึงความคืบหน้าในการบรรลุข้อเรียกร้องของเยาวชนปลดแอก ในการชุมนุม #ม็อบ18กรกฏาคม เมื่อปี 2563 ทั้ง 3 ข้อ ได้แก่
1.พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องยุบสภา
2.หยุดคุกคามประชาชน
3.ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และสะท้อนถึงภารกิจที่ต้องสานต่อในปัจจุบัน
โดยเฉพาะการผ่านร่าง พ.ร.บ.การนิรโทษกรรมประชาชน โดยรวมคดีมาตรา 112 เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดและคืนความเป็นธรรมให้กับสังคม
บรรยากาศเวลา 15.00 น. เข้าสู่วงเสวนาช่วงที่ 2 ”
ความยุติธรรมหลังการเคลื่อนไหว : อดีต ปัจจุบัน อนาคต“ ร่วมพูดคุยว่าทำไม 4 ปี ของข้อเรียกร้อง #หยุดคุกคามประชาชน แม้เปลี่ยนรัฐบาล ก็ยังไม่สำเร็จ โดย รศ.ดร.
ยุทธพร อิสรชัย ตัวแทนคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม, รศ.ดร.
มุนินทร์ พงศาปาน คณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์, นาย
เสกสิทธิ์ แย้มสงวนศักดิ์ นักวิชาการอิสระ ดำเนินรายการโดย อันเจลโลว์ แนวร่วมมธ.
ทั้งนี้ น.ส.
ปนัสยา สิทธิจิรวุฒนกุล หรือ
รุ้ง อดีตโฆษกกลุ่มราษฏร เดินทางมาร่วมรับฟังด้วย โดยบรรยากาศในช่วงท้าย มีการเปิดให้ผู้ที่ร่วมฟังถามคำถาม
น.ส.
ปนัสยา หรือ
รุ้ง กล่าวว่า ตนถูกดำเนินคดี ม.112 ถึง 10 คดียังไม่รวมคดีอื่นๆ อยากถามว่า ในการนิรโทษกรรม จะมีการเปิดวงพูดคุบกับนักกิจกรรมที่มีคดีการเมืองตอนนี้หรือไม่
“
คดีของรุ้ง คืบเข้ามาเรื่อยๆ คนธรรมดาอย่างพวกเรา ต้องไปรอการนิรโทษกรรมในคุกหรือไม่และอยากถามว่า ทั้ง 3 ท่าน ท่านมีความเห็นว่าผู้ที่ถูกดำเนินคดี ม.112 ควรได้รับการนิรโทษกรรมด้วยหรือไม่ เพราะอะไร” น.ส.
ปนัสยากล่าว
รศ.ดร.
ยุทธพร กล่าวว่า เราเคยเชิญผู้ที่ถูกดำเนินคดีทางการเมือง มาให้ความเห็นแล้ว แต่ขอไม่กล่าวชื่อ เพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคล ทั้งนี้ เราได้รับฟังมุมมองในการแสดงความเห็น ต่อทั้งเหตุการณ์ทางการเมือง การแสดงความเห็น การชุมนุมของกลุ่มเยาวชน ตั้งแต่ปี 2563-2567 หลังจากนี้ กระบวนการพูดคุย หรือเวที สำคัญมากที่ต้องมี แต่จะต้องเกิดขึ้นเมื่อเข้าสู่ขั้น เสนอสภาผู้แทนราษฎรแล้ว
“
แต่ผมไม่เห็นด้วย ว่าถ้าเข้าสภาไปแล้ว จะไปยกมือโหวตกันในสภาเลย ควรจะต้องมีการพูดคุย จากทุกวง ทุกกลุ่ม โดยอาจจะใช้วิธีเปิดสาธารณะ ให้ประชาชนได้ร่วมรับฟังมุมมอง รับฟังความเห็นพี่น้องจากทั่วประเทศ แล้วนำมาประกอบการตัดสินใจ เพราะจะใช้เพียงหลักประชาธิปไตยแบบผู้แทนอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องใช้หลัก ประชาธิปไตยแบบปรึกษาหารือ ซึ่งจะเป็นพลังด้วยในอีกทาง เพื่อสะท้อนภาพต่อไป เมื่อเข้าไปสู่ขั้นวุฒิสภา ว่าเป็นความเดือดร้อนของประชาชนที่ต้องได้รับการแก้ไข
ผมมองว่า ไม่ว่าใครก็ไม่ควรได้รับผลจากการดำเนินคดีทางการเมืองทั้งสิ้น รวมถึง ม.112 ด้วย เพื่อให้สังคมเดินไปข้างหน้าได้” รศ.ดร.
ยุทธพรชี้
ด้าน รศ.ดร.
มุนินทร์ กล่าวว่า ตนเห็นด้วยที่จะต้องนิรโทษกรรมโดยรวมคดี ม.112 เพราะ 1.เป็นการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน และ พิทักษ์สถาบัน 2.แก้ไขความผิดพลาดทางนิติศาสตร์ ผ่าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับนี้
ด้าน นาย
เสกสิทธิ์ กล่าวถึง ม.112 ว่า 1. โดยสภาพแล้วเป็นคดีทางการเมือง โดยแท้ 2.มุ่งเน้นไปที่การพิจารณาคดี ที่มุ่งเน้นวัตถุประสงค์ทางการเมือง จึงหมายความว่า ม.112 เป็นคดีทางการเมืองแน่ๆ
“
ถ้าเรานิรโทษกรรมโดยไม่รวม ม.112 ถือเป็นความล้มเหลวทางตรรกกะอย่างยิ่ง ถ้าจะตัด ม.112 ออก ไม่สมเหตุสมผล ดั้งนั้น ถ้าจะยืนยันนิรโทษกรรมคดีทางการเมือง ต้องนิรโทษกรรม คดี ม.112 ด้วย” นาย
เสกสิทธิ์กล่าว
ด้าน สตรีสูงวัย รายหนึ่งกล่าวว่า ฝากบอกรัฐสภาด้วยว่า ทำอะไรให้ไวๆ หน่อย
อึ้ง! ทุนจีนซื้อห้องคอนโดหรูเหมาเกือบยกชั้น ปล่อยเช่าเก็บเงิน ‘รายวัน-แพ็กเกจ’
https://www.dailynews.co.th/news/3671273/
อนาคตจะเป็นอย่างไร! ทุนจีนซื้อห้องคอนโดฯ หรูย่านห้วยขวาง เหมาเกือบยกชั้น ปล่อยเช่ารายวัน เป็นแพ็กเกจ ราคาตกวันละหลายพันบาท วอนตรวจสอบสิทธิสงวนไว้ให้คนไทยหรือไม่
จากกรณีโลกออนไลน์มีการแชร์ภาพป้ายโฆษณาข้อความภาษาจีนอยู่กลางสี่แยกรัชดา ถนนรัชดาภิเษก โดยเป็นข้อความชวนซื้อพาสปอร์ตย้ายประเทศ คาดเป็นจุดทำเลดี คนจีนอาศัยอยู่เยอะ เป็นแยกรถติด ทำให้คนเห็นป้ายโฆษณาเยอะนั้น
เกี่ยวกับเรื่องคนจีนมาอาศัยอยู่ย่านห้วยขวางจำนวนมากนั้น ผู้สื่อข่าวยังได้รับรายงานจากประชาชนที่ซื้อคอนโดมิเนียมหรูแห่งหนึ่งย่านห้วยขวาง ให้ข้อมูลว่า คอนโดฯ ที่ตนซื้อมาในราคามากกว่า 2 ล้านบาทและพักอาศัยอยู่ในปัจจุบัน พบว่ามีคนจีนเข้ามาพักอาศัยเยอะมาก ทั้งๆ ที่คอนโดฯ ไม่ให้มีการปล่อยเช่า แต่กลับมีคนจีนเข้ามาซื้อห้องเหมาเกือบยกชั้น และปล่อยเช่ารายวัน หรือปล่อยเช่าเป็นแพ็กเกจ ราคาตกวันละหลายพันบาท และพอมีการเช่าเกิดขึ้นก็ให้คีย์การ์ดกัน แม้ว่านิติบุคคลจะมีการป้องกันโดยการให้สแกนม่านตาก่อนเข้าตัวอาคาร เข้าลิฟต์ แต่ถ้ามีคีย์การ์ดก็เข้าห้องนอนได้โดยไม่ต้องไปใช้พื้นที่ส่วนกลาง
อย่างไรก็ตาม ถึงจะดำเนินการกวาดล้างไปบ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่หมด ตนเคยเห็นบริเวณชั้นล็อบบี้ (Lobby) มีนักท่องเที่ยวจีนเดินลากกระเป๋าเดินทางมานั่งอยู่จำนวนมาก หน้าไม่ซ้ำตลอด คอยคีย์การ์ดจากผู้ปล่อยเช่ารายวัน มองว่าบางอย่างก็ควรสงวนไว้เป็นของคนไทยหรือไม่ หรือกิจการอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ แต่ทุกวันนี้กลับมีคนต่างชาติยึดครอง ไม่เว้นแม้แต่ร้านรถพ่วงสีเหลืองที่ขายชานมไข่มุก มักมีคนจีนคอยส่งวัตถุดิบให้คนเวียดนามมายืนขายเป็นประจำ เวลาโอนชำระเงินก็เป็นชื่อบัญชีคนเวียดนาม จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบสิทธิของคนไทยและรักษาผลประโยชน์ตรงนี้ไว้บ้าง
JJNY : พิธาบุกเมืองโอ่ง│‘รุ้ง’ ลุกถาม นักวิชาการตอบชัด│อึ้ง! ทุนจีนซื้อคอนโดเกือบยกชั้น│เวียดนามมองโอกาสทองส่งออกข้าว
https://www.matichon.co.th/politics/news_4694710
“พิธา” บุกเมืองโอ่ง ช่วย “ชัยรัตน์” หาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.ราชบุรี ชู เป็นตัวแทนการเมืองของคนตัวเล็ก ขอชาวราชบุรีเปิดใจ พิจารณาเป็นทางเลือกแทนการเมืองบ้านใหญ่
เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ที่ อ.เมือง จ.ราชบุรี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม.พรรคก้าวไกล ร่วมกิจกรรมหาเสียงช่วย นายชัยรัตน์ ศักดิ์อิสระพงศ์ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.ราชบุรีในนามพรรคก้าวไกล
โดยนายพิธากล่าวความตอนหนึ่งว่า วันนี้ตนมาขอให้พี่น้องชาวราชบุรีให้ความไว้วางใจและเปิดใจกับพรรคก้าวไกล โดยในการเลือกตั้งใหญ่ครั้งที่ผ่านมาแม้พรรคก้าวไกลจะไม่ได้ สส.เขตในจังหวัดราชบุรี แต่ก็ได้รับความไว้วางใจจากชาวราชบุรีเลือก สส.บัญชีรายชื่อมาเป็นอันดับหนึ่ง รวมกว่า 2 แสนคะแนน วันนี้ตนจึงมาด้วยความถ่อมตน ขอชาวราชบุรีร่วมเปิดใจให้ตนได้รับฟัง ว่าต้องทำอย่างไรให้ชาวราชบุรีมอบคะแนนให้กับพรรคก้าวไกลอีกครั้ง และหลังจากนี้เราทุกคนในพรรคก้าวไกลจะมารับฟังชาวราชบุรีอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะถึงวันเลือกตั้ง
นายพิธา กล่าวย้ำว่า การเลือกตั้งนายก อบจ.ราชบุรีครั้งนี้มีความสำคัญอย่างมาก โดยโจทย์สำคัญที่นายก อบจ.ราชบุรีคนต่อไปต้องเร่งเข้ามาแก้ไข คือเรื่องเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม การศึกษา และสาธารณสุข ถึงแม้ราชบุรีจะมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ มีภาคอุตสาหกรรมและการผลิตไฟฟ้าเป็นลำดับต้นๆ ของประเทศ แต่กลับยังมีคนราชบุรีที่ถูกจัดอยู่ในระดับยากจนเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดคำถามว่า คนตัวเล็กตัวน้อยและคนหาเช้ากินค่ำเคยได้รับผลประโยชน์จากการพัฒนาเหล่านี้หรือไม่ ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากภาคอุตสาหกรรมและภาคการเกษตรเคยได้รับการแก้ไขหรือไม่ ราชบุรีมีตัวเลขทันตแพทย์และนักวิชาการสาธารณสุขที่ต่ำมาก และยังมีปัญหาในด้านการศึกษา โดยเฉพาะงบประมาณการพัฒนาเด็กเล็กอายุ 0-6 ขวบที่ขาดแคลน
นายพิธา กล่าวต่อไปว่า พรรคก้าวไกลเชื่อในการเมืองของคนตัวเล็ก เชื่อในความเป็นไปได้ของราชบุรีที่จะขับเคลื่อนโดยคนตัวเล็กอย่างชัยรัตน์ ผู้เคยเป็นพนักงานเอกชน และไต่เต้าขึ้นมาเป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่ผ่านมาชาวราชบุรีอาจจะคุ้นเคยกับการเมืองบ้านใหญ่และระบบอุปถัมภ์ แต่วันนี้ตนอยากเสนอว่า ราชบุรีก็มีทางเลือกเช่นเดียวกัน
“ชัยรัตน์คือคนตัวเล็กคนหนึ่งในจังหวัดราชบุรี ถ้าชาวราชบุรีอยากได้ผู้แทนคนตัวเล็กในระดับเดียวกัน คนที่เข้าใจว่าอะไรที่ทำให้ประชาชนนอนไม่หลับ เข้าใจว่าประชาชนต้องการการเปลี่ยนแปลงอะไร ถ้าเชื่อในการเมืองแบบนี้ ผมอยากขอให้ทุกคนลองเปิดใจ ลองศึกษาตัวตน นโยบาย มุมมองปัญหา แล้วตัดสินใจ ประเทศยังไม่เปลี่ยน แต่ราชบุรีเปลี่ยนได้” นายพิธากล่าว
‘รุ้ง’ ลุกถาม นักวิชาการตอบชัด ‘นิรโทษกรรม’ ต้องรวม 112
https://www.matichon.co.th/politics/news_4694772
‘รุ้ง’ ลุกถาม นักวิชาการตอบชัด ‘นิรโทษกรรม’ ต้องรวม 112
เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ที่ห้อง ร.103 คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์) เขตพระนคร กรุงเทพฯ กลุ่ม ThumbRights ร่วมกับ องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) และ แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม จัดงาน เสวนา “4 ปี 18 กรกฎา : เมื่อประชาชนมารวมตัว“
บรรยากาศภายในงาน มีวงเสวนาแบ่งออกเป็น 2 ช่วง รวมถึงนิทรรศการ ที่พาย้อนเวลาไปพบกับความหวัง ความฝันและความเจ็บปวดของเยาวชนและประชาชนซึ่งออกมาชุมนุมในช่วงเวลาดังกล่าว ทั้งนี้ เพื่อย้ำเตือนถึงความคืบหน้าในการบรรลุข้อเรียกร้องของเยาวชนปลดแอก ในการชุมนุม
#ม็อบ18กรกฏาคม เมื่อปี 2563 ทั้ง 3 ข้อ ได้แก่ 1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องยุบสภา 2.หยุดคุกคามประชาชน 3.ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และสะท้อนถึงภารกิจที่ต้องสานต่อในปัจจุบัน โดยเฉพาะการผ่านร่าง พ.ร.บ.การนิรโทษกรรมประชาชน โดยรวมคดีมาตรา 112
บรรยากาศภายในงาน มีวงเสวนาแบ่งออกเป็น 2 ช่วง รวมถึงนิทรรศการ ที่พาย้อนเวลาไปพบกับความหวัง ความฝันและความเจ็บปวดของเยาวชนและประชาชนซึ่งออกมาชุมนุมในช่วงเวลาดังกล่าว ทั้งนี้ เพื่อย้ำเตือนถึงความคืบหน้าในการบรรลุข้อเรียกร้องของเยาวชนปลดแอก ในการชุมนุม #ม็อบ18กรกฏาคม เมื่อปี 2563 ทั้ง 3 ข้อ ได้แก่
1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องยุบสภา
2.หยุดคุกคามประชาชน
3.ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และสะท้อนถึงภารกิจที่ต้องสานต่อในปัจจุบัน
โดยเฉพาะการผ่านร่าง พ.ร.บ.การนิรโทษกรรมประชาชน โดยรวมคดีมาตรา 112 เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดและคืนความเป็นธรรมให้กับสังคม
บรรยากาศเวลา 15.00 น. เข้าสู่วงเสวนาช่วงที่ 2 ”ความยุติธรรมหลังการเคลื่อนไหว : อดีต ปัจจุบัน อนาคต“ ร่วมพูดคุยว่าทำไม 4 ปี ของข้อเรียกร้อง #หยุดคุกคามประชาชน แม้เปลี่ยนรัฐบาล ก็ยังไม่สำเร็จ โดย รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย ตัวแทนคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม, รศ.ดร.มุนินทร์ พงศาปาน คณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์, นายเสกสิทธิ์ แย้มสงวนศักดิ์ นักวิชาการอิสระ ดำเนินรายการโดย อันเจลโลว์ แนวร่วมมธ.
ทั้งนี้ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวุฒนกุล หรือ รุ้ง อดีตโฆษกกลุ่มราษฏร เดินทางมาร่วมรับฟังด้วย โดยบรรยากาศในช่วงท้าย มีการเปิดให้ผู้ที่ร่วมฟังถามคำถาม
น.ส.ปนัสยา หรือ รุ้ง กล่าวว่า ตนถูกดำเนินคดี ม.112 ถึง 10 คดียังไม่รวมคดีอื่นๆ อยากถามว่า ในการนิรโทษกรรม จะมีการเปิดวงพูดคุบกับนักกิจกรรมที่มีคดีการเมืองตอนนี้หรือไม่
“คดีของรุ้ง คืบเข้ามาเรื่อยๆ คนธรรมดาอย่างพวกเรา ต้องไปรอการนิรโทษกรรมในคุกหรือไม่และอยากถามว่า ทั้ง 3 ท่าน ท่านมีความเห็นว่าผู้ที่ถูกดำเนินคดี ม.112 ควรได้รับการนิรโทษกรรมด้วยหรือไม่ เพราะอะไร” น.ส.ปนัสยากล่าว
รศ.ดร.ยุทธพร กล่าวว่า เราเคยเชิญผู้ที่ถูกดำเนินคดีทางการเมือง มาให้ความเห็นแล้ว แต่ขอไม่กล่าวชื่อ เพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคล ทั้งนี้ เราได้รับฟังมุมมองในการแสดงความเห็น ต่อทั้งเหตุการณ์ทางการเมือง การแสดงความเห็น การชุมนุมของกลุ่มเยาวชน ตั้งแต่ปี 2563-2567 หลังจากนี้ กระบวนการพูดคุย หรือเวที สำคัญมากที่ต้องมี แต่จะต้องเกิดขึ้นเมื่อเข้าสู่ขั้น เสนอสภาผู้แทนราษฎรแล้ว
“แต่ผมไม่เห็นด้วย ว่าถ้าเข้าสภาไปแล้ว จะไปยกมือโหวตกันในสภาเลย ควรจะต้องมีการพูดคุย จากทุกวง ทุกกลุ่ม โดยอาจจะใช้วิธีเปิดสาธารณะ ให้ประชาชนได้ร่วมรับฟังมุมมอง รับฟังความเห็นพี่น้องจากทั่วประเทศ แล้วนำมาประกอบการตัดสินใจ เพราะจะใช้เพียงหลักประชาธิปไตยแบบผู้แทนอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องใช้หลัก ประชาธิปไตยแบบปรึกษาหารือ ซึ่งจะเป็นพลังด้วยในอีกทาง เพื่อสะท้อนภาพต่อไป เมื่อเข้าไปสู่ขั้นวุฒิสภา ว่าเป็นความเดือดร้อนของประชาชนที่ต้องได้รับการแก้ไข
ผมมองว่า ไม่ว่าใครก็ไม่ควรได้รับผลจากการดำเนินคดีทางการเมืองทั้งสิ้น รวมถึง ม.112 ด้วย เพื่อให้สังคมเดินไปข้างหน้าได้” รศ.ดร.ยุทธพรชี้
ด้าน รศ.ดร.มุนินทร์ กล่าวว่า ตนเห็นด้วยที่จะต้องนิรโทษกรรมโดยรวมคดี ม.112 เพราะ 1.เป็นการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน และ พิทักษ์สถาบัน 2.แก้ไขความผิดพลาดทางนิติศาสตร์ ผ่าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับนี้
ด้าน นายเสกสิทธิ์ กล่าวถึง ม.112 ว่า 1. โดยสภาพแล้วเป็นคดีทางการเมือง โดยแท้ 2.มุ่งเน้นไปที่การพิจารณาคดี ที่มุ่งเน้นวัตถุประสงค์ทางการเมือง จึงหมายความว่า ม.112 เป็นคดีทางการเมืองแน่ๆ
“ถ้าเรานิรโทษกรรมโดยไม่รวม ม.112 ถือเป็นความล้มเหลวทางตรรกกะอย่างยิ่ง ถ้าจะตัด ม.112 ออก ไม่สมเหตุสมผล ดั้งนั้น ถ้าจะยืนยันนิรโทษกรรมคดีทางการเมือง ต้องนิรโทษกรรม คดี ม.112 ด้วย” นายเสกสิทธิ์กล่าว
ด้าน สตรีสูงวัย รายหนึ่งกล่าวว่า ฝากบอกรัฐสภาด้วยว่า ทำอะไรให้ไวๆ หน่อย
อึ้ง! ทุนจีนซื้อห้องคอนโดหรูเหมาเกือบยกชั้น ปล่อยเช่าเก็บเงิน ‘รายวัน-แพ็กเกจ’
https://www.dailynews.co.th/news/3671273/
อนาคตจะเป็นอย่างไร! ทุนจีนซื้อห้องคอนโดฯ หรูย่านห้วยขวาง เหมาเกือบยกชั้น ปล่อยเช่ารายวัน เป็นแพ็กเกจ ราคาตกวันละหลายพันบาท วอนตรวจสอบสิทธิสงวนไว้ให้คนไทยหรือไม่
จากกรณีโลกออนไลน์มีการแชร์ภาพป้ายโฆษณาข้อความภาษาจีนอยู่กลางสี่แยกรัชดา ถนนรัชดาภิเษก โดยเป็นข้อความชวนซื้อพาสปอร์ตย้ายประเทศ คาดเป็นจุดทำเลดี คนจีนอาศัยอยู่เยอะ เป็นแยกรถติด ทำให้คนเห็นป้ายโฆษณาเยอะนั้น
เกี่ยวกับเรื่องคนจีนมาอาศัยอยู่ย่านห้วยขวางจำนวนมากนั้น ผู้สื่อข่าวยังได้รับรายงานจากประชาชนที่ซื้อคอนโดมิเนียมหรูแห่งหนึ่งย่านห้วยขวาง ให้ข้อมูลว่า คอนโดฯ ที่ตนซื้อมาในราคามากกว่า 2 ล้านบาทและพักอาศัยอยู่ในปัจจุบัน พบว่ามีคนจีนเข้ามาพักอาศัยเยอะมาก ทั้งๆ ที่คอนโดฯ ไม่ให้มีการปล่อยเช่า แต่กลับมีคนจีนเข้ามาซื้อห้องเหมาเกือบยกชั้น และปล่อยเช่ารายวัน หรือปล่อยเช่าเป็นแพ็กเกจ ราคาตกวันละหลายพันบาท และพอมีการเช่าเกิดขึ้นก็ให้คีย์การ์ดกัน แม้ว่านิติบุคคลจะมีการป้องกันโดยการให้สแกนม่านตาก่อนเข้าตัวอาคาร เข้าลิฟต์ แต่ถ้ามีคีย์การ์ดก็เข้าห้องนอนได้โดยไม่ต้องไปใช้พื้นที่ส่วนกลาง
อย่างไรก็ตาม ถึงจะดำเนินการกวาดล้างไปบ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่หมด ตนเคยเห็นบริเวณชั้นล็อบบี้ (Lobby) มีนักท่องเที่ยวจีนเดินลากกระเป๋าเดินทางมานั่งอยู่จำนวนมาก หน้าไม่ซ้ำตลอด คอยคีย์การ์ดจากผู้ปล่อยเช่ารายวัน มองว่าบางอย่างก็ควรสงวนไว้เป็นของคนไทยหรือไม่ หรือกิจการอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ แต่ทุกวันนี้กลับมีคนต่างชาติยึดครอง ไม่เว้นแม้แต่ร้านรถพ่วงสีเหลืองที่ขายชานมไข่มุก มักมีคนจีนคอยส่งวัตถุดิบให้คนเวียดนามมายืนขายเป็นประจำ เวลาโอนชำระเงินก็เป็นชื่อบัญชีคนเวียดนาม จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบสิทธิของคนไทยและรักษาผลประโยชน์ตรงนี้ไว้บ้าง