คับคั่ง! คนไทยในสวิตเซอร์แลนด์แห่รับ ‘พิธา’ บี้รัฐบาลรักษาสัญญา เลิกเกณฑ์ทหาร
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8160704

คับคั่ง! คนไทยในสวิตเซอร์แลนด์ แห่ต้อนรับ “พิธา” บี้ รัฐบาล รักษาสัญญา ยกเลิกเกณฑ์ทหาร ชี้ นำงบประมาณ ไปพัฒนากองทัพด้านอื่น
 
เมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2567 ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมสหภาพรัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล และนายชัยวัฒน์ สถาวรวิจิตร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เดินทางไปพบปะคนไทยในสวิตเซอร์แลนด์ ที่ร้าน Jame’s Pub โดยมีนายปดิพัทธ์ สันติภาดา สส.พิษณุโลก พรรคเป็นธรรม ร่วมด้วย
 
โดยนายพิธา กล่าวว่า ขอขอบคุณคนไทยในสวิตเซอร์แลนด์หลายหมื่นคน ในการเลือกตั้งใหญ่ 14 พ.ค. 2566 มีประชาชนทั้งในประเทศไทยและในสวิตเซอร์แลนด์ออกมาใช้สิทธิ์ออกเสียงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ส่งให้พรรคก้าวไกลเป็นพรรคอันดับหนึ่ง
 
ทางด้านคนไทยในยุโรปสอบถามด้วยความกังวลต่อประเด็นการเกณฑ์ทหารในประเทศไทย เนื่องจากเป็นแม่ที่มีลูกชายอาศัยอยู่นอกประเทศไทย แต่ต้องกลับไปเกณฑ์ทหาร ก่อนหน้านี้พรรคก้าวไกลได้หาเสียงเกี่ยวกับการยกเลิกเกณฑ์ทหาร จะเป็นทหารต้องสมัครใจ จึงอยากถามนโยบายของพรรคก้าวไกลในอนาคตว่าจะเป็นอย่างไร
 
นายพิธา กล่าวว่า ยืนยันตามที่เราได้หาเสียงไปแล้วว่า ถ้าเป็นรัฐบาลเมื่อไหร่ก็ยกเลิกเกณฑ์ทหาร การยกเลิกการเกณฑ์ทหารไม่ได้หมายความว่ายกเลิกการมีทหาร ทหารก็ยังมีอยู่ด้วยความสมัครใจ แต่เป็นเรื่องสิทธิมนุษยชน เรื่องโอกาสในการเป็นทหารมืออาชีพ
 
“ถ้าเรายกเลิกเกณฑ์ทหารก็สามารถนำงบประมาณไปพัฒนากองทัพด้านอื่นได้ เช่น การซื้ออาวุธที่มีความเหมาะสมกับความท้าทายในโลกสมัยใหม่ ผมจะใช้โอกาสนี้ในการกดดันรัฐบาลให้รักษาสัญญาที่เคยหาเสียงไว้ เพียงแต่ว่าหลังเลือกตั้งไม่ได้ไปตามทิศทางนั้น” นายพิธา กล่าว
 

---

พีมูฟ ยื่น กมธ.พัฒนาการเมือง ตรวจสอบ ปมขออนุญาตชุมนุมถูกกม. แต่ถูกตลบหลัง ออกหมายเรียก
https://www.matichon.co.th/politics/news_4496769

พีมูฟ ยื่น กมธ.พัฒนาการเมือง ตรวจสอบ ปมขออนุญาตชุมนุมถูกกม. แต่ถูกตลบหลัง ออกหมายเรียก จี้ ยกเลิก พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ ขัดสิทธิเสรีภาพ
 
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 28 มีนาคม ที่รัฐสภา นายธีรเนตร ไชยสุวรรณ ประธานกรรมการบริหารขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือพีมูฟ ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชนสภาฯ ​โดยมีนายพงศธร ศรเพชรนรินทร์  สส.ระยอง พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานกมธ.ฯ มารับเรื่อง เพื่อขอให้ตรวจสอบการบังคับใช้พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) การชุมนุมสาธารณะ ที่ละเมิดต่อเสรีภาพในการชุมนุมของประชาชนเพราะขปส. ได้รับผลกระทบ จากกฎหมายและนโยบายของรัฐ ในด้านที่ดิน ที่ทำกิน ที่อยู่อาศัย
 
นายธีรเนตร กล่าวว่า ทางกลุ่มได้ออกมาต่อสู้เรียกร้องรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน จากการชุมนุมครั้งล่าสุดตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ.-28 ก.พ. รวม 24 วัน ก่อนจะประกาศยุติการชุมนุม ภายหลังบรรลุข้อเรียกร้อง เช่น การเดินหน้าจัดการที่ดินแบบชุมชน การผลักดัน การกระจายถือครองที่ดิน ในรูปแบบธนาคารที่ดิน อีกทั้งก่อนหน้านั้นการชุมนุมสมัยรัฐบาลนายเศรษฐา ช่วงเดือน ต.ค. 66 และมีมติคณะรัฐมนตรีครม.)เมื่อวันที่ 16 ต.ค.66 รับทราบผลสรุปการประชุม คณะกรรมการแก้ไขปัญหา ของ ขปส.แต่หลังเสร็จสิ้นการชุมนุม กลับมีหมายเรียกผู้ต้องหา ส่งถึงแกนนำพีมูฟ โดยเป็นคดีระหว่าง พ.ต.ท.ชัยธัช เชียงทา รองผู้กำกับสน.ดุสิต และนายจำนงค์ หนูพันธ์ กับพวก รวมถึงตนด้วย
 
โดยมีข้อกล่าวหาคือเป็นผู้จัดให้มีการชุมนุม ฝ่าฝืนคำสั่ง ประกาศ 50 เมตร รอบทำเนียบรัฐบาล และให้ไปพบพนักงานสืบสวนสอบสวน ในวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งพีมูฟและทีมทนาย ทำหนังสือถึงสน.ดุสิต ขอเลื่อนรับทราบข้อกล่าวหาเป็นวันนี้(28 มี.ค.)เวลา 10.00 น.พร้อมยืนยันจะปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาเนื่องจากเป็นสิทธิและเสรีภาพ ในการแสดงออกในรัฐธรรมนูญ รวมถึงกติการะหว่างประเทศ ว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองที่ไทยร่วมเป็นภาคี และได้มีการแจ้งดำเนินการชุมนุมในที่สาธารณะอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
 
นายธีรเนตร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ระหว่างการชุมนุมที่มีแนวโน้มปักหลักชุมนุมนานกว่าเดิม ก็ได้มีการแจ้งขยายระยะเวลาการชุมนุมไปแล้ว และ พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ มีไว้เพื่ออำนวยความสะดวก ปกป้องสิทธิการชุมนุมของประชาชน ไม่ใช่การนำมาบังคับใช้เพื่อริดรอนสิทธิเสรีภาพ ในการแสดงออกของประชาชน โดยตลอดระยะเวลาการชุมนุม พีมูฟและรัฐบาล ได้ประชุมหารือร่วมกัน เพื่อแก้ปัญหาที่ชัดเจนสมเหตุสมผล จึงได้ยุติการชุมนุม ดังนั้นเพื่อเป็นบรรทัดฐานให้ผู้ชุมนุมกลุ่มอื่นๆ ที่จะออกมาชุมนุมเคลื่อนไหว ขอเรียกร้องให้ กมธ.ฯ ตรวจสอบการบังคับใช้ พ.ร.บ. การชุมนุมสาธารณะ ว่าละเมิดสิทธิประชาชน และหลักสิทธิมนุษยชนสากลหรือไม่ พร้อมขอให้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาชี้แจงหาแนวทางแก้ไข ข้อจำกัด หรือยกเลิก พ.ร.บ. ฉบับดังกล่าว ซึ่งไม่ได้เอื้ออำนวยให้ประชาชน สามารถจัดการชุมนุมได้อย่างสันติ
 
ด้านนายพงศธร กล่าวว่า ช่วงบ่ายวันนี้(28 มี.ค.)จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาหารือและชี้แจงต่อกมธ.ฯ เพื่อหาข้อสรุปต่อไป

---

 
"พรรณิการ์" ชวนประชาชนจัดตั้งกันเอง เลือก สว. ลั่นแพ้ไม่เป็นไร
https://www.thairath.co.th/news/politic/2774115

"พรรณิการ์" กก.คณะก้าวหน้า กล่าวในงานเสวนา ชวนประชาชนจัดตั้งกันเอง เลือก สว. ชี้ แม้ในสมรภูมิที่ระบบเลือกตั้งซับซ้อน ชนชั้นนำ และประชาชน เริ่มต้นเท่ากัน แพ้ไม่เป็นไร ชนะได้ สว.จากประชาชน ประเทศไทยจะไม่เหมือนเดิม
 
วันที่ 28 มี.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการคณะก้าวหน้า ร่วมเสวนาภายใต้หัวข้อ กระบวนการเลือก สว. : ที่มา การทำงาน และความสำคัญ โดยมี สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. และยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการ iLaw ร่วมพูดคุย ณ ห้องจิ๊ด เศรษฐบุตร คณะนิติศาสตร์  มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
 
โดยระหว่างการเสวนา น.ส.พรรณิการ์ ตั้งคำถามว่า คนในห้องประชุมเกือบทั้งหมดนั้นไม่สามารถลงเลือกตั้งสว.ได้ เนื่องจากคนจำนวนมากไม่มีอายุไม่ถึง 40 ปี พร้อมกับตั้งข้อสังเกตว่า การเลือกตั้ง สว.ที่กำลังจะมาถึง มีลักษณะที่ไม่ควรถูกเรียกว่าการเลือกตั้ง เนื่องจากเป็นระบบที่ผู้สมัครต้องเสียค่าสมัคร 2,500 บาท และต้องมีคุณสมบัติอีกหลายประการเพื่อให้สามารถเข้าสู่ระบบการเลือกได้ ซึ่งทำให้คนจำนวนน้อยสามารถเข้าไปลงสมัครได้
โดย น.ส.พรรณิการ์ วิพากษ์วิจารณ์ถึงการเลือกตั้ง สว. ที่จะเกิดขึ้นว่า เป็นระบบที่ต้องการหาความชอบธรรม แม้ว่าจะไม่ได้มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด ซึ่งเกิดแนวคิดว่า สรรหาตามกลุ่มอาชีพให้โอกาสกับกลุ่มสตรีกลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มผู้พิการ แต่การแบ่งกลุ่มตามกลุ่มอาชีพ 20 กลุ่มนั้น ไม่ชอบธรรมและซับซ้อน เต็มไปด้วยเช่นช่องโหว่ พร้อมกับยกตัวอย่าง เช่น สว.กลุ่มนักเขียน กับสว.กลุ่มสื่อมวลชน ถูกรวมอยู่ในกลุ่มเดียวกัน สายสิ่งแวดล้อมก้บอสังหาริมทรัพย์ อยู่กลุ่มเดียวกัน พร้อมตั้งคำถามต่อว่า และการเลือกตั้งแต่ระดับอำเภอ จังหวัด จนถึงประเทศ จะหาคน 20 กลุ่มนี้ได้ในทุกอำเภอจริงหรือไม่ จะหาคนทำนาที่ไหนในเขตเมืองกรุงเทพฯ ชั้นใน
 
“ท่านเคยสงสัยไหมคะว่าในอำเภออมก๋อยจะมีผู้ประกอบอาชีพนวัตกรรมเทคโนโลยีอยู่สักกี่คน ในทางตรงกันข้ามเขตราชเทวีจะมีชาวนาไหมคะ ยังไม่นับชาวประมง จากอำเภอจอมทอง (เชียงใหม่) ยังไงดีคะ ขณะเดียวกัน สายบุรี (ปัตตานี) จะมีคนทำอุตสาหกรรมหรือการเงินสักกี่คน” น.ส.พรรณิการ์ ยกตัวอย่าง
 
พร้อมกันนี้ น.ส.พรรณิการ์ กล่าวโดยสรุปว่า สว.คือ องค์กรที่ถูกสร้างขึ้นมาแต่ต้นเพื่อคัดคานอำนาจที่มาจากการเลือกตั้งของสภาผู้แทนฯ โดยที่ตัวเองไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่พยายามจะถูกย้อมและพยายามจะสร้างหลักการให้ตัวเองเป็นองค์กรที่น่าเชื่อถือขึ้นมา และมองว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะไม่ประสบความสำเร็จหากปราศจากการมีส่วนร่วมของประชาชน ภายใต้ระบบที่ซับซ้อนเช่นนี้ไม่ต่างอะไรกับการเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมครั้งที่ผ่านมา ที่ชนชั้นนำพยายามไม่ประชาสัมพันธ์ เพราะผู้มีอำนาจรู้ว่ายิ่งประชาสัมพันธ์ คนมาลงคะแนนมาก คะแนนจัดตั้งจะแพ้ ฉะนั้นประชาชนจึงควรร่วมมือกันทำในสิ่งที่ตรงกันข้าม ในขณะที่เขาพยายามปิดกั้นการรับรู้ การเข้าถึงการเลือกตั้ง เราก็รณรงค์ให้ประชาชนไปลงทะเบียนเพื่อเลือกบอร์ดประกันสังคม สุดท้ายแล้วมันก็เห็นได้ชัดว่าเมื่อประชาชนจัดตั้งกันเอง ตื่นตัวแล้ว ประชาชนคือผู้ที่มีสิทธิ์ที่จะเข้าไปสร้างการเปลี่ยนแปลง นี่คือความสำเร็จของการคิดมุมกลับกับผู้มีอำนาจที่ออกแบบระบบกีดกันประชาชน
 
“ในการเลือก สว. ระหว่างเราคนธรรมดาประสบการณ์เท่ากันกับผู้มีอำนาจ ประสบการณ์เท่ากับ 0 เหมือนกัน เพราะเพิ่งจะเลือกระบบนี้กันครั้งแรก ก็ลองมาวัดการจัดตั้งค่ะว่าระหว่างประชาชนที่ต่างคนต่างสมัครต่างคนต่างไปลงคะแนนเลือกกันเอง กับคนของผู้มีอำนาจ ใครชนะ ถ้าประชาชนชนะ ครั้งนี้เราจะได้ สว.ของประชาชน ที่มีอำนาจในการสรรหาองค์กรอิสระต่างๆ ที่เป็นต้นกำเนิดของความขัดแย้งและวิกฤติในการเมืองไทยตลอด 20 ปีที่ผ่านมาล้วนผ่านมือของสว. เพราะฉะนั้นถ้าแพ้ไม่เป็นไร เสมอตัว แต่ถ้าชนะขึ้นมาประเทศไทยไม่มีวันเหมือนเดิม ไม่ใช่แค่สภาล่างอีกต่อไป แต่รวมถึงที่วุฒิสภาด้วย เพราะฉะนั้นเป็นสมรภูมิที่พวกเราไม่มีอะไรจะเสีย เสี่ยงกันดูสักตั้งหนึ่งแล้วก็ลุ้นกันว่าการจัดตั้งกันเองของประชาชนจะพาเราไปได้ไกลถึงไหน” น.ส.พรรณิการ์ กล่าว.