สวัสดีครับ
เจอกันอีกครั้งกับสปอยประจำสัปดาห์ คราวนี้สปอยมาเร็วมาก ที่จริงออกตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่ดันมาออกวันเดียวกับ Raid Boss ประจำแพทช์ใหม่ FF14 มา แน่นอนว่าผมเลือกเกมก่อน 55555
แถมตอนนี้คุยกันเยอะมาก สนุกก็จริงแต่กว่าจะเสร็จก็ดึกเลย
ว่าแล้วก็ลุยกันครับ
สุดท้ายอย่าลืมอุดหนุนฉบับลิขสิทธิ์นะครับ
Kingdom 804 กองทัพวิสามัญใหม่
ความเดิมตอนที่แล้ว
ขณะที่การประชุมหารือกันเพื่อบุกรัฐหานของทัพเถิงและทัพเฟยซิ่นจบประเด็นทิ้งท้ายเรื่องแผนของเชียงฮุ่ย
ในเวลาเดียวกัน ณ เสียนหยาง เมืองหลวงรัฐฉิน
ทะเบียนสำมะโนประชากรชุดสุดท้ายได้ถูกบรรจงใส่เข้าชั้นเป็นที่เรียบร้อย ชางเหวินจวินและหลี่ซือต่างยินดีกำลังจะประสานสวมกอดกัน แต่ไม่ทันจะได้ทำก็ล้มพับกันถ้วนหน้า รวมถึงข้าราชบริพารคนอื่นๆก็ประสบเช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นผลจากการตรากตำทำงานหนักจนลุล่วง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ในรัชสมัยฉินอ๋องที่ปีที่ 16
การทำสำมะโนครัวราษฎรของรัฐฉินประสบผลสำเร็จอย่างดี
เจิ้งและชางผิงจวินยืนอยู่ด้านบนระเบียงรั้วของพระราชวังได้เบิกวาจาคุยกันกับผลลัพธ์ที่ทำสำเร็จ
เสาหลักแรก สำเร็จลุล่วงอย่างสมบูรณ์
เจิ้งกล่าวเปิดประเด็น
งานหนักเช่นนี้ชางเหวินจวิน หลี่ซือและเหล่าข้าราชบริพารทำงานลุล่วงได้นับเป็นคุณโดยแท้
ชะรอยว่าปริมาณงานครั้งนี้ เราต้องใช้งานบุคลากรและเจ้าหน้าที่รัฐเกินกว่าที่คาดการณ์มิใช่น้อยเลย
แต่เพราะเหตุนั้น เราจึงได้ข้อมูลสำมะโนประชากรอันล้ำค่ายิ่งอย่างประเมินมิได้
ชางผิงจวินสรุปสถานการณ์และผลลัพธ์เกิดขึ้นอันบอกได้ว่านี่คือสิ่งสำคัญและพร้อมแล้วที่จะดำเนินการขั้นถัดไป
เช่นนั้นแล้ว เราย่อมหมายจะเคลื่อนไหวก้าวถัดไปในทันที...
ต้าอ๋องตรัสได้ถูกแล้ว เวลานี้ข้าจักเตรียมคำสั่งเกณฑ์รี้พลทั่วประเทศ เราจะสร้างกองทัพขึ้นมาใหม่และเร่งกระบวนทัพให้พร้อม หรืออีกนัยน์หนึ่งคือเสาหลักที่สอง และหลังจากนั้น ก็จะเริ่มเข้าสู่การเริ่มสร้างเสาหลักที่สาม
ชางผิงจวินทวนแผนการที่ตระเตรียมไว้ เจิ้งตอบรับตามที่เห็น
หากจะคะเนแล้ว มาตรว่านี่คงเห็นโอกาสสุดท้ายของพวกเรา ข้าจักทุ่มเททุกอย่างที่มีด้วยความระมัดระวังเป็นที่สุด
ชางผิงจวินกล่าวอย่างตั้งมั่น
ชางผิงจวิน นี่เป็นอีกครั้งที่นับได้ว่าสวรรค์โปรดแล้วที่ข้าได้เจ้ามาเป็นเสนาบดีและผู้บัญชาการทหารสูงสุด
ได้เจ้าช่วยรังสรรค์แผนการกลับสู่เส้นทางของการรวมจงหยวนอีกครั้งได้เช่นนี้ นับเป็นบุญคุณต่อรัฐยิ่งนัก ข้าขอคารวะให้เจ้า
เจิ้งเฝ้ามองชางผิงจวินที่เอ่ยวาจาอันมุ่งมั่นแรงกล้า จึงกล่าวขึ้นพร้อมยกมือคารวะ ทำเอาชางผิงจวินตกใจเล็กน้อย
ต้าอ๋องตรัสเกินไปแล้วขอรับ ข้าน้อยมิบังอาจ แต่นี่ยังเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น ช่วงเวลาอันชื่นมื่นยังคงต้องรอหลังจากเราปราบรัฐหานสำเร็จเสียก่อน ตอนนี้ผลลัพธ์ยังไม่เป็นที่ประจักษ์ ข้าน้อยยังมิพร้อมรับคำสรรเสริญจากท่านได้
ชางผิงจวินกล่าวตอบพร้อมยกมือคารวะคืน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
นั่นซีนะ พวกเราต้องทำมันให้สำเร็จ
ชางผิงจวิน เราจักแม้นมั่นเป็นสักขีพยานของปลายทางการรวมจงหยวนด้วยกันเถิด
ชางผิงจวินที่หลับตายกมือคารวะค้าง ลืมตาขึ้นมารับคำ
"เข้าใจแล้วขอรับ"
เจิ้งพยักหน้าให้ทีหนึ่ง ชางผิงจวินจึงเอ่ยปากขอตัวไปตระเตรียมงานต่อ ขณะที่เจิ้งยังคงยืนทอดสายตามองไปยังเบื้องหน้าจากบนพระราชวัง
ณ เวลานี้ ทั่วสารทิศของรัฐฉิน มีการเกณฑ์ผู้คนมากมาย ชาวเมืองหลายคนถูกเกณฑ์เข้าร่วมทัพพร้อมอำลาครอบครัวด้วยความปีติและฮึกเหิม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
การเกณฑ์ทหารในครั้งนี้ไม่ได้รวบรวมกำลังพลมาจากหนแห่งเดียว แต่มีการรวบรวมจากหลายๆภูมิภาคตามอัตราส่วนประชากรทั้งหมดในภูมิภาคนั้น ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีใครคาดคิดถึงปริมาณกำลังพลที่จะได้ในทีแรก แต่หลังจากรี้พลใหม่ๆถูกสมทบเข้ามาเรื่อยๆ พวกเขาก็เริ่มตระหนักถึงจำนวนรี้พลทั้งหมดที่เกณฑ์มาจากทั่วทั้งรัฐ แค่เพียงปีเดียว รัฐฉินสามารถรวบรวมรี้พลใหม่มาได้มากถึง 20,000 นาย**
**ไม่รู้ว่าต้นฉบับมาผิดหรือเปล่า เพราะทางแปล Eng ก็บอกว่าอาจารย์ฮาระน่าจะเขียนผิด ควรจะเป็น 200,000 มากกว่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
การเคลื่อนไหวที่ไม่ปรกติเช่นนี้ รัฐอื่นๆย่อมตระหนักถึงและก่อให้เกิดข่าวสารอันสร้างความโกลาหลขึ้น
ตอนเหนือของรัฐจ้าว เมืองฟานอู๋
รายงาน!!
มีการรวมรวมรี้พลจำนวนมากทั่วทั้งรัฐฉิน และมีส่วนหนึ่งมุ่งหน้ามายังทางทิศเหนือและรวบรวมกำลังกันได้ประมาณ 80,000 นาย กำลังมุ่งหน้าไปยังเมืองกวนหยู่
ปะ.. แปดหมื่น!?
เดี๋ยวก่อนนะ...
อีกทั้งยังมีรายงานมาอีกว่า จำนวนกำลังพลที่เคลื่อนไหวอยู่บริเวณภาคใต้และภาคกลางของรัฐฉินมีรวมๆแล้วเกินกว่า 150,000 นาย!
นี่มัน.. จะบอกว่า อ้ายพวกฉินเกณฑ์รี้พลจากที่ไหนไม่รู้มาได้อีกเกือบ 300,000 เลยรึ!?
เป็นไปไม่ได้! พวกมันเพิ่งจะเสียรี้พลมากกว่า 200,000 คนจากการพ่ายศึกในช่วงสองปีที่ผ่านมา ไม่มีทางที่จะสรรหากำลังพลอีก 300,000 เพียงแค่ปีเดียวเป็นแน่!
หรือว่าอ้ายพวกฉินสิ้นไร้ไม้ตรอกจนต้องระดมพลจากทุกที่ ไม่เว้นแม้แต่ทหารคุ้มกันประจำเมืองเลยเสียกระมัง?
ไม่ผิดแน่ พวกมันคงรวบรวมทหารมาจากทุกมุมเมืองตลอดทั่วทั้งรัฐถึงได้สะสมกำลังได้เพียงนี้!
ท่ามกลางความแตกตื่นของเหล่าขุนนาง หลี่มู่เองก็มีสีหน้าตึงเครียดหลังจากตระหนักถึงการเคลื่อนไหวอันคาดไม่ถึงของฝ่ายฉิน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รัฐฉู่ นครหลวงอิ่ง
รายงานด่วน!!
ทัพฉินทางตอนใต้มีการเสริมกำลังทหารเข้ามาใหม่อย่างต่อเนื่อง หากรวมกันทั้งรัฐแล้วมีกำลังพลเพิ่มขึ้นประมาณ 200,000 คน
อะไรกัน..!?
มันเกิดอะไรขึ้นกับอ้ายพวกฉินกันแน่!?
พวกมันไม่น่าจะมีกองทัพมาเพิ่มได้หลังจากพ่ายศึกติดๆกันแบบนี้
เมื่อกี้เจ้าบอกว่า 300,000 งั้นรึ!?
ต้องเป็นรายงานผิดพลาดแน่ๆ
พวกมันคงวางอุบายควบคุมข้อมูลข่าวสาร ปล่อยข้อมูลลวงออกมา
ใช่แล้วต้องเป็นแบบนั้นแน่ เราจะส่งทัพไปเสริมทางตอนเหนือตามแผนเดิม!
ก็อาจจะใช่ แต่เราเพิ่งได้รับข้อมูลมาอีกว่ามีรี้พลอีก 30,000 นายกำลังมาเสริมให้ทัพเหมิงอู่เพิ่ม
นั่นก็คงข่าวลวงเหมือนกันแหละ!
ท่ามกลางความโกลาหลที่เกิดขึ้น หลี่เหยี่ยนมหาอุปราชรัฐฉู่เอ่ยปากถามความเห็นวาหลิน
เจ้าคิดว่าอย่างไร วาหลิน? ขณะที่วาหลินยังคงยิ้มเยาะนิ่งเงียบ จนกระทั่งหลี่เหยียนพูดต่อ
หากคิดโดยสามัญ พวกนั้นคงรวบรวมทหารเท่าที่เหลือทั้งหมดแล้วจัดสรรทัพขึ้นมาใหม่
แต่หากทำเช่นนั้นหมายว่าจะต้องเกณฑ์กำลังจากทุกหัวมุมเมือง อันถือเป็นพฤติกรรมวู่วามยิ่งนัก
วิญญูชนจึงย่อมไม่อาจยึดข้อสรุปแบบนี้
ใช่เสียที่ไหนล่ะ อ้ายพวกนั้นไม่ได้ดึงกำลังจากหัวเมืองที่เหลือ รี้พลเหล่านั้นล้วนเป็นทัพใหม่
วาหลินตัดข้อสรุปของหลี่เหยียนทิ้ง
เช่นนั้นแล้ว เจ้าพวกนั้นหารี้พลเรือนแสนมาจากไหนกัน?
นี่เจ้าจำรายงานที่ขุนนางข้าราชการฉินวิ่งพล่านทั่วรัฐไม่ได้รึไง?
พวกมันเกณฑ์รี้พลจากเมืองต่างๆหรอกหรือ?
แล้วเจ้าคิดว่าลำพังแค่เกณฑ์คนจากเมืองจะได้ถึงสามแสนไหมเล่า? สิ่งที่พวกมันทำคืออ้ายนั่นต่างหาก.. สำมะโนประชากรไงล่ะ
สำมะโนจากไหนกัน?
ก็จากทั้งประเทศไง
ทะ..!? ทั้งประเทศ!
บทสนทนาสองมหาอุปราชทำเอาเหล่าขุนนางตกตะลึงถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
หากเป็นข้าคงได้ตายเสียก่อนเป็นแน่หากจะกระทำการใหญ่เยี่ยงนั้นที่มหารัฐฉู่ของเรา
วาหลินยังคงเสริมต่อให้เห็นว่าการเกณฑ์พลโดยทำสำมะโนประชากรนั้นมิใช่เรื่องง่ายจะเลียนแบบได้
หลี่เหยียนตระหนักเรื่องนั้นดี จึงได้ถามให้แน่ใจอีกครั้ง
ตะ แต่ว่า รัฐฉินเองก็เป็นรัฐที่กว้างใหญ่ไพศาล อีกทั้งยังติดเทือกเขาป่าและที่ราบอีกมาก พวกมันทำกันได้จริงๆงั้นรึ!?
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
วาหลินผายมือเรียกปาเมี่ยวให้เข้าใกล้ พอปาเมี่ยวเดินมาถึงระยะ วาหลินก็ยกเท้าถีบปาเมี่ยวกระเด็นพร้อมแถลงไขสิ่งที่หลี่เหยียนถาม
"รีดรี้พลมาได้ถึงขั้น 300,000 มันก็ต้องมีแค่วิธีนี้ละวะ!"
หึหึ ไม่นึกเลยว่าฉินอ๋องและชางผิงจวินจะลงมือถึงขั้นนี้
ข้าอุตส่าห์คิดว่าแผนของพวกมันล้มพับกลับบ้านไปแล้ว แต่มันยังฟื้นกลับขึ้นมาได้ นี่พวกแกกระหายที่จะรวมจงหยวนถึงขั้นรีดเลือดจนหยดสุดท้ายรึไงกัน!? หึหึ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รัฐเว่ย เมืองต้าเหลียง
รายงานด่วน!!
กองทัพฉินขนาดใหญ่กำลังเดินทัพมุ่งหน้ามาทางทิศตะวันออกตามแนวแม่น้ำฮวงโห
ทิศทางนั้นมันมุ่งหน้ามายังพวกเรานี่!?
ข่าวการเคลื่อนไหวในท้องพระโรงของเว่ยเองก็ได้รับข่าวอันน่าตื่นตะลึงไม่แพ้กัน
เจ้าพวกฉินมันสร้างกองทัพขึ้นมาใหม่เป็นเรื่องจริงหรือนี่
มหาอุปราชเย่ว์ฮวาก่วงเอ่ยขึ้นมา
กุนซือปัวหลีจึงเสริมความถึงก้าวถัดไปของทัพฉินนี้
พวกมันคิดจะโจมตีเรารึไงนะ?
"มิใช่พวกเราดอก"
อู๋เฟิ่งหมิงตัดความทันที หลังจากยืนวิเคราะห์สถานการณ์มาได้พักหนึ่งแล้ว
ปัวหลีจึงได้กล่าวถามต่อ
หากมิใช่เรา แล้วเป็นใคร?
ยาตราทัพมาถึงเพียงนี้คงมิพ้นแล้วว่ามุ่งหมายจะโจมที่ไหนสักแห่งเป็นแน่
ระหว่างที่อู๋เฟิ่งหมิงกำลังจ้องแผนที่พิเคราะห์ถึงรูปแบบการเคลื่อนทัพ ก็มีเสียงตะโกนดังขึ้นมา
รายงานด่วนจากเมืองลั่วจื่อ!
ขุนนางอื่นๆตกใจเอะอะหลังจากได้ยินว่าเป็นเมืองลั่วจื่อ
เมืองลั่วจื่อ!?
ใช่ลั่วจื่อที่ติดอยู่กับแม่น้ำฮวงโหนั่นหรือเปล่า!?
"มิพ้นจะเป็นทัพเรือฉินซีนะ!!"
อู๋เฟิ่งหมิงตะโกนถามทันที
ขอรับ! จากสายของเราที่เฝ้าระวังที่นั่น ได้แจ้งมาว่าพบทัพเรือฉินจำนวนมากล่องมาตามลำน้ำของฮวงโห ปริมาณทัพเรือใหญ่เพียงพอที่จะขนรี้พลได้หลักหมื่น!!
อะไรนะ!!
เหล่าขุนนางแตกตื่นกับความใหญ่ของทัพเรือฉินอันไม่คาดคิดว่าจะก่อรูปการณ์จะบุกในช่วงเวลาเช่นนี้
เย่ว์ฮวาก่วง "พวกนั้นคิดจะข้ามมายังฝั่งเว่ยของเรา"
ปัวหลี "มิเป็นอื่น"
สองขุนนางระดับสูงสรุปได้อย่างไม่ยากเย็น
"เฟิ่งหมิง!!"
เว่ยอ๋องจิ๋งหมิ่งหวัง ไม่อาจทนอยู่เฉยได้จึงตะโกนเรียกชื่ออู๋เฟิ่งหมิงขึ้นมาเพื่อกระตุ้นให้เขาหาทางรับมือ
ลองต้าอ๋องถึงกับนั่งไม่ติด อู๋เฟิ่งหมิงจึงคลายกังวลด้วยการเริ่มอธิบาย
ต้าอ๋องโปรดวางพระทัย พวกมันมิได้โง่พอจะบุ่มบ่ามบุกรัฐเราทันที
เป้าหมายของพวกมันคือรัฐหานเสียต่างหาก
มาตรว่าจะโจมตีรัฐหาน ย่อมต้องหาทางสกัดการส่งกำลังเสริมจากเว่ยเป็นแม้นมั่น เพื่อการนี้เมืองลั่วจื่อจึงนับได้ว่าเป็นชัยภูมิที่ประเสริฐแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สกัดการส่งทัพหนุน? อ้ายพวกฉินคิดจะพิชิตหานให้เสียสิ้นแล้วหรือ?
มหาอุปราชเย่ว์ฮวาก่วงกล่าวหลังจากฟังการวิเคราะห์ของอู๋เฟิ่งหมิง
ผิดวิสัยของพวกฉินยิ่งนัก หรือเวลานี้เราควรเพิกเฉยดี?
ปัวหลีกล่าวถามอู๋เฟิ่งหมิง
ไม่ต้องคิดให้มากความ ถ่ายทอดคำสั่ง! แจ้งไปยังเมืองลั่วจื่อให้ส่งทัพมุ่งหน้าไปยังริมฮวงโหทันที!!
อู๋เฟิ่งหมิงสั่งการฉับไว คนส่งสารรีบตอบรับทันที
ปัวหลี "เอาละซี เวลานี้คือการแข่งขันกับเวลาซีนะ"
อู๋เฟิ่งหมิง "ใช่แล้ว แต่โดยปรกติแล้ว... เรื่องนี้ฝ่ายฉินย่อมคาดการณ์ไว้แล้วเช่นกัน"
ต่อ คห.1
[Spoil] Kingdom 804 กองทัพวิสามัญใหม่
เจอกันอีกครั้งกับสปอยประจำสัปดาห์ คราวนี้สปอยมาเร็วมาก ที่จริงออกตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่ดันมาออกวันเดียวกับ Raid Boss ประจำแพทช์ใหม่ FF14 มา แน่นอนว่าผมเลือกเกมก่อน 55555
แถมตอนนี้คุยกันเยอะมาก สนุกก็จริงแต่กว่าจะเสร็จก็ดึกเลย
ว่าแล้วก็ลุยกันครับ
สุดท้ายอย่าลืมอุดหนุนฉบับลิขสิทธิ์นะครับ
Kingdom 804 กองทัพวิสามัญใหม่
ความเดิมตอนที่แล้ว
ขณะที่การประชุมหารือกันเพื่อบุกรัฐหานของทัพเถิงและทัพเฟยซิ่นจบประเด็นทิ้งท้ายเรื่องแผนของเชียงฮุ่ย
ในเวลาเดียวกัน ณ เสียนหยาง เมืองหลวงรัฐฉิน
ทะเบียนสำมะโนประชากรชุดสุดท้ายได้ถูกบรรจงใส่เข้าชั้นเป็นที่เรียบร้อย ชางเหวินจวินและหลี่ซือต่างยินดีกำลังจะประสานสวมกอดกัน แต่ไม่ทันจะได้ทำก็ล้มพับกันถ้วนหน้า รวมถึงข้าราชบริพารคนอื่นๆก็ประสบเช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นผลจากการตรากตำทำงานหนักจนลุล่วง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ในรัชสมัยฉินอ๋องที่ปีที่ 16
การทำสำมะโนครัวราษฎรของรัฐฉินประสบผลสำเร็จอย่างดี
เจิ้งและชางผิงจวินยืนอยู่ด้านบนระเบียงรั้วของพระราชวังได้เบิกวาจาคุยกันกับผลลัพธ์ที่ทำสำเร็จ
เสาหลักแรก สำเร็จลุล่วงอย่างสมบูรณ์
เจิ้งกล่าวเปิดประเด็น
งานหนักเช่นนี้ชางเหวินจวิน หลี่ซือและเหล่าข้าราชบริพารทำงานลุล่วงได้นับเป็นคุณโดยแท้
ชะรอยว่าปริมาณงานครั้งนี้ เราต้องใช้งานบุคลากรและเจ้าหน้าที่รัฐเกินกว่าที่คาดการณ์มิใช่น้อยเลย
แต่เพราะเหตุนั้น เราจึงได้ข้อมูลสำมะโนประชากรอันล้ำค่ายิ่งอย่างประเมินมิได้
ชางผิงจวินสรุปสถานการณ์และผลลัพธ์เกิดขึ้นอันบอกได้ว่านี่คือสิ่งสำคัญและพร้อมแล้วที่จะดำเนินการขั้นถัดไป
เช่นนั้นแล้ว เราย่อมหมายจะเคลื่อนไหวก้าวถัดไปในทันที...
ต้าอ๋องตรัสได้ถูกแล้ว เวลานี้ข้าจักเตรียมคำสั่งเกณฑ์รี้พลทั่วประเทศ เราจะสร้างกองทัพขึ้นมาใหม่และเร่งกระบวนทัพให้พร้อม หรืออีกนัยน์หนึ่งคือเสาหลักที่สอง และหลังจากนั้น ก็จะเริ่มเข้าสู่การเริ่มสร้างเสาหลักที่สาม
ชางผิงจวินทวนแผนการที่ตระเตรียมไว้ เจิ้งตอบรับตามที่เห็น
หากจะคะเนแล้ว มาตรว่านี่คงเห็นโอกาสสุดท้ายของพวกเรา ข้าจักทุ่มเททุกอย่างที่มีด้วยความระมัดระวังเป็นที่สุด
ชางผิงจวินกล่าวอย่างตั้งมั่น
ชางผิงจวิน นี่เป็นอีกครั้งที่นับได้ว่าสวรรค์โปรดแล้วที่ข้าได้เจ้ามาเป็นเสนาบดีและผู้บัญชาการทหารสูงสุด
ได้เจ้าช่วยรังสรรค์แผนการกลับสู่เส้นทางของการรวมจงหยวนอีกครั้งได้เช่นนี้ นับเป็นบุญคุณต่อรัฐยิ่งนัก ข้าขอคารวะให้เจ้า
เจิ้งเฝ้ามองชางผิงจวินที่เอ่ยวาจาอันมุ่งมั่นแรงกล้า จึงกล่าวขึ้นพร้อมยกมือคารวะ ทำเอาชางผิงจวินตกใจเล็กน้อย
ต้าอ๋องตรัสเกินไปแล้วขอรับ ข้าน้อยมิบังอาจ แต่นี่ยังเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น ช่วงเวลาอันชื่นมื่นยังคงต้องรอหลังจากเราปราบรัฐหานสำเร็จเสียก่อน ตอนนี้ผลลัพธ์ยังไม่เป็นที่ประจักษ์ ข้าน้อยยังมิพร้อมรับคำสรรเสริญจากท่านได้
ชางผิงจวินกล่าวตอบพร้อมยกมือคารวะคืน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
นั่นซีนะ พวกเราต้องทำมันให้สำเร็จ
ชางผิงจวิน เราจักแม้นมั่นเป็นสักขีพยานของปลายทางการรวมจงหยวนด้วยกันเถิด
ชางผิงจวินที่หลับตายกมือคารวะค้าง ลืมตาขึ้นมารับคำ
"เข้าใจแล้วขอรับ"
เจิ้งพยักหน้าให้ทีหนึ่ง ชางผิงจวินจึงเอ่ยปากขอตัวไปตระเตรียมงานต่อ ขณะที่เจิ้งยังคงยืนทอดสายตามองไปยังเบื้องหน้าจากบนพระราชวัง
ณ เวลานี้ ทั่วสารทิศของรัฐฉิน มีการเกณฑ์ผู้คนมากมาย ชาวเมืองหลายคนถูกเกณฑ์เข้าร่วมทัพพร้อมอำลาครอบครัวด้วยความปีติและฮึกเหิม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
การเกณฑ์ทหารในครั้งนี้ไม่ได้รวบรวมกำลังพลมาจากหนแห่งเดียว แต่มีการรวบรวมจากหลายๆภูมิภาคตามอัตราส่วนประชากรทั้งหมดในภูมิภาคนั้น ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีใครคาดคิดถึงปริมาณกำลังพลที่จะได้ในทีแรก แต่หลังจากรี้พลใหม่ๆถูกสมทบเข้ามาเรื่อยๆ พวกเขาก็เริ่มตระหนักถึงจำนวนรี้พลทั้งหมดที่เกณฑ์มาจากทั่วทั้งรัฐ แค่เพียงปีเดียว รัฐฉินสามารถรวบรวมรี้พลใหม่มาได้มากถึง 20,000 นาย**
**ไม่รู้ว่าต้นฉบับมาผิดหรือเปล่า เพราะทางแปล Eng ก็บอกว่าอาจารย์ฮาระน่าจะเขียนผิด ควรจะเป็น 200,000 มากกว่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
การเคลื่อนไหวที่ไม่ปรกติเช่นนี้ รัฐอื่นๆย่อมตระหนักถึงและก่อให้เกิดข่าวสารอันสร้างความโกลาหลขึ้น
ตอนเหนือของรัฐจ้าว เมืองฟานอู๋
รายงาน!!
มีการรวมรวมรี้พลจำนวนมากทั่วทั้งรัฐฉิน และมีส่วนหนึ่งมุ่งหน้ามายังทางทิศเหนือและรวบรวมกำลังกันได้ประมาณ 80,000 นาย กำลังมุ่งหน้าไปยังเมืองกวนหยู่
ปะ.. แปดหมื่น!?
เดี๋ยวก่อนนะ...
อีกทั้งยังมีรายงานมาอีกว่า จำนวนกำลังพลที่เคลื่อนไหวอยู่บริเวณภาคใต้และภาคกลางของรัฐฉินมีรวมๆแล้วเกินกว่า 150,000 นาย!
นี่มัน.. จะบอกว่า อ้ายพวกฉินเกณฑ์รี้พลจากที่ไหนไม่รู้มาได้อีกเกือบ 300,000 เลยรึ!?
เป็นไปไม่ได้! พวกมันเพิ่งจะเสียรี้พลมากกว่า 200,000 คนจากการพ่ายศึกในช่วงสองปีที่ผ่านมา ไม่มีทางที่จะสรรหากำลังพลอีก 300,000 เพียงแค่ปีเดียวเป็นแน่!
หรือว่าอ้ายพวกฉินสิ้นไร้ไม้ตรอกจนต้องระดมพลจากทุกที่ ไม่เว้นแม้แต่ทหารคุ้มกันประจำเมืองเลยเสียกระมัง?
ไม่ผิดแน่ พวกมันคงรวบรวมทหารมาจากทุกมุมเมืองตลอดทั่วทั้งรัฐถึงได้สะสมกำลังได้เพียงนี้!
ท่ามกลางความแตกตื่นของเหล่าขุนนาง หลี่มู่เองก็มีสีหน้าตึงเครียดหลังจากตระหนักถึงการเคลื่อนไหวอันคาดไม่ถึงของฝ่ายฉิน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รัฐฉู่ นครหลวงอิ่ง
รายงานด่วน!!
ทัพฉินทางตอนใต้มีการเสริมกำลังทหารเข้ามาใหม่อย่างต่อเนื่อง หากรวมกันทั้งรัฐแล้วมีกำลังพลเพิ่มขึ้นประมาณ 200,000 คน
อะไรกัน..!?
มันเกิดอะไรขึ้นกับอ้ายพวกฉินกันแน่!?
พวกมันไม่น่าจะมีกองทัพมาเพิ่มได้หลังจากพ่ายศึกติดๆกันแบบนี้
เมื่อกี้เจ้าบอกว่า 300,000 งั้นรึ!?
ต้องเป็นรายงานผิดพลาดแน่ๆ
พวกมันคงวางอุบายควบคุมข้อมูลข่าวสาร ปล่อยข้อมูลลวงออกมา
ใช่แล้วต้องเป็นแบบนั้นแน่ เราจะส่งทัพไปเสริมทางตอนเหนือตามแผนเดิม!
ก็อาจจะใช่ แต่เราเพิ่งได้รับข้อมูลมาอีกว่ามีรี้พลอีก 30,000 นายกำลังมาเสริมให้ทัพเหมิงอู่เพิ่ม
นั่นก็คงข่าวลวงเหมือนกันแหละ!
ท่ามกลางความโกลาหลที่เกิดขึ้น หลี่เหยี่ยนมหาอุปราชรัฐฉู่เอ่ยปากถามความเห็นวาหลิน
เจ้าคิดว่าอย่างไร วาหลิน? ขณะที่วาหลินยังคงยิ้มเยาะนิ่งเงียบ จนกระทั่งหลี่เหยียนพูดต่อ
หากคิดโดยสามัญ พวกนั้นคงรวบรวมทหารเท่าที่เหลือทั้งหมดแล้วจัดสรรทัพขึ้นมาใหม่
แต่หากทำเช่นนั้นหมายว่าจะต้องเกณฑ์กำลังจากทุกหัวมุมเมือง อันถือเป็นพฤติกรรมวู่วามยิ่งนัก
วิญญูชนจึงย่อมไม่อาจยึดข้อสรุปแบบนี้
ใช่เสียที่ไหนล่ะ อ้ายพวกนั้นไม่ได้ดึงกำลังจากหัวเมืองที่เหลือ รี้พลเหล่านั้นล้วนเป็นทัพใหม่
วาหลินตัดข้อสรุปของหลี่เหยียนทิ้ง
เช่นนั้นแล้ว เจ้าพวกนั้นหารี้พลเรือนแสนมาจากไหนกัน?
นี่เจ้าจำรายงานที่ขุนนางข้าราชการฉินวิ่งพล่านทั่วรัฐไม่ได้รึไง?
พวกมันเกณฑ์รี้พลจากเมืองต่างๆหรอกหรือ?
แล้วเจ้าคิดว่าลำพังแค่เกณฑ์คนจากเมืองจะได้ถึงสามแสนไหมเล่า? สิ่งที่พวกมันทำคืออ้ายนั่นต่างหาก.. สำมะโนประชากรไงล่ะ
สำมะโนจากไหนกัน?
ก็จากทั้งประเทศไง
ทะ..!? ทั้งประเทศ!
บทสนทนาสองมหาอุปราชทำเอาเหล่าขุนนางตกตะลึงถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
หากเป็นข้าคงได้ตายเสียก่อนเป็นแน่หากจะกระทำการใหญ่เยี่ยงนั้นที่มหารัฐฉู่ของเรา
วาหลินยังคงเสริมต่อให้เห็นว่าการเกณฑ์พลโดยทำสำมะโนประชากรนั้นมิใช่เรื่องง่ายจะเลียนแบบได้
หลี่เหยียนตระหนักเรื่องนั้นดี จึงได้ถามให้แน่ใจอีกครั้ง
ตะ แต่ว่า รัฐฉินเองก็เป็นรัฐที่กว้างใหญ่ไพศาล อีกทั้งยังติดเทือกเขาป่าและที่ราบอีกมาก พวกมันทำกันได้จริงๆงั้นรึ!?
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
วาหลินผายมือเรียกปาเมี่ยวให้เข้าใกล้ พอปาเมี่ยวเดินมาถึงระยะ วาหลินก็ยกเท้าถีบปาเมี่ยวกระเด็นพร้อมแถลงไขสิ่งที่หลี่เหยียนถาม
"รีดรี้พลมาได้ถึงขั้น 300,000 มันก็ต้องมีแค่วิธีนี้ละวะ!"
หึหึ ไม่นึกเลยว่าฉินอ๋องและชางผิงจวินจะลงมือถึงขั้นนี้
ข้าอุตส่าห์คิดว่าแผนของพวกมันล้มพับกลับบ้านไปแล้ว แต่มันยังฟื้นกลับขึ้นมาได้ นี่พวกแกกระหายที่จะรวมจงหยวนถึงขั้นรีดเลือดจนหยดสุดท้ายรึไงกัน!? หึหึ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รัฐเว่ย เมืองต้าเหลียง
รายงานด่วน!!
กองทัพฉินขนาดใหญ่กำลังเดินทัพมุ่งหน้ามาทางทิศตะวันออกตามแนวแม่น้ำฮวงโห
ทิศทางนั้นมันมุ่งหน้ามายังพวกเรานี่!?
ข่าวการเคลื่อนไหวในท้องพระโรงของเว่ยเองก็ได้รับข่าวอันน่าตื่นตะลึงไม่แพ้กัน
เจ้าพวกฉินมันสร้างกองทัพขึ้นมาใหม่เป็นเรื่องจริงหรือนี่
มหาอุปราชเย่ว์ฮวาก่วงเอ่ยขึ้นมา
กุนซือปัวหลีจึงเสริมความถึงก้าวถัดไปของทัพฉินนี้
พวกมันคิดจะโจมตีเรารึไงนะ?
"มิใช่พวกเราดอก"
อู๋เฟิ่งหมิงตัดความทันที หลังจากยืนวิเคราะห์สถานการณ์มาได้พักหนึ่งแล้ว
ปัวหลีจึงได้กล่าวถามต่อ
หากมิใช่เรา แล้วเป็นใคร?
ยาตราทัพมาถึงเพียงนี้คงมิพ้นแล้วว่ามุ่งหมายจะโจมที่ไหนสักแห่งเป็นแน่
ระหว่างที่อู๋เฟิ่งหมิงกำลังจ้องแผนที่พิเคราะห์ถึงรูปแบบการเคลื่อนทัพ ก็มีเสียงตะโกนดังขึ้นมา
รายงานด่วนจากเมืองลั่วจื่อ!
ขุนนางอื่นๆตกใจเอะอะหลังจากได้ยินว่าเป็นเมืองลั่วจื่อ
เมืองลั่วจื่อ!?
ใช่ลั่วจื่อที่ติดอยู่กับแม่น้ำฮวงโหนั่นหรือเปล่า!?
"มิพ้นจะเป็นทัพเรือฉินซีนะ!!"
อู๋เฟิ่งหมิงตะโกนถามทันที
ขอรับ! จากสายของเราที่เฝ้าระวังที่นั่น ได้แจ้งมาว่าพบทัพเรือฉินจำนวนมากล่องมาตามลำน้ำของฮวงโห ปริมาณทัพเรือใหญ่เพียงพอที่จะขนรี้พลได้หลักหมื่น!!
อะไรนะ!!
เหล่าขุนนางแตกตื่นกับความใหญ่ของทัพเรือฉินอันไม่คาดคิดว่าจะก่อรูปการณ์จะบุกในช่วงเวลาเช่นนี้
เย่ว์ฮวาก่วง "พวกนั้นคิดจะข้ามมายังฝั่งเว่ยของเรา"
ปัวหลี "มิเป็นอื่น"
สองขุนนางระดับสูงสรุปได้อย่างไม่ยากเย็น
"เฟิ่งหมิง!!"
เว่ยอ๋องจิ๋งหมิ่งหวัง ไม่อาจทนอยู่เฉยได้จึงตะโกนเรียกชื่ออู๋เฟิ่งหมิงขึ้นมาเพื่อกระตุ้นให้เขาหาทางรับมือ
ลองต้าอ๋องถึงกับนั่งไม่ติด อู๋เฟิ่งหมิงจึงคลายกังวลด้วยการเริ่มอธิบาย
ต้าอ๋องโปรดวางพระทัย พวกมันมิได้โง่พอจะบุ่มบ่ามบุกรัฐเราทันที
เป้าหมายของพวกมันคือรัฐหานเสียต่างหาก
มาตรว่าจะโจมตีรัฐหาน ย่อมต้องหาทางสกัดการส่งกำลังเสริมจากเว่ยเป็นแม้นมั่น เพื่อการนี้เมืองลั่วจื่อจึงนับได้ว่าเป็นชัยภูมิที่ประเสริฐแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สกัดการส่งทัพหนุน? อ้ายพวกฉินคิดจะพิชิตหานให้เสียสิ้นแล้วหรือ?
มหาอุปราชเย่ว์ฮวาก่วงกล่าวหลังจากฟังการวิเคราะห์ของอู๋เฟิ่งหมิง
ผิดวิสัยของพวกฉินยิ่งนัก หรือเวลานี้เราควรเพิกเฉยดี?
ปัวหลีกล่าวถามอู๋เฟิ่งหมิง
ไม่ต้องคิดให้มากความ ถ่ายทอดคำสั่ง! แจ้งไปยังเมืองลั่วจื่อให้ส่งทัพมุ่งหน้าไปยังริมฮวงโหทันที!!
อู๋เฟิ่งหมิงสั่งการฉับไว คนส่งสารรีบตอบรับทันที
ปัวหลี "เอาละซี เวลานี้คือการแข่งขันกับเวลาซีนะ"
อู๋เฟิ่งหมิง "ใช่แล้ว แต่โดยปรกติแล้ว... เรื่องนี้ฝ่ายฉินย่อมคาดการณ์ไว้แล้วเช่นกัน"
ต่อ คห.1