เปิด 35 กมธ.นิรโทษกรรม ‘ชัยธวัช-โรม-ชูศักดิ์-ไพบูลย์’ ร่วมคณะ มีชื่อนักวิชาการอื้อ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4405074
เปิด 35 มือนิรโทษกรรม รวมตัวจี๊ดมีทั้ง ‘ชัยธวัช-โรม-ชูศักดิ์-ไพบูลย์’ พบนักวิชาการอื้อ
เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อ คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม จำนวน 35 คน ประกอบด้วย คณะรัฐมนตรี (ครม.) จำนวน 8 คน ได้แก่ นาย
พิชัย นิลทองคำ, นาย
สมบูรณ์ ม่วงกล่ำ, น.ส.
นริศรา แดงไผ่, นาย
สมคิด เชื้อคง, นาย
สฤษฎ์พงษ์ เกี่ยวข้อง, นาย
วุฒิสาร ตันไชย, นาย
ยุทธพร อิสรชัย, และนาย
เจือ ราชสีห์
พรรคก้าวไกล (ก.ก.) จำนวน 8 คน ได้แก่ นาย
ชัยธวัช ตุลาธน, นาย
รังสิมันต์ โรม, น.ส.
ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์, นาง
อังคณา นีละไพจิตร , ม.ล.
ศุภกิตติ์ จรูญโรจน์, ผศ.ดร.
จันจิรา สมบัติพูนศิริ, ผศ.ดร.
เข็มทอง ต้นสกุลรุ่งเรือง และน.ส.
ชญานิษฐ์ พูลยรัตน์
พรรคเพื่อไทย (พท.) จำนวน 8 คน ได้แก่ นาย
ชูศักดิ์ ศิรินิล, นาย
นพดล ปัทมะ, นาย
วัฒนา เตียงกูล, นาย
นรินท์พงศ์ จินาภักดิ์, นาย
วัชระพล ขาวขำ, นาย
จิรวัฒน์ อรัณยกานนท์, นาย
เชิดชัย ตันติศิรินทร์ และนาย
เอกชัย ไชยนุวัติ
พรรคภูมิใจไทย (ภท.) จำนวน 4 คน ได้แก่ นาย
ประดิษฐ์ สังขจาย, นาย
อนันต์ มานะกุล, นาย
ณัฐพศุตม์ ภัทธิราสินสิริ และนาย
ชัยรัตน์ มาตยานุมัตย์
พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นาย
ไพบูลย์ นิติตะวัน และนาย
จำลอง ภูนวนทา
พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นาย
วิชัย สุดสวาสดิ์ และนาย
พงศ์พล ยอดเมืองเจริญ
พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นาย
ชัยชนะ เดชเดโช
พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) นาย
นิกร จำนง
พรรคประชาชาติ (ปช.) นาย
วรวิทย์ บารู
ชัยธวัช แจงเหตุลบนโยบาย ม.112 จากเว็บ ยัน ส.ส.พูดถึงการแก้ไขได้ คำวินิจฉัยไม่ได้ห้าม
https://www.matichon.co.th/politics/news_4405104
‘ชัยธวัช’ แจง ‘นโยบาย ม.112’ ปลิวจากเว็บ เพราะคำวินิจฉัยศาล บอก ส.ส.พูดได้ ไม่หวั่นดาบใหญ่ฟัน 44 ส.ส. พร้อมสู้คดี ลั่นถ้าอยู่อียู คำวินิจฉัยใช้ไม่ได้
เมื่อเวลา 16.20 น. วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา นาย
ชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมร่วม ส.ส.พรรคก้าวไกล ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้การใช้นโยบายแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 หาเสียงของพรรคก้าวไกล เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง และถูกสั่งให้ยุติการกระทำดังกล่าว ซึ่งต่อมา นาย
เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้พิจารณายุบพรรคและตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล
นาย
ชัยธวัชกล่าวว่า วันนี้เป็นการพูดคุยกับ ส.ส.เพื่อทำความเข้าใจกับสถานการณ์ให้ตรงกัน และหารือการทำงานของพรรคหลังจากนี้ ส.ส.จะยังทำงานตามปกติ
เมื่อถามถึงกรณีที่เว็บไซต์พรรคลบนโยบายแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 ออกนั้น นาย
ชัยธวัชกล่าวว่า เนื่องจากฝ่ายกฎหมายเห็นว่าเป็นประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญหยิบขึ้นมาอยู่ในคำวินิจฉัยด้วยว่าการที่ยังมีนโยบายเรื่องนี้อยู่ในเว็บไซต์ก็เป็นส่วนหนึ่งที่นำไปสู่บทสรุปว่าเป็นการล้มล้างการปกครอง ซึ่งความจริง เราไม่คิดว่า จะเป็นประเด็นสาระสำคัญ
ส่วนที่ ส.ส.หรือสมาชิกพรรคยังมีความเห็นเกี่ยวกับการแก้ไขกฎหมาย ม.112 ในสื่อโซเชียลมีเดียนั้น นาย
ชัยธวัชกล่าวว่า คำวินิจฉัยไม่ได้บอกว่า ส.ส.จะเสนอแก้ไขปรับปรุง ม.112 ไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็น ส.ส.พรรคไหน ซึ่งตนได้ย้ำในการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ไปแล้วว่า ม.112 ยังเป็นปัญหาอยู่ เพราะฉะนั้น การที่สมาชิกพรรคบางส่วนยังมีความเห็นว่าควรแก้ไขมาตรานี้ก็ยังสามารถทำได้ เพียงแต่ต้องดูว่าอะไรคือการเสนอกฎหมายโดยชอบตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
เมื่อถามว่า การประชุมในวันนี้เป็นการระดมความเห็นของ ส.ส.หรือทีมกฎหมายของพรรคมีแนวทางปฏิบัติมาก่อนแล้ว นาย
ชัยธวัชกล่าวว่า ยังหรอก เพราะเมื่อวานเราฟังคำวินิจฉัยกัน แล้วยังไม่มีโอกาสได้พูดคุยกันจริงๆ เพราะต้องรีบเตรียมการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในวันนี้ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกันในช่วงสุดสัปดาห์ จึงถือโอกาสพูดคุยกันในวันนี้ เชื่อว่า ส.ส.คงมีความเห็นและข้อเสนอให้ได้แลกเปลี่ยนกัน
ส่วนที่มีอดีต ส.ส.พรรคก้าวไกล อาทิ น.ส.
สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา นาย
กัญจน์พงศ์ จงสุทธนามณี เข้าร่วมประชุมด้วย เพราะเป็นหนึ่งใน 44 รายชื่อที่ยื่นแก้ไขกฎหมายเมื่อปี 2564 หรือไม่ นาย
ชัยธวัชกล่าวว่า ตนไม่แน่ใจ แต่คิดว่าน่าจะมาประชุมคณะกรรมาธิการ ไม่ใช่วาระที่จะคุยกับกลุ่ม ส.ส. 44 คน ตนยังไม่แน่ใจ
สำหรับข้อกังวลหากถูกร้องจริยธรรม ซึ่งอาจมีโทษถึงการตัดสิทธิทางการเมือง นาย
ชัยธวัชกล่าวว่า เรื่องจริยธรรมเป็นคนละเรื่องกับเรื่องถูกร้องยุบพรรค เป็นคนละกระบวนการ และน่าจะใช้เวลามากกว่า ไม่ได้บอกว่าหากเป็นคดีจริยธรรมแล้วถูกตัดสินว่าผิดจะต้องถูกตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต ขึ้นอยู่กับศาล ซึ่งส่วนนี้ฝ่ายกฎหมายของพรรคก็ได้เตรียมต่อสู้ไว้อยู่แล้ว เรายังคงต้องรอดูคำวินิจฉัยตัวเต็ม เพราะยังมีรายละเอียดทางกฎหมายอยู่
“
ไม่ว่าจะโดนร้องเรื่องอะไร ตอนนี้สิ่งที่เรารอคือรอดูคำวินิจฉัยตัวเต็ม เพราะจะมีความสำคัญในทางข้อกฎหมาย” นาย
ชัยธวัชกล่าว
ส่วนที่มีนักวิชาการให้ความเห็นว่าพรรคก้าวไกลควรยื่นให้องค์กรระหว่างประเทศตรวจสอบคำวินิจฉัยที่ละเมิดหลักสิทธิมนุษยชนสากลนั้น นาย
ชัยธวัชกล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่มีการพูดคุยกัน เพราะกลไกที่จะสามารถตรวจสอบการใช้อำนาจของตุลาการในประเทศไทยมีข้อจำกัดอยู่
นาย
ชัยธวัชกล่าวว่า ถ้าเราอยู่ในสหภาพยุโรปแล้วมีคำวินิจฉัยเช่นนี้จะไม่สามารถบังคับใช้ได้แน่นอน เพราะถือเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของพลเมือง ไม่สามารถห้ามเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นได้อย่างแน่นอน แต่ว่านี่เป็นประเทศไทย
ศุภณัฐ ฉุนเพจแฉก้าวไกล กล่าวหาหนีทหาร ท้าโชว์เลยหลักฐาน อย่าโพสต์ลอยๆ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4405101
‘ศุภณัฐ‘ ฉุนหลังเพจ ก้าวไกลโกหกอะไร กล่าวหาหนีทหาร ยัน ไปเกณฑ์แล้ว-มีเอกสารครบ ท้าแน่จริงเปิดหลักฐานสู้ จะได้ฟ้องถูกตัว ไม่ตอบจับใบหรือไม่ โยนเพจหาคำตอบเอง
เมื่อเวลา 16.35 น.วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 ที่รัฐสภา นาย
ศุภณัฐ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เพจวันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า มีบุคคลที่ชื่อคล้ายกับนาย
ศุภณัฐ ถูกศาลตัดสินเหตุไม่ไปแสดงตนรับหมายเรียกทหาร ว่า ตนอยากให้พูดชัดๆ เลยว่านาย
ศุภณัฐไม่ได้เข้ารับการเกณฑ์ทหาร จนมาถึงทุกวันนี้ ถ้ากล้าพูดก็พูดเลย ทั้งนี้ ตนมองว่าเรื่องดังกล่าวเป็นการยืมมือประชาชนเพื่อกระแสให้ตั้งคำถามเฉยๆ ดังนั้นหากทางเพจกล้าพูด ก็ออกมาเลย
นาย
ศุภณัฐกล่าวว่า ตนมั่นใจว่าผ่านกระบวนการเรียบร้อยตามกฎหมายในวันที่ 3 เมษายน 2013 ไปดูได้ว่าตนอยู่ที่ไหน ในวันนั้นมีการเกณฑ์ทหารและตนก็อยู่ในนั้น ไปตรวจสอบได้เลย ตนมีใบเอกสารยืนยัน อย่างไรก็ตาม หากใครถามเกี่ยวกับเรื่องที่เกี่ยวกับผลประโยชน์ของประชาชน ตนยินดีตอบ แต่เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยว ทางเพจและสิ่งที่ทางเพจได้กล่าวมานั้นก็ขอให้นำหลักฐานมาแสดง ไม่เช่นนั้นกลายเป็นว่าเพจก็สามารถถามได้ตลอด
“
ถ้าคุณมั่นใจว่าใช่ คุณอย่าพูดเป็นประโยคคำถามนะ คุณพูดเป็นประโยคบอกเล่าเลย ให้เป็นการกล่าวหาเลย ผมจะได้ฟ้องถูกตัว” นายศุภณัฐกล่าว
นาย
ศุภณัฐกล่าวต่อว่า ทุกวันนี้คุณตั้งคำถามหลอกประชาชนที่ไม่รู้กฎหมาย ประชาชนก็ไปวิพากษ์วิจารณ์ ตนมองว่าทำให้ประชาชนเหล่านั้นเสี่ยง แต่คนสร้างเรื่องกลับไม่เสี่ยง ดังนั้น ตนอยากให้พูดชัดๆ ไปเลยว่า ตนยังไม่ได้ผ่านการเกณฑ์ทหาร กล้าพูดหรือไม่
นาย
ศุภณัฐกล่าวว่า หากกองทัพอยากจะเปิดข้อมูล ตนก็ยินดีมาก ตนก็จะได้เริ่มขอข้อมูล ส.ส.ทุกคนยันคณะรัฐมนตรี (ครม.) ท่านอื่นด้วย เอาข้อมูลของทุกคนขึ้นระบบเลย ตนแนะนำว่าหลังจากนี้ต่อไปนี้การเกณฑ์ทหารขอให้ถ่ายรูปทุกคนบันทึกไว้ ปัญหาการขายใบ สด.43 จะได้จบ
เมื่อถามว่า มองว่าเป็นการจงใจทำลายชื่อเสียงหรือไม่ นาย
ศุภณัฐกล่าวว่า ไม่ขนาดนั้น คิดว่าเขาเป็นเพจไอโอที่ต้องหาคอนเทนต์ แต่ตนมั่นใจว่าผ่านกระบวนการเรียบร้อยตามกฎหมาย
เมื่อถามว่า รู้สึกโกรธหรือไม่ นาย
ศุภณัฐกล่าวว่า ตนไม่ได้คิดมาก ถ้าคุณแน่จริง คุณพูดให้จบไปเลยแล้วไปเจอกันในศาล หากศาลเรียกขอเอกสาร ตนก็มีให้ครบ แต่คุณจะมีหรือไม่ ยืนยันว่าตนชอบให้ถูกกล่าวหาเต็มๆ เพราะจะได้ฟ้องได้ตรงๆ ทั้งนี้ ตนขอไม่ตอบว่าได้จับใบดำใบแดงหรือไม่ ขอท้าให้เพจไปหาหลักฐานต่อเอง จะได้รู้ว่าทักษะเพจไอโอมีขนาดไหน หรือที่ผ่านมามีแค่ราคาคุย ถ้าคุณมั่นใจในหลักฐานที่มีก็พูดมาเลย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เพจวันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความ โดยระบุว่า “
ทุกคนคะ พี่แบงค์หนีทหารหรือคะในฐานะที่พี่แบงค์เป็นผู้แทนราษฎร เป็นคนรุ่นใหม่ เป็นลูกผู้ชายที่สาวๆ ด้อมส้มตามกรี๊ด ยกเป็นไอดอล หนูขอให้พี่แบงค์ออกมาชี้แจงสังคมด้วยค่ะ เนื่องจาก วันที่ 25 มิถุนายน 55 ศาลตัดสินคนชื่อเหมือนพี่แบงค์ ข้อหาไม่ไปแสดงตนรับหมายเรียกทหาร และ จำเลยให้การรับสารภาพ โดยศาลมีคำสั่งรอการกำหนดโทษจำเลยเป็นเวลา 2 ปี ทุกคนรอพี่แบงค์อยู่นะคะ”
บิ๊กธุรกิจจี้แบงก์ชาติคุมส่วนต่างดอกเบี้ยกู้-ฝาก ชี้ถ่างเกิน ทำแบกต้นทุนแอ่น
https://www.dailynews.co.th/news/3137478/
เปิดผลสำรวจบิ๊กธุรกิจ จี้แบงก์ชาติคุมส่วนต่างดอกเบี้ยกู้-ฝาก ห่างเกินอันดับต้นๆ ในอาเซียน ทำผู้ประกอบการแบกต้นทุนแอ่น ทำชะลอลงทุน กังวลคงดอกเบี้ยนานเกิน
นาย
มนตรี มหาพฤกษ์พงศ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจ FTI CEO Poll ภายใต้หัวข้อ “
ดอกเบี้ยสูง หนี้พุ่ง อุตสาหกรรมไปต่ออย่างไร” ว่า ผู้บริหาร ส.อ.ท. ค่อนข้างมีความกังวลกับการที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะดำเนินนโยบายในการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.5% เป็นระยะเวลานาน ต้องเข้าใจว่า ที่ผ่านมาธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้พยายามอย่างมากที่จะสร้างสมดุลในการบริหารนโยบายการเงินของประเทศ ทั้งในมิติด้านเศรษฐกิจและการเสริมสร้างเสถียรภาพของค่าเงินบาท แต่อย่างไรก็ตามดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลกระทบค่อนข้างมากกับผู้ประกอบการ SMEs ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีสัดส่วนมากที่สุดของผู้ประกอบการในประเทศ และกำลังอยู่ในช่วงที่ฟื้นตัวจากผลกระทบของโควิด-19 และการต้องเร่งปรับธุรกิจเพื่อรับมือกับปัญหาต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้นเกือบทุกตัวในช่วงปีที่ผ่านมา
ในประเด็นเรื่องส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อและอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก หรือ Spread ของธนาคารพาณิชย์ ที่มีความห่างมากเกินไปเป็นประเทศลำดับต้นๆ ในอาเซียน ทำให้ผู้ประกอบการไทยต้องแบกรับต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิดการชะลอการขยายธุรกิจหรือการลงทุนใหม่ เพิ่มความเสี่ยงขาดสภาพคล่องทางการเงินและการผิดนัดชำระหนี้ รวมทั้งกระทบต่อกำลังซื้อสินค้าของประชาชน ดังนั้น ผู้บริหาร ส.อ.ท. ส่วนใหญ่ จึงเสนอให้ธนาคารแห่งประเทศไทยพิจารณาออกมาตรการกำกับดูแลตรวจสอบสถาบันการเงินในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยทั้งในส่วนของเงินฝากและสินเชื่อ รวมทั้งมีการประกาศกำหนดส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (Spread) ที่เหมาะสม เพื่อช่วยลดต้นทุนทางการเงินให้กับผู้ประกอบการ
JJNY : 5in1 เปิด 35 กมธ.นิรโทษ│ชัยธวัชแจงเหตุลบนโยบาย│ศุภณัฐท้าโชว์เลยหลักฐาน│บิ๊กธุรกิจจี้แบงก์ชาติ│เตือนโจมตีหนักขึ้น
https://www.matichon.co.th/politics/news_4405074
เปิด 35 มือนิรโทษกรรม รวมตัวจี๊ดมีทั้ง ‘ชัยธวัช-โรม-ชูศักดิ์-ไพบูลย์’ พบนักวิชาการอื้อ
เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อ คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม จำนวน 35 คน ประกอบด้วย คณะรัฐมนตรี (ครม.) จำนวน 8 คน ได้แก่ นายพิชัย นิลทองคำ, นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ, น.ส.นริศรา แดงไผ่, นายสมคิด เชื้อคง, นายสฤษฎ์พงษ์ เกี่ยวข้อง, นายวุฒิสาร ตันไชย, นายยุทธพร อิสรชัย, และนายเจือ ราชสีห์
พรรคก้าวไกล (ก.ก.) จำนวน 8 คน ได้แก่ นายชัยธวัช ตุลาธน, นายรังสิมันต์ โรม, น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์, นางอังคณา นีละไพจิตร , ม.ล.ศุภกิตติ์ จรูญโรจน์, ผศ.ดร.จันจิรา สมบัติพูนศิริ, ผศ.ดร.เข็มทอง ต้นสกุลรุ่งเรือง และน.ส.ชญานิษฐ์ พูลยรัตน์
พรรคเพื่อไทย (พท.) จำนวน 8 คน ได้แก่ นายชูศักดิ์ ศิรินิล, นายนพดล ปัทมะ, นายวัฒนา เตียงกูล, นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์, นายวัชระพล ขาวขำ, นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์, นายเชิดชัย ตันติศิรินทร์ และนายเอกชัย ไชยนุวัติ
พรรคภูมิใจไทย (ภท.) จำนวน 4 คน ได้แก่ นายประดิษฐ์ สังขจาย, นายอนันต์ มานะกุล, นายณัฐพศุตม์ ภัทธิราสินสิริ และนายชัยรัตน์ มาตยานุมัตย์
พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายไพบูลย์ นิติตะวัน และนายจำลอง ภูนวนทา
พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายวิชัย สุดสวาสดิ์ และนายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ
พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายชัยชนะ เดชเดโช
พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) นายนิกร จำนง
พรรคประชาชาติ (ปช.) นายวรวิทย์ บารู
ชัยธวัช แจงเหตุลบนโยบาย ม.112 จากเว็บ ยัน ส.ส.พูดถึงการแก้ไขได้ คำวินิจฉัยไม่ได้ห้าม
https://www.matichon.co.th/politics/news_4405104
‘ชัยธวัช’ แจง ‘นโยบาย ม.112’ ปลิวจากเว็บ เพราะคำวินิจฉัยศาล บอก ส.ส.พูดได้ ไม่หวั่นดาบใหญ่ฟัน 44 ส.ส. พร้อมสู้คดี ลั่นถ้าอยู่อียู คำวินิจฉัยใช้ไม่ได้
เมื่อเวลา 16.20 น. วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมร่วม ส.ส.พรรคก้าวไกล ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้การใช้นโยบายแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 หาเสียงของพรรคก้าวไกล เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง และถูกสั่งให้ยุติการกระทำดังกล่าว ซึ่งต่อมา นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้พิจารณายุบพรรคและตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล
นายชัยธวัชกล่าวว่า วันนี้เป็นการพูดคุยกับ ส.ส.เพื่อทำความเข้าใจกับสถานการณ์ให้ตรงกัน และหารือการทำงานของพรรคหลังจากนี้ ส.ส.จะยังทำงานตามปกติ
เมื่อถามถึงกรณีที่เว็บไซต์พรรคลบนโยบายแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 ออกนั้น นายชัยธวัชกล่าวว่า เนื่องจากฝ่ายกฎหมายเห็นว่าเป็นประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญหยิบขึ้นมาอยู่ในคำวินิจฉัยด้วยว่าการที่ยังมีนโยบายเรื่องนี้อยู่ในเว็บไซต์ก็เป็นส่วนหนึ่งที่นำไปสู่บทสรุปว่าเป็นการล้มล้างการปกครอง ซึ่งความจริง เราไม่คิดว่า จะเป็นประเด็นสาระสำคัญ
ส่วนที่ ส.ส.หรือสมาชิกพรรคยังมีความเห็นเกี่ยวกับการแก้ไขกฎหมาย ม.112 ในสื่อโซเชียลมีเดียนั้น นายชัยธวัชกล่าวว่า คำวินิจฉัยไม่ได้บอกว่า ส.ส.จะเสนอแก้ไขปรับปรุง ม.112 ไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็น ส.ส.พรรคไหน ซึ่งตนได้ย้ำในการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ไปแล้วว่า ม.112 ยังเป็นปัญหาอยู่ เพราะฉะนั้น การที่สมาชิกพรรคบางส่วนยังมีความเห็นว่าควรแก้ไขมาตรานี้ก็ยังสามารถทำได้ เพียงแต่ต้องดูว่าอะไรคือการเสนอกฎหมายโดยชอบตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
เมื่อถามว่า การประชุมในวันนี้เป็นการระดมความเห็นของ ส.ส.หรือทีมกฎหมายของพรรคมีแนวทางปฏิบัติมาก่อนแล้ว นายชัยธวัชกล่าวว่า ยังหรอก เพราะเมื่อวานเราฟังคำวินิจฉัยกัน แล้วยังไม่มีโอกาสได้พูดคุยกันจริงๆ เพราะต้องรีบเตรียมการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในวันนี้ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกันในช่วงสุดสัปดาห์ จึงถือโอกาสพูดคุยกันในวันนี้ เชื่อว่า ส.ส.คงมีความเห็นและข้อเสนอให้ได้แลกเปลี่ยนกัน
ส่วนที่มีอดีต ส.ส.พรรคก้าวไกล อาทิ น.ส.สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา นายกัญจน์พงศ์ จงสุทธนามณี เข้าร่วมประชุมด้วย เพราะเป็นหนึ่งใน 44 รายชื่อที่ยื่นแก้ไขกฎหมายเมื่อปี 2564 หรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า ตนไม่แน่ใจ แต่คิดว่าน่าจะมาประชุมคณะกรรมาธิการ ไม่ใช่วาระที่จะคุยกับกลุ่ม ส.ส. 44 คน ตนยังไม่แน่ใจ
สำหรับข้อกังวลหากถูกร้องจริยธรรม ซึ่งอาจมีโทษถึงการตัดสิทธิทางการเมือง นายชัยธวัชกล่าวว่า เรื่องจริยธรรมเป็นคนละเรื่องกับเรื่องถูกร้องยุบพรรค เป็นคนละกระบวนการ และน่าจะใช้เวลามากกว่า ไม่ได้บอกว่าหากเป็นคดีจริยธรรมแล้วถูกตัดสินว่าผิดจะต้องถูกตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต ขึ้นอยู่กับศาล ซึ่งส่วนนี้ฝ่ายกฎหมายของพรรคก็ได้เตรียมต่อสู้ไว้อยู่แล้ว เรายังคงต้องรอดูคำวินิจฉัยตัวเต็ม เพราะยังมีรายละเอียดทางกฎหมายอยู่
“ไม่ว่าจะโดนร้องเรื่องอะไร ตอนนี้สิ่งที่เรารอคือรอดูคำวินิจฉัยตัวเต็ม เพราะจะมีความสำคัญในทางข้อกฎหมาย” นายชัยธวัชกล่าว
ส่วนที่มีนักวิชาการให้ความเห็นว่าพรรคก้าวไกลควรยื่นให้องค์กรระหว่างประเทศตรวจสอบคำวินิจฉัยที่ละเมิดหลักสิทธิมนุษยชนสากลนั้น นายชัยธวัชกล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่มีการพูดคุยกัน เพราะกลไกที่จะสามารถตรวจสอบการใช้อำนาจของตุลาการในประเทศไทยมีข้อจำกัดอยู่
นายชัยธวัชกล่าวว่า ถ้าเราอยู่ในสหภาพยุโรปแล้วมีคำวินิจฉัยเช่นนี้จะไม่สามารถบังคับใช้ได้แน่นอน เพราะถือเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของพลเมือง ไม่สามารถห้ามเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นได้อย่างแน่นอน แต่ว่านี่เป็นประเทศไทย
ศุภณัฐ ฉุนเพจแฉก้าวไกล กล่าวหาหนีทหาร ท้าโชว์เลยหลักฐาน อย่าโพสต์ลอยๆ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4405101
‘ศุภณัฐ‘ ฉุนหลังเพจ ก้าวไกลโกหกอะไร กล่าวหาหนีทหาร ยัน ไปเกณฑ์แล้ว-มีเอกสารครบ ท้าแน่จริงเปิดหลักฐานสู้ จะได้ฟ้องถูกตัว ไม่ตอบจับใบหรือไม่ โยนเพจหาคำตอบเอง
เมื่อเวลา 16.35 น.วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 ที่รัฐสภา นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เพจวันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า มีบุคคลที่ชื่อคล้ายกับนายศุภณัฐ ถูกศาลตัดสินเหตุไม่ไปแสดงตนรับหมายเรียกทหาร ว่า ตนอยากให้พูดชัดๆ เลยว่านายศุภณัฐไม่ได้เข้ารับการเกณฑ์ทหาร จนมาถึงทุกวันนี้ ถ้ากล้าพูดก็พูดเลย ทั้งนี้ ตนมองว่าเรื่องดังกล่าวเป็นการยืมมือประชาชนเพื่อกระแสให้ตั้งคำถามเฉยๆ ดังนั้นหากทางเพจกล้าพูด ก็ออกมาเลย
นายศุภณัฐกล่าวว่า ตนมั่นใจว่าผ่านกระบวนการเรียบร้อยตามกฎหมายในวันที่ 3 เมษายน 2013 ไปดูได้ว่าตนอยู่ที่ไหน ในวันนั้นมีการเกณฑ์ทหารและตนก็อยู่ในนั้น ไปตรวจสอบได้เลย ตนมีใบเอกสารยืนยัน อย่างไรก็ตาม หากใครถามเกี่ยวกับเรื่องที่เกี่ยวกับผลประโยชน์ของประชาชน ตนยินดีตอบ แต่เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยว ทางเพจและสิ่งที่ทางเพจได้กล่าวมานั้นก็ขอให้นำหลักฐานมาแสดง ไม่เช่นนั้นกลายเป็นว่าเพจก็สามารถถามได้ตลอด
“ถ้าคุณมั่นใจว่าใช่ คุณอย่าพูดเป็นประโยคคำถามนะ คุณพูดเป็นประโยคบอกเล่าเลย ให้เป็นการกล่าวหาเลย ผมจะได้ฟ้องถูกตัว” นายศุภณัฐกล่าว
นายศุภณัฐกล่าวต่อว่า ทุกวันนี้คุณตั้งคำถามหลอกประชาชนที่ไม่รู้กฎหมาย ประชาชนก็ไปวิพากษ์วิจารณ์ ตนมองว่าทำให้ประชาชนเหล่านั้นเสี่ยง แต่คนสร้างเรื่องกลับไม่เสี่ยง ดังนั้น ตนอยากให้พูดชัดๆ ไปเลยว่า ตนยังไม่ได้ผ่านการเกณฑ์ทหาร กล้าพูดหรือไม่
นายศุภณัฐกล่าวว่า หากกองทัพอยากจะเปิดข้อมูล ตนก็ยินดีมาก ตนก็จะได้เริ่มขอข้อมูล ส.ส.ทุกคนยันคณะรัฐมนตรี (ครม.) ท่านอื่นด้วย เอาข้อมูลของทุกคนขึ้นระบบเลย ตนแนะนำว่าหลังจากนี้ต่อไปนี้การเกณฑ์ทหารขอให้ถ่ายรูปทุกคนบันทึกไว้ ปัญหาการขายใบ สด.43 จะได้จบ
เมื่อถามว่า มองว่าเป็นการจงใจทำลายชื่อเสียงหรือไม่ นายศุภณัฐกล่าวว่า ไม่ขนาดนั้น คิดว่าเขาเป็นเพจไอโอที่ต้องหาคอนเทนต์ แต่ตนมั่นใจว่าผ่านกระบวนการเรียบร้อยตามกฎหมาย
เมื่อถามว่า รู้สึกโกรธหรือไม่ นายศุภณัฐกล่าวว่า ตนไม่ได้คิดมาก ถ้าคุณแน่จริง คุณพูดให้จบไปเลยแล้วไปเจอกันในศาล หากศาลเรียกขอเอกสาร ตนก็มีให้ครบ แต่คุณจะมีหรือไม่ ยืนยันว่าตนชอบให้ถูกกล่าวหาเต็มๆ เพราะจะได้ฟ้องได้ตรงๆ ทั้งนี้ ตนขอไม่ตอบว่าได้จับใบดำใบแดงหรือไม่ ขอท้าให้เพจไปหาหลักฐานต่อเอง จะได้รู้ว่าทักษะเพจไอโอมีขนาดไหน หรือที่ผ่านมามีแค่ราคาคุย ถ้าคุณมั่นใจในหลักฐานที่มีก็พูดมาเลย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เพจวันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความ โดยระบุว่า “ทุกคนคะ พี่แบงค์หนีทหารหรือคะในฐานะที่พี่แบงค์เป็นผู้แทนราษฎร เป็นคนรุ่นใหม่ เป็นลูกผู้ชายที่สาวๆ ด้อมส้มตามกรี๊ด ยกเป็นไอดอล หนูขอให้พี่แบงค์ออกมาชี้แจงสังคมด้วยค่ะ เนื่องจาก วันที่ 25 มิถุนายน 55 ศาลตัดสินคนชื่อเหมือนพี่แบงค์ ข้อหาไม่ไปแสดงตนรับหมายเรียกทหาร และ จำเลยให้การรับสารภาพ โดยศาลมีคำสั่งรอการกำหนดโทษจำเลยเป็นเวลา 2 ปี ทุกคนรอพี่แบงค์อยู่นะคะ”
บิ๊กธุรกิจจี้แบงก์ชาติคุมส่วนต่างดอกเบี้ยกู้-ฝาก ชี้ถ่างเกิน ทำแบกต้นทุนแอ่น
https://www.dailynews.co.th/news/3137478/
เปิดผลสำรวจบิ๊กธุรกิจ จี้แบงก์ชาติคุมส่วนต่างดอกเบี้ยกู้-ฝาก ห่างเกินอันดับต้นๆ ในอาเซียน ทำผู้ประกอบการแบกต้นทุนแอ่น ทำชะลอลงทุน กังวลคงดอกเบี้ยนานเกิน
นายมนตรี มหาพฤกษ์พงศ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจ FTI CEO Poll ภายใต้หัวข้อ “ดอกเบี้ยสูง หนี้พุ่ง อุตสาหกรรมไปต่ออย่างไร” ว่า ผู้บริหาร ส.อ.ท. ค่อนข้างมีความกังวลกับการที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะดำเนินนโยบายในการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.5% เป็นระยะเวลานาน ต้องเข้าใจว่า ที่ผ่านมาธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้พยายามอย่างมากที่จะสร้างสมดุลในการบริหารนโยบายการเงินของประเทศ ทั้งในมิติด้านเศรษฐกิจและการเสริมสร้างเสถียรภาพของค่าเงินบาท แต่อย่างไรก็ตามดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลกระทบค่อนข้างมากกับผู้ประกอบการ SMEs ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีสัดส่วนมากที่สุดของผู้ประกอบการในประเทศ และกำลังอยู่ในช่วงที่ฟื้นตัวจากผลกระทบของโควิด-19 และการต้องเร่งปรับธุรกิจเพื่อรับมือกับปัญหาต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้นเกือบทุกตัวในช่วงปีที่ผ่านมา
ในประเด็นเรื่องส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อและอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก หรือ Spread ของธนาคารพาณิชย์ ที่มีความห่างมากเกินไปเป็นประเทศลำดับต้นๆ ในอาเซียน ทำให้ผู้ประกอบการไทยต้องแบกรับต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิดการชะลอการขยายธุรกิจหรือการลงทุนใหม่ เพิ่มความเสี่ยงขาดสภาพคล่องทางการเงินและการผิดนัดชำระหนี้ รวมทั้งกระทบต่อกำลังซื้อสินค้าของประชาชน ดังนั้น ผู้บริหาร ส.อ.ท. ส่วนใหญ่ จึงเสนอให้ธนาคารแห่งประเทศไทยพิจารณาออกมาตรการกำกับดูแลตรวจสอบสถาบันการเงินในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยทั้งในส่วนของเงินฝากและสินเชื่อ รวมทั้งมีการประกาศกำหนดส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (Spread) ที่เหมาะสม เพื่อช่วยลดต้นทุนทางการเงินให้กับผู้ประกอบการ