เครดิตแหล่งข่าว/เจ้าของบทความโดย
https://www.thansettakij.com/business/economy/595356
เปิดรายชื่อหอการค้า 76 ทั่วประเทศไทย ร่วมกับ 54 สมาคมการค้า ร่วมกันคัดค้านขึ้นค่าแรง 400 บาทเท่ากันทั่วประเทศ
วันที่ 7 พฤษภาคม 2567 หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยคณะกรรมการแรงงานและพัฒนาฝีมือแรงงาน ได้จัดแถลงข่าวคัดค้านนโยบายค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศ โดยมีหอการค้าทั่วประเทศ และสมาคมการค้าที่ใช้แรงงานเข้มข้นมากกว่า 54 สมาคม ร่วมแสดงจุดยืนภาคเอกชนคัดค้านค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาทเท่ากันทั่วประเทศ โดยเสนอ การปรับค่าจ้างขั้นต่ำต้องเป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานและกลไกการพิจารณาจากคณะอนุกรรมการพิจารณาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำจังหวัด และคณะกรรมการค่าจ้าง (ไตรภาคี)
เปิดรายชื่อ 76 หอการค้าทั่วประเทศ และสมาคมการค้าฯ 54 สมาคมคัดค้านนโยบายค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศ
หอการค้าจังหวัด ได้แก่
หอการค้าภาคเหนือ 17 จังหวัด
หอการค้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด
หอการค้าภาคกลาง 17 จังหวัด
หอการค้าภาคตะวันออก 8 จังหวัด
หอการค้าภาคใต้ 14 จังหวัด
สมาคมการค้าฯ ได้แก่
สมาคมการค้าอาหารสัตว์เลี้ยงไทย
สมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทย
สมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย
สมาคมผู้ผลิตไก่เพื่อส่งออกไทย
สมาคมยางพาราไทย
สมาคมน้ำยางข้นไทย
สมาคมธุรกิจไม้
สมาคมเฟอร์นิเจอร์ไทย
สมาคมการค้าของเล่นและผลิตภัณฑ์เด็กไทย
สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร
สมาคมการค้านวัตกรรมการพิมพ์ไทย
สมาคมโรงแรมไทย
สมาคมผู้ค้าปลีกไทย
สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย
สมาคมหินอ่อนและแกรนิตไทย
สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน
สมาคมอาคารชุดไทย
สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย
สมาคมการค้าผู้แทนจำหน่ายสถานีบริการ น้ำมันพลังไทย
สมาคมผู้ผลิตสีไทย
สมาคมผู้ผลิตถุงมือยางไทย
สมาคมการค้าเครื่องกีฬา
สมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย
สมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สมาคมตลาดสดไทย
สมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป
สมาคมกุ้งไทย
สมาคมอุตสาหกรรมนมและอาหาร
สมาคมอุตสาหกรรมสิ่งทอไทย
สมาคมการค้าอัญมณีและเครื่องประดับอาเซียน
สมาคมภัตตาคารไทย
สมาคมการค้าอาหารอนาคตไทย
สมาคมเครื่องเขียนและเครื่องใช้สำนักงาน
สมาคมบรรจุภัณฑ์ไทย
สภาองค์การนายจ้างธุรกิจไทย
สมาคมรักษาความปลอดภัยภาคฟื้นเอเชีย (APSA)
สมาคมสภารักษาความปลอดภัย
สมาคมผู้ประกอบการรักษาความปลอดภัยแห่งประเทศไทย
สมาคมผู้บริหารงานรักษาความปลอดภัยแห่งประเทศไทย
สมาคมสหพันธ์ธุรกิจรักษาความปลอดภัย
สมาคมผู้ประกอบวิชาชีพรักษาความปลอดภัยภาคเหนือ
สมาคมผู้ประกอบการรักษาความปลอดภัยภาคเหนือ
สมาคมผู้บริหารงานรักษาความปลอดภัยภาคตะวันออก
สมาคมผู้ประกอบการรักษาความปลอดภัย (ภาคอีสาน)
สมาคมอารักขาบุคคลสำคัญ
สมาคมบริหารงานรักษาความปลอดภัยไทย
สมาคมการค้าธุรกิจคุ้มกันภัย
สหพันธ์นายจ้างวิชาชีพรักษาความปลอดภัย
ชมรมครูฝึกรักษาความปลอดภัยไทย
ชมรมผู้ประกอบการรักษาความปลอดภัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ชมรมบริษัทรักษาความปลอดภัยพันธมิตร (ภาคใต้)
ชมรมพันธมิตรธุรกิจรักษาความปลอดภัย
กลุ่มพัฒนาวิชาชีพรักษาความปลอดภัย
หอการค้า-เอกชน รวมตัวค้านขึ้นค่าแรง 400 บาททั่วไทย ห่วงผลกระทบรุนแรง
https://www.sanook.com/money/923575/
หอการค้าไทย-สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย-สมาคมการค้าที่ใช้แรงงานเข้มข้นมากกว่า 50 สมาคม รวมตัวค้านขึ้นค่าแรง 400 บาททั่วไทย ห่วงผลกระทบรุนแรง
หอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมการค้าที่ใช้แรงงานเข้มข้นมากกว่า 50 สมาคม ร่วมแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยและขอคัดค้านนโยบายการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาทเท่ากันทั่วประเทศ โดยจะให้มีผลบังคับใช้วันที่ 1 ต.ค. 67
เนื่องจากการที่รัฐบาลจะปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาทเท่ากันทั่วประเทศ ซึ่งเกินกว่าพื้นฐานสภาพความเป็นจริงทางเศรษฐกิจและสังคม จะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศทันทีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
โดยต้องยอมรับว่าแต่ละจังหวัด และแต่ละประเภทธุรกิจ มีความพร้อมของสภาพเศรษฐกิจและสังคมที่แตกต่างกัน
การปรับอัตราค่าจ้างที่สูงเกินกว่าความเป็นจริง จะส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้น ต้นทุนการขนส่ง ต้นทุนการบริการ และต้นทุนการจ้างงานทั้งระบบห่วงโซ่อุปทาน โดยเฉพาะภาคเกษตร ภาคการค้าและบริการ ภาคท่องเที่ยว และผู้ประกอบการ SMEs เนื่องจากผู้ประกอบการจะไม่สามารถปรับตัวได้ทัน
ดังนั้น การปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำโดยไม่คำนึงตามที่กฎหมายกำหนดจะส่งผลให้ภาคธุรกิจและผู้ประกอบการ หยุดกิจการ ลดขนาดกิจการ หรือปรับธุรกิจออกนอกระบบภาษี จนนำไปสู่การปลดลูกจ้างและเลิกจ้างพนักงานเพื่อลดต้นทุนให้อยู่รอด
อีกทั้ง การปรับอัตราค่าจ้างที่สูงเกินกว่าความเป็นจริง ยังเป็นปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนในประเทศไทย ทำให้เกิดความไม่มั่นใจถึงต้นทุนของการทำธุรกิจและนโยบายภาครัฐ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน ยังมีปัญหาจากปัจจัยหลายประการที่มีความผันผวน อาทิ ค่าเงินบาท ราคาพลังงาน มาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างประเทศ และสงครามการค้าระหว่างประเทศต่างๆ เป็นต้น ซึ่งกระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขันและความน่าสนใจในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอย่างชัดเจน
หากรัฐบาลยืนยันที่จะให้มีการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 400 บาทต่อวันทั่วประเทศ โดยไม่คำนึงถึงกระบวนการและหลักเกณฑ์ในการพิจารณาตัวเลขการปรับที่เหมาะสมสอดคล้องกับแนวทางที่ได้รับการยอมรับมาโดยตลอดจากองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ว่ามีความยุติธรรมกับผู้ที่มีส่วนได้เสีย ซึ่งนำไปสู่การปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำแบบยั่งยืน ไม่ก่อให้เกิดปัญหาใหม่ตามมาในอนาคต ภาคเอกชนซึ่งเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากนโยบายการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาทเท่ากันทั่วประเทศ จำเป็นที่จะต้องรักษาสิทธิในการดำรงไว้ของหลักนิติธรรม (The Rule of Law) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับสมาชิกภาคเอกชนที่มีส่วนได้เสียในการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำดังกล่าวต่อไป
เปิด 54 รายชื่อสมาคมฯคัดค้านขึ้นค่าแรง 400 บาท
https://www.thansettakij.com/business/economy/595356
เปิดรายชื่อหอการค้า 76 ทั่วประเทศไทย ร่วมกับ 54 สมาคมการค้า ร่วมกันคัดค้านขึ้นค่าแรง 400 บาทเท่ากันทั่วประเทศ
วันที่ 7 พฤษภาคม 2567 หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยคณะกรรมการแรงงานและพัฒนาฝีมือแรงงาน ได้จัดแถลงข่าวคัดค้านนโยบายค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศ โดยมีหอการค้าทั่วประเทศ และสมาคมการค้าที่ใช้แรงงานเข้มข้นมากกว่า 54 สมาคม ร่วมแสดงจุดยืนภาคเอกชนคัดค้านค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาทเท่ากันทั่วประเทศ โดยเสนอ การปรับค่าจ้างขั้นต่ำต้องเป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานและกลไกการพิจารณาจากคณะอนุกรรมการพิจารณาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำจังหวัด และคณะกรรมการค่าจ้าง (ไตรภาคี)
เปิดรายชื่อ 76 หอการค้าทั่วประเทศ และสมาคมการค้าฯ 54 สมาคมคัดค้านนโยบายค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศ
หอการค้าจังหวัด ได้แก่
หอการค้าภาคเหนือ 17 จังหวัด
หอการค้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด
หอการค้าภาคกลาง 17 จังหวัด
หอการค้าภาคตะวันออก 8 จังหวัด
หอการค้าภาคใต้ 14 จังหวัด
สมาคมการค้าฯ ได้แก่
สมาคมการค้าอาหารสัตว์เลี้ยงไทย
สมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทย
สมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย
สมาคมผู้ผลิตไก่เพื่อส่งออกไทย
สมาคมยางพาราไทย
สมาคมน้ำยางข้นไทย
สมาคมธุรกิจไม้
สมาคมเฟอร์นิเจอร์ไทย
สมาคมการค้าของเล่นและผลิตภัณฑ์เด็กไทย
สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร
สมาคมการค้านวัตกรรมการพิมพ์ไทย
สมาคมโรงแรมไทย
สมาคมผู้ค้าปลีกไทย
สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย
สมาคมหินอ่อนและแกรนิตไทย
สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน
สมาคมอาคารชุดไทย
สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย
สมาคมการค้าผู้แทนจำหน่ายสถานีบริการ น้ำมันพลังไทย
สมาคมผู้ผลิตสีไทย
สมาคมผู้ผลิตถุงมือยางไทย
สมาคมการค้าเครื่องกีฬา
สมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย
สมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สมาคมตลาดสดไทย
สมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป
สมาคมกุ้งไทย
สมาคมอุตสาหกรรมนมและอาหาร
สมาคมอุตสาหกรรมสิ่งทอไทย
สมาคมการค้าอัญมณีและเครื่องประดับอาเซียน
สมาคมภัตตาคารไทย
สมาคมการค้าอาหารอนาคตไทย
สมาคมเครื่องเขียนและเครื่องใช้สำนักงาน
สมาคมบรรจุภัณฑ์ไทย
สภาองค์การนายจ้างธุรกิจไทย
สมาคมรักษาความปลอดภัยภาคฟื้นเอเชีย (APSA)
สมาคมสภารักษาความปลอดภัย
สมาคมผู้ประกอบการรักษาความปลอดภัยแห่งประเทศไทย
สมาคมผู้บริหารงานรักษาความปลอดภัยแห่งประเทศไทย
สมาคมสหพันธ์ธุรกิจรักษาความปลอดภัย
สมาคมผู้ประกอบวิชาชีพรักษาความปลอดภัยภาคเหนือ
สมาคมผู้ประกอบการรักษาความปลอดภัยภาคเหนือ
สมาคมผู้บริหารงานรักษาความปลอดภัยภาคตะวันออก
สมาคมผู้ประกอบการรักษาความปลอดภัย (ภาคอีสาน)
สมาคมอารักขาบุคคลสำคัญ
สมาคมบริหารงานรักษาความปลอดภัยไทย
สมาคมการค้าธุรกิจคุ้มกันภัย
สหพันธ์นายจ้างวิชาชีพรักษาความปลอดภัย
ชมรมครูฝึกรักษาความปลอดภัยไทย
ชมรมผู้ประกอบการรักษาความปลอดภัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ชมรมบริษัทรักษาความปลอดภัยพันธมิตร (ภาคใต้)
ชมรมพันธมิตรธุรกิจรักษาความปลอดภัย
กลุ่มพัฒนาวิชาชีพรักษาความปลอดภัย
หอการค้า-เอกชน รวมตัวค้านขึ้นค่าแรง 400 บาททั่วไทย ห่วงผลกระทบรุนแรง
https://www.sanook.com/money/923575/
หอการค้าไทย-สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย-สมาคมการค้าที่ใช้แรงงานเข้มข้นมากกว่า 50 สมาคม รวมตัวค้านขึ้นค่าแรง 400 บาททั่วไทย ห่วงผลกระทบรุนแรง
หอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมการค้าที่ใช้แรงงานเข้มข้นมากกว่า 50 สมาคม ร่วมแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยและขอคัดค้านนโยบายการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาทเท่ากันทั่วประเทศ โดยจะให้มีผลบังคับใช้วันที่ 1 ต.ค. 67
เนื่องจากการที่รัฐบาลจะปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาทเท่ากันทั่วประเทศ ซึ่งเกินกว่าพื้นฐานสภาพความเป็นจริงทางเศรษฐกิจและสังคม จะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศทันทีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
โดยต้องยอมรับว่าแต่ละจังหวัด และแต่ละประเภทธุรกิจ มีความพร้อมของสภาพเศรษฐกิจและสังคมที่แตกต่างกัน
การปรับอัตราค่าจ้างที่สูงเกินกว่าความเป็นจริง จะส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้น ต้นทุนการขนส่ง ต้นทุนการบริการ และต้นทุนการจ้างงานทั้งระบบห่วงโซ่อุปทาน โดยเฉพาะภาคเกษตร ภาคการค้าและบริการ ภาคท่องเที่ยว และผู้ประกอบการ SMEs เนื่องจากผู้ประกอบการจะไม่สามารถปรับตัวได้ทัน
ดังนั้น การปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำโดยไม่คำนึงตามที่กฎหมายกำหนดจะส่งผลให้ภาคธุรกิจและผู้ประกอบการ หยุดกิจการ ลดขนาดกิจการ หรือปรับธุรกิจออกนอกระบบภาษี จนนำไปสู่การปลดลูกจ้างและเลิกจ้างพนักงานเพื่อลดต้นทุนให้อยู่รอด
อีกทั้ง การปรับอัตราค่าจ้างที่สูงเกินกว่าความเป็นจริง ยังเป็นปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนในประเทศไทย ทำให้เกิดความไม่มั่นใจถึงต้นทุนของการทำธุรกิจและนโยบายภาครัฐ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน ยังมีปัญหาจากปัจจัยหลายประการที่มีความผันผวน อาทิ ค่าเงินบาท ราคาพลังงาน มาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างประเทศ และสงครามการค้าระหว่างประเทศต่างๆ เป็นต้น ซึ่งกระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขันและความน่าสนใจในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอย่างชัดเจน
หากรัฐบาลยืนยันที่จะให้มีการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 400 บาทต่อวันทั่วประเทศ โดยไม่คำนึงถึงกระบวนการและหลักเกณฑ์ในการพิจารณาตัวเลขการปรับที่เหมาะสมสอดคล้องกับแนวทางที่ได้รับการยอมรับมาโดยตลอดจากองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ว่ามีความยุติธรรมกับผู้ที่มีส่วนได้เสีย ซึ่งนำไปสู่การปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำแบบยั่งยืน ไม่ก่อให้เกิดปัญหาใหม่ตามมาในอนาคต ภาคเอกชนซึ่งเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากนโยบายการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาทเท่ากันทั่วประเทศ จำเป็นที่จะต้องรักษาสิทธิในการดำรงไว้ของหลักนิติธรรม (The Rule of Law) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับสมาชิกภาคเอกชนที่มีส่วนได้เสียในการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำดังกล่าวต่อไป