ร่างบางของอิงฟ้าหอบหิ้วอาการอิ่มแน่นจากอาหารมื้ออร่อยมาล้มตัวลงบนโซฟากลางบ้าน ซึ่งมีอิงดาวน้องสาวของเธอกำลังซบอิงกับเพื่อนสนิทที่จดจ่อกับการดูหนังแอคชันบนจอทีวีหลังใหญ่
อิงฟ้าเอนหลังแนบไปกับโซฟา รู้สึกถึงความอัดแน่นในพุงอิ่มเอิบและปล่อยเสียงเรอออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ทั้งอิงดาวและกอหญ้าหันกลับมาพร้อมกันขวับ สีหน้าของพวกเธอเต็มไปด้วยความนิ่งงันอย่างเอือมระอาเพราะไม่รู้จะหาคำไหนมาด่า
“อี๋เจ้! อุบาทว์มาก หนังกำลังถึงจุดพีคเลย” อิงดาวมุ่ยหน้าปาป๊อปคอร์นรสชีสใส่
อิงฟ้าหัวเราะเบา ๆ รู้สึกเขินอายเล็กน้อย “โทษที ๆ ฉันกินไปเยอะมาก รู้สึกเหมือนพุงจะระเบิดเลยอะ”
คุณเพื่อนสนิทหรี่ตามองข้ามหัวยัยตัวเล็กมาเพื่อต้องการจับผิดโดยเฉพาะ “ได้ข่าวว่าไปลองเดท ทำไมสวาปามไปเยอะขนาดนั้นอะ ไม่มีคีพลงคีพลุคห่วงสวยเลยงี้ ระวังเขาเทเหอะ”
“ก็เขานั่นแหละเอะอะป้อน เอะอะเช็ดปากให้ เอาใจอย่างกับเป็นหวานใจกันแล้ว คือฉันไม่รู้ว่าจะมีโอกาสแบบนี้อีกมั้ยก็ต้องยอมกินไปก่อนสิ”
“ตักตวงโมเมนต์สุด” กอหญ้ามองเพื่อนนึกขัน
“แน่นอนสิยะ ไม่ได้รู้สึกอะไรแบบนี้นานแล้วจริง ๆ” แรกเริ่มได้เอ่ยปลอบคนใจบางกังวลเรื่องน้องสาวอย่างเข้าอกเข้าใจ แล้วแปรเปลี่ยนเป็นหยอกเย้าไม่จบสิ้น มีจังหวะได้แง่งอนได้ทุบตีกันพอเป็นสีสัน พอได้ลองเดทกับสายฝนก็ทำให้เธอลืมไปเลยว่าควรคีพลุคสวยเสน่ห์ล้นไว้สักหน่อย
“แบบนี้นี่มันแบบไหนอะเจ้ งง โมเมนต์อะไรกินจนพุงป่องขนาดนี้ อายเขาตาย” อิงดาวเอื้อมมาจิ้มพุงนูน ๆ ของอิงฟ้าเล่น เจ้าก้อนกลมตรงนี้แข็งปักสู้มืออยู่เหมือนกัน ที่อิงฟ้าบอกว่าโดนป้อนไม่หยุดเห็นทีจะจริง
“เอ๊ะแกนี่ จะมาจิ้มพุงฉันเล่นเพื่อ!”
เพี๊ยะ! น้องสาวตัวดีโดนพี่ตีดังฉาด อิงดาวเปล่งเสียงหัวเราะเอิ้กอ้ากอย่างชอบใจแข่งกับเสียงเอฟเฟคในหนัง อิงดาวชอบที่สุดในโลกเวลาที่ได้วอแวแหย่อิงฟ้าจนโดนทุบ
“เชิญแกสองคนสวีทกันไปเลย ฉันหนีขึ้นห้องดีกว่า”
“เอ้อ รู้งานนี่นา ขอบใจนะเจ้” น้องสาวตัวดีผงกหัวขึ้นมาจากไหล่กอหญ้าแล้วโบกมือไล่อิงฟ้าไปไกล ๆ
“ตัวเล็กอย่าไปแหย่พี่เขาสิคะ” กอหญ้าพยายามปรามเด็กน้อยในอ้อมกอดที่ดูเหมือนจะแหย่พี่สาวมากเกินไปหน่อย
“กอหญ้าฉันฝากทุบหัวมันสักทีสิ้ น้องเวนนี่!” หลังจากที่อิงฟ้าสะบัดก้นหนีเดินขึ้นบันไดไป ฮ่าฮ่าฮ่าาาาา เสียงหัวเราะสะใจก็ดังไล่หลังมาหนึ่งระลอก ไม่ต้องเดาเลยว่าจังหวะหัวเราะเหมือนไก่ขันน่ารำคาญนี้เป็นใครก็รู้ได้ทันทีว่าคือน้องสาวตัวแสบของเธอนั่นเอง
.
.
อิงฟ้าโยนกระเป๋าใส่เก้าอี้เสียงดังปึกเป็นสัญญาณการสิ้นสุดของวัน เธอเดินไปที่เตียงแล้วทิ้งตัวนอนลงโดยปล่อยใจมองเพดานสีขาวอย่างเหม่อลอย เห้อ ทำตัวเป็นสาววัยใสหัวใจมีรัก ในหนึ่งวันมี 24 ชั่วโมง คิดถึงใบหน้าทะเล้นของสายฝนไปแล้ว 23 ชั่วโมง คิดถึงบ่อยแบบนี้เธอจะเป็นโรคร้ายตายไหมนะ?
“ฮ่าฮ่าฮ่า เห็นไหม คุณไม่ยอมให้เราป้อนไอติมดี ๆ ดูสิเลอะแก้มเลยนั่น โอ๋ๆ เราเช็ดให้นะคะคนสวยขา”
“ไม่ต้องมาแตะเลย ชิ”
“น่านะ ขอแตะหน่อย ให้เราเช็ดปากก่อน”
แก้วเสียงยามหัวเราะใสกิ๊งกังวานในโสตประสาท สายฝนชอบใจที่ได้แหย่ส่วนอิงฟ้าถูกใจที่โดนแกล้ง มันดูเป็นอะไรที่ลงตัวโดยไม่ต้องอาศัยความพยายาม บางครั้งคำพูดของสายฝนอาจจะกวนใจบ้างแต่ก็มักจะแฝงไปด้วยมนต์เสน่ห์แสนน่ารักน่าเอ็นดูจนอยากใช้สองมือดึงแก้มให้หายมันเขี้ยว
ลองเดทที่ตกลงกัน…มันจะกลายเป็นอะไรมากกว่านี้ได้จริงไหม? อิงฟ้าครุ่นคิดคำถาม ความรู้สึกมันสามารถพัฒนาไปถึงขั้นเรียกว่าความรักได้เลยหรือเปล่า? เฮ้อ ไม่รู้สิ
เธอลังเล ไม่สิ รู้สึกว่าเร็วเกินไปที่จะปักธงเชื่อว่านี่คือความรัก แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคืออิงฟ้ารู้สึกดี มันเบาสบาย ไม่ต้องคิดเยอะ ไม่ต้องคอยกังวลเวลาปล่อยเสียงหัวเราะออกมาว่าเขาจะคิดว่ามันเหมือนอาจุมม่าน่าเกลียดมากไปไหม
อิงฟ้าหลับตาลงและปล่อยให้อารมณ์ของตัวเองหยอกเย้ากับความหวั่นไหวในอกไปเรื่อย ๆ คำพูดที่น่ารำคาญแต่ดันมีเสน่ห์น่าฟังเฉยเลย ทุกอย่างระหว่างเธอกับสายฝนมันดูย้อนแย้งกันไปหมด ปากบอกไม่ชอบแต่ใจนี่คนละเรื่อง กฎเกณฑ์ชีวิตที่เขียนไว้คือห้ามรักใครจนกว่าจะเจอคนที่มีคุณสมบัติครบตามเช็กลิสต์ซึ่งปัจจุบันเริ่มเขว
ครืด~ ครืด~
เพียงแค่ได้ยินแจ้งเตือนจากโปรแกรมแชท อิงฟ้าก็ดีดตัวรีบหยิบสมาร์ตโฟนลูกรักมาเปิดข้อความอ่านทันทีและไม่ผิดจริง ๆ ด้วย สายฝนทักมาชวนคุยเรื่อยเปื่อยแต่สุดท้ายก็เผยความในใจออกมา คุณเขาอยากชวนไปต่อที่ห้องเพราะดินเนอร์มื้อเย็นยังนั่งจ้องหน้าไม่สะใจ
Saifon : คุณบอกชอบไวน์ที่ร้านอาหาร
ห้องเรามีนะ
มานั่งฟังเพลง จิบไวน์ที่ห้องเรามั้ย?
Ingfah : เดี๋ยวขอเวลาตัดสินใจก่อนนะ
สัก 8 ชั่วโมง
Saifon : โอ๊ยย ถ้านานขนาดนั้น กลับภูเก็ตไปเถอะค่ะ
อิงฟ้าปล่อยเสียงหัวเราะออกมาเต็มแรงเมื่ออ่านคำตอบของสายฝน เธอจินตนาการไปถึงใบหน้าทรงเสน่ห์ที่อาจจะกำลังย่นจมูกพิมพ์ข้อความโต้กลับ
Saifon : นอกจากไวน์คุณอยากกินไรมั้ย?
Ingfah : แล้วไวน์ขาวต้องกินกับอะไรอะ
เราไม่รู้
Saifon : กินกับคุณ is the best na
ดูสิ คารมเป็นต่อขนาดนี้ แต่แล้วสายฝนก็ทำให้อิงฟ้าแปลกใจด้วยการอธิบายเรื่องการจับคู่ไวน์กับชีสบอร์ด คุณเขาขายความสามารถเสียยกใหญ่ว่าเซียนมากนะกับเรื่องเครื่องดื่มและของกินแกล้มกัน ชีสอะไรคู่กับอะไรถึงจะละมุนลิ้น ผลไม้ไหนสดชื่นเข้ากันรู้ไปหมด
เชื่อไหมว่าสุดท้ายอิงฟ้าก็ยอมแพ้ให้กับไอเดียหลอกพาไปห้อง จะพูดให้ดูดีขึ้นหน่อยคือเธอน่ะอยากลองจัดชีสบอร์ดโดยมีสายฝนคอยสอนอยู่ใกล้ ๆ หรือถ้าจะให้เข้าใจแบบลึกซึ้งคืออิงฟ้าอยากใช้เวลาอยู่กับสายฝนในคืนนี้
ท่ามกลางแสงอันนุ่มนวลในคอนโดหรูยามค่ำคืน อิงฟ้าพบว่าตัวเองกำลังยืนงงอยู่ในครัวที่คอนโดของสายฝน เบื้องหน้าเต็มไปด้วยชีสหลากหลายชนิดที่ทั้งสองแวะซื้อที่ซูเปอร์มาร์เก็ต แครกเกอร์กรุบกรอบและพวงองุ่นฉ่ำหวาน ไวน์ขาวแช่เย็นขวดหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะอย่างหรูหรา
และคุณเจ้าของห้องกำลังก้ม ๆ เงย ๆ วุ่นวายอยู่กับการเชื่อมเครื่องเสียงเปิดเพลย์ลิสต์โปรด
“โอ๊ะ ไวน์ตัวเดียวกับที่ร้านนั้นจริงด้วย”
“เห็นมั้ย เราไม่ได้หลอกคุณ” เจ้าของห้องยิ้มร่า เดินเข้ามาช้อนมือพาคุณคนสวยไปล้างทำความสะอาดก่อนสัมผัสอาหาร นี่เรียกได้ว่าเป็นกฎเหล็กที่สายฝนตั้งไว้เลย คุณเจ้าของห้องกดโฟมสีขาวนุ่มมาละเลงบนมือเรียวบางเบา ช่วยถูตามซอกนิ้วของอิงฟ้าจนสะอาดถูกใจ
“เย่ มือสะอาดแล้ว เราอยากช่วยอะคุณ สอนหน่อยสิ”
ใบหน้าสวยกวาดสายตาสำรวจของบนเคาน์เตอร์ด้วยรอยยิ้มพึงพอใจ องุ่นสีเขียวพวงนั้น แอปเปิลลูกสีแดง ชีสก้อนกลม เธอเป็นคนช่วยสายฝนเลือกทั้งนั้นเลยนะเนี่ย
“เริ่มจากนี่แล้วกันค่ะ”
ป๊อก~ เสียงจุกไม้คอร์กถูกดึงออกจากขวดไวน์ ถึงเวลาบรรจงรินนางเอกรสชาติละมุนของค่ำคืนนี้ลงแก้ว
“กับแกล้มยังไม่เสร็จเลย จะดื่มเลยหรอ?”
สายฝนอมยิ้ม ยื่นแก้วคริสตัลดีไซน์สวยหรูทันสมัยที่บรรจุไวน์ขาวกลิ่นหอมเย้ายวนไม่ต่างจากคุณคนสวยไปให้
“อุ่นเครื่องกันก่อนสิคุณ ทุกอย่างจะได้ลื่นไหล” ว่ากันว่าแอลกอฮอล์มีลักษณะพิเศษคือละลายพฤติกรรม สายฝนหวังว่าค่ำคืนนี้จะเป็นคืนที่อภิรมย์ชื่นอกชื่นใจ “รสชาติโอเคมั้ยคุณ?”
“กินง่าย อร่อย ผ่านเลยนะ เบียร์ขวดเขียวยังบาดคอเรากว่านี้อีก สงสัยต้องหันมาสายจิบไวน์บ้างละ”
“ดีจังที่คุณชอบ”
พวกเธอทั้งสองคนเริ่มช่วยกันตกแต่งชีสบอร์ดทีละเล็กละน้อย โดยจัดเรียงองุ่นและแครกเกอร์เป็นชิ้นสวยงาม คุณเจ้าของห้องอธิบายสารพัดวิธีการรื่นรมย์กับชีสแต่ละชนิดด้วยความเพลิดเพลิน เธอแบ่งปันเรื่องราวเกี่ยวกับต้นกำเนิดและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์
คุณคนสวยแทบไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังเผลอยิ้มตามเวลาที่สายฝนก้มหน้าบรรจงตัดชีสจากก้อนกลมให้เป็นรูปสามเหลี่ยม จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบางสีชมพู เสื้อเชิ๊ตสีขาวโชว์ลำคอระหงเห็นโครงไหปลาร้ามันทำให้คุณเขาดูดีน่ามองไปหมด
รอยยิ้มอารมณ์ดี
น้ำเสียงระรื่นหู
และดวงตาฉ่ำหวานมันทำให้ไม่อยากละสายตาไปไหน
สายฝนเอี้ยวตัวเฉียดมาใกล้ กลิ่นหอมจากกายชวนประทับใจเสียจริง ร่างสูงขยิบตาให้กันหนึ่งทีก่อนหยิบพิตาชิโอมาโรยไว้ตรงขอบบอร์ด เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย อิงฟ้าจึงโน้มตัวเข้ามาดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคุณทำพวกนี้เป็นจริง ๆ”
“ชมว่าเรามีเสน่ห์ก็ได้นะคะ เราไม่ว่าหรอก” สายฝนหยอกเย้าอย่างแพรวพราว นัยน์ตาวับวาวคู่นั้นอันตรายยิ่งกว่า
“แหวะ! หลงตัวเอง”
“อะ อ้าปากเร็วค่ะ” สายฝนใช้มือข้างซ้ายประคองไว้ใต้คางกันเศษแครกเกอร์หล่น ส่วนคุณคนสวยให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี “มือใหม่อย่างเรา ชีสบรีน่าจะเหมาะนะคุณ มันนุ่ม กลิ่นไม่แรงไปคุณน่าจะชอบ แล้วก็กินกับผลไม้รสหวานอย่างแอปเปิลจะอร่อยขึ้น”
แครกเกอร์รสเค็มปาดทับด้วยชีสบรีโปะชั้นสุดท้ายด้วยแอปเปิลฝานบางถูกส่งเข้าปากคุณคนสวยเพื่อลิ้มรส
“อื้มมม เริ่ดไม่ไหว ไม่คิดเลยว่ามันจะอร่อยเข้ากันได้ดีขนาดนี้ มันแบบหวานๆ หอมแครกเกอร์ แล้วถ้ากินกับองุ่นจะเวิร์คมั้ยนะ”
“ลองดูค่ะ ของพวกนี้มันแล้วแต่คนชอบ อ้อ แล้วต้องไม่ลืมจิบเจ้านี่ด้วยนะคะ อ้าวแต่ของคุณจะหมดแล้ว แป๊บนะคุณ เราขอเติมไวน์อีกหน่อย”
“จะมอมเราหรือไงเนี่ย”
“อย่างสายฝนไม่ต้องมอมมั้งคะ ฝีมือเราดี”
ประโยคสองแง่สองง่ามแสนอวดดีนี่ชวนกลอกตาเบะปากใส่เสียเหลือเกิน
“หมั่นไส้อะ คนอะไรหลงตัวเองเวอร์”
“อิอิ ชิมนี่ค่ะ กับพิตาชิโอก็อร่อยนะ”
บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความเพลิดเพลินร่วมกัน กระดานชีสซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นกิจกรรมหลัก ได้กลายมาเป็นเพียงอุปกรณ์ประกอบฉาก ทั้งคู่ผลัดกันป้อนชิม หยิบนู่นนั่นมิกซ์กันสนุกปาก โดยไม่ทันได้สังเกตว่ามีความรู้สึกแปลกใหม่เบ่งบานในหัวใจทั้งสองฝ่ายทีละน้อย มันมีความเชื่อมโยงบางอย่างที่คอยส่งเสริมกันอย่างเนียน ๆ คละเคล้าในความรู้สึก
“Casual” Jesse Barrera feat. Jeff Bernat & Johnny Stimson - Playing…
“หลงเข้ามาในถ้ำเสือ ไม่กลัวโดนขย้ำหรอคะ” ร่างบางถูกคุณเจ้าของห้องช้อนสะโพกให้ขึ้นไปนั่งบนเคาน์เตอร์ นัยน์ตาแพรวพราวไม่ยอมละจากใบหน้าสวยและลำตัวของสายฝนไม่ยอมถอยหนี
“ไหนเสือ? เห็นแต่ลูกหมาตาแป๋ว” นิ้วชี้ของอิงฟ้าจิ้มไปยังกลางหน้าผากของลูกหมาที่กำลังกะพริบตามองอย่างไร้เดียงสา หากคนตรงหน้าเป็นเสืออย่างที่โอ้อวด ก็คงเป็นเสือขี้อ้อนขี้ออเซาะที่สุดในจักรวาลเลยมั้ง
“ยอมเป็นหมาให้ก็ได้นะ ถ้าคุณจะชอบมากกว่า”
“ไม่ต้องมาพูดเอาใจเลย จะหมาจะเสือ เราไม่ชอบอะไรทั้งนั้นแหละ” ความหมายให้การปฏิเสธ แต่ร่างกายยังคงเกาะเกี่ยวกันไม่ได้ผลักไสไปไหนแถมแก้มนุ่มยังขึ้นสีแดงระเรื่อ
“จริงหรอคะ”
เสือโคร่งลายพาดกลอนกลายร่างเป็นหมาน้อยช่างคลอเคลีย ปลายจมูกหยดน้ำฝังบนลำคอปัดป่ายไปทั่ว สายฝนทาบจูบขบเม้มบางเบา ประสาทสัมผัสบนร่างกายอิงฟ้าตื่นตัวเกิดอาการขนลุกชันอย่างจั๊กจี้
“หมา อย่าเลียสิ”
“สั่งเราสิคะ อยากให้ทำอะไรได้หมดเลยนะ”
อิงฟ้าใจสั่นเมื่อมองเข้าไปในดวงตาของสายฝน ในสายตาคู่นั้น เธอค้นพบส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างความซุกซนและความอบอุ่น มันทำให้เลือดลมในกายสูบฉีดวูบวาบไปหมด
“งั้นป้อนองุ่นหน่อยสิ” แทนที่จะเชื่อฟังด้วยการหยิบป้อนธรรมดา เธอยกยิ้มอย่างมีเลศนัยแล้วส่งมันเข้าปากตัวเองก่อนที่จะหันไปป้อนคุณคนสวยตามคำสั่ง
“อืมม~”
ริมฝีปากแนบริมฝีปาก น้ำหวานจากองุ่นแตกซ่านกระจายไปทั่ว เรียวลิ้นอุ่นจากเจ้าคนฉวยโอกาสถือวิสาสะกวาดชิม เป็นจุมพิตในเวลาชั่วนาทีที่เล่นกับใจอิงฟ้าจนอ่อนยวบ
“หวานจังเลยค่ะ”
“เราหรือองุ่น”
“คุณ”
ทั้งสองร่างนัวเนียกันในระยะประชิด ลมหายใจผสมกลิ่นแอลกอฮอล์เจือผลไม้และดอกไม้ยามโต้ตอบบทสนทนามันเย้ายวนปลุกปั่นอารมณ์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ เลือดลมในกายสูบฉีดวูบวาบไปหมด มันเรียกหาการสัมผัสปรนเปรอแสนเอาอกเอาใจ จะจากปากหรือจากมือก็ได้ทั้งนั้น
“ทำกันนะ”
อิงฟ้าเอ่ยถามออกมาอย่างเขินอาย แม้เธอจะดูเป็นสาวกร้านโลกแต่ก็ไม่เคยร้องขออย่างเว้าวอนขนาดนี้มาก่อน มันดูไม่ใช่เธอเลยสักนิด หรือเป็นเพราะเสียงเพลงละมุนของเจฟขับกล่อมให้เธอกล้า
“หืม ตรงนี้หรอคะ?”
“ค่ะ ตรงนี้ บนเคาน์เตอร์ตัวนี้ เ
นิยายยูริ Tangled Desires #ฟ้าพ่ายฝน ตอนที่ 7 : เสพติดเข้าแล้ว
ร่างบางของอิงฟ้าหอบหิ้วอาการอิ่มแน่นจากอาหารมื้ออร่อยมาล้มตัวลงบนโซฟากลางบ้าน ซึ่งมีอิงดาวน้องสาวของเธอกำลังซบอิงกับเพื่อนสนิทที่จดจ่อกับการดูหนังแอคชันบนจอทีวีหลังใหญ่
อิงฟ้าเอนหลังแนบไปกับโซฟา รู้สึกถึงความอัดแน่นในพุงอิ่มเอิบและปล่อยเสียงเรอออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ทั้งอิงดาวและกอหญ้าหันกลับมาพร้อมกันขวับ สีหน้าของพวกเธอเต็มไปด้วยความนิ่งงันอย่างเอือมระอาเพราะไม่รู้จะหาคำไหนมาด่า
“อี๋เจ้! อุบาทว์มาก หนังกำลังถึงจุดพีคเลย” อิงดาวมุ่ยหน้าปาป๊อปคอร์นรสชีสใส่
อิงฟ้าหัวเราะเบา ๆ รู้สึกเขินอายเล็กน้อย “โทษที ๆ ฉันกินไปเยอะมาก รู้สึกเหมือนพุงจะระเบิดเลยอะ”
คุณเพื่อนสนิทหรี่ตามองข้ามหัวยัยตัวเล็กมาเพื่อต้องการจับผิดโดยเฉพาะ “ได้ข่าวว่าไปลองเดท ทำไมสวาปามไปเยอะขนาดนั้นอะ ไม่มีคีพลงคีพลุคห่วงสวยเลยงี้ ระวังเขาเทเหอะ”
“ก็เขานั่นแหละเอะอะป้อน เอะอะเช็ดปากให้ เอาใจอย่างกับเป็นหวานใจกันแล้ว คือฉันไม่รู้ว่าจะมีโอกาสแบบนี้อีกมั้ยก็ต้องยอมกินไปก่อนสิ”
“ตักตวงโมเมนต์สุด” กอหญ้ามองเพื่อนนึกขัน
“แน่นอนสิยะ ไม่ได้รู้สึกอะไรแบบนี้นานแล้วจริง ๆ” แรกเริ่มได้เอ่ยปลอบคนใจบางกังวลเรื่องน้องสาวอย่างเข้าอกเข้าใจ แล้วแปรเปลี่ยนเป็นหยอกเย้าไม่จบสิ้น มีจังหวะได้แง่งอนได้ทุบตีกันพอเป็นสีสัน พอได้ลองเดทกับสายฝนก็ทำให้เธอลืมไปเลยว่าควรคีพลุคสวยเสน่ห์ล้นไว้สักหน่อย
“แบบนี้นี่มันแบบไหนอะเจ้ งง โมเมนต์อะไรกินจนพุงป่องขนาดนี้ อายเขาตาย” อิงดาวเอื้อมมาจิ้มพุงนูน ๆ ของอิงฟ้าเล่น เจ้าก้อนกลมตรงนี้แข็งปักสู้มืออยู่เหมือนกัน ที่อิงฟ้าบอกว่าโดนป้อนไม่หยุดเห็นทีจะจริง
“เอ๊ะแกนี่ จะมาจิ้มพุงฉันเล่นเพื่อ!”
เพี๊ยะ! น้องสาวตัวดีโดนพี่ตีดังฉาด อิงดาวเปล่งเสียงหัวเราะเอิ้กอ้ากอย่างชอบใจแข่งกับเสียงเอฟเฟคในหนัง อิงดาวชอบที่สุดในโลกเวลาที่ได้วอแวแหย่อิงฟ้าจนโดนทุบ
“เชิญแกสองคนสวีทกันไปเลย ฉันหนีขึ้นห้องดีกว่า”
“เอ้อ รู้งานนี่นา ขอบใจนะเจ้” น้องสาวตัวดีผงกหัวขึ้นมาจากไหล่กอหญ้าแล้วโบกมือไล่อิงฟ้าไปไกล ๆ
“ตัวเล็กอย่าไปแหย่พี่เขาสิคะ” กอหญ้าพยายามปรามเด็กน้อยในอ้อมกอดที่ดูเหมือนจะแหย่พี่สาวมากเกินไปหน่อย
“กอหญ้าฉันฝากทุบหัวมันสักทีสิ้ น้องเวนนี่!” หลังจากที่อิงฟ้าสะบัดก้นหนีเดินขึ้นบันไดไป ฮ่าฮ่าฮ่าาาาา เสียงหัวเราะสะใจก็ดังไล่หลังมาหนึ่งระลอก ไม่ต้องเดาเลยว่าจังหวะหัวเราะเหมือนไก่ขันน่ารำคาญนี้เป็นใครก็รู้ได้ทันทีว่าคือน้องสาวตัวแสบของเธอนั่นเอง
.
.
อิงฟ้าโยนกระเป๋าใส่เก้าอี้เสียงดังปึกเป็นสัญญาณการสิ้นสุดของวัน เธอเดินไปที่เตียงแล้วทิ้งตัวนอนลงโดยปล่อยใจมองเพดานสีขาวอย่างเหม่อลอย เห้อ ทำตัวเป็นสาววัยใสหัวใจมีรัก ในหนึ่งวันมี 24 ชั่วโมง คิดถึงใบหน้าทะเล้นของสายฝนไปแล้ว 23 ชั่วโมง คิดถึงบ่อยแบบนี้เธอจะเป็นโรคร้ายตายไหมนะ?
“ฮ่าฮ่าฮ่า เห็นไหม คุณไม่ยอมให้เราป้อนไอติมดี ๆ ดูสิเลอะแก้มเลยนั่น โอ๋ๆ เราเช็ดให้นะคะคนสวยขา”
“ไม่ต้องมาแตะเลย ชิ”
“น่านะ ขอแตะหน่อย ให้เราเช็ดปากก่อน”
แก้วเสียงยามหัวเราะใสกิ๊งกังวานในโสตประสาท สายฝนชอบใจที่ได้แหย่ส่วนอิงฟ้าถูกใจที่โดนแกล้ง มันดูเป็นอะไรที่ลงตัวโดยไม่ต้องอาศัยความพยายาม บางครั้งคำพูดของสายฝนอาจจะกวนใจบ้างแต่ก็มักจะแฝงไปด้วยมนต์เสน่ห์แสนน่ารักน่าเอ็นดูจนอยากใช้สองมือดึงแก้มให้หายมันเขี้ยว
ลองเดทที่ตกลงกัน…มันจะกลายเป็นอะไรมากกว่านี้ได้จริงไหม? อิงฟ้าครุ่นคิดคำถาม ความรู้สึกมันสามารถพัฒนาไปถึงขั้นเรียกว่าความรักได้เลยหรือเปล่า? เฮ้อ ไม่รู้สิ
เธอลังเล ไม่สิ รู้สึกว่าเร็วเกินไปที่จะปักธงเชื่อว่านี่คือความรัก แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคืออิงฟ้ารู้สึกดี มันเบาสบาย ไม่ต้องคิดเยอะ ไม่ต้องคอยกังวลเวลาปล่อยเสียงหัวเราะออกมาว่าเขาจะคิดว่ามันเหมือนอาจุมม่าน่าเกลียดมากไปไหม
อิงฟ้าหลับตาลงและปล่อยให้อารมณ์ของตัวเองหยอกเย้ากับความหวั่นไหวในอกไปเรื่อย ๆ คำพูดที่น่ารำคาญแต่ดันมีเสน่ห์น่าฟังเฉยเลย ทุกอย่างระหว่างเธอกับสายฝนมันดูย้อนแย้งกันไปหมด ปากบอกไม่ชอบแต่ใจนี่คนละเรื่อง กฎเกณฑ์ชีวิตที่เขียนไว้คือห้ามรักใครจนกว่าจะเจอคนที่มีคุณสมบัติครบตามเช็กลิสต์ซึ่งปัจจุบันเริ่มเขว
ครืด~ ครืด~
เพียงแค่ได้ยินแจ้งเตือนจากโปรแกรมแชท อิงฟ้าก็ดีดตัวรีบหยิบสมาร์ตโฟนลูกรักมาเปิดข้อความอ่านทันทีและไม่ผิดจริง ๆ ด้วย สายฝนทักมาชวนคุยเรื่อยเปื่อยแต่สุดท้ายก็เผยความในใจออกมา คุณเขาอยากชวนไปต่อที่ห้องเพราะดินเนอร์มื้อเย็นยังนั่งจ้องหน้าไม่สะใจ
Saifon : คุณบอกชอบไวน์ที่ร้านอาหาร
ห้องเรามีนะ
มานั่งฟังเพลง จิบไวน์ที่ห้องเรามั้ย?
Ingfah : เดี๋ยวขอเวลาตัดสินใจก่อนนะ
สัก 8 ชั่วโมง
Saifon : โอ๊ยย ถ้านานขนาดนั้น กลับภูเก็ตไปเถอะค่ะ
อิงฟ้าปล่อยเสียงหัวเราะออกมาเต็มแรงเมื่ออ่านคำตอบของสายฝน เธอจินตนาการไปถึงใบหน้าทรงเสน่ห์ที่อาจจะกำลังย่นจมูกพิมพ์ข้อความโต้กลับ
Saifon : นอกจากไวน์คุณอยากกินไรมั้ย?
Ingfah : แล้วไวน์ขาวต้องกินกับอะไรอะ
เราไม่รู้
Saifon : กินกับคุณ is the best na
ดูสิ คารมเป็นต่อขนาดนี้ แต่แล้วสายฝนก็ทำให้อิงฟ้าแปลกใจด้วยการอธิบายเรื่องการจับคู่ไวน์กับชีสบอร์ด คุณเขาขายความสามารถเสียยกใหญ่ว่าเซียนมากนะกับเรื่องเครื่องดื่มและของกินแกล้มกัน ชีสอะไรคู่กับอะไรถึงจะละมุนลิ้น ผลไม้ไหนสดชื่นเข้ากันรู้ไปหมด
เชื่อไหมว่าสุดท้ายอิงฟ้าก็ยอมแพ้ให้กับไอเดียหลอกพาไปห้อง จะพูดให้ดูดีขึ้นหน่อยคือเธอน่ะอยากลองจัดชีสบอร์ดโดยมีสายฝนคอยสอนอยู่ใกล้ ๆ หรือถ้าจะให้เข้าใจแบบลึกซึ้งคืออิงฟ้าอยากใช้เวลาอยู่กับสายฝนในคืนนี้
ท่ามกลางแสงอันนุ่มนวลในคอนโดหรูยามค่ำคืน อิงฟ้าพบว่าตัวเองกำลังยืนงงอยู่ในครัวที่คอนโดของสายฝน เบื้องหน้าเต็มไปด้วยชีสหลากหลายชนิดที่ทั้งสองแวะซื้อที่ซูเปอร์มาร์เก็ต แครกเกอร์กรุบกรอบและพวงองุ่นฉ่ำหวาน ไวน์ขาวแช่เย็นขวดหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะอย่างหรูหรา
และคุณเจ้าของห้องกำลังก้ม ๆ เงย ๆ วุ่นวายอยู่กับการเชื่อมเครื่องเสียงเปิดเพลย์ลิสต์โปรด
“โอ๊ะ ไวน์ตัวเดียวกับที่ร้านนั้นจริงด้วย”
“เห็นมั้ย เราไม่ได้หลอกคุณ” เจ้าของห้องยิ้มร่า เดินเข้ามาช้อนมือพาคุณคนสวยไปล้างทำความสะอาดก่อนสัมผัสอาหาร นี่เรียกได้ว่าเป็นกฎเหล็กที่สายฝนตั้งไว้เลย คุณเจ้าของห้องกดโฟมสีขาวนุ่มมาละเลงบนมือเรียวบางเบา ช่วยถูตามซอกนิ้วของอิงฟ้าจนสะอาดถูกใจ
“เย่ มือสะอาดแล้ว เราอยากช่วยอะคุณ สอนหน่อยสิ”
ใบหน้าสวยกวาดสายตาสำรวจของบนเคาน์เตอร์ด้วยรอยยิ้มพึงพอใจ องุ่นสีเขียวพวงนั้น แอปเปิลลูกสีแดง ชีสก้อนกลม เธอเป็นคนช่วยสายฝนเลือกทั้งนั้นเลยนะเนี่ย
“เริ่มจากนี่แล้วกันค่ะ”
ป๊อก~ เสียงจุกไม้คอร์กถูกดึงออกจากขวดไวน์ ถึงเวลาบรรจงรินนางเอกรสชาติละมุนของค่ำคืนนี้ลงแก้ว
“กับแกล้มยังไม่เสร็จเลย จะดื่มเลยหรอ?”
สายฝนอมยิ้ม ยื่นแก้วคริสตัลดีไซน์สวยหรูทันสมัยที่บรรจุไวน์ขาวกลิ่นหอมเย้ายวนไม่ต่างจากคุณคนสวยไปให้
“อุ่นเครื่องกันก่อนสิคุณ ทุกอย่างจะได้ลื่นไหล” ว่ากันว่าแอลกอฮอล์มีลักษณะพิเศษคือละลายพฤติกรรม สายฝนหวังว่าค่ำคืนนี้จะเป็นคืนที่อภิรมย์ชื่นอกชื่นใจ “รสชาติโอเคมั้ยคุณ?”
“กินง่าย อร่อย ผ่านเลยนะ เบียร์ขวดเขียวยังบาดคอเรากว่านี้อีก สงสัยต้องหันมาสายจิบไวน์บ้างละ”
“ดีจังที่คุณชอบ”
พวกเธอทั้งสองคนเริ่มช่วยกันตกแต่งชีสบอร์ดทีละเล็กละน้อย โดยจัดเรียงองุ่นและแครกเกอร์เป็นชิ้นสวยงาม คุณเจ้าของห้องอธิบายสารพัดวิธีการรื่นรมย์กับชีสแต่ละชนิดด้วยความเพลิดเพลิน เธอแบ่งปันเรื่องราวเกี่ยวกับต้นกำเนิดและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์
คุณคนสวยแทบไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังเผลอยิ้มตามเวลาที่สายฝนก้มหน้าบรรจงตัดชีสจากก้อนกลมให้เป็นรูปสามเหลี่ยม จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบางสีชมพู เสื้อเชิ๊ตสีขาวโชว์ลำคอระหงเห็นโครงไหปลาร้ามันทำให้คุณเขาดูดีน่ามองไปหมด
รอยยิ้มอารมณ์ดี
น้ำเสียงระรื่นหู
และดวงตาฉ่ำหวานมันทำให้ไม่อยากละสายตาไปไหน
สายฝนเอี้ยวตัวเฉียดมาใกล้ กลิ่นหอมจากกายชวนประทับใจเสียจริง ร่างสูงขยิบตาให้กันหนึ่งทีก่อนหยิบพิตาชิโอมาโรยไว้ตรงขอบบอร์ด เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย อิงฟ้าจึงโน้มตัวเข้ามาดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคุณทำพวกนี้เป็นจริง ๆ”
“ชมว่าเรามีเสน่ห์ก็ได้นะคะ เราไม่ว่าหรอก” สายฝนหยอกเย้าอย่างแพรวพราว นัยน์ตาวับวาวคู่นั้นอันตรายยิ่งกว่า
“แหวะ! หลงตัวเอง”
“อะ อ้าปากเร็วค่ะ” สายฝนใช้มือข้างซ้ายประคองไว้ใต้คางกันเศษแครกเกอร์หล่น ส่วนคุณคนสวยให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี “มือใหม่อย่างเรา ชีสบรีน่าจะเหมาะนะคุณ มันนุ่ม กลิ่นไม่แรงไปคุณน่าจะชอบ แล้วก็กินกับผลไม้รสหวานอย่างแอปเปิลจะอร่อยขึ้น”
แครกเกอร์รสเค็มปาดทับด้วยชีสบรีโปะชั้นสุดท้ายด้วยแอปเปิลฝานบางถูกส่งเข้าปากคุณคนสวยเพื่อลิ้มรส
“อื้มมม เริ่ดไม่ไหว ไม่คิดเลยว่ามันจะอร่อยเข้ากันได้ดีขนาดนี้ มันแบบหวานๆ หอมแครกเกอร์ แล้วถ้ากินกับองุ่นจะเวิร์คมั้ยนะ”
“ลองดูค่ะ ของพวกนี้มันแล้วแต่คนชอบ อ้อ แล้วต้องไม่ลืมจิบเจ้านี่ด้วยนะคะ อ้าวแต่ของคุณจะหมดแล้ว แป๊บนะคุณ เราขอเติมไวน์อีกหน่อย”
“จะมอมเราหรือไงเนี่ย”
“อย่างสายฝนไม่ต้องมอมมั้งคะ ฝีมือเราดี”
ประโยคสองแง่สองง่ามแสนอวดดีนี่ชวนกลอกตาเบะปากใส่เสียเหลือเกิน
“หมั่นไส้อะ คนอะไรหลงตัวเองเวอร์”
“อิอิ ชิมนี่ค่ะ กับพิตาชิโอก็อร่อยนะ”
บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความเพลิดเพลินร่วมกัน กระดานชีสซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นกิจกรรมหลัก ได้กลายมาเป็นเพียงอุปกรณ์ประกอบฉาก ทั้งคู่ผลัดกันป้อนชิม หยิบนู่นนั่นมิกซ์กันสนุกปาก โดยไม่ทันได้สังเกตว่ามีความรู้สึกแปลกใหม่เบ่งบานในหัวใจทั้งสองฝ่ายทีละน้อย มันมีความเชื่อมโยงบางอย่างที่คอยส่งเสริมกันอย่างเนียน ๆ คละเคล้าในความรู้สึก
“Casual” Jesse Barrera feat. Jeff Bernat & Johnny Stimson - Playing…
“หลงเข้ามาในถ้ำเสือ ไม่กลัวโดนขย้ำหรอคะ” ร่างบางถูกคุณเจ้าของห้องช้อนสะโพกให้ขึ้นไปนั่งบนเคาน์เตอร์ นัยน์ตาแพรวพราวไม่ยอมละจากใบหน้าสวยและลำตัวของสายฝนไม่ยอมถอยหนี
“ไหนเสือ? เห็นแต่ลูกหมาตาแป๋ว” นิ้วชี้ของอิงฟ้าจิ้มไปยังกลางหน้าผากของลูกหมาที่กำลังกะพริบตามองอย่างไร้เดียงสา หากคนตรงหน้าเป็นเสืออย่างที่โอ้อวด ก็คงเป็นเสือขี้อ้อนขี้ออเซาะที่สุดในจักรวาลเลยมั้ง
“ยอมเป็นหมาให้ก็ได้นะ ถ้าคุณจะชอบมากกว่า”
“ไม่ต้องมาพูดเอาใจเลย จะหมาจะเสือ เราไม่ชอบอะไรทั้งนั้นแหละ” ความหมายให้การปฏิเสธ แต่ร่างกายยังคงเกาะเกี่ยวกันไม่ได้ผลักไสไปไหนแถมแก้มนุ่มยังขึ้นสีแดงระเรื่อ
“จริงหรอคะ”
เสือโคร่งลายพาดกลอนกลายร่างเป็นหมาน้อยช่างคลอเคลีย ปลายจมูกหยดน้ำฝังบนลำคอปัดป่ายไปทั่ว สายฝนทาบจูบขบเม้มบางเบา ประสาทสัมผัสบนร่างกายอิงฟ้าตื่นตัวเกิดอาการขนลุกชันอย่างจั๊กจี้
“หมา อย่าเลียสิ”
“สั่งเราสิคะ อยากให้ทำอะไรได้หมดเลยนะ”
อิงฟ้าใจสั่นเมื่อมองเข้าไปในดวงตาของสายฝน ในสายตาคู่นั้น เธอค้นพบส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างความซุกซนและความอบอุ่น มันทำให้เลือดลมในกายสูบฉีดวูบวาบไปหมด
“งั้นป้อนองุ่นหน่อยสิ” แทนที่จะเชื่อฟังด้วยการหยิบป้อนธรรมดา เธอยกยิ้มอย่างมีเลศนัยแล้วส่งมันเข้าปากตัวเองก่อนที่จะหันไปป้อนคุณคนสวยตามคำสั่ง
“อืมม~”
ริมฝีปากแนบริมฝีปาก น้ำหวานจากองุ่นแตกซ่านกระจายไปทั่ว เรียวลิ้นอุ่นจากเจ้าคนฉวยโอกาสถือวิสาสะกวาดชิม เป็นจุมพิตในเวลาชั่วนาทีที่เล่นกับใจอิงฟ้าจนอ่อนยวบ
“หวานจังเลยค่ะ”
“เราหรือองุ่น”
“คุณ”
ทั้งสองร่างนัวเนียกันในระยะประชิด ลมหายใจผสมกลิ่นแอลกอฮอล์เจือผลไม้และดอกไม้ยามโต้ตอบบทสนทนามันเย้ายวนปลุกปั่นอารมณ์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ เลือดลมในกายสูบฉีดวูบวาบไปหมด มันเรียกหาการสัมผัสปรนเปรอแสนเอาอกเอาใจ จะจากปากหรือจากมือก็ได้ทั้งนั้น
“ทำกันนะ”
อิงฟ้าเอ่ยถามออกมาอย่างเขินอาย แม้เธอจะดูเป็นสาวกร้านโลกแต่ก็ไม่เคยร้องขออย่างเว้าวอนขนาดนี้มาก่อน มันดูไม่ใช่เธอเลยสักนิด หรือเป็นเพราะเสียงเพลงละมุนของเจฟขับกล่อมให้เธอกล้า
“หืม ตรงนี้หรอคะ?”
“ค่ะ ตรงนี้ บนเคาน์เตอร์ตัวนี้ เ