สรุปประเด็นที่คุณทักษิณพูดบนเวที
.
ตลาดตอนนี้มีอยู่ 3 คำ – Trust, Confident, Sentiment ซึ่งตอนนี้ไม่ค่อยดีทั้ง 3 ตัว
.
1) ตลาดหลักทรัพย์ และกลต.
- ตอนนี้ปรับตัวค่อนข้างช้า บางอย่างต้องเร็วกว่านี้ เช่น ออกพรก.
- Cooperate Governance – เกิดขึ้นอยู่ตลอด และจัดการช้า เมื่อเข้ามาแล้วต้อง Monitor ต่อ เหมือนตรวจสุขภาพตลอด ให้มั่นใจว่าจะไม่เกิดปัญหาที่กระทบตลาด
- High frequency trade โรบอทเข้ามาสู่ตลาดหุ้นทั่วโลก ไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อใครเลย เป็นการเทรดเสร็จในสิ้นวัน แต่ตลาดชอบ เพราะได้โวลุ่ม ดังนั้นต้องดูให้ดีอย่าให้มีแบบนี้ และเรื่องได้เปรียบเสียเปรียบในการต่อข้อมูล ตลท. ต้องดูแลให้ดี
- Slow action เมื่อมีปัญหา ใช้ระยะเวลาชี้แจงแก้ไขช้า ทำให้เกิดความไม่น่าเชื่อถือ ดังนั้นกระทรวงการคลังจะให้อำนาจกับกลต. เพื่อจัดการปัญหา
- บริษัทในตลาดหุ้นเป็นธุรกิจเก่า รัฐบาลจะให้ BOI ชักชวนบริษัทใหญ่ในต่างประเทศ เพื่อเข้ามา IPO ในตลาด เช่น Entertainment complex เพื่อเพิ่มบริษัทในตลาดให้มากขึ้น
- หุ้นหลายตัว PB, PE ต่ำ อยากสนับสนุน Treasury stock ให้บริษัทซื้อหุ้นคืน และตลาดหลักทรัพย์ควรให้บริษัทในตลาดทำ Plan ว่าจะทำให้ราคาหุ้นเพิ่มอย่างไร
- อยากให้กลต. ต้องเพิ่มอนุญาต และโอกาสด้าน Asset ใหม่ๆ มากขึ้น เช่น สหรัฐจะให้ชำระหนี้ด้วย Bitcoin ดังนั้นถ้าเราเห็นประเทศใหญ่มาทางนี้ เราควรจะตื่นตัวกับเรื่องเหล่านี้ ไม่ปิดโอกาสตัวเอง
- อยากให้มี Carbon credit เทรด ตอนนี้ที่ไทยซื้อขายกันที่ 7$ ต่อตัน แต่ที่สิงคโปร์ ยุโรปแพงกว่าที่ไทยเยอะมาก
.
2) ไทยต้องพัฒนาตัวเองเป็น Financial center และโอกาสอื่นๆ ให้ได้
- ศึกษาจากดูไบ และสิงคโปร์ และหาตรงกลางที่ไทยควรจะเป็น
- เพิ่มปริมาณเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจให้มากขึ้น ตอนนี้เงินในระบบถูกดูดไปอยู่ใน Bond เยอะไปหน่อย ตัวอย่างกองทุน ESG ก็ไปอยู่ใน Bond ซะเยอะ
- รัฐบาลเตรียมจะทำ sandbox อาจจะเริ่มที่ภูเก็ต โดยการรับ Bitcoin เพื่อรับชำระเงินค่าสินค้าบริการต่างๆ
- อยากให้รัฐบาลมี sandbox เรื่อง innovation เพราะว่ากฏหมายตามไม่ทันโลก เช่น stem cell
- รัฐบาลส่งเสริมการลงทุนขนาดใหญ่เข้าประเทศให้มากกว่าเดิม เช่น Data center
- ค่าไฟต้องถูกลง เพื่อให้การลงทุนขนาดใหญ่วิ่งเข้าประเทศ เบื้องต้นควรจะลดมาที่ 3.70 บาทต่อหน่วย
- ประเทศไทยต้องพัฒนาคน พัฒนาเศรษฐกิจใหม่ ไม่ยังงั้นประเทศเราจะเสียเปรียบกลายเป็น tier ล่างของระบบเศรษฐกิจโลก เช่น NVDIA ไปลงทุนในเวียดนาม เพราะมี Engineer เยอะรองจากอินเดีย
.
3) การพัฒนาประเทศที่เป็นผลดีกับตลาดทุน
- EV จากประเทศจีนที่เข้ามาในประเทศ และระบบ Ecosystem ของ Automobile ที่มีอยู่ในประเทศ ต้องทำให้สมดุลกัน และธนาคารไม่ปล่อยสินเชื่อรถยนต์ ทำให้กระทบเป็นลูกโซ่ต่อเนื่องไป ดังนั้นรัฐบาลต้องทำให้เศรษฐกิจเติบโต
- ระวัง Geopolitics และ Trade war หลังจากที่ทรัมป์ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี ดังนั้นการส่งออกเราต้องหาตลาดใหม่ และปรับคุณภาพสินค้าของไทยมากขึ้น ทั้งอุตสาหกรรม และเกษตร ส่วนการนำเข้า เราต้องดูเรื่องสินค้านำเข้าที่ราคาถูก และมาทำร้าย SMEs บ้านเรา
- เราต้องสร้างอุตสาหกรรมใหม่ เพื่อทดแทนการนำเข้าได้อย่างไร เช่น ยา, เวชภัณฑ์, Semiconductor
- ข้อดูของ Geopolitics คือ สินค้าจีน เมกา หรือที่อื่นอยากมาผ่านที่ไทย ดังนั้น BOI ต้องเน้นเรื่อง Local content เพื่อให้เกิดการจ้างงาน การผลิตในประเทศไทย
- ปีนี้จะเป็นปี Kick off เริ่มผลิตคนด้าน Soft power ในไทย เพื่อทำงานให้มีรายได้มากกว่าค่าจ้างขั้นต่ำ เช่น เชฟ, มวยไทย, e-sport, สร้างคนขายของในแต่ละจังหวัดเป็น tiktoker เพื่อขายสินค้าจังหวัดตัวเอง
- การท่องเที่ยวต้องเน้นความสะดวก และความปลอดภัยในการเข้า-ออกประเทศ กำลังจะติดตั้งระบบกล้องวงจรปิดพร้อม AI เพื่อให้เป็น smart city เริ่มในกทม. และจังหวัดท่องเที่ยว เพื่อเป็นหลักประกันนักท่องเที่ยวในเรื่องความปลอดภัย
- สร้าง Infrastructure ทั้งสนามบินใหม่, ถนนในภูเก็ต, รถไฟใต้ดินเชียงใหม่
- ทำ Man-made ท่องเที่ยว สร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ในต่างจังหวัด เพื่อกระจายรายได้
- สร้างระบบนิเวศน์เพื่อให้ประชาชนทำธุรกิจใหม่ๆ รวมทั้งสร้าง AI ให้เกิดอย่างกว้างขวาง ให้ประชาชนได้ใช้
- ใช้กฏหมายเรื่องทรัพย์อิงสิทธิ โดยให้เช่าสิทธิ 99 ปีในทรัพย์สินของรัฐ เพื่อให้เกิดการลงทุนใหม่ๆ เช่น สร้างบ้านให้คนไทยบนพื้นที่ของการรถไฟ ทำเลใกล้รถไฟฟ้า (ไม่ต้องดาวน์ ให้ผ่อนเหมือนค่าเช่าเดือนละ 4 พันกว่าบาท)
- มีโครงการถมทะเล เพราะกรุงเทพอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล เพื่อกันไม่ให้น้ำเข้ากรุงเทพ แต่รัฐบาลลงทุนเองไม่ไหว ดังนั้นถ้ามีเรื่องทรัพย์อิงสิทธิ จะเชิญชวนต่างประเทศ เพื่อถมทะเลและทำธุรกิจได้
- ขอให้กระทรวงคมนาคมแก้กฏหมาย เพื่อให้เอกชน และประชาชนสามารถมาขุดลอกคลอง เพื่อเอาดินไปใช้ประโยชน์ได้
.
4) ปัญหาเรื้อรังของประชาชนที่ต้องแก้
- PM2.5 ต้องแก้ให้ได้ ต้องขอความร่วมมือจากภาคธุรกิจช่วยกันไม่ต้องเผา ต้องเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้
- Call center, ยาเสพติด ต้องจัดการ
- ประชาชนไม่มีตังใช้ เพราะเงินที่หาได้เอาไปใช้จ่ายก็ใช้ไปกับธุรกิจที่อยู่ในกทม เงินไม่ได้ไหลเวียนในต่างจังหวัด ดังนั้นต้องจูงใจให้บริษัทในกทม.ไปตั้ง Head quarter ที่ต่างจังหวัดโดยสามารถลดภาษีได้, สนามบินต่างจังหวัดจัดตั้งให้เป็น Hub ของสายการบินต่างๆ เพื่อให้เครื่องบินไปจอดแทน และใช้ Digital wallet โดยมี Blockchain เพื่อควบคุมการใช้จ่ายในพื้นที่นั้นๆ
- ต้องเอาเศรษฐกิจใต้ดินขึ้นมาบนดิน เช่น การพนัน เพราะมีเงินหมุนเวียนเยอะ ถ้าเอาขึ้นมาบนดิน รัฐจะได้ภาษีมาทำประโยชน์ และสามารถควบคุมคนเล่นได้
.
ตั้งเป้า GDP ไทยปี 2025 โต 3กว่า - 4% และปี 2026 โต 5% ต้องทำให้ได้
.
"พรุ่งนี้หุ้นไม่ขึ้น ผมจะไปอยู่ไหนดี"
cr หุ้นเบรคเอาท์
คลิปเต็ม 3 ชม
https://www.youtube.com/live/0LeEnZ_feVk?si=Vm3u7vcT2NnveQIv
สรุปประเด็นคุณทักษิณพูดดินเนอร์ทอล์ค Chat with Tony “Bull Rally of Thai Capital”
สรุปประเด็นที่คุณทักษิณพูดบนเวที
.
ตลาดตอนนี้มีอยู่ 3 คำ – Trust, Confident, Sentiment ซึ่งตอนนี้ไม่ค่อยดีทั้ง 3 ตัว
.
1) ตลาดหลักทรัพย์ และกลต.
- ตอนนี้ปรับตัวค่อนข้างช้า บางอย่างต้องเร็วกว่านี้ เช่น ออกพรก.
- Cooperate Governance – เกิดขึ้นอยู่ตลอด และจัดการช้า เมื่อเข้ามาแล้วต้อง Monitor ต่อ เหมือนตรวจสุขภาพตลอด ให้มั่นใจว่าจะไม่เกิดปัญหาที่กระทบตลาด
- High frequency trade โรบอทเข้ามาสู่ตลาดหุ้นทั่วโลก ไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อใครเลย เป็นการเทรดเสร็จในสิ้นวัน แต่ตลาดชอบ เพราะได้โวลุ่ม ดังนั้นต้องดูให้ดีอย่าให้มีแบบนี้ และเรื่องได้เปรียบเสียเปรียบในการต่อข้อมูล ตลท. ต้องดูแลให้ดี
- Slow action เมื่อมีปัญหา ใช้ระยะเวลาชี้แจงแก้ไขช้า ทำให้เกิดความไม่น่าเชื่อถือ ดังนั้นกระทรวงการคลังจะให้อำนาจกับกลต. เพื่อจัดการปัญหา
- บริษัทในตลาดหุ้นเป็นธุรกิจเก่า รัฐบาลจะให้ BOI ชักชวนบริษัทใหญ่ในต่างประเทศ เพื่อเข้ามา IPO ในตลาด เช่น Entertainment complex เพื่อเพิ่มบริษัทในตลาดให้มากขึ้น
- หุ้นหลายตัว PB, PE ต่ำ อยากสนับสนุน Treasury stock ให้บริษัทซื้อหุ้นคืน และตลาดหลักทรัพย์ควรให้บริษัทในตลาดทำ Plan ว่าจะทำให้ราคาหุ้นเพิ่มอย่างไร
- อยากให้กลต. ต้องเพิ่มอนุญาต และโอกาสด้าน Asset ใหม่ๆ มากขึ้น เช่น สหรัฐจะให้ชำระหนี้ด้วย Bitcoin ดังนั้นถ้าเราเห็นประเทศใหญ่มาทางนี้ เราควรจะตื่นตัวกับเรื่องเหล่านี้ ไม่ปิดโอกาสตัวเอง
- อยากให้มี Carbon credit เทรด ตอนนี้ที่ไทยซื้อขายกันที่ 7$ ต่อตัน แต่ที่สิงคโปร์ ยุโรปแพงกว่าที่ไทยเยอะมาก
.
2) ไทยต้องพัฒนาตัวเองเป็น Financial center และโอกาสอื่นๆ ให้ได้
- ศึกษาจากดูไบ และสิงคโปร์ และหาตรงกลางที่ไทยควรจะเป็น
- เพิ่มปริมาณเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจให้มากขึ้น ตอนนี้เงินในระบบถูกดูดไปอยู่ใน Bond เยอะไปหน่อย ตัวอย่างกองทุน ESG ก็ไปอยู่ใน Bond ซะเยอะ
- รัฐบาลเตรียมจะทำ sandbox อาจจะเริ่มที่ภูเก็ต โดยการรับ Bitcoin เพื่อรับชำระเงินค่าสินค้าบริการต่างๆ
- อยากให้รัฐบาลมี sandbox เรื่อง innovation เพราะว่ากฏหมายตามไม่ทันโลก เช่น stem cell
- รัฐบาลส่งเสริมการลงทุนขนาดใหญ่เข้าประเทศให้มากกว่าเดิม เช่น Data center
- ค่าไฟต้องถูกลง เพื่อให้การลงทุนขนาดใหญ่วิ่งเข้าประเทศ เบื้องต้นควรจะลดมาที่ 3.70 บาทต่อหน่วย
- ประเทศไทยต้องพัฒนาคน พัฒนาเศรษฐกิจใหม่ ไม่ยังงั้นประเทศเราจะเสียเปรียบกลายเป็น tier ล่างของระบบเศรษฐกิจโลก เช่น NVDIA ไปลงทุนในเวียดนาม เพราะมี Engineer เยอะรองจากอินเดีย
.
3) การพัฒนาประเทศที่เป็นผลดีกับตลาดทุน
- EV จากประเทศจีนที่เข้ามาในประเทศ และระบบ Ecosystem ของ Automobile ที่มีอยู่ในประเทศ ต้องทำให้สมดุลกัน และธนาคารไม่ปล่อยสินเชื่อรถยนต์ ทำให้กระทบเป็นลูกโซ่ต่อเนื่องไป ดังนั้นรัฐบาลต้องทำให้เศรษฐกิจเติบโต
- ระวัง Geopolitics และ Trade war หลังจากที่ทรัมป์ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี ดังนั้นการส่งออกเราต้องหาตลาดใหม่ และปรับคุณภาพสินค้าของไทยมากขึ้น ทั้งอุตสาหกรรม และเกษตร ส่วนการนำเข้า เราต้องดูเรื่องสินค้านำเข้าที่ราคาถูก และมาทำร้าย SMEs บ้านเรา
- เราต้องสร้างอุตสาหกรรมใหม่ เพื่อทดแทนการนำเข้าได้อย่างไร เช่น ยา, เวชภัณฑ์, Semiconductor
- ข้อดูของ Geopolitics คือ สินค้าจีน เมกา หรือที่อื่นอยากมาผ่านที่ไทย ดังนั้น BOI ต้องเน้นเรื่อง Local content เพื่อให้เกิดการจ้างงาน การผลิตในประเทศไทย
- ปีนี้จะเป็นปี Kick off เริ่มผลิตคนด้าน Soft power ในไทย เพื่อทำงานให้มีรายได้มากกว่าค่าจ้างขั้นต่ำ เช่น เชฟ, มวยไทย, e-sport, สร้างคนขายของในแต่ละจังหวัดเป็น tiktoker เพื่อขายสินค้าจังหวัดตัวเอง
- การท่องเที่ยวต้องเน้นความสะดวก และความปลอดภัยในการเข้า-ออกประเทศ กำลังจะติดตั้งระบบกล้องวงจรปิดพร้อม AI เพื่อให้เป็น smart city เริ่มในกทม. และจังหวัดท่องเที่ยว เพื่อเป็นหลักประกันนักท่องเที่ยวในเรื่องความปลอดภัย
- สร้าง Infrastructure ทั้งสนามบินใหม่, ถนนในภูเก็ต, รถไฟใต้ดินเชียงใหม่
- ทำ Man-made ท่องเที่ยว สร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ในต่างจังหวัด เพื่อกระจายรายได้
- สร้างระบบนิเวศน์เพื่อให้ประชาชนทำธุรกิจใหม่ๆ รวมทั้งสร้าง AI ให้เกิดอย่างกว้างขวาง ให้ประชาชนได้ใช้
- ใช้กฏหมายเรื่องทรัพย์อิงสิทธิ โดยให้เช่าสิทธิ 99 ปีในทรัพย์สินของรัฐ เพื่อให้เกิดการลงทุนใหม่ๆ เช่น สร้างบ้านให้คนไทยบนพื้นที่ของการรถไฟ ทำเลใกล้รถไฟฟ้า (ไม่ต้องดาวน์ ให้ผ่อนเหมือนค่าเช่าเดือนละ 4 พันกว่าบาท)
- มีโครงการถมทะเล เพราะกรุงเทพอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล เพื่อกันไม่ให้น้ำเข้ากรุงเทพ แต่รัฐบาลลงทุนเองไม่ไหว ดังนั้นถ้ามีเรื่องทรัพย์อิงสิทธิ จะเชิญชวนต่างประเทศ เพื่อถมทะเลและทำธุรกิจได้
- ขอให้กระทรวงคมนาคมแก้กฏหมาย เพื่อให้เอกชน และประชาชนสามารถมาขุดลอกคลอง เพื่อเอาดินไปใช้ประโยชน์ได้
.
4) ปัญหาเรื้อรังของประชาชนที่ต้องแก้
- PM2.5 ต้องแก้ให้ได้ ต้องขอความร่วมมือจากภาคธุรกิจช่วยกันไม่ต้องเผา ต้องเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้
- Call center, ยาเสพติด ต้องจัดการ
- ประชาชนไม่มีตังใช้ เพราะเงินที่หาได้เอาไปใช้จ่ายก็ใช้ไปกับธุรกิจที่อยู่ในกทม เงินไม่ได้ไหลเวียนในต่างจังหวัด ดังนั้นต้องจูงใจให้บริษัทในกทม.ไปตั้ง Head quarter ที่ต่างจังหวัดโดยสามารถลดภาษีได้, สนามบินต่างจังหวัดจัดตั้งให้เป็น Hub ของสายการบินต่างๆ เพื่อให้เครื่องบินไปจอดแทน และใช้ Digital wallet โดยมี Blockchain เพื่อควบคุมการใช้จ่ายในพื้นที่นั้นๆ
- ต้องเอาเศรษฐกิจใต้ดินขึ้นมาบนดิน เช่น การพนัน เพราะมีเงินหมุนเวียนเยอะ ถ้าเอาขึ้นมาบนดิน รัฐจะได้ภาษีมาทำประโยชน์ และสามารถควบคุมคนเล่นได้
.
ตั้งเป้า GDP ไทยปี 2025 โต 3กว่า - 4% และปี 2026 โต 5% ต้องทำให้ได้
.
"พรุ่งนี้หุ้นไม่ขึ้น ผมจะไปอยู่ไหนดี"
cr หุ้นเบรคเอาท์
คลิปเต็ม 3 ชม
https://www.youtube.com/live/0LeEnZ_feVk?si=Vm3u7vcT2NnveQIv