สวัสดีครับ
รอนานอีกเช่นเคย ผมก็พูดมันทุกอาทิตย์แหละนะว่าช้าเพราะเกม เอาเป็นว่าคอนเซปจากนี้คือ เสร็จเร็วอ่านเร็วเสร็จช้าอ่านช้าและจงคาดหวังว่าจะได้อ่านวันนอาทิตย์ แล้วจะไม่เสียเวลารอผม 55555
อันที่จริงถ้ามันไม่คุยกันเยอะ และผมจังหวะดีๆแปลได้เร็วก็อาจจะมาเร็วกว่านี้ก็ได้ครับ แต่ยังไงอาทิตย์หน้าหยุด 1 ตอนนะครับ ญี่ปุ่นมีเทศกาลโอบ้งอันเป็นช่วงหยุดยาวอีกช่วงหนึ่งนอกจาก Golden Week ดังนั้นเจอกันอีกทีก็น่าจะปลายเดือนเลย
และย้ำเสมอๆครับ อย่าลืมติดตามฉบับลิขสิทธิ์ด้วยนะ
ไม่มีอะไรแล้วก็ลุยกันเลย
Kingdom 806 สามทางเลือก
ความเดิมตอนที่แล้ว ทัพฉินนำโดยแม่ทัพหลี่ซินและกำลังพล 60,000 นายกำลังมุ่งหน้าเข้าดินแดนของรัฐหาน โดยที่ทางราชสำนักหานเองกำลังหารือแผนรับมือ
ณ ชายแดนฉิน-หาน
ปรากฏถึงการยาตราทัพครั้งใหญ่ของแม่ทัพหลี่ซิ่นจำนวน 60,000 นาย
การเคลื่อนทัพจำนวนนี้ย่อมไม่ใช่เรื่องสามัญสำหรับปริมาณรี้พลที่แม่ทัพทั่วๆไปจะคุมทัพ บรรยากาศโดยรอบจึงแออัด ทำเอารี้พลต่างรู้สึกอีดอัดและเกร็งกันมิใช่น้อย
พี่เหว่ยผิง บรรยากาศดูอึดอัดพิกลนะ
อังพลเดินเท้าสนิทประจำกองของเหว่ยผิงเอ่ยถามขึ้น ขณะที่สภาพเหว่ยผิงที่ตอนนี้เป็นนายกอง 300 แล้วก็ดูไม่จืด
ทั้งฉงหยวน (หัวหน้าหน่วยพลราบ) หวอหลี่ว์ ฉูสุ่ย น้ายวน และเตียว ต่างก็เกร็งไม่แพ้กัน
จะมีแต่ซิ่นที่ดูตื่นเต้นกับการนำทัพ 60,000 นายในครั้งนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ระหว่างนั้นเองน้ายวนก็เกิดสงสัยขึ้น
จะว่าไปแล้ว พวกท่านไม่รู้สึกบ้างหรือว่าหนนี้เราเดินทัพได้ช้ากว่าที่ควร
อ่า.. นั่นเป็นเพราะทัพเราเพิ่งได้รี้พลเกณฑ์ใหม่เข้ามา เราไม่มีเวลาได้ฝึกกำลังพลใหม่มากนัก จึงมิแปลกดอกที่เชื่องช้า
ท่านซิ่น จะว่าไปแล้ว จอมทัพเถิงไม่ได้เดินทัพพร้อมกับเราหรือ ข้านึกว่าเราจะสนธิโยธาเข้าพิชิตหานร่วมกันเสียอีก มิใช่ว่าแม่ทัพเถิงจะนำพล 100,000 นายมาสมทบเพิ่มด้วยหรือ?
เจ้าเข้าใจถูกแล้ว แต่ทว่าตอนนี้มีแค่พวกเราเท่านั้น
หะ หา!? ทำไมล่ะท่าน?
นั่นเพราะว่า.. นี่เป็นส่วนหนึ่งของกลศึกน่ะซี
===========================
ย้อนความกลับไปเมื่อครั้งประชุมแผนมหายุทธการพิชิตหาน
ณ กระโจมแม่ทัพใหญ่เถิง
หลังจากเชียงฮุ่ยลั่นว่าจาว่ามีแผนอยู่ ทำเอาลู่อูเว่ยตกใจและรีบตะโกนถามเน้นย้ำขึ้นมา
หา!! ว่าไงนะแม่สาวน้อย จะบอกว่าเจ้ามีแผนรุกหานจริงๆเร้อ!!
แม่ทัพตะหาก
เชียงฮุ่ยตอบกลับ
เงียบเถอะวะ!!
ลู่อูเว่ยสวนกลับอย่างหงุดหงิด
ลู่อูเว่ยเจ้าสิเงียบ! เชียงฮุ่ยแล้วแผนคืออะไร?
หลงกั่วปรามลู่อูเว่ยและถามเชียงฮุ่ยเพื่อเข้าประเด็น แต่เชียงฮุ่ยก็ตอบสวนกลับมาอีกครั้งว่า แม่ทัพตะหาก
คืกก... เสียงหลงกั๋วกัดฟันหยุดความหงุดหงิด กระนั้นก็กอดอกแล้วตั้งหลักใหม่อีกรอบ
เอาล่ะฟังให้ดี หากพูดถึงยุทธการรุกหาน เป็นข้าเองก็มีแผนหยาบๆในใจอยู่ซัก 10 แผนได้
แต่!!
หลงกั๋วทุบโตะพร้อมตะโกนขึ้นมา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ปัญหาคือเงื่อนไขสำคัญที่ผู้บัญชาการทหารกำกับมา คือการพิชิตหานโดยพึงระงับความสูญเสียให้ต่ำที่สุดเพื่อจะได้ใช้เป็นกำลังในการรบกับจ้าวอีกครั้งในกาลหน้า หากเจ้าตระหนักถึงสารัตถะนี้แล้วกระนั้นก็ยังลั่นวาจาว่ามีแผน เช่นนั้นแล้วข้าก็สนใจใคร่รู้ยิ่งนัก แม่ทัพเชียงฮุ่ย!!
หลงกั๋วพูดพร้อมตีหน้าเข้มอีกทั้งย้ำคำว่าแม่ทัพอย่างเสียงดังประหนึ่งประชดประชัน
เชียงฮุ่ยได้ยินดังนั้นจึงตอบอย่างเรียบง่าย
นั่นซีนะ หากมิใคร่จะสูญเสียรี้พล
เช่นนั้นแล้วก็มิต้องรบ
คำตอบของเชียงฮุ่ยทำเอาซิ่นและเตียวตะลึงอ้าปากค้าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ขณะที่คนอื่นกำลังอึ้ง
หลงกั๋วถึงกับหลุดขำแทบไม่อยู่ ด้านลู่อูเว่ยเรียบก้มหน้ากลั้นขำอย่างที่สุด
พวกสตรีนี่ช่างมีอารมณ์ขันกันจริงนะ หลงกั๋วตอบอย่างเสียงสั่นเครือจากการกลั้นขำ
แต่ว่าพวกเรากำลังประชุมเรื่องจริงจังกันอยู่...
ที่จริงแล้ว
เถิงพูดแทรกออกมาระหว่างที่หลงกั๋วกำลังพูด
ข้าเองก็กำลังคิดแบบเดียวกัน
หา!!
คำพูดของเถิงทำเอาทุกคนตกใจพร้อมกัน
===========================
นครหลวงซินเจิ้ง รัฐหาน
รายงาน!!
ทัพข้าศึกจำนวน 60,000 นาย นำโดยแม่ทัพหลี่ซิ่นกำลังเคลื่อนมาทิศตะวันออจนถึงบริเวณทุ่งเม่ยแล้ว การเคลื่อนทัพค่อนข้างช้า แต่จากทิศทางแล้วย่อมไปถึงหนานหยางโดยแม่นมั่นขอรับ!
พวกนั้นยังอยู่แค่ทุ่งเม่ยเองหรือ? ค่อนข้างจะช้าอยู่นะ
ใช่ ข้าก็เห็นเช่นนั้น
ปลัดทัพโยโคโยโคและแม่ทัพลั่วย่าหวันสังเกตเห็นการเดินทัพที่ช้ากว่าปรกติ
แล้วหนานหยางเป็นอย่างไรบ้าง?
เสนาบดีจางชิ่งกล่าวถามคนเดินสาร
ขอรับ!
ตอนนี้มีการกวาดต้อนผู้ลี้ภัยจากบริเวณโดยรอบเข้ามายังภายในกำแพงเมืองและทำการปิดประตูทางเข้าทุกบานเป็นที่เรียบร้อย ส่วนทางด้านแม่ทัพป๋อหวังกู่ก็ประจำการบนกำแพงเมืองเตรียมพร้อมรับข้าศึกขอรับ!
วิเศษจริงๆ
ทีแรกข้าได้ยินว่าท่านป๋อหวังกู่เก่งด้านการโรมรันพันตูในที่ราบ พอต้องมาตั้งรับในเมือง ไหนเลยที่ข้าจะอดกังวลมิได้ แต่ได้ยินเช่นนี้แล้วข้าเบาใจยิ่งนัก สมแล้วกับที่เป็นแม่ทัพอันดับสองของรัฐหาน
แบนนี้เมืองหนานหยางที่มีกำลังพล 70,000 ย่อมไม่มีทางที่จะพ่ายข้าศึกที่มีเพียง 60,000 เป็นแน่
ระหว่างที่เหล่าขุนนางต่างคึกคักอยู่นั้น แม่ทัพลั่วย่าหวันกลับครุ่นคิดด้วยสีหน้าจริงจัง
ทูลต้าอ๋อง หนนี้ฉินหมายจะยึดครองรัฐเราทั้งรัฐ ข้าใคร่จะหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่นครหลวงซินเจิ้งต้องตกอยู่ในสภาพถูกล้อมโดยทัพศัตรูเช่นเดียวกับที่หนานหยางกำลังจะเผชิญ
เป็นที่ประจักษ์ว่าเราไม่มีกำลังทหารมากพอที่จะป้องกันทุกเมืองได้ เช่นนั้นแล้วข้าน้อยจึงขอบังอาจแนะนำให้เราหลีกเลี่ยงการเสียรี้พลป้องกันในพื้นที่ที่ไม่สามารถจะรักษาไว้ได้ รวมกระทั่งละทิ้งเมืองบางส่วนโดยไม่ป้องกันเพื่อที่เราจะรวบรวมกำลังทั้งหมดที่จำเป็นเอาไว้
ลั่วย่าหวันกราบบังคมทูลเสนอแนะกลยุทธ์ขึ้นมา ซึ่งฟังดูน่าวิตกเมื่อเทียบกับบทสนทนาของเหล่าขุนนางก่อนหน้านี้ ความจริงจังนี้เองทำเอาเหล่าขุนนางตกใจและเริ่มกังวลขึ้นมา
พวกเราจำเป็นถึงขั้นต้องละทิ้งบางเมืองจริงๆหรือ ท่านแม่ทัพ
ราชธิดาผูกล่าวย้ำขึ้นมา
ข้าเห็นด้วยกับท่านแม่ทัพ เมืองและดินแดนสามารถช่วงชิงคืนมาได้ แต่ชีวิตของรี้พลนั้นไม่อาจเรียกคืนมา เสนาบดีจางชิ่งส่งเสริมที่แม่ทัพเสนอ
แต่เรามีความจำเป็นต้องทำถึงขั้นนี้เชียวหรือ?
ขณะที่ผูพยายามจะต่อต้านแนวคิดนี้ หานอ๋อง หวังอันหวังก็ดำรัสขึ้นมา
ผู อันรัฐหานของเราสามารถธำรงสืบมาได้กระทั่งตอนนี้เพราะพวกเราได้ทำการเช่นนี้อย่างแม่นยำโดยตลอด ก่อนที่เจ้าจะถือกำเนิดเสียอีก
รัฐเราอันไร้ซึ่งกำลังอันแข็งแกร่งจำต้องมีความกล้าที่จะสละดินแดนบางส่วนและมีปัญญาอันเฉียบแหลมในการพิเคราะห์หาหนทางใช้กำลังที่มีอยู่เพียงน้อยปกป้องสิ่งสำคัญที่เรามิอาจจะยอมเสีย
ฝ่าบาท..
ผูตอบกลับคำพูดของหวังอันหวัง
ระหว่างนั้นเองขุนนางโดยรอบก็เริ่มคุยสถานการณ์อีกครั้ง
ข้าศึกเพียงเท่านี้หนานหยางสามารถรับมือได้สบาย! สวรรค์เมตตาแล้ว
ดีล่ะ! ลองมาดูรี้พลที่มีตามที่อื่นๆดูบ้าง
พวกเราต้องมองหาพื้นที่สำคัญที่แล้วรวบรวมกำลังพลไปไว้ที่นั่น
พวกฉินมันย่อมจะไม่พลาดโจมตีที่อื่นด้วยเป็นแน่!
รายงานด่วน! รายงานด่วน! เสียงคนเดินสารวิ่งตะโกนเข้ามาแม้ยังจะไม่ทันเข้ามาถึงท้องพระโรงดี
มีทัพฉินปรากฎขึ้นถัดไปหลังจาก ทัพ 60,000 ของแม่ทัพหลี่ซิ่น! และกำลังเดินทัพมาในเส้นทางเดียวกันสู่หนานหยาง!
วะ.. ว่าไงนะ!?
ม..มีทัพหนุนตามมาหรือ?
ไปยังหนานหยาง!?
เป็นทัพแบบไหนกัน!
ขอรับ! ผู้นำทัพคือหกยอดขุนศึกเถิง นำทัพจำนวน... 100,000 นายขอรับ!
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ข่าวที่น่าตื่นตะลึงทำเอาเหล่าขุนนางอ้าปากค้าง กระทั่งหวังอันหวังก็เริ่มแสดงสีหน้าวิตก มีเพียงแม่ทัพลั่วย่าหวันที่ยังคงสีหน้านิ่งจริงจังไว้ได้
ทัพเถิง..!!!
นะ..หนึ่งแสนนาย!?
ประเดี๋ยวนะ ถ้ารวมกับทัพของหลี่ซิ่นก็เป็น 160,000 นาย!!
นะ..หนานหยางจะแตก...
หนานหยางล่มแน่ พวกนั้นไม่มีทางต้านทัพ 160,000 ได้หรอก!
เราต้องหาทางทำอะไรซักอย่าง!
ผูนิ่งคิดด้วยความกังวลพลางนึกถึงหน้าแม่ทัพเถิงที่เคยมาเยือนรัฐหานเมื่อสองปีก่อน
ท่านแม่ทัพ!
ท่านแม่ทัพลั่วย่าหวัน รูปการณ์เป็นเช่นนี้แล้ว มีแต่จะต้องส่งทัพหนุนไปหนานหยางขอรับ!
เหล่าขุนนางเริ่มถามหาการรับมือจากลั่วย่าหวัน
ต่อความเห็น 1
[Spoil] Kingdom 806 สามทางเลือก
รอนานอีกเช่นเคย ผมก็พูดมันทุกอาทิตย์แหละนะว่าช้าเพราะเกม เอาเป็นว่าคอนเซปจากนี้คือ เสร็จเร็วอ่านเร็วเสร็จช้าอ่านช้าและจงคาดหวังว่าจะได้อ่านวันนอาทิตย์ แล้วจะไม่เสียเวลารอผม 55555
อันที่จริงถ้ามันไม่คุยกันเยอะ และผมจังหวะดีๆแปลได้เร็วก็อาจจะมาเร็วกว่านี้ก็ได้ครับ แต่ยังไงอาทิตย์หน้าหยุด 1 ตอนนะครับ ญี่ปุ่นมีเทศกาลโอบ้งอันเป็นช่วงหยุดยาวอีกช่วงหนึ่งนอกจาก Golden Week ดังนั้นเจอกันอีกทีก็น่าจะปลายเดือนเลย
และย้ำเสมอๆครับ อย่าลืมติดตามฉบับลิขสิทธิ์ด้วยนะ
ไม่มีอะไรแล้วก็ลุยกันเลย
Kingdom 806 สามทางเลือก
ความเดิมตอนที่แล้ว ทัพฉินนำโดยแม่ทัพหลี่ซินและกำลังพล 60,000 นายกำลังมุ่งหน้าเข้าดินแดนของรัฐหาน โดยที่ทางราชสำนักหานเองกำลังหารือแผนรับมือ
ณ ชายแดนฉิน-หาน
ปรากฏถึงการยาตราทัพครั้งใหญ่ของแม่ทัพหลี่ซิ่นจำนวน 60,000 นาย
การเคลื่อนทัพจำนวนนี้ย่อมไม่ใช่เรื่องสามัญสำหรับปริมาณรี้พลที่แม่ทัพทั่วๆไปจะคุมทัพ บรรยากาศโดยรอบจึงแออัด ทำเอารี้พลต่างรู้สึกอีดอัดและเกร็งกันมิใช่น้อย
พี่เหว่ยผิง บรรยากาศดูอึดอัดพิกลนะ
อังพลเดินเท้าสนิทประจำกองของเหว่ยผิงเอ่ยถามขึ้น ขณะที่สภาพเหว่ยผิงที่ตอนนี้เป็นนายกอง 300 แล้วก็ดูไม่จืด
ทั้งฉงหยวน (หัวหน้าหน่วยพลราบ) หวอหลี่ว์ ฉูสุ่ย น้ายวน และเตียว ต่างก็เกร็งไม่แพ้กัน
จะมีแต่ซิ่นที่ดูตื่นเต้นกับการนำทัพ 60,000 นายในครั้งนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ระหว่างนั้นเองน้ายวนก็เกิดสงสัยขึ้น
จะว่าไปแล้ว พวกท่านไม่รู้สึกบ้างหรือว่าหนนี้เราเดินทัพได้ช้ากว่าที่ควร
อ่า.. นั่นเป็นเพราะทัพเราเพิ่งได้รี้พลเกณฑ์ใหม่เข้ามา เราไม่มีเวลาได้ฝึกกำลังพลใหม่มากนัก จึงมิแปลกดอกที่เชื่องช้า
ท่านซิ่น จะว่าไปแล้ว จอมทัพเถิงไม่ได้เดินทัพพร้อมกับเราหรือ ข้านึกว่าเราจะสนธิโยธาเข้าพิชิตหานร่วมกันเสียอีก มิใช่ว่าแม่ทัพเถิงจะนำพล 100,000 นายมาสมทบเพิ่มด้วยหรือ?
เจ้าเข้าใจถูกแล้ว แต่ทว่าตอนนี้มีแค่พวกเราเท่านั้น
หะ หา!? ทำไมล่ะท่าน?
นั่นเพราะว่า.. นี่เป็นส่วนหนึ่งของกลศึกน่ะซี
===========================
ย้อนความกลับไปเมื่อครั้งประชุมแผนมหายุทธการพิชิตหาน
ณ กระโจมแม่ทัพใหญ่เถิง
หลังจากเชียงฮุ่ยลั่นว่าจาว่ามีแผนอยู่ ทำเอาลู่อูเว่ยตกใจและรีบตะโกนถามเน้นย้ำขึ้นมา
หา!! ว่าไงนะแม่สาวน้อย จะบอกว่าเจ้ามีแผนรุกหานจริงๆเร้อ!!
แม่ทัพตะหาก
เชียงฮุ่ยตอบกลับ
เงียบเถอะวะ!!
ลู่อูเว่ยสวนกลับอย่างหงุดหงิด
ลู่อูเว่ยเจ้าสิเงียบ! เชียงฮุ่ยแล้วแผนคืออะไร?
หลงกั่วปรามลู่อูเว่ยและถามเชียงฮุ่ยเพื่อเข้าประเด็น แต่เชียงฮุ่ยก็ตอบสวนกลับมาอีกครั้งว่า แม่ทัพตะหาก
คืกก... เสียงหลงกั๋วกัดฟันหยุดความหงุดหงิด กระนั้นก็กอดอกแล้วตั้งหลักใหม่อีกรอบ
เอาล่ะฟังให้ดี หากพูดถึงยุทธการรุกหาน เป็นข้าเองก็มีแผนหยาบๆในใจอยู่ซัก 10 แผนได้
แต่!!
หลงกั๋วทุบโตะพร้อมตะโกนขึ้นมา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ปัญหาคือเงื่อนไขสำคัญที่ผู้บัญชาการทหารกำกับมา คือการพิชิตหานโดยพึงระงับความสูญเสียให้ต่ำที่สุดเพื่อจะได้ใช้เป็นกำลังในการรบกับจ้าวอีกครั้งในกาลหน้า หากเจ้าตระหนักถึงสารัตถะนี้แล้วกระนั้นก็ยังลั่นวาจาว่ามีแผน เช่นนั้นแล้วข้าก็สนใจใคร่รู้ยิ่งนัก แม่ทัพเชียงฮุ่ย!!
หลงกั๋วพูดพร้อมตีหน้าเข้มอีกทั้งย้ำคำว่าแม่ทัพอย่างเสียงดังประหนึ่งประชดประชัน
เชียงฮุ่ยได้ยินดังนั้นจึงตอบอย่างเรียบง่าย
นั่นซีนะ หากมิใคร่จะสูญเสียรี้พล
เช่นนั้นแล้วก็มิต้องรบ
คำตอบของเชียงฮุ่ยทำเอาซิ่นและเตียวตะลึงอ้าปากค้าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ขณะที่คนอื่นกำลังอึ้ง
หลงกั๋วถึงกับหลุดขำแทบไม่อยู่ ด้านลู่อูเว่ยเรียบก้มหน้ากลั้นขำอย่างที่สุด
พวกสตรีนี่ช่างมีอารมณ์ขันกันจริงนะ หลงกั๋วตอบอย่างเสียงสั่นเครือจากการกลั้นขำ
แต่ว่าพวกเรากำลังประชุมเรื่องจริงจังกันอยู่...
ที่จริงแล้ว
เถิงพูดแทรกออกมาระหว่างที่หลงกั๋วกำลังพูด
ข้าเองก็กำลังคิดแบบเดียวกัน
หา!!
คำพูดของเถิงทำเอาทุกคนตกใจพร้อมกัน
===========================
นครหลวงซินเจิ้ง รัฐหาน
รายงาน!!
ทัพข้าศึกจำนวน 60,000 นาย นำโดยแม่ทัพหลี่ซิ่นกำลังเคลื่อนมาทิศตะวันออจนถึงบริเวณทุ่งเม่ยแล้ว การเคลื่อนทัพค่อนข้างช้า แต่จากทิศทางแล้วย่อมไปถึงหนานหยางโดยแม่นมั่นขอรับ!
พวกนั้นยังอยู่แค่ทุ่งเม่ยเองหรือ? ค่อนข้างจะช้าอยู่นะ
ใช่ ข้าก็เห็นเช่นนั้น
ปลัดทัพโยโคโยโคและแม่ทัพลั่วย่าหวันสังเกตเห็นการเดินทัพที่ช้ากว่าปรกติ
แล้วหนานหยางเป็นอย่างไรบ้าง?
เสนาบดีจางชิ่งกล่าวถามคนเดินสาร
ขอรับ!
ตอนนี้มีการกวาดต้อนผู้ลี้ภัยจากบริเวณโดยรอบเข้ามายังภายในกำแพงเมืองและทำการปิดประตูทางเข้าทุกบานเป็นที่เรียบร้อย ส่วนทางด้านแม่ทัพป๋อหวังกู่ก็ประจำการบนกำแพงเมืองเตรียมพร้อมรับข้าศึกขอรับ!
วิเศษจริงๆ
ทีแรกข้าได้ยินว่าท่านป๋อหวังกู่เก่งด้านการโรมรันพันตูในที่ราบ พอต้องมาตั้งรับในเมือง ไหนเลยที่ข้าจะอดกังวลมิได้ แต่ได้ยินเช่นนี้แล้วข้าเบาใจยิ่งนัก สมแล้วกับที่เป็นแม่ทัพอันดับสองของรัฐหาน
แบนนี้เมืองหนานหยางที่มีกำลังพล 70,000 ย่อมไม่มีทางที่จะพ่ายข้าศึกที่มีเพียง 60,000 เป็นแน่
ระหว่างที่เหล่าขุนนางต่างคึกคักอยู่นั้น แม่ทัพลั่วย่าหวันกลับครุ่นคิดด้วยสีหน้าจริงจัง
ทูลต้าอ๋อง หนนี้ฉินหมายจะยึดครองรัฐเราทั้งรัฐ ข้าใคร่จะหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่นครหลวงซินเจิ้งต้องตกอยู่ในสภาพถูกล้อมโดยทัพศัตรูเช่นเดียวกับที่หนานหยางกำลังจะเผชิญ
เป็นที่ประจักษ์ว่าเราไม่มีกำลังทหารมากพอที่จะป้องกันทุกเมืองได้ เช่นนั้นแล้วข้าน้อยจึงขอบังอาจแนะนำให้เราหลีกเลี่ยงการเสียรี้พลป้องกันในพื้นที่ที่ไม่สามารถจะรักษาไว้ได้ รวมกระทั่งละทิ้งเมืองบางส่วนโดยไม่ป้องกันเพื่อที่เราจะรวบรวมกำลังทั้งหมดที่จำเป็นเอาไว้
ลั่วย่าหวันกราบบังคมทูลเสนอแนะกลยุทธ์ขึ้นมา ซึ่งฟังดูน่าวิตกเมื่อเทียบกับบทสนทนาของเหล่าขุนนางก่อนหน้านี้ ความจริงจังนี้เองทำเอาเหล่าขุนนางตกใจและเริ่มกังวลขึ้นมา
พวกเราจำเป็นถึงขั้นต้องละทิ้งบางเมืองจริงๆหรือ ท่านแม่ทัพ
ราชธิดาผูกล่าวย้ำขึ้นมา
ข้าเห็นด้วยกับท่านแม่ทัพ เมืองและดินแดนสามารถช่วงชิงคืนมาได้ แต่ชีวิตของรี้พลนั้นไม่อาจเรียกคืนมา เสนาบดีจางชิ่งส่งเสริมที่แม่ทัพเสนอ
แต่เรามีความจำเป็นต้องทำถึงขั้นนี้เชียวหรือ?
ขณะที่ผูพยายามจะต่อต้านแนวคิดนี้ หานอ๋อง หวังอันหวังก็ดำรัสขึ้นมา
ผู อันรัฐหานของเราสามารถธำรงสืบมาได้กระทั่งตอนนี้เพราะพวกเราได้ทำการเช่นนี้อย่างแม่นยำโดยตลอด ก่อนที่เจ้าจะถือกำเนิดเสียอีก
รัฐเราอันไร้ซึ่งกำลังอันแข็งแกร่งจำต้องมีความกล้าที่จะสละดินแดนบางส่วนและมีปัญญาอันเฉียบแหลมในการพิเคราะห์หาหนทางใช้กำลังที่มีอยู่เพียงน้อยปกป้องสิ่งสำคัญที่เรามิอาจจะยอมเสีย
ฝ่าบาท..
ผูตอบกลับคำพูดของหวังอันหวัง
ระหว่างนั้นเองขุนนางโดยรอบก็เริ่มคุยสถานการณ์อีกครั้ง
ข้าศึกเพียงเท่านี้หนานหยางสามารถรับมือได้สบาย! สวรรค์เมตตาแล้ว
ดีล่ะ! ลองมาดูรี้พลที่มีตามที่อื่นๆดูบ้าง
พวกเราต้องมองหาพื้นที่สำคัญที่แล้วรวบรวมกำลังพลไปไว้ที่นั่น
พวกฉินมันย่อมจะไม่พลาดโจมตีที่อื่นด้วยเป็นแน่!
รายงานด่วน! รายงานด่วน! เสียงคนเดินสารวิ่งตะโกนเข้ามาแม้ยังจะไม่ทันเข้ามาถึงท้องพระโรงดี
มีทัพฉินปรากฎขึ้นถัดไปหลังจาก ทัพ 60,000 ของแม่ทัพหลี่ซิ่น! และกำลังเดินทัพมาในเส้นทางเดียวกันสู่หนานหยาง!
วะ.. ว่าไงนะ!?
ม..มีทัพหนุนตามมาหรือ?
ไปยังหนานหยาง!?
เป็นทัพแบบไหนกัน!
ขอรับ! ผู้นำทัพคือหกยอดขุนศึกเถิง นำทัพจำนวน... 100,000 นายขอรับ!
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ข่าวที่น่าตื่นตะลึงทำเอาเหล่าขุนนางอ้าปากค้าง กระทั่งหวังอันหวังก็เริ่มแสดงสีหน้าวิตก มีเพียงแม่ทัพลั่วย่าหวันที่ยังคงสีหน้านิ่งจริงจังไว้ได้
ทัพเถิง..!!!
นะ..หนึ่งแสนนาย!?
ประเดี๋ยวนะ ถ้ารวมกับทัพของหลี่ซิ่นก็เป็น 160,000 นาย!!
นะ..หนานหยางจะแตก...
หนานหยางล่มแน่ พวกนั้นไม่มีทางต้านทัพ 160,000 ได้หรอก!
เราต้องหาทางทำอะไรซักอย่าง!
ผูนิ่งคิดด้วยความกังวลพลางนึกถึงหน้าแม่ทัพเถิงที่เคยมาเยือนรัฐหานเมื่อสองปีก่อน
ท่านแม่ทัพ!
ท่านแม่ทัพลั่วย่าหวัน รูปการณ์เป็นเช่นนี้แล้ว มีแต่จะต้องส่งทัพหนุนไปหนานหยางขอรับ!
เหล่าขุนนางเริ่มถามหาการรับมือจากลั่วย่าหวัน
ต่อความเห็น 1