[Spoil] Kingdom 802 กองทัพของแม่ทัพใหญ่

ก่อนอื่นก็ขอบคุณที่ติดตามครับ กะพริบตา ด้วยแรงสนับสนุนครั้งก่อนของหลายๆท่าน ผมก็ต้องสนองกลับด้วยการสปอยกันต่อไป แต่อย่าลืมอุดหนุนฉบับลิขสิทธิ์กันด้วยนะครับ

สำหรับสปอยรอบนี้ก็เป็นเหมือนเดิมอีกเช่นเคย เนื่องจาก Dawntrials ที่เป็น Expansion Patch ใหม่ ของ Final Fantasy XIV เพิ่งอัพเดท ผมซึ่งมีหน้าที่ต้องรีบปั่นเนื้อเรื่องเกมต่อ ทำให้ไม่มีเวลามากพอจะมาเกลาคำแปลให้สละสลวยครับ ดังนั้นเจออะไรแปลผิด ไม่ลื่นหู ไม่สละสลวยก็ทนๆอ่านกันไปก่อนนะ 55555 (Elden Ring ยังเพิ่งจะตบเมสเมอร์ไปเองหยอกเย้า ก็ต้องพักไว้ก่อนแล้ว) พูดมากพอละ มาลุยเลยดีกว่า

รูปเปิดตอน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Kindom 802 กองทัพของแม่ทัพใหญ่ 

ความเดิมตอนที่แล้วชางผิงจวินได้จัดแจงกลยุทธ์เสาหลักที่สอง คือการเร่งปรับโครงสร้างทางทหารใหม่ นั่นทำให้หน่วยเฟยซิ่น เล่อหัว และอวี้เฟิ่ง ได้รับการรี้พลเพิ่มพร้อมทั้งได้รับการอวยยศปลัดทัพในสังกัด การปันรี้พลมหาศาลครั้งนี้นั้นย่อมมิแคล้วจะเพื่อใช้ยาตราทัพเข้าพิชิตรัฐหานในปีหน้า 

ณ นครหลวงเสียนหยาง 
เพลานี้ปรากฎความวุ่นวายประหนึ่งโกลาหลก็มิปาน ขุนนางน้อยใหญ่ได้เร่งดำเนินการจัดทำสำมะโนครัวประชากรอันเป็นวาระแห่งชาติตามนโยบายเสาหลักที่หนึ่งของชางผิงจวิน ทุกคนต่างขะมักเขม้นดำเนินการอย่างรีบเร่ง เหตุเพราะราชสำนักกำหนดเส้นตายภายในฤดูร้อนปีหน้า 

บัดซบเจ้าชางผิงจวิน! ในยามที่คลังขาดแคลนเงินทองเพราะต้องปันส่วนให้ภาคเหนือใช้ป้องกัน ยังจะริอาจทำแผนที่ผลาญเงินบ้าคลั่งเช่นนี้เพิ่มขึ้นมาอีก! ใครก็ได้ไปเอาเอกสารเบิกเงินของเดือนถัดไปมา! 
เป็นหลี่ซือนี่เองที่ตบปากบ่นชางผิงจวิน พลางระหว่างเร่งคำนวณค่าใช้จ่าย 

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

เลิกพิรี้พิไรได้แล้วหลี่ซือ การที่พวกเรากลับมาแข็งขันได้เช่นนี้ ทั้งๆที่เมื่อสัปดาห์ก่อนสีหน้าแววตาพวกเราโรยราปานศพ ก็นับว่าประเสริฐโดยแท้ หากเราพยายามทำตามกลยุทธ์ชางผิงจวินขบคิดขึ้นมา เราจักหวนสู่เส้นทางการรวมจงหยวนอีกครั้ง 
ชางเหวินจวิน ตะโกนตอบหลี่ซือทั้งๆที่สองมือก็พัวพันกับรายการบัญชีเช่นเดียวกัน

เออ ข้ารู้แล้ว! เพราะเยี่ยงนั้นข้าถึงดีใจและมีไฟทำงานอย่างเต็มที่นี่ไง! 

หึดีใจรึ! ข้าเห็นเจ้าเอาแต่บ่นเสียมากกว่านะ 

วาจาระคายหูนัก หุบปากเสีย! 

สองขุนนางชั้นผู้ใหญ่โต้เถียงกันไปมา แต่ก็มิอาจดึงความสนใจจากขุนนางอื่นๆจากกระแสความอลหม่านรอบข้างที่เหล่าขุนนางอื่นต่างก็เร่งทำงานอย่างเต็มที่ 

อ้ายพวกโง่ ไม่มีเวลามามัวหลงระเริงหรอกนะ ข้าใช้เวลาสามวันในการจัดทำแผนงบประมาณนี้ขึ้นมา เพื่อที่จะทำสำมะโนครัวเสร็จทันฤดูร้อนปีหน้า เมื่อคำนวณจากปริมาณงานแล้ว จากนี้ไปอีกหนึ่งปีเกรงว่าทั้งเจ้าและข้าจะไม่มีเวลาให้หลับได้เต็มอิ่มเป็นแน่ 
ข้าจะอุทิศตัวสร้างเสาหลักนี้โดยใช้ชีวิตเป็นเดิมพัน!
หลี่ซือกล่าวถึงความมุ่งมั่นต่อแผนงานที่เขาสร้างขึ้นมา 

ชางเหวินจินได้แค่อื้ออึงพลางตอบรับ "อา... หลี่ซือ"

หลี่ซือ "เจ้าเองก็ต้องเตรียมร่างกฏหมายเกณฑ์ทหารไว้ให้พร้อมสรรพด้วย" 
ชางเหวินจวินตอบกลับ "ข้าเข้าใจดี จะให้ทำจนเลือดกบปากเลยก็ย่อมได้"

ด้วยเหตุนี้เหล่าขุนนางมิพ้นจะต้องวิ่งวุ่นตลอดหนึ่งปีจากนี้ไป โดยมีศูนย์กลางที่เสียนหยาง

ในช่วงที่เกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่นี้ มีเรื่องเล็กๆ เรื่องหนึ่งที่ในภายหลังจะกลายเป็น "เรื่องใหญ่"

แต่เดิมรัฐเอี้ยนพยายามจะเชื่อมสัมพันธไมตรีกับรัฐฉินอีกครั้ง จึงได้ส่งรัชทายาทมายังเสียนหยางเพื่อเป็นตัวประกัน
ทว่ารัชทายาทได้ตัดสินใจอาศัยช่วงเวลาที่เสียนหยางกำลังวุ่นวาย หนีกลับเอี้ยนโดยไม่ได้รับอนุญาต

และสิ่งนี้เองจะนำไปสู่ปัญหาใหญ่ระหว่างฉินกับเอี้ยนในภายหลัง
แต่สำหรับราชสำนักแล้ว ในเวลาเช่นนี้ เรื่องนี้นับว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยเกินกว่าจะใส่ใจ

ณ เมืองเอ้ออวี่ ดินแดนฉินส่วนลึกเข้ามายังแนวหน้าติดกับรัฐจ้าว

ทัพหวังเจี๋ยนที่เสียหายหนักกำลังพักฟื้นอยู่ ณ เมืองแห่งนี้

แม้นจะบอกว่ากำลังฟื้นฟู แต่จากความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นรุนแรงมากนัก เกินกว่าจะฟื้นฟูได้โดยง่าย

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

หวังเจี๋ยนนั่งอยู่ระเบียงชั้นบนมองออกไปยังด้านนอก ระหว่างนั้นที่ประตูก็มีเสียงดังขึ้น

ชางยาง "ใต้เท้า ข้าขออนุญาต"
หวังเจี๋ยน "เข้ามาได้"

หลังจากรับตัวซือหลิงกลับมา ชางยางก็เข้าพบหวังเจี๋ยนเตรียมพร้อมที่จะรับโทษจากการละทิ้งตำแหน่งออกไปตามหาซือหลิง
หวังเจี๋ยนไม่ได้ลงโทษแต่ประการใดและยังให้เขากลับเข้าประจำตำแหน่งเดิมต่อ
จริงๆแล้วนอกจากชางยางและหลิงซือ ยังมีซานซิ่วนายกองพันของทัพเถียนหลี่หมีรอดตายกลับมาอย่าง งงๆอีกคน

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ตัดมาในห้องพัก ตอนนี้มีเพียงหวังเจี๋ยน ชางยาง ซือหลิง และซินเซิง นายกอง 5,000 อยู่

ชางยางได้เปิดหัวข้อก่อนโดยพูดถึงสถานการณ์ที่เสียนหยาง
ดูเหมือนว่าที่เสียนหยางกำลังวุ่นวาย จากข่าวที่ได้รับ ชางผิงจวินกำลังทำการปฏิรูปครั้งใหญ่

ปฏิรูปงั้นหรือ? ชินเซิงตอบรับเรื่องราว

พวกเขากำลังทำสำมะโนประชากร เพื่อการนี้จะทำให้เราสามารถปฏิรูปโครงสร้างกองทัพได้
ในปีหน้าหน่วย อวี้เฟิ่ง เล่อหัว และเฟยซิ่นจะถูกมอบหมายรี้พลเพิ่มเป็น 50,000 ให้เตรียมประจำการศึกถัดไป

50,000 เชียวหรือ? นั่นก็แทบจะ...

ถูกต้อง อีกเพียงขั้นเดียวก็จะเป็นแม่ทัพใหญ่

หรือชะรอยว่าเสียนหยางจะให้ทัพเหล่านั้นผนวกกำลังจัดการหลี่มู่?

เหลือวิสัยนัก ราชสำนักย่อมมิอาจประเมินหลี่มู่ต่ำเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการศึกครั้งล่าสุด

นั่นซีนะ หากจะหาผู้ใดเอาชนะหลี่มู่ ย่อมมิพ้นใต้เท้าหวังเจี๋ยน

ชางยางรายงานข่าวสารพร้อมกับแลกเปลี่ยนความเห็นกับซินเซิง ขณะที่หวังเจี๋ยนยังคงนิ่งเงียบ

ซินเซิงกล่าวต่อว่า การศึกที่ซุ่ยอู่เราแพ้เพราะพลาดท่าให้กับกลยุทธ์การควบคุมข่าวสารของหลี่มู่ ไม่นึกว่าเจ้านั่นจะซุ่มกองทัพมากฝีมืออย่างทัพจากเมืองซิงเกอ

ชนะหนึ่งครั้งที่ทุ่งจูไห่ แพ้หนึ่งครั้งที่ซุ่ยอู่
ครั้งหน้าจะเป็นตัวตัดสินว่าฝ่ายใดเหนือกว่ากัน
และข้ามั่นใจว่า แปดถึงเก้าจากสิบส่วน ชัยชนะย่อมจะเป็นของใต้เท้าหวังเจี๋ยนเป็นแน่

"ผิดแล้ว"

หวังเจี๋ยนเปิดปากแทรกกระทันหันเป็นครั้งแรกพร้อมเอ่ยวาจาที่ทั้งสองไม่คาดคิด

"สิบส่วนจากสิบส่วนที่ข้าจะเป็นฝ่ายชนะ"

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

หวังเจี๋ยนพูดด้วยความมั่นใจ ในขณะที่ซินเซิงทำหน้าตกใจเล็กน้อย แต่ชางยางกลับออกสีหน้าเหมือนข้องใจนัก

ข้าน้อยขออภัย จริงดังที่ใต้เท้ากล่าวแล้ว
ซินเซิงตอบรับคำนั้น

หวังเจี๋ยนสัมผัสได้ถึงความเงียบจากชางยางจึงถามออกไปว่า
ชางยาง เจ้าคิดว่าข้าอวดดีไปไหม?

ชางยางทำสีหน้าพลางข้องใจพร้อมกับตอบว่า
ข้าน้อยมิกล้าแต่หากจะให้เรียนตามความจริงแล้ว ข้าน้อยเห็นเป็นเช่นนั้น
เราเพิ่งจะเผชิญผลลัพธ์ของศึกมาในสภาพอดสู การที่ใต้เท้ากล่าวเช่นนั้น เป็นใครๆก็...

ข้าไม่ได้อวดดี
หากข้าอยากจะชนะหลี่มู่ ข้าสามารถลงมือได้ทุกเมื่อที่ข้าต้องการ

คำพูดของหวังเจี๋ยนยิ่งสร้างความตื่นตะลึงและความแคลงใจให้กับชางยางมากขึ้น

ชายผู้นั้นมีจุดอ่อนอันใหญ่หลวง
หากข้าต้องการจะฆ่าเจ้านั่น ย่อมเป็นเรื่องง่ายดั่งพลิกฝ่ามือ

เช่นนั้นแล้ว ใต้เท้า ทำไมท่านถึงไม่ทำอย่างนั้นเสียแต่ทีแรก
ชางยางรีบถามด้วยความสงสัย

เพราะข้าคำนวณไว้แล้วแม้นมิใช้จุดอ่อนก็สามารถเอาชนะหลี่มู่ด้วยการเผชิญหน้าตรงๆได้
และหากข้าชนะ ข้าสามารถเลือกที่จะเอาชีวิตเขา

"หรือเกลี้ยกล่อมให้มาเป็นลูกน้องสินะขอรับ"
ชางยางแย่งพูดต่อจากหวังเจี๋ยนเพราะรู้นิสัยใจคอดี

ใต้เท้า ข้าขอบังอาจพูดโดยทวนคำพูดของท่าน 
"เพราะเลือกที่จะทำศึกโดยเผชิญหน้ากับหลี่มู่ตรงๆ เราถึงได้เสียย่ากวงกับเถียนหลี่หมี่นี่ไง!"
ชางยางสุดจะอดกลั้นความคับแค้นใจและได้ตวาดออกมาโดยไม่ไว้หน้านายของตน

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

แม่ทัพชางยาง..
ซินเซิงกล่าวขึ้นเบาๆเพื่อเรียกให้ชางยางใจเย็น

ข้าน้อยขออภัย...
ชางยางกล่าวหลังจากเริ่มอารมณ์เย็นลง

หลังจากชางยางสงบได้ หวังเจี๋ยนจึงพูดต่อ
เป็นดังเจ้าว่า แม้นข้าจะมีแผนการเบื้องหลังที่ยอดเยี่ยมเพียงใดแต่การเอ่ยหลังจากมาพ่ายแพ้ย่อมเป็นที่น่าสมเพช
ตอนนี้เรามาร่วมไว้อาลัยให้กับย่ากวงและเถียนหลี่หมี แล้วพลางคอยเฝ้ามองทิศทางการรบของฉินและรัฐอื่นๆจากนี้เถิด

ตัดมาที่หน่วยเฟยซิ่น
ซิ่นได้แจ้งข่าวสารเรื่องการอวยยศให้กับคนในหน่วย

น้ายวนและฉูสุ่ยได้รับการอวยยศให้เป็นนายกอง 5,000 สร้างความตกใจให้กับน้ายวนเป็นอย่างมาก ขณะที่คนในทัพต่างฮึกเหิมดีใจกับการเติบใหญ่ของน้ายวน แต่น้ายวนกลับไม่ยินดีเสียเท่าไหร่

กรณีอย่างฉุสุ่ยข้ายังพอเข้าใจ แต่กระทั่งคนเยี่ยงข้ามิคู่ควรเลย ข้าไม่ได้เก่งกล้าอย่างท่านแม่ทัพที่เคยสังหารขุนศึกหรือนายกองตัวฉกาจ การที่ข้าได้รับการเลื่อนขั้นเช่นนี้ผิดวิสัยนัก

แต่เจ้าก็เป็นแล้วนี่ไง ยินดีด้วยนะ น้ายวน
ซิ่นตอบกลับราวกับไม่สนใจสิ่งที่น้ายวนพูด

ไม่ใช่แล้วซิ่น การเป็นถึงนายกอง 5,000 อีกแค่เพียงขั้นเดียวข้าจักเป็นแม่ทัพ เมื่อเทียบกับซิ่นที่กรำศึกอย่างยาวนาน สังหารขุนศึกเก่งกาจนับไม่ถ้วน สร้างความชอบอย่างมหันต์ กระนั้นแล้วท่านยังคงไต่เต้ามาถึงแค่แม่ทัพ เมื่อเทียบกับข้าที่ไม่ได้ทำอะไรเลยได้เลื่อนขั้นเป็นนายกอง 5,000 มันไม่สมแก่เหตุเลยสักนิด

มิใช่เช่นนั้นดอก หากเจ้าไม่ได้ทำอะไรจริงๆ เจ้าย่อมไม่ได้รับการอวยยศมาขั้นนี้แน่ หน่วยเฟยซิ่นมีทุกวันนี้ได้เพราะได้เจ้าคอยประคองไว้เบื้องหลัง

เจ้าทั้งคอยดูแลพวกเด็กใหม่ ทั้งยังเป็นกำลังสำคัญ คอยตำหนิติเตียนอ้ายพวกทึ่มให้อยู่กับร่องกับรอย ช่วยประสานให้หน่วยสามารถคงอยู่ได้ ด้วยเหตุนี้แล้วข้าจักสามารถมุ่งไปข้างหน้าได้อย่างเต็มที่โดยมิต้องพะวงหลัง คนที่คอยช่วยสนับสนุนหน่วยเฟยซิ่นมาตลอดเป็นเจ้ามิใช่ใครอื่น การได้เลื่อนเป็นนายกอง 5,000 ย่อมคู่ควรแล้ว

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ซิ่นกล่าวคำเสริมความมั่นใจทำเอาน้ายวนน้ำตาแตก
เอาละซี ปัญหาอีกอย่างคือ... 
ซิ่นเอ่ยพลางทำท่าหนักใจจะประกาศเรื่องสำคัญให้เชียงฮุ่ย

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

"เชียงฮุ่ย เจ้าได้รับการอวยยศให้เป็นแม่ทัพ"
หลังจากกล่าวเสร็จเชียงฮุ่ยทำท่าเพียงงงเล็กน้อย ในขณะที่เชียงหลี่และพลของเชียงฮุ่ยเฮลั่น

งั้นข้าก็ได้ย่างก้าวเข้าสู่เส้นทางของยอดขุนศึกในใต้หล้า!

ยังหรอกเฟ้ย!!!
เชียงฮุ่ยพูดไม่ทันจบดีซิ่นรีบสกัดทันควัน

อย่างไรเสีย ในที่สุดหน่วยเฟยซิ่นก็สร้างขุนศึกได้ด้วยตัวเองเสียที

เจ้าหมายความว่ายังไง เตียว?

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ในทัพของหวังเจี๋ยน ย่ากวง เถียนหลี่หมี และขุนศึกคนอื่นๆล้วนเป็นระดับแม่ทัพ และทั้งหมดนั้นอยู่ใต้บังคับบัญชาของแม่ทัพใหญ่หวังเจี๋ยน

งั้นก็หมายความว่าต่อไปจะมีแม่ทัพเกิดขึ้นจากหน่วยเฟยซิ่นได้อีก!? ชะรอยว่าแม่ทัพคนต่อไปย่อมมิพ้นคนที่เป็นนายกอง 5,000 ในตอนนี้!?
กานโต่วและคนอื่นๆต่างคาดหวังขึ้นมา แต่นั่นยิ่งทำเอาน้ายวนออกอาการหวั่น

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

อย่างไรเสียหากเราไม่มีคนที่มีศักยภาพพอ ทางเสียนหยางย่อมจะพึงหาแม่ทัพมาสังกัดให้ หากเป็นเช่นนั้นย่อมแปลว่าจะมีแม่ทัพที่ไหนมาวางก้ามสั่งพวกเจ้าได้เต็มที่

ต่อ คห.1
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่