การภาวนาเพื่อพบจิตเดิมแท้ จิตแท้ จิตดั้งเดิม
การภาวนาพุทโธ ลมหายใจเข้าภาวนา พุท ลมหายใจออกภาวนา โธ
เมื่อเข้าสู่ฌาน 2 วจีสังขาร คือ ความปรุงแต่งทางวาจาดับลง (วิตก วิจารณ์ หรือ คำภาวนา พุทโธ)
เมื่อเข้าสู่ฌาน 4 กายสังขาร คือ ความปรุงแต่งทางกายดับลง (รูปดับ ความรู้สึกทางกาย ลมหายใจดับสนิท)
มโนสังขาร คือ ความรู้สึกทางใจดับบางส่วน เฉพาะ เวทนา คือ ความรู้สึกสุขและทุกข์ดับลง ยังเหลือสัญญาและวิญญาณ
เมื่อเข้าสู่อรูปฌาน 4 (เนวสัญญานาสัญญายตนะ) มโนสังขารดับสนิท คือ วิญญาณ อาการรู้ของจิตผ่านอายตนะ 6 สัญญา ความจำได้หมายรู้ดับสนิทลง วจีสังขาร กายสังขาร มโนสังขารดับสนิท
พระอนาคามีและพระอรหันต์ เรียกว่า เข้าสัญญาเวทยิตนิโรธ
จิตหลุดแยกจากขันธ์ 5 กลับสู่ความเดิมแท้ (ดั้งเดิม) คือ ผ่องใส ส่องสว่างเป็นประภัสสรยิ่งกว่าดวงอาทิตย์ท่ามกลางความว่างไร้สมมุติบัญญัติทั้งปวง ไร้กายและลมหายใจ (รูป) ไร้สุข ไร้ทุกข์ (เวทนา) ไร้ความจำได้หมายรู้ (สัญญา) ไร้ความคิดปรุงแต่งทั้งปวง (สังขาร) ไร้อาการรู้ผ่านอายตนะทั้ง 6 (วิญญาณ) จิตพิจารณาเห็นการเกิดดับของขันธ์ 5 เกิดปัญญาว่า ขันธ์ 5 รูป เวทนา สัญญา สังขาร สังขาร วิญญาณไม่ใช่ จิต จิตเบื่อหน่ายในขันธ์ 5 น้อมลงสู่ความว่างไร้สมมุติบัญญัติทั้งปวง
อ้างอิง
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๘ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๐
สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค
กา. ดูกรคฤหบดี ภิกษุเมื่อจะเข้าสัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติ ไม่ได้คิด
อย่างนี้ว่า เราจักเข้าสัญญาเวทยิตนิโรธบ้าง เรากำลังเข้าสัญญาเวทยิตนิโรธบ้างเราเข้าสัญญาเวทยิตนิโรธแล้วบ้าง โดยที่ถูกก่อนแต่จะเข้า ท่านได้อบรมจิตที่จะน้อมไปเพื่อความเป็นจิตแท้ (จิตดั้งเดิม) ฯ
[๕๖๔] จิตตคฤหบดีกล่าวว่า ดีละ ท่านผู้เจริญ ดังนี้แล้ว ได้ถามปัญหายิ่งขึ้นไปอีกว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ก็เมื่อภิกษุเข้าสัญญาเวทยิตนิโรธอยู่ ธรรมเหล่าไหนดับก่อน คือ กายสังขาร วจีสังขาร หรือจิตตสังขารดับก่อน ฯ
กา. ดูกรคฤหบดี เมื่อภิกษุเข้าสัญญาเวทยิตนิโรธอยู่ วจีสังขารดับก่อนต่อจากนั้นกายสังขารดับ ต่อจากนั้นจิตตสังขารจึงดับ ฯ
[๕๖๕] จิตตคฤหบดีกล่าวว่า ดีละ ท่านผู้เจริญ ดังนี้แล้ว ได้ถามปัญหายิ่งขึ้นไปอีกว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ คนที่ตายแล้ว ทำกาละแล้ว กับภิกษุผู้เข้าสัญญาเวทยิตนิโรธ ทั้งสองนี้มีความต่างกันอย่างไร ฯ
กา. ดูกรคฤหบดี คนที่ตายแล้ว ทำกาละแล้ว มีกายสังขารดับสงบมีวจีสังขารดับสงบ มีจิตตสังขารดับสงบ มีอายุสิ้นไป ไออุ่นสงบ อินทรีย์แตกกระจาย ส่วนภิกษุผู้เข้าสัญญาเวทยิตนิโรธ กายสังขารดับสงบ วจีสังขารดับสงบ จิตตสังขารดับสงบ (แต่) ยังไม่สิ้นอายุ ไออุ่นยังไม่สงบ อินทรีย์ผ่องใส ดูกรคฤหบดี คนตายแล้ว ทำกาละแล้ว กับภิกษุผู้เข้าสัญญาเวทยิตนิโรธมีความต่างกันอย่างนี้ ฯ
การภาวนาเพื่อพบจิตเดิมแท้ จิตแท้ จิตดั้งเดิม
การภาวนาพุทโธ ลมหายใจเข้าภาวนา พุท ลมหายใจออกภาวนา โธ
เมื่อเข้าสู่ฌาน 2 วจีสังขาร คือ ความปรุงแต่งทางวาจาดับลง (วิตก วิจารณ์ หรือ คำภาวนา พุทโธ)
เมื่อเข้าสู่ฌาน 4 กายสังขาร คือ ความปรุงแต่งทางกายดับลง (รูปดับ ความรู้สึกทางกาย ลมหายใจดับสนิท)
มโนสังขาร คือ ความรู้สึกทางใจดับบางส่วน เฉพาะ เวทนา คือ ความรู้สึกสุขและทุกข์ดับลง ยังเหลือสัญญาและวิญญาณ
เมื่อเข้าสู่อรูปฌาน 4 (เนวสัญญานาสัญญายตนะ) มโนสังขารดับสนิท คือ วิญญาณ อาการรู้ของจิตผ่านอายตนะ 6 สัญญา ความจำได้หมายรู้ดับสนิทลง วจีสังขาร กายสังขาร มโนสังขารดับสนิท
พระอนาคามีและพระอรหันต์ เรียกว่า เข้าสัญญาเวทยิตนิโรธ
จิตหลุดแยกจากขันธ์ 5 กลับสู่ความเดิมแท้ (ดั้งเดิม) คือ ผ่องใส ส่องสว่างเป็นประภัสสรยิ่งกว่าดวงอาทิตย์ท่ามกลางความว่างไร้สมมุติบัญญัติทั้งปวง ไร้กายและลมหายใจ (รูป) ไร้สุข ไร้ทุกข์ (เวทนา) ไร้ความจำได้หมายรู้ (สัญญา) ไร้ความคิดปรุงแต่งทั้งปวง (สังขาร) ไร้อาการรู้ผ่านอายตนะทั้ง 6 (วิญญาณ) จิตพิจารณาเห็นการเกิดดับของขันธ์ 5 เกิดปัญญาว่า ขันธ์ 5 รูป เวทนา สัญญา สังขาร สังขาร วิญญาณไม่ใช่ จิต จิตเบื่อหน่ายในขันธ์ 5 น้อมลงสู่ความว่างไร้สมมุติบัญญัติทั้งปวง
อ้างอิง
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๘ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๐
สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค
กา. ดูกรคฤหบดี ภิกษุเมื่อจะเข้าสัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติ ไม่ได้คิด
อย่างนี้ว่า เราจักเข้าสัญญาเวทยิตนิโรธบ้าง เรากำลังเข้าสัญญาเวทยิตนิโรธบ้างเราเข้าสัญญาเวทยิตนิโรธแล้วบ้าง โดยที่ถูกก่อนแต่จะเข้า ท่านได้อบรมจิตที่จะน้อมไปเพื่อความเป็นจิตแท้ (จิตดั้งเดิม) ฯ
[๕๖๔] จิตตคฤหบดีกล่าวว่า ดีละ ท่านผู้เจริญ ดังนี้แล้ว ได้ถามปัญหายิ่งขึ้นไปอีกว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ก็เมื่อภิกษุเข้าสัญญาเวทยิตนิโรธอยู่ ธรรมเหล่าไหนดับก่อน คือ กายสังขาร วจีสังขาร หรือจิตตสังขารดับก่อน ฯ
กา. ดูกรคฤหบดี เมื่อภิกษุเข้าสัญญาเวทยิตนิโรธอยู่ วจีสังขารดับก่อนต่อจากนั้นกายสังขารดับ ต่อจากนั้นจิตตสังขารจึงดับ ฯ
[๕๖๕] จิตตคฤหบดีกล่าวว่า ดีละ ท่านผู้เจริญ ดังนี้แล้ว ได้ถามปัญหายิ่งขึ้นไปอีกว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ คนที่ตายแล้ว ทำกาละแล้ว กับภิกษุผู้เข้าสัญญาเวทยิตนิโรธ ทั้งสองนี้มีความต่างกันอย่างไร ฯ
กา. ดูกรคฤหบดี คนที่ตายแล้ว ทำกาละแล้ว มีกายสังขารดับสงบมีวจีสังขารดับสงบ มีจิตตสังขารดับสงบ มีอายุสิ้นไป ไออุ่นสงบ อินทรีย์แตกกระจาย ส่วนภิกษุผู้เข้าสัญญาเวทยิตนิโรธ กายสังขารดับสงบ วจีสังขารดับสงบ จิตตสังขารดับสงบ (แต่) ยังไม่สิ้นอายุ ไออุ่นยังไม่สงบ อินทรีย์ผ่องใส ดูกรคฤหบดี คนตายแล้ว ทำกาละแล้ว กับภิกษุผู้เข้าสัญญาเวทยิตนิโรธมีความต่างกันอย่างนี้ ฯ