อ่อนหัด ไม่รักดี อิงฟ้าต่อว่าหัวใจตัวเองตลอดหลายวันมานี้ เธอเคยคิดว่าตัวเองแข็งแกร่งและเด็ดเดี่ยวมากพอที่จะควบคุมตัวเองไม่ให้หวั่นไหวกับใครง่าย ๆ แต่ผู้หญิงที่ชื่อสายฝนกลับแทรกซึมเข้ามาได้ทุกซอกมุมในความรู้สึกนึกคิด ขนาดแยกย้ายกันไปใช้ชีวิตใบหน้าคมคายยามยกยิ้มมุมปากยังโผล่มาทักทายแทบทุกนาที
สายฝนกลับไปใช้ชีวิตที่เมืองหลวง ส่วนอิงฟ้าพบว่าตัวเองหมกมุ่นอยู่กับความท้าทายในแต่ละวันในการช่วยม่านหมอกบริหารแคมเปญโรงแรม เธอทุ่มเทให้กับการวางแผนการตลาด เพราะหวังว่าจะช่วยให้โรงแรมแห่งนี้โดดเด่นเหนือคู่แข่งในภูเก็ต อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเธอจะทุ่มเท แต่ดูเหมือนว่าสมาธิทั้งหมดจะถูกคุณคนนั้นขโมยไปอย่างหน้าตาเฉย
อิงฟ้าเดินไปรอบ ๆ โรงแรม โดยถือกล้องอเนกประสงค์อยู่ในมือ พยายามหามุมที่สวยงามเก็บภาพและคุณลักษณะพิเศษที่ทำให้โรงแรมแห่งนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเพื่อใช้ในภารกิจถัดไป
“อ้าว หวัดดีครับคุณอิงฟ้า” ชายหนุ่มรูปงามตรงตามมาตรฐานพระเอกซีรีส์ยกยิ้มทักทาย พูดได้ไหมว่ายิ่งอิงฟ้าเห็นโครงหน้าสมส่วนที่สองพี่น้องถอดแบบมาพิมพ์เดียวกันเป๊ะยิ่งกระตุ้นให้อิงฟ้ายิ่งคิดถึงไปกันใหญ่
“สวัสดีตอนเช้าค่ะคุณม่านหมอก” อิงฟ้าลดระดับการถือกล้องในมือลงแล้วส่งยิ้มสวยทักทาย
“ขยันทำงานแต่เช้าเลยนะครับ ก่อนจบโปรเจกต์ผมคงต้องเพิ่มโบนัสให้สมน้ำสมเนื้อหน่อยแล้ว” เขาพูดอย่างอารมณ์ดี แม้ม่านหมอกเป็นคนจุกจิกในเรื่องงาน แต่เขาไม่เคยวีนเหวี่ยงให้คนที่ทำงานด้วยหัวเสียเลยสักครั้ง มาดหนุ่มสุขุมมักระบายยิ้มบนหน้าตลอดเวลา
“ภารกิจหลักเลยนี่คะที่ต้องทำให้โรงแรมคุณม่านหมอกไวรัลมีชื่อเสียงอย่างรวดเร็ว อะไรที่เร่งทำได้ฉันก็อยากทำค่ะ”
ม่านหมอกระบายยิ้ม คำตอบของอิงฟ้าทำให้เช้านี้ถือว่าเป็นการเริ่มต้นการทำงานที่ดี
“อันที่จริงผมว่าทุกอย่างมันก็เดินไปตามแพลนนะครับ บุ๊คกิ้งหลังจากงานเปิดตัวก็เต็มทุกวัน คุณแค่ช่วยตรวจเช็กไม่ให้มีอะไรผิดแผนก็พอ” ม่านหมอกรักการทำงานที่มีแผนการชัดเจน ยิ่งทุกอย่างดำเนินตามกรอบที่วางไว้ยิ่งทำให้เขารู้สึกสมบูรณ์แบบ
“ได้ค่ะ”
“คุณอิงฟ้าครับ…” ท่าทางดูลังเลส่งผลให้คนถูกเรียกนั้นสงสัย ปกติเขามักพูดจาฉะฉานชัดเจนเมื่อต้องการสิ่งใดก็แล้วแต่
“คะ?”
“ไปทานกาแฟกันไหมครับ?”
“ฉันทานเรียบร้อยแล้วค่ะคุณม่านหมอก” อิงฟ้าเอ่ยปฏิเสธพร้อมยิ้มน้อย ๆ
“ผมโดนปฏิเสธอีกแล้วสินะครับ” นายจ้างมาดดีระบายยิ้มกว้างราวกับคำปฏิเสธของอิงฟ้าไม่มีผลทางความรู้สึก เขาพยักหน้าย้ำว่าเข้าใจครั้งสองครั้งแล้วขอตัวไปนั่งจิบกาแฟยามเช้าคนเดียว
แต่ก่อนที่จะเลี้ยวหายไปจากสายตาเขาหมุนตัวกลับมาเพื่อบอกว่า “ผมมีธุระที่ต่างประเทศ ถ้าคุณเคลียร์งานของวีคนี้เสร็จแล้ว คุณกลับไปพักผ่อนที่บ้านชาร์จพลังก็ได้นะครับ”
“ไว้ฉันจะคิดดูนะคะ”
หลังจากบทสนทนาแสนสั้นที่มีกับม่านหมอก อิงฟ้าพาร่างตัวเองเดินไปเรื่อยเปื่อยผ่านโถงทางเดินและพื้นที่เปิดโล่งมุมต่าง ๆ เธอพบว่าตัวเองกำลังถูกดึงดูดไปยังสถานที่แห่งความทรงจำแถวริมระเบียงที่เธอนั่งดื่มไวน์ร่วมกับสายฝนในคืนที่น่าจดจำคืนนั้น
อิงฟ้าหย่อนสะโพกนั่งจุดเดิมจุดเดียวกับคืนที่โดนก่อกวนหัวใจ ณ ที่ตรงนี้ในเวลากลางวันสามารถมองออกไปเห็นทิวทัศน์แสนสบายสุดลูกตา ช่างแตกต่างจากทะเลสีดำในคืนนั้นที่แทบมองไม่เห็นเกลียวคลื่นที่กำลังถูกสายลมหยอกล้อเลย
แต่แปลกดี พอนึกย้อนไปคล้ายกับว่าบรรยากาศทุกอย่างในคืนนั้นเป็นใจให้สายตาของอิงฟ้าถูกเสน่ห์ที่พร่างพราวจากสายฝนล่อลวง รอยยิ้มติดกวนประสาท ปลายนิ้วที่แอบสัมผัสมือ เสียงยียวนในคราแรกที่แปรเปลี่ยนเป็นเสียงนุ่มรื่นหูในภายหลัง อิงฟ้ารู้สึกถึงความปรารถนาที่แปลกประหลาด มันทำให้เธอโหยหาบางสิ่งที่เธอไม่สามารถนิยามได้
“เป็นผีหรือเปล่าเนี่ยคุณ หลอกหลอนกันอยู่ได้ ชิ~”
ไม่ว่าอิงฟ้าพยายามมุ่งความสนใจไปที่เนื้องานมากเพียงใด ความคิดของเธอก็ยังคงวนกลับมาที่สายฝนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ราวกับว่าความทรงจำในช่วงเวลาแสนสั้นที่ใช้ร่วมกันได้ทิ้งร่องรอยที่ลบไม่ออกไว้ในความรู้สึกของเธอไปแล้ว
“พูดตามตรงฉันเบื่อหน้าแกตอนนี้มากเลยค่ะอิสวย” ณิชาใช้นิ้วชี้จิ้มแก้มเพื่อนร่วมงานด้วยความหมั่นไส้แเล้วหย่อนตัวลงนั่งข้าง ๆ กะอีแค่ไม่ได้เจอหน้าคู่นอนวันไนท์สแตนมันต้องซังกะตายขนาดนี้เลยเหรอ
“อ้าว แล้วแกมาพาลอะไรฉันเนี่ย!” อิงฟ้าหยิบแก้วอเมริกาโนเย็นเฉียบขึ้นดื่มอย่างเมินเฉย ตามด้วยขนมมันฝรั่งทอดกรอบแผ่นบาง
“หน้าแกแบบ… โฮ้ยย อธิบายยากว่ะ แต่คือคนเขาไม่กล้าเดินเข้ามาคุยเรื่องงานกับแกจนต้องลำบากฉันแทนเนี่ย” ณิชาเอื้อมแขนมาหยิบขนมปลาเส้นกลางโต๊ะไปฉีกซองกินด้วยความหิว “ถามจริง 2-3 วันมานี้แกเป็นไร?”
อิงฟ้าถอนหายใจเฮือกใหญ่ เหม่อมองไปไกลแสนไกล ในที่สุดก็มีคนอยากรู้อยากเห็นเรื่องของเธอสักที “ไม่รู้อะ ฉันรู้สึกไม่เป็นตัวเองเลยณิชา”
“อะไรทำให้แกเป็นแบบนี้วะ อยู่ดี ๆ ก็เหวี่ยง สักพักจับโทรศัพท์มาไถแล้วนั่งซึม ผ่านไปอีกหน่อยอารมณ์ดี คนเขาคิดว่าแกเป็นบ้ากันหมดแล้วมั้ง”
“แกถามฉันแล้วฉันต้องไปถามใครเอ่ย? ก็บอกอยู่ว่าไม่รู้โว้ยยย” อิงฟ้าแทบรุมทึ้งหัวตัวเองเพราะไม่เข้าใจอารมณ์อ่อนไหวและความรู้สึกอธิบายยากที่เกิดขึ้นภายในอก
“เป็นเม็น?”
“ยังไม่ถึงเวลาย่ะ”
“อกหัก?”
อิงฟ้าระเบิดหัวเราะให้กับความอยากรู้อยากเห็นอย่างไม่ย่อท้อของเพื่อน ไม่คิดว่าณิชาจะมอบความใส่ใจให้กันขนาดนี้ “นี่เรากำลังเล่นเกมตอบคำถามอยู่หรือเปล่าคะคุณณิชาขา?”
“ไอ้นู่นก็ไม่ใช่ ไอ้นี่ก็ไม่ใช่ อืมม…แกเป็นแบบนี้ตั้งแต่คุณสายฝนกลับกรุงเทพ แน่ ๆ เลย ใช่แน่ ๆ ตอบมา!”
“ตอบอะไรเล่า” อิงฟ้าสะบัดไหล่หนีจากมือของณิชาที่เขามาแตะหวังได้ฟังคำตอบ
“ก็แกอะทำตัวเหมือนโดนขโมยใจ คุณสายฝนใช่ไหมล่ะที่แวะมาเล่นกับใจแกแล้วหายไป”
“เขาไม่ได้หาย เขาแค่กลับไปใช้ชีวิตตามปกติ แต่ก็แอบรู้สึกเหมือนโดนเทอยู่นิดๆ”
“ปกตินิสัยแกก็กินทิ้งอยู่แล้วอะอิงฟ้า อย่ามางอแงหน่อยเลย ทำตัวให้สมกับเป็นอิงฟ้าแสนสวยช่างเลือกหน่อยดิวะ”
“ไม่ได้อยากรู้สึกอะไร แต่ก็เอาแต่คิดถึงสัมผัสเขาตลอดเลยอะ มันแบบละมุนแต่ก็แฝงไปด้วยความร้อนแรง ช่างพูดจาช่างคุย บางมุมก็น่ารักแสนเอ็นดู”
“เอ้อ ลงดีเทลขนาดนี้ไม่ธรรมดาแล้วมั้ง”
อิงฟ้ามองดูไอน้ำที่เกาะแก้วกาแฟในมือของเธอ ความคิดของเธอสับสนวุ่นวายพยายามดิ้นรนเพื่อทำความเข้าใจ แต่เห็นได้ชัดว่าความรู้สึกของเธอที่มีต่อสายฝนซึ่งเริ่มต้นจากความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนนั้นซับซ้อนเกินกว่าที่เธอคาดไว้มาก วันไนท์สแตนด์กลายเป็นบางสิ่งที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นได้อย่างไรไม่อาจรู้ได้
“ฉันคิดว่า... มันซับซ้อนกว่านั้น”
“ในสายตาฉันแกดูไม่ซับซ้อนเลยอิงฟ้า โคตรชัดว่าชอบมาก ชอบเขาเข้าแล้ว ที่แกว้าวุ่นแบบนี้เพราะมันผิดธรรมชาติของแก” คนที่ป่าวประกาศว่าจะเก็บใจไว้ในลิ้นชักรอเจอรักแท้ค่อยเอาออกมาใช้อย่างอิงฟ้ากำลังเซและณิชาเชื่อว่าอีกไม่นานคงล้ม “ทักเขาไปดิ”
“ในฐานะอะไรอะ มันจบตั้งแต่เงื่อนไขแรกแล้วไง just sex ก็แค่สนุกด้วยกัน”
ณิชามองเพื่อนสาวด้วยแววตาจริงจัง “แล้วไง? นี่ไม่ใช่เด็กกันแล้วนะอิงฟ้า เราแก่ขึ้นกันทุกปี แกคิดว่าคนที่ทำให้ใจเต้นแรงเวลานึกถึงมันมีมากนักหรอบนโลกใบนี้?”
“เยอะอยู่นะแก อย่างแบบเห็นหน้าพระเอกซีรีส์เกาหลี นัม จู ฮย็อก ทีไร ใจฉันเต้นแรงอยากจะมีความรักปุ๊บปั๊บทันที คนอะไรหล่อคลีนหล่อแบบเอ้อเอาใจฉันไปเลยค่าโอปป้า”
“โอ๊ย อันนั้นไม่นับได้ไหมล่ะคะอิสวย เอาคนที่จับต้องได้ในชีวิตจริงสิอิงฟ้า”
“คุณสายฝนก็ใช่ว่าจะจับต้องได้ไหมอะแก นั่นก็น้องสาวเจ้าของโรงแรมเลยนะ”
“แหมมมมม ก็ถ้าแกไม่ได้จับทุกส่วนของเขามาก่อน ฉันอาจจะตามน้ำแกไปนะ แต่นี่แกเล่นมี 2 ไนท์สแตนด์ ทั้งจับทั้งดมทั้งจูบ แกว่าเขาจับต้องไม่ได้ตรงไหน? เถียงมาเลยมา”
สิ่งที่ณิชาโต้แย้งไม่มีตรงไหนผิดเลย ทั้งจับ ทั้งจูบ และกิจกรรมเร่าร้อนบนเตียงทำเอาแทบหลอมละลาย อิงฟ้าทอดสายตาไปยังคลื่นที่ส่องประกายระยิบระยับภายใต้ดวงอาทิตย์ ยังมีอีกหนึ่งคำถามที่คาใจเธออยู่ “แล้วถ้าเขาไม่รู้สึกแบบเดียวกันล่ะ?”
ณิชายิ้มอย่างรู้เท่าทันอาการใจฝ่อของเพื่อน “จะคลิกกันหรือจะถูกปฏิเสธ ชาตินี้คงไม่รู้หรอกถ้าแกไม่ทักเขาไป อย่ามาทำตัวใจเสาะเลยน่า ทักๆ เขาไปเถอะ”
“อืม แต่เขาชัดเจนตั้งแต่แรกนะว่ากินไปเรื่อย”
“สติค่ะสาว ไม่คิดแทนคนอื่นเนาะ ฉันมั่นใจว่าเพื่อนฉันมันมีดี แกสวย แกฉลาด เสน่ห์ล้น ๆ แบบนี้ต้องมีหวั่นไหวบ้างแหละ ไม่งั้นคุณสายฝนเขาจะสวาปามแกทุกมื้อขนาดนั้นทำไมถ้ารสชาติไม่ถูกจริต จริงไหม!”
“เฮ้อออออออ”
“แกนี่ก็นะ” ณิชาเก็บคำว่าซื่อบื้อไว้ในใจ เพราะไม่อยากตอกย้ำให้เพื่อนดูแย่ เอ่อ แต่เรื่องนี้อิงฟ้าก็แย่จริงแหละ ทีกับเรื่องงานเก่งกาจไม่เป็นรองใคร แต่กับเรื่องหัวใจทำไมต้องทำให้มันยุ่งยากด้วยไม่รู้ แล้วไอ้กฎเกณฑ์ชีวิตที่ตั้งไว้ว่าจะไม่ยอมรักใครจนกว่าจะเจอคนที่เหมาะสมตามเช็กลิสต์ควรฉีกทิ้งแล้วไหมเอ่ย
ขึ้นชื่อว่า ‘ความรัก’ มันชอบมาสะกิดทักตอนเราไม่ทันตั้งตัวทั้งนั้นแหละ
“อะไร! ฉันมันทำไม?”
“ไม่บอกหรอกย่ะ” ณิชาแลบลิ้นใส่ก่อนยืดตัวออกจากโต๊ะ เพื่อไปทำงานที่ต้องรับผิดชอบให้เรียบร้อย “เอ้อ แกเคลียร์งานให้เสร็จด้วยวันนี้”
“ทำไมอะ?”
“เอ้า คุณม่านหมอกอัปเดตแล้วนี่ว่าถ้าเราเคลียร์งานเสร็จก็กลับไปลั้ลลาที่กรุงเทพได้ ฉันอยากกลับไปชิลแสงสีที่ฉันเลิฟใจจะขาดละ อิอิ”
ณิชาสาวผมสั้นเท้าแขนลงตรงหน้าอิงฟ้า เพื่อย้ำเตือนคนซื่อบื้อที่กำลังถูกความยุ่งยากยุกยิกดูดพลังความมั่นใจไปแทบหมด
“รู้ใช่ไหมนี่คือโอกาสที่ต้องทักไป?”
หากชอบเรื่องราวแบบนี้ หย่อนคอมเม้นเป็นกำลังใจให้ได้นะคะ
นิยายยูริ Tangled Desires #ฟ้าพ่ายฝน ตอนที่ 4 : เปล่า ไม่ได้คิดถึง
อ่อนหัด ไม่รักดี อิงฟ้าต่อว่าหัวใจตัวเองตลอดหลายวันมานี้ เธอเคยคิดว่าตัวเองแข็งแกร่งและเด็ดเดี่ยวมากพอที่จะควบคุมตัวเองไม่ให้หวั่นไหวกับใครง่าย ๆ แต่ผู้หญิงที่ชื่อสายฝนกลับแทรกซึมเข้ามาได้ทุกซอกมุมในความรู้สึกนึกคิด ขนาดแยกย้ายกันไปใช้ชีวิตใบหน้าคมคายยามยกยิ้มมุมปากยังโผล่มาทักทายแทบทุกนาที
สายฝนกลับไปใช้ชีวิตที่เมืองหลวง ส่วนอิงฟ้าพบว่าตัวเองหมกมุ่นอยู่กับความท้าทายในแต่ละวันในการช่วยม่านหมอกบริหารแคมเปญโรงแรม เธอทุ่มเทให้กับการวางแผนการตลาด เพราะหวังว่าจะช่วยให้โรงแรมแห่งนี้โดดเด่นเหนือคู่แข่งในภูเก็ต อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเธอจะทุ่มเท แต่ดูเหมือนว่าสมาธิทั้งหมดจะถูกคุณคนนั้นขโมยไปอย่างหน้าตาเฉย
อิงฟ้าเดินไปรอบ ๆ โรงแรม โดยถือกล้องอเนกประสงค์อยู่ในมือ พยายามหามุมที่สวยงามเก็บภาพและคุณลักษณะพิเศษที่ทำให้โรงแรมแห่งนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเพื่อใช้ในภารกิจถัดไป
“อ้าว หวัดดีครับคุณอิงฟ้า” ชายหนุ่มรูปงามตรงตามมาตรฐานพระเอกซีรีส์ยกยิ้มทักทาย พูดได้ไหมว่ายิ่งอิงฟ้าเห็นโครงหน้าสมส่วนที่สองพี่น้องถอดแบบมาพิมพ์เดียวกันเป๊ะยิ่งกระตุ้นให้อิงฟ้ายิ่งคิดถึงไปกันใหญ่
“สวัสดีตอนเช้าค่ะคุณม่านหมอก” อิงฟ้าลดระดับการถือกล้องในมือลงแล้วส่งยิ้มสวยทักทาย
“ขยันทำงานแต่เช้าเลยนะครับ ก่อนจบโปรเจกต์ผมคงต้องเพิ่มโบนัสให้สมน้ำสมเนื้อหน่อยแล้ว” เขาพูดอย่างอารมณ์ดี แม้ม่านหมอกเป็นคนจุกจิกในเรื่องงาน แต่เขาไม่เคยวีนเหวี่ยงให้คนที่ทำงานด้วยหัวเสียเลยสักครั้ง มาดหนุ่มสุขุมมักระบายยิ้มบนหน้าตลอดเวลา
“ภารกิจหลักเลยนี่คะที่ต้องทำให้โรงแรมคุณม่านหมอกไวรัลมีชื่อเสียงอย่างรวดเร็ว อะไรที่เร่งทำได้ฉันก็อยากทำค่ะ”
ม่านหมอกระบายยิ้ม คำตอบของอิงฟ้าทำให้เช้านี้ถือว่าเป็นการเริ่มต้นการทำงานที่ดี
“อันที่จริงผมว่าทุกอย่างมันก็เดินไปตามแพลนนะครับ บุ๊คกิ้งหลังจากงานเปิดตัวก็เต็มทุกวัน คุณแค่ช่วยตรวจเช็กไม่ให้มีอะไรผิดแผนก็พอ” ม่านหมอกรักการทำงานที่มีแผนการชัดเจน ยิ่งทุกอย่างดำเนินตามกรอบที่วางไว้ยิ่งทำให้เขารู้สึกสมบูรณ์แบบ
“ได้ค่ะ”
“คุณอิงฟ้าครับ…” ท่าทางดูลังเลส่งผลให้คนถูกเรียกนั้นสงสัย ปกติเขามักพูดจาฉะฉานชัดเจนเมื่อต้องการสิ่งใดก็แล้วแต่
“คะ?”
“ไปทานกาแฟกันไหมครับ?”
“ฉันทานเรียบร้อยแล้วค่ะคุณม่านหมอก” อิงฟ้าเอ่ยปฏิเสธพร้อมยิ้มน้อย ๆ
“ผมโดนปฏิเสธอีกแล้วสินะครับ” นายจ้างมาดดีระบายยิ้มกว้างราวกับคำปฏิเสธของอิงฟ้าไม่มีผลทางความรู้สึก เขาพยักหน้าย้ำว่าเข้าใจครั้งสองครั้งแล้วขอตัวไปนั่งจิบกาแฟยามเช้าคนเดียว
แต่ก่อนที่จะเลี้ยวหายไปจากสายตาเขาหมุนตัวกลับมาเพื่อบอกว่า “ผมมีธุระที่ต่างประเทศ ถ้าคุณเคลียร์งานของวีคนี้เสร็จแล้ว คุณกลับไปพักผ่อนที่บ้านชาร์จพลังก็ได้นะครับ”
“ไว้ฉันจะคิดดูนะคะ”
หลังจากบทสนทนาแสนสั้นที่มีกับม่านหมอก อิงฟ้าพาร่างตัวเองเดินไปเรื่อยเปื่อยผ่านโถงทางเดินและพื้นที่เปิดโล่งมุมต่าง ๆ เธอพบว่าตัวเองกำลังถูกดึงดูดไปยังสถานที่แห่งความทรงจำแถวริมระเบียงที่เธอนั่งดื่มไวน์ร่วมกับสายฝนในคืนที่น่าจดจำคืนนั้น
อิงฟ้าหย่อนสะโพกนั่งจุดเดิมจุดเดียวกับคืนที่โดนก่อกวนหัวใจ ณ ที่ตรงนี้ในเวลากลางวันสามารถมองออกไปเห็นทิวทัศน์แสนสบายสุดลูกตา ช่างแตกต่างจากทะเลสีดำในคืนนั้นที่แทบมองไม่เห็นเกลียวคลื่นที่กำลังถูกสายลมหยอกล้อเลย
แต่แปลกดี พอนึกย้อนไปคล้ายกับว่าบรรยากาศทุกอย่างในคืนนั้นเป็นใจให้สายตาของอิงฟ้าถูกเสน่ห์ที่พร่างพราวจากสายฝนล่อลวง รอยยิ้มติดกวนประสาท ปลายนิ้วที่แอบสัมผัสมือ เสียงยียวนในคราแรกที่แปรเปลี่ยนเป็นเสียงนุ่มรื่นหูในภายหลัง อิงฟ้ารู้สึกถึงความปรารถนาที่แปลกประหลาด มันทำให้เธอโหยหาบางสิ่งที่เธอไม่สามารถนิยามได้
“เป็นผีหรือเปล่าเนี่ยคุณ หลอกหลอนกันอยู่ได้ ชิ~”
ไม่ว่าอิงฟ้าพยายามมุ่งความสนใจไปที่เนื้องานมากเพียงใด ความคิดของเธอก็ยังคงวนกลับมาที่สายฝนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ราวกับว่าความทรงจำในช่วงเวลาแสนสั้นที่ใช้ร่วมกันได้ทิ้งร่องรอยที่ลบไม่ออกไว้ในความรู้สึกของเธอไปแล้ว
“พูดตามตรงฉันเบื่อหน้าแกตอนนี้มากเลยค่ะอิสวย” ณิชาใช้นิ้วชี้จิ้มแก้มเพื่อนร่วมงานด้วยความหมั่นไส้แเล้วหย่อนตัวลงนั่งข้าง ๆ กะอีแค่ไม่ได้เจอหน้าคู่นอนวันไนท์สแตนมันต้องซังกะตายขนาดนี้เลยเหรอ
“อ้าว แล้วแกมาพาลอะไรฉันเนี่ย!” อิงฟ้าหยิบแก้วอเมริกาโนเย็นเฉียบขึ้นดื่มอย่างเมินเฉย ตามด้วยขนมมันฝรั่งทอดกรอบแผ่นบาง
“หน้าแกแบบ… โฮ้ยย อธิบายยากว่ะ แต่คือคนเขาไม่กล้าเดินเข้ามาคุยเรื่องงานกับแกจนต้องลำบากฉันแทนเนี่ย” ณิชาเอื้อมแขนมาหยิบขนมปลาเส้นกลางโต๊ะไปฉีกซองกินด้วยความหิว “ถามจริง 2-3 วันมานี้แกเป็นไร?”
อิงฟ้าถอนหายใจเฮือกใหญ่ เหม่อมองไปไกลแสนไกล ในที่สุดก็มีคนอยากรู้อยากเห็นเรื่องของเธอสักที “ไม่รู้อะ ฉันรู้สึกไม่เป็นตัวเองเลยณิชา”
“อะไรทำให้แกเป็นแบบนี้วะ อยู่ดี ๆ ก็เหวี่ยง สักพักจับโทรศัพท์มาไถแล้วนั่งซึม ผ่านไปอีกหน่อยอารมณ์ดี คนเขาคิดว่าแกเป็นบ้ากันหมดแล้วมั้ง”
“แกถามฉันแล้วฉันต้องไปถามใครเอ่ย? ก็บอกอยู่ว่าไม่รู้โว้ยยย” อิงฟ้าแทบรุมทึ้งหัวตัวเองเพราะไม่เข้าใจอารมณ์อ่อนไหวและความรู้สึกอธิบายยากที่เกิดขึ้นภายในอก
“เป็นเม็น?”
“ยังไม่ถึงเวลาย่ะ”
“อกหัก?”
อิงฟ้าระเบิดหัวเราะให้กับความอยากรู้อยากเห็นอย่างไม่ย่อท้อของเพื่อน ไม่คิดว่าณิชาจะมอบความใส่ใจให้กันขนาดนี้ “นี่เรากำลังเล่นเกมตอบคำถามอยู่หรือเปล่าคะคุณณิชาขา?”
“ไอ้นู่นก็ไม่ใช่ ไอ้นี่ก็ไม่ใช่ อืมม…แกเป็นแบบนี้ตั้งแต่คุณสายฝนกลับกรุงเทพ แน่ ๆ เลย ใช่แน่ ๆ ตอบมา!”
“ตอบอะไรเล่า” อิงฟ้าสะบัดไหล่หนีจากมือของณิชาที่เขามาแตะหวังได้ฟังคำตอบ
“ก็แกอะทำตัวเหมือนโดนขโมยใจ คุณสายฝนใช่ไหมล่ะที่แวะมาเล่นกับใจแกแล้วหายไป”
“เขาไม่ได้หาย เขาแค่กลับไปใช้ชีวิตตามปกติ แต่ก็แอบรู้สึกเหมือนโดนเทอยู่นิดๆ”
“ปกตินิสัยแกก็กินทิ้งอยู่แล้วอะอิงฟ้า อย่ามางอแงหน่อยเลย ทำตัวให้สมกับเป็นอิงฟ้าแสนสวยช่างเลือกหน่อยดิวะ”
“ไม่ได้อยากรู้สึกอะไร แต่ก็เอาแต่คิดถึงสัมผัสเขาตลอดเลยอะ มันแบบละมุนแต่ก็แฝงไปด้วยความร้อนแรง ช่างพูดจาช่างคุย บางมุมก็น่ารักแสนเอ็นดู”
“เอ้อ ลงดีเทลขนาดนี้ไม่ธรรมดาแล้วมั้ง”
อิงฟ้ามองดูไอน้ำที่เกาะแก้วกาแฟในมือของเธอ ความคิดของเธอสับสนวุ่นวายพยายามดิ้นรนเพื่อทำความเข้าใจ แต่เห็นได้ชัดว่าความรู้สึกของเธอที่มีต่อสายฝนซึ่งเริ่มต้นจากความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนนั้นซับซ้อนเกินกว่าที่เธอคาดไว้มาก วันไนท์สแตนด์กลายเป็นบางสิ่งที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นได้อย่างไรไม่อาจรู้ได้
“ฉันคิดว่า... มันซับซ้อนกว่านั้น”
“ในสายตาฉันแกดูไม่ซับซ้อนเลยอิงฟ้า โคตรชัดว่าชอบมาก ชอบเขาเข้าแล้ว ที่แกว้าวุ่นแบบนี้เพราะมันผิดธรรมชาติของแก” คนที่ป่าวประกาศว่าจะเก็บใจไว้ในลิ้นชักรอเจอรักแท้ค่อยเอาออกมาใช้อย่างอิงฟ้ากำลังเซและณิชาเชื่อว่าอีกไม่นานคงล้ม “ทักเขาไปดิ”
“ในฐานะอะไรอะ มันจบตั้งแต่เงื่อนไขแรกแล้วไง just sex ก็แค่สนุกด้วยกัน”
ณิชามองเพื่อนสาวด้วยแววตาจริงจัง “แล้วไง? นี่ไม่ใช่เด็กกันแล้วนะอิงฟ้า เราแก่ขึ้นกันทุกปี แกคิดว่าคนที่ทำให้ใจเต้นแรงเวลานึกถึงมันมีมากนักหรอบนโลกใบนี้?”
“เยอะอยู่นะแก อย่างแบบเห็นหน้าพระเอกซีรีส์เกาหลี นัม จู ฮย็อก ทีไร ใจฉันเต้นแรงอยากจะมีความรักปุ๊บปั๊บทันที คนอะไรหล่อคลีนหล่อแบบเอ้อเอาใจฉันไปเลยค่าโอปป้า”
“โอ๊ย อันนั้นไม่นับได้ไหมล่ะคะอิสวย เอาคนที่จับต้องได้ในชีวิตจริงสิอิงฟ้า”
“คุณสายฝนก็ใช่ว่าจะจับต้องได้ไหมอะแก นั่นก็น้องสาวเจ้าของโรงแรมเลยนะ”
“แหมมมมม ก็ถ้าแกไม่ได้จับทุกส่วนของเขามาก่อน ฉันอาจจะตามน้ำแกไปนะ แต่นี่แกเล่นมี 2 ไนท์สแตนด์ ทั้งจับทั้งดมทั้งจูบ แกว่าเขาจับต้องไม่ได้ตรงไหน? เถียงมาเลยมา”
สิ่งที่ณิชาโต้แย้งไม่มีตรงไหนผิดเลย ทั้งจับ ทั้งจูบ และกิจกรรมเร่าร้อนบนเตียงทำเอาแทบหลอมละลาย อิงฟ้าทอดสายตาไปยังคลื่นที่ส่องประกายระยิบระยับภายใต้ดวงอาทิตย์ ยังมีอีกหนึ่งคำถามที่คาใจเธออยู่ “แล้วถ้าเขาไม่รู้สึกแบบเดียวกันล่ะ?”
ณิชายิ้มอย่างรู้เท่าทันอาการใจฝ่อของเพื่อน “จะคลิกกันหรือจะถูกปฏิเสธ ชาตินี้คงไม่รู้หรอกถ้าแกไม่ทักเขาไป อย่ามาทำตัวใจเสาะเลยน่า ทักๆ เขาไปเถอะ”
“อืม แต่เขาชัดเจนตั้งแต่แรกนะว่ากินไปเรื่อย”
“สติค่ะสาว ไม่คิดแทนคนอื่นเนาะ ฉันมั่นใจว่าเพื่อนฉันมันมีดี แกสวย แกฉลาด เสน่ห์ล้น ๆ แบบนี้ต้องมีหวั่นไหวบ้างแหละ ไม่งั้นคุณสายฝนเขาจะสวาปามแกทุกมื้อขนาดนั้นทำไมถ้ารสชาติไม่ถูกจริต จริงไหม!”
“เฮ้อออออออ”
“แกนี่ก็นะ” ณิชาเก็บคำว่าซื่อบื้อไว้ในใจ เพราะไม่อยากตอกย้ำให้เพื่อนดูแย่ เอ่อ แต่เรื่องนี้อิงฟ้าก็แย่จริงแหละ ทีกับเรื่องงานเก่งกาจไม่เป็นรองใคร แต่กับเรื่องหัวใจทำไมต้องทำให้มันยุ่งยากด้วยไม่รู้ แล้วไอ้กฎเกณฑ์ชีวิตที่ตั้งไว้ว่าจะไม่ยอมรักใครจนกว่าจะเจอคนที่เหมาะสมตามเช็กลิสต์ควรฉีกทิ้งแล้วไหมเอ่ย
ขึ้นชื่อว่า ‘ความรัก’ มันชอบมาสะกิดทักตอนเราไม่ทันตั้งตัวทั้งนั้นแหละ
“อะไร! ฉันมันทำไม?”
“ไม่บอกหรอกย่ะ” ณิชาแลบลิ้นใส่ก่อนยืดตัวออกจากโต๊ะ เพื่อไปทำงานที่ต้องรับผิดชอบให้เรียบร้อย “เอ้อ แกเคลียร์งานให้เสร็จด้วยวันนี้”
“ทำไมอะ?”
“เอ้า คุณม่านหมอกอัปเดตแล้วนี่ว่าถ้าเราเคลียร์งานเสร็จก็กลับไปลั้ลลาที่กรุงเทพได้ ฉันอยากกลับไปชิลแสงสีที่ฉันเลิฟใจจะขาดละ อิอิ”
ณิชาสาวผมสั้นเท้าแขนลงตรงหน้าอิงฟ้า เพื่อย้ำเตือนคนซื่อบื้อที่กำลังถูกความยุ่งยากยุกยิกดูดพลังความมั่นใจไปแทบหมด
“รู้ใช่ไหมนี่คือโอกาสที่ต้องทักไป?”
หากชอบเรื่องราวแบบนี้ หย่อนคอมเม้นเป็นกำลังใจให้ได้นะคะ