“โห่ กว่าจะมาได้นะแก ฉันรอรากแทบงอก” จารวีกอดคอคว้าเพื่อนหน้าซึนให้เข้ามาร่วมวงพร้อมแนะนำตัวให้แทนเสร็จสรรพ “ทุกคนคะ นี่สายฝนเพื่อนจาร์เองค่ะ นู่นคุณลินดา คุณณิชา และคนสวยๆ คนนั้นคุณอิงฟ้า”
“สวัสดีค่าคุณสายฝน”
“น้องคะ ขอแก้วเพิ่มโต๊ะนี้ 1 ที่ค่ะ” ลินดาจัดแจงเรียกพนักงานเสิร์ฟขอแก้วเหล้าเพิ่มให้ผู้มาใหม่ทันที
“หวัดดีคุณ” สายฝนเลือกที่จะเขยิบเข้าไปใกล้อิงฟ้า ให้ช่องว่างระหว่างเธอสองคนแคบที่สุดเท่าที่จะทำได้ เหมือนเล็งมาไว้อยู่แล้วว่าควรเอาตัวเธอไปแทรกไว้ตรงไหน
“หวัดดี…”
Singapore Sling อย่างนั้นเหรอ… สายฝนมองตามมือเรียวที่ยกค็อกเทลสีสวยขึ้นจิบอย่างจงใจหลบเลี่ยงสายตา เธอคลี่ยิ้มคิดว่าอิงฟ้ามีความงามอันน่าหลงใหลเช่นเดียวกับเครื่องดื่มในมือเป๊ะเลย ค็อกเทลสีทับทิมรสเปรี้ยวหวานสีสันให้ความรู้สึกเย้ายวนแก่คนมอง อีกทั้งนัยน์ตาของอิงฟ้ายังเหมือนเชอร์รี่สีแดงบนขอบแก้วที่แฝงความลึกลับดึงดูดใจ
“สบายดีนะคุณ” สายฝนพยายามจะสร้างบทสนทนาให้คุ้มกับความกล้าที่เธอกล้าแลกกับใจตัวเอง
“สบายดีค่ะ”
“เอ๋ นี่รู้จักกันอยู่แล้วหรอคะเนี่ย?” ลินดาใช้มือเดียวกันกับที่ถือแก้วน้ำเมาฉีกนิ้วชี้ไปยังทั้งสองคนเพื่อไถ่ถาม
“โว๊ะ บอสเป็นเจ้านายประสาอะไรเนี่ยถึงไม่รู้ นี่คุณสายฝนน้องสาวคุณม่านหมอกที่ยอมจ่ายเงินก้อนโตจ้างเราเป็นคนพัฒนาโมเดลธุรกิจทำตลาดให้อะ”
“ถามจริง?” ลินดายังคงซักไซร้
“จริงจ๊ะแม่” ณิชาพยักหน้าย้ำ
“หูย สวัสดีอย่างเป็นทางการค่ะคุณสายฝน โลกกลมจังเลยนะคะเนี่ย นั่งก่อนค่ะเดี๋ยวลินดาดูแลเองน้าา” แต่พอได้รับการยืนยันเธอก็แทบจะถลาไปดูแลน้องสาวลูกค้าคนสำคัญ เล่นเอาทุกคนมึนงงกับกิริยาประจบสอพอที่เปลี่ยนไปฉับพลัน
เพียงไม่นานเสียงเพลงสนุกสนานก็ดังขึ้นละลายพฤติกรรมผู้คน ห้าทุ่มครึ่งปุ๊บ! เก้าอี้โซนกลางบาร์ถูกแหวกออก
“คุณณิชาคุณลินดา จาร์ว่าเราต้องออกเสต็ปกันหน่อยละ” จารวีพยักพเยิดหน้าไปยังโลเคชันที่ดีที่สุดในการวาดลวดลาย
“ขอที่ติดดีเจเลยได้ไหมคุณจาร์ ชอบแบบบีทหนัก ๆ”
“บอสนี่นะจะแหวกเข้าไปยังไงละนั่น”
“มาค่ะ จาร์พาไปเอง วู้ฮู้วว!” จารวีจูงมือทั้งสองสาวฝ่าผู้คนเพื่อให้ได้ใกล้ชิดดีเจที่กำลังสแครชแผ่นเสียงอย่างเมามัน เธอตั้งใจเปิดทางให้เพื่อนสนิทคนเดียวอย่างสายฝนมีเวลาส่วนตัวเพื่อหาเรื่องพูดคุยกับอิงฟ้าอย่างไม่เคอะเขิน
“สนิทกันเร็วเกินไปเนอะคุณ”
“นั่นสิ”
“แล้วทำไมใช้น้ำเสียงเหมือนคนไม่รู้จักกันเลยล่ะ”
“แล้วจะให้ฉันทำยังไงฮะ ต้องอ้อนคะขาเลยหรือเปล่า? เราพึ่งจะเจอกันนะ ให้ฉันได้ตั้งสติหน่อยสิ เอาแต่ใจอีกแล้วนะคุณอะ”
มันยากนะที่ต้องซ่อนความรู้สึกที่ครึ่งหนึ่งตื่นเต้นอีกครึ่งกลับหวาดกลัว อิงฟ้าไม่อยากถูกจับได้ว่ากำลังยิ้มเพราะดีใจที่ได้เจอและมันก็ไม่ควรแสดงออกอย่างจริงจังว่าที่ผ่านมานั้นเธออยู่ด้วยความคิดถึงเขามาโดยตลอด
“โอเคค่อยยังชั่ว”
“อะไรของคุณเนี่ย”
“ก็เสียงดุติดเหวี่ยงนิดหน่อยเหมือนเราไปทำอะไรให้ไม่พอใจแบบนี้แหละคือคุณอิงฟ้าที่เรารู้จัก แบบเหมือนตอนเราเจอกันที่สนามบินครั้งแรกไง” สใท่าทางดุดันของอิงฟ้านั้นน่าเอ็นดูยิ่งนัก เธอพบว่าตัวเองหลงใหลในดวงตาของอิงฟ้าที่เป็นประกายแม้จะพยายามแสดงท่าทีเคร่งขรึม
“คุณนี่แปลก ๆ นะ” คุณคนสวยยกแก้วขึ้นจิบ มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย
“คิดเหมือนกันค่ะ เรารู้สึกแปลก ๆ ทุกครั้งที่ได้คุยกับคุณเลย ตอนนี้ก็เช่นกัน”
“พูดจาแบบนี้จีบปะ? หรือจะชวนขึ้นห้องอีก?”
“อะไรที่มันทำให้คุณคิดแบบนั้นหรอคะ?” สายฝนขยับเข้าไปซ้อนหลังแนบชิดปลายจมูกพ่นลมหายใจรดต้นคอคล้ายจะทาบจูบลงมาแต่ยังไม่กล้าพอเพราะยังไม่ได้รับคำอนุญาตให้แตะเนื้อต้องตัว เธอแพ้กลิ่นหอมบนผิวเนียนของอิงฟ้า กลิ่นเย้ายวนใจที่หลอกล่อให้กดริมฝีปากของเธอเข้ากับผิวเนียนเพื่อสูดความหอมหวานกำลังท่วมท้น
“การที่คุณกำลังรุ่มร่ามกับตัวฉันนั่นแหละมันทำให้คิด”
“คุณดุเราได้คุณรู้นี่ พูดสิว่าไม่ชอบ แล้วเราจะปล่อย” สายฝนหมุนร่างบางให้กระชับเข้าหา เพื่อที่เธอจะได้เห็นใบหน้ายามต่อล้อต่อเถียงชัด ๆ
“ไม่ชอบ! ไม่ชอบมาก ไม่ชอบเลยจริงๆ พอเราพูดแบบนี้เดี๋ยวคุณก็ดื้อเข้าข้างตัวเองอยู่ดี” เสียงกราดเกรี้ยวตอบกลับทันควันแอบบิดเอวไปหนึ่งที สายฝนยิ้มเจ้าเล่ห์ ต่อให้อิงฟ้าเหวี่ยงใส่เธอแรงกว่านี้ก็ไม่กลัวเลยสักนิด
“โอเคแปลว่าชอบ”
“เห็นไหม! เรื่องคิดไปเองนี่ที่หนึ่งเลยนะคุณน่ะ” เลเวลความน่ามันเขี้ยวตอนนี้ให้เกินสิบ อิงฟ้าตีไปที่หัวไหล่บางเบา
“กับคุณเราสามารถเป็นอะไรก็ได้ ขอแค่ได้ใกล้ชิดนานกว่านี้อีกหน่อย” สายฝนสื่อความรู้สึกผ่านดวงตาก่อนที่จะนาบแก้มลงบนไหล่อย่างออดอ้อน ต้องขอบคุณแสงไฟสลัวที่พลางพวกเธอจากสายตาผู้คนและทำให้คนขี้กลัวได้กล้าตามใจตัวเอง
แก้มอิงฟ้าร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุเธอพบว่าคำพูดพวกนี้มันน่าฟังเกินไป เธอต้องการหอบหัวใจอันอ่อนไหวย้ายไปวาดลวดลายกับพวกณิชาตรงนู้นเพื่อปกป้องความรู้สึกดีที่กำลังก่อตัว
“เฮ้ คุณจะทิ้งเราไว้ตรงนี้จริง ๆ หรอ?”
สายฝนรั้งแขนเอาไว้แล้วดึงร่างบางให้ถอยกลับมาอยู่ในอ้อมกอดแนบชิดยิ่งกว่าเดิม นัยน์ตาคมกล้าฉายแววปรารถนาอย่างลึกซึ้ง กว่าจะรวบรวมความกล้าฝ่ามุมมืดออกมาได้ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับสายฝนเลย การให้ปล่อยคุณคนสวยหายไปกับฝูงชนเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำมากที่สุด
“อยู่กับเราก่อนนะ สัญญาว่าจะไม่ดื้อให้คุณปวดหัว”
เขาน่ารัก
เขายิ้มเก่ง
และช่างพูดจา
สายฝนห่างไกลจากคำว่านิสัยไม่ดีแต่กลับขโมยหัวใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าไปได้อย่างหน้าตาเฉย อิงฟ้าไม่เคยอ่อนไหวกับวาจาอ่อนหวานที่ปรารถนาฉกฉวยโอกาสได้แนบชิดกับเธอขนาดนี้มาก่อน
“คุณกลับมาอยู่กรุงเทพแล้วหรอคะ?” สายฝนเกี่ยวปอยผมของอิงฟ้าที่ร่วงหล่นจากการขยับตัวตามจังหวะเพลงขึ้นทัดหู
“เปล่าค่ะ เรามาแค่วันหยุด”
เสียงเพลงล่องลอยในอากาศ ทั้งคู่ถูกดึงเข้าสู่การซิงโครไนซ์ที่อยู่เหนือจังหวะ ร่างกายของพวกเธอเคลื่อนไหวไปพร้อมกับดนตรี สัมผัสเบา ๆ ท่ามกลางบรรยากาศแสงสลัว สายตาของทั้งคู่ประสานกันคล้ายแม่เหล็กขั้วตรงข้ามที่ดูดเข้าหากันโดยธรรมชาติ
“โถ่ คิดว่าจะได้เจอคุณบ่อย ๆ แล้วซะอีก” สายฝนเผลอทำคิ้วลู่เหมือนลูกหมาผิดหวังอย่างไม่รู้ตัว ทำให้คนเห็นในระยะใกล้เกิดอาการเอ็นดู
“เจอบ่อยเบื่อตายเลย”
“เชื่อไหมว่าเราทำให้คุณไม่เบื่อหรอก”
“หึ ไม่เชื่อหรอก คำพูดคนเจ้าชู้เชื่อไม่ได้หรอก”
“ว่าแล้วต้องพูดแบบนี้” สายฝนกระตุกยิ้ม
สภาพแวดล้อมดูพร่ามัวกลายเป็นเพียงฉากหลัง ในช่วงเวลาแสนสั้นนี้ ทุกอย่างดูเหมือนจะสอดคล้องกันไปหมดทั้งดนตรี บรรยากาศและความคิดถึงที่ก่อตัวหนาแน่นยากเกินปฏิเสธท่ามกลางท่วงทำนองที่เคลิบเคลิ้มและสะโพกที่พลิ้วไหว
“ถ้าเราขอจูบคุณตอนนี้ คุณจะทุบหลังเราไหม?”
อิงฟ้าหลุดหัวเราะพรืดในขณะที่แขนโอบรอบคอคุณเขาไว้ เธอเอ็นดูกับคำพูดคำจา เขาน่ารักจนอยากดึงแก้มแล้วโยกไปมาให้หายมันเขี้ยว
“ลองจูบดูก่อนสิ”
“ถ้าครั้งแรกยังไม่ดีพอ คุณให้โอกาสครั้งที่สองได้ไหมคะ?”
“เอาไว้พิจารณาหลังได้ใช้บริการดีกว่าไหม?”
ริมฝีปากของสายฝนโค้งเป็นรอยยิ้มบางเบา เธอรู้สึกเหมือนเวลาเดินช้าลงและสิ่งมีชีวิตรอบตัวเลือนหายไปกลายเป็นเพียงฉากหลังเบลอ เธอกำลังหลงอยู่ในห้วงแห่งความคิดถึงที่สะสมมานานนับอาทิตย์
มือสองข้างประคองแก้มนุ่ม ริมฝีปากทาบสัมผัสนุ่มนวล อิงฟ้าหลับตารับความอบอุ่นที่วิ่งเต้นไปทั่วร่างกาย มันผสมไปด้วยความคิดถึง ความโหยหา และความสับสนจากกฎที่เธอตั้งไว้กับตัวเองว่าจะเก็บหัวใจไว้ให้คนที่เธอรักเท่านั้น แต่กับสายฝน… ไม่รู้สิ สายฝนให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไป
“ปากเราคิดถึงปากคุณมากนะรู้ไหม”
“ไม่เห็นจะรู้เลย…” รอยยิ้มพึงพอใจโค้งขึ้นบนริมฝีปากของอิงฟ้าเล็กน้อย ไม่ใช่รอยยิ้มกว้างสุดปากแต่เป็นรอยยิ้มที่สื่อความรู้สึกแทนคำพูดได้มากมาย
“ให้เราไปส่งคุณที่บ้านนะ”
“น้ำมันตอนนี้ลิตรละ 40 บาทแล้วนะคุณสายฝน กว่าจะถึงบ้านเรากก็ตั้งหลายสิบกิโล” อิงฟ้าไม่ได้ปฏิเสธ เพียงแค่หาเรื่องแจ้งให้ทราบเท่านั้น
“ไม่เป็นไรค่ะเราจ่ายไหว”
.
.
หน้าบ้านของอิงฟ้าปรากฏรถยนต์หรูจอดนิ่งสนิทแต่ไม่ดับเครื่องยนต์ เครื่องปรับอากาศภายในแสดงอุณหภูมิ 19 องศา หากเป็นช่วงเวลาปกติคงรู้สึกว่ามันเย็นยะเยือกเกินไป แต่กับสองสาวที่แลกจูบอยู่บนเบาะเดียวกันอย่างไม่หยุดยั้ง คาดว่ามิอาจผ่อนปรนความร้อนเร่าลงไปได้
“หวานจัง~” สายฝนผละตัวออกพลางใช้หลังมือซับคราบน้ำลายที่เลอะมุมปาก เธอไม่เห็นรู้ตัวเลยว่าเผลอมูมมามจนเลอะคุณเขาขนาดนี้
“ชิมไม่รู้ตั้งกี่รอบ ยังไม่หายหวานอีกหรอ?” อิงฟ้าที่ถูกคนด้านบนคร่อมบนตักมองด้วยแววตาหยาดเยิ้มก็ส่งมือไปเช็ดคราบใต้คางคืนบ้าง
“อื้ม ความหวานไม่ลดลงเลย ขอชิมอีกได้ไหมคะ?”
อิงฟ้าไม่ได้ตอบปฏิเสธไปตรง ๆ แต่ยกประเด็นสำคัญขึ้นมาแย้ง “จะเช้าแล้วนะคุณ ไม่กลับบ้านหรอ? ไหนว่าน้องสาวคุณรออยู่”
“ตายล่ะ เราลืมไปเลย เรามัวแต่หลงคุณ”
“ไม่ต้องมาโทษกันเลยนะ คุณเองหรือเปล่าที่ไม่รู้จักหักห้ามใจน่ะ”
“โถ่ คุณสวยคุณหอมขนาดนี้ ห้ามใจไหวก็แย่ละ ฮั่นแน่คุณยิ้มนี่ คุณชอบให้เราชมหรอ…คนสวยขา~”
“ไม่ต้องเอาหน้ามาใกล้เลยนะ กลับบ้านไปเลยไป” อิงฟ้าใช้มือดันหน้ายัยคนเจ้าชู้ให้ออกไปไกล ๆ ไม่ชอบเลยที่คนตรงหน้าหยอกล้อด้วยเสียงอ่อนเสียงหวาน มันทำให้ความรู้สึกที่ว่าต้านทานได้กลายเป็นเริ่มจะหวั่นไหวอยู่กลาย ๆ
“ให้จูบก่อนสิแล้วจะกลับ”
“โลภมาก”
“อื้อ โลภ ถ้าได้กินปากนุ่มนิ่มมาชเมลโล่ของคุณ เราอยากโลภเก็บไว้กินคนเดียวหมดเลยรู้ไหม”
“ปากเราไม่ใช่ขนมห้าบาทสิบบาทนะ”
“โอเคไม่ใช่ขนมก็ได้ แต่ปากคุณสวย ปากคุณนุ่มละมุน ข้างในเวลาตวัดลิ้นชิมก็อุ่นไปหมด คุณ…เราอยากจูบอีก นะคะ”
อิงฟ้าไม่กล้าสบตาสายฝน เขาร้องขอจุมพิตแสนหวานด้วยแววตาใสซื่อเหมือนเด็กไร้พิษภัยและสิ่งนั้นมันกำลังทำให้เธอแพ้ สายฝนใช้โอกาสนี้ลดช่องว่างโดยการโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้
“จูบเดียวแล้วกลับบ้านเลยนะ” เธอยื่นคำขาดดักคนตะกละไว้ก่อนเลย
“จูบเดียวจะไม่ดื้อแล้วค่ะวันนี้” ริมฝีปากยกยิ้มทรงเสน่ห์ย้ำอีกฝ่ายให้เชื่อใจ
อิงฟ้าไม่รู้ว่าควรตอบรับอย่างไรให้ดูว่าเธอเหนือกว่าเขา ไม่ใช่ยัยสาวนักรักที่กำลังแพ้ลูกอ้อนแบบราบคาบ ในจังหวะที่อิงฟ้ากำลังยืดตัวขึ้นป้อนจูบคนบนตักแทนคำอนุญาต แต่กลับถูกมืออุ่นประคองแก้มไปหอมเต็มแรง ปลายจมูกหยดน้ำคลอเคลียบนแก้มนุ่มค่อย ๆ ปัดป่ายเข้ามาใกล้กลีบปากเรื่อย ๆ คล้ายกับต้องการจะยื้อเวลาให้จูบเดียวกลายเป็นจูบที่นานเต็มอิ่มที่สุด
สายฝนงับริมฝีปากล่างของอิงฟ้าอย่างอ้อยอิ่ง เม้มคลึงก่อนจะส่งเรียวลิ้นเข้าไปตักตวงความหวานที่เขาคลั่งไคล้ อืม~ ความละมุนของสัมผัสส่งผลให้อิงฟ้ามวนท้องน้อย เธอโอบรอบคอคนที่กำลังปลุกอารมณ์สยิวเข้ามาแนบชิดและลูบไล้ท้ายทอยของสายฝนเป็นการระบายความวูบวาบ
มือซุกซนของสายฝนค่อย ๆ ไต่จากเอวเข้าไปทักทายหน้าอกอวบอิ่ม เขาสรรค์สร้างอารมณ์ด้วยการบีบคลึงไปพร้อม ๆ กับการแลกจูบร้อน อื้มคุณ พ พอก่อน~
อิงฟ้าดันตัวคนด้านบนออก ลมหายใจหอบถี่เช่นเดียวกับจังหวะของหัวใจ ใช่ กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม แต่อิงฟ้าจำต้องหยุดความหิวกระหายนี้ไว้ก่อน ไม่อย่างนั้นสายฝนคงไม่ได้กลับบ้านไปคุยธุระกับน้อง
“โอเค เราไม่ดื้อ แต่คุณรู้ไหมว่าอารมณ์กำลังมาน่ะ” สายฝนพาตัวเองกลับไปนั่งที่คนขับรถ เธอเชิดหน้าเป่าลมฟู่ออกจากปากอย่างต้องการบรรเทาอารมณ์ เนินดอกไม้กลางกายกำลังชื้นแฉะและเธอรู้ว่าส่วนนั้นของอิงฟ้าก็พร้อมแล้วไม่ต่างกัน เพราะอีกแค่นิดเดียวเลยทำให้หงุดหงิด
“ให้ฝากไว้ก่อนเอาไหม?”
สาวร่างสูงที่กำลังหน้ามุ่ยคิ้วขมวดก็หูผึ่งตาวาวทันที “เอาสิคะ ขนาดนี้เลยนะ เราต้องเอาอยู่แล้ว”
“งั้นแยกย้ายกันก่อนนะ เราอยากเข้าบ้านนอนแล้ว”
อิงฟ้าหันมาสบตากับแท็กซี่ส่วนตัวที่อาสามาส่งบ้านวันนี้ อารมณ์หลากหลายมันตีรวนอยู่ในอกเต็มไปหมด ครั้นจะหาคำตอบให้ได้ตอนนี้พลังก็ไม่เหลือแล้ว เธอโน้มตัวไปจูบแก้มขอบคุณสายฝนที่มาส่งบ้าน โบกมือลาเล็กน้อยแล้วพาร่างสวยเดินเข้าบ้านไป
“เฮ้อ มีคนสวยมาเล่นกับใจ เหนื่อยเหมือนกันแฮะ”
นิยายยูริ Tangled Desires #ฟ้าพ่ายฝน ตอนที่ 5 : อันตรายต่อหัวใจ (2/2)
“โห่ กว่าจะมาได้นะแก ฉันรอรากแทบงอก” จารวีกอดคอคว้าเพื่อนหน้าซึนให้เข้ามาร่วมวงพร้อมแนะนำตัวให้แทนเสร็จสรรพ “ทุกคนคะ นี่สายฝนเพื่อนจาร์เองค่ะ นู่นคุณลินดา คุณณิชา และคนสวยๆ คนนั้นคุณอิงฟ้า”
“สวัสดีค่าคุณสายฝน”
“น้องคะ ขอแก้วเพิ่มโต๊ะนี้ 1 ที่ค่ะ” ลินดาจัดแจงเรียกพนักงานเสิร์ฟขอแก้วเหล้าเพิ่มให้ผู้มาใหม่ทันที
“หวัดดีคุณ” สายฝนเลือกที่จะเขยิบเข้าไปใกล้อิงฟ้า ให้ช่องว่างระหว่างเธอสองคนแคบที่สุดเท่าที่จะทำได้ เหมือนเล็งมาไว้อยู่แล้วว่าควรเอาตัวเธอไปแทรกไว้ตรงไหน
“หวัดดี…”
Singapore Sling อย่างนั้นเหรอ… สายฝนมองตามมือเรียวที่ยกค็อกเทลสีสวยขึ้นจิบอย่างจงใจหลบเลี่ยงสายตา เธอคลี่ยิ้มคิดว่าอิงฟ้ามีความงามอันน่าหลงใหลเช่นเดียวกับเครื่องดื่มในมือเป๊ะเลย ค็อกเทลสีทับทิมรสเปรี้ยวหวานสีสันให้ความรู้สึกเย้ายวนแก่คนมอง อีกทั้งนัยน์ตาของอิงฟ้ายังเหมือนเชอร์รี่สีแดงบนขอบแก้วที่แฝงความลึกลับดึงดูดใจ
“สบายดีนะคุณ” สายฝนพยายามจะสร้างบทสนทนาให้คุ้มกับความกล้าที่เธอกล้าแลกกับใจตัวเอง
“สบายดีค่ะ”
“เอ๋ นี่รู้จักกันอยู่แล้วหรอคะเนี่ย?” ลินดาใช้มือเดียวกันกับที่ถือแก้วน้ำเมาฉีกนิ้วชี้ไปยังทั้งสองคนเพื่อไถ่ถาม
“โว๊ะ บอสเป็นเจ้านายประสาอะไรเนี่ยถึงไม่รู้ นี่คุณสายฝนน้องสาวคุณม่านหมอกที่ยอมจ่ายเงินก้อนโตจ้างเราเป็นคนพัฒนาโมเดลธุรกิจทำตลาดให้อะ”
“ถามจริง?” ลินดายังคงซักไซร้
“จริงจ๊ะแม่” ณิชาพยักหน้าย้ำ
“หูย สวัสดีอย่างเป็นทางการค่ะคุณสายฝน โลกกลมจังเลยนะคะเนี่ย นั่งก่อนค่ะเดี๋ยวลินดาดูแลเองน้าา” แต่พอได้รับการยืนยันเธอก็แทบจะถลาไปดูแลน้องสาวลูกค้าคนสำคัญ เล่นเอาทุกคนมึนงงกับกิริยาประจบสอพอที่เปลี่ยนไปฉับพลัน
เพียงไม่นานเสียงเพลงสนุกสนานก็ดังขึ้นละลายพฤติกรรมผู้คน ห้าทุ่มครึ่งปุ๊บ! เก้าอี้โซนกลางบาร์ถูกแหวกออก
“คุณณิชาคุณลินดา จาร์ว่าเราต้องออกเสต็ปกันหน่อยละ” จารวีพยักพเยิดหน้าไปยังโลเคชันที่ดีที่สุดในการวาดลวดลาย
“ขอที่ติดดีเจเลยได้ไหมคุณจาร์ ชอบแบบบีทหนัก ๆ”
“บอสนี่นะจะแหวกเข้าไปยังไงละนั่น”
“มาค่ะ จาร์พาไปเอง วู้ฮู้วว!” จารวีจูงมือทั้งสองสาวฝ่าผู้คนเพื่อให้ได้ใกล้ชิดดีเจที่กำลังสแครชแผ่นเสียงอย่างเมามัน เธอตั้งใจเปิดทางให้เพื่อนสนิทคนเดียวอย่างสายฝนมีเวลาส่วนตัวเพื่อหาเรื่องพูดคุยกับอิงฟ้าอย่างไม่เคอะเขิน
“สนิทกันเร็วเกินไปเนอะคุณ”
“นั่นสิ”
“แล้วทำไมใช้น้ำเสียงเหมือนคนไม่รู้จักกันเลยล่ะ”
“แล้วจะให้ฉันทำยังไงฮะ ต้องอ้อนคะขาเลยหรือเปล่า? เราพึ่งจะเจอกันนะ ให้ฉันได้ตั้งสติหน่อยสิ เอาแต่ใจอีกแล้วนะคุณอะ”
มันยากนะที่ต้องซ่อนความรู้สึกที่ครึ่งหนึ่งตื่นเต้นอีกครึ่งกลับหวาดกลัว อิงฟ้าไม่อยากถูกจับได้ว่ากำลังยิ้มเพราะดีใจที่ได้เจอและมันก็ไม่ควรแสดงออกอย่างจริงจังว่าที่ผ่านมานั้นเธออยู่ด้วยความคิดถึงเขามาโดยตลอด
“โอเคค่อยยังชั่ว”
“อะไรของคุณเนี่ย”
“ก็เสียงดุติดเหวี่ยงนิดหน่อยเหมือนเราไปทำอะไรให้ไม่พอใจแบบนี้แหละคือคุณอิงฟ้าที่เรารู้จัก แบบเหมือนตอนเราเจอกันที่สนามบินครั้งแรกไง” สใท่าทางดุดันของอิงฟ้านั้นน่าเอ็นดูยิ่งนัก เธอพบว่าตัวเองหลงใหลในดวงตาของอิงฟ้าที่เป็นประกายแม้จะพยายามแสดงท่าทีเคร่งขรึม
“คุณนี่แปลก ๆ นะ” คุณคนสวยยกแก้วขึ้นจิบ มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย
“คิดเหมือนกันค่ะ เรารู้สึกแปลก ๆ ทุกครั้งที่ได้คุยกับคุณเลย ตอนนี้ก็เช่นกัน”
“พูดจาแบบนี้จีบปะ? หรือจะชวนขึ้นห้องอีก?”
“อะไรที่มันทำให้คุณคิดแบบนั้นหรอคะ?” สายฝนขยับเข้าไปซ้อนหลังแนบชิดปลายจมูกพ่นลมหายใจรดต้นคอคล้ายจะทาบจูบลงมาแต่ยังไม่กล้าพอเพราะยังไม่ได้รับคำอนุญาตให้แตะเนื้อต้องตัว เธอแพ้กลิ่นหอมบนผิวเนียนของอิงฟ้า กลิ่นเย้ายวนใจที่หลอกล่อให้กดริมฝีปากของเธอเข้ากับผิวเนียนเพื่อสูดความหอมหวานกำลังท่วมท้น
“การที่คุณกำลังรุ่มร่ามกับตัวฉันนั่นแหละมันทำให้คิด”
“คุณดุเราได้คุณรู้นี่ พูดสิว่าไม่ชอบ แล้วเราจะปล่อย” สายฝนหมุนร่างบางให้กระชับเข้าหา เพื่อที่เธอจะได้เห็นใบหน้ายามต่อล้อต่อเถียงชัด ๆ
“ไม่ชอบ! ไม่ชอบมาก ไม่ชอบเลยจริงๆ พอเราพูดแบบนี้เดี๋ยวคุณก็ดื้อเข้าข้างตัวเองอยู่ดี” เสียงกราดเกรี้ยวตอบกลับทันควันแอบบิดเอวไปหนึ่งที สายฝนยิ้มเจ้าเล่ห์ ต่อให้อิงฟ้าเหวี่ยงใส่เธอแรงกว่านี้ก็ไม่กลัวเลยสักนิด
“โอเคแปลว่าชอบ”
“เห็นไหม! เรื่องคิดไปเองนี่ที่หนึ่งเลยนะคุณน่ะ” เลเวลความน่ามันเขี้ยวตอนนี้ให้เกินสิบ อิงฟ้าตีไปที่หัวไหล่บางเบา
“กับคุณเราสามารถเป็นอะไรก็ได้ ขอแค่ได้ใกล้ชิดนานกว่านี้อีกหน่อย” สายฝนสื่อความรู้สึกผ่านดวงตาก่อนที่จะนาบแก้มลงบนไหล่อย่างออดอ้อน ต้องขอบคุณแสงไฟสลัวที่พลางพวกเธอจากสายตาผู้คนและทำให้คนขี้กลัวได้กล้าตามใจตัวเอง
แก้มอิงฟ้าร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุเธอพบว่าคำพูดพวกนี้มันน่าฟังเกินไป เธอต้องการหอบหัวใจอันอ่อนไหวย้ายไปวาดลวดลายกับพวกณิชาตรงนู้นเพื่อปกป้องความรู้สึกดีที่กำลังก่อตัว
“เฮ้ คุณจะทิ้งเราไว้ตรงนี้จริง ๆ หรอ?”
สายฝนรั้งแขนเอาไว้แล้วดึงร่างบางให้ถอยกลับมาอยู่ในอ้อมกอดแนบชิดยิ่งกว่าเดิม นัยน์ตาคมกล้าฉายแววปรารถนาอย่างลึกซึ้ง กว่าจะรวบรวมความกล้าฝ่ามุมมืดออกมาได้ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับสายฝนเลย การให้ปล่อยคุณคนสวยหายไปกับฝูงชนเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำมากที่สุด
“อยู่กับเราก่อนนะ สัญญาว่าจะไม่ดื้อให้คุณปวดหัว”
เขาน่ารัก
เขายิ้มเก่ง
และช่างพูดจา
สายฝนห่างไกลจากคำว่านิสัยไม่ดีแต่กลับขโมยหัวใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าไปได้อย่างหน้าตาเฉย อิงฟ้าไม่เคยอ่อนไหวกับวาจาอ่อนหวานที่ปรารถนาฉกฉวยโอกาสได้แนบชิดกับเธอขนาดนี้มาก่อน
“คุณกลับมาอยู่กรุงเทพแล้วหรอคะ?” สายฝนเกี่ยวปอยผมของอิงฟ้าที่ร่วงหล่นจากการขยับตัวตามจังหวะเพลงขึ้นทัดหู
“เปล่าค่ะ เรามาแค่วันหยุด”
เสียงเพลงล่องลอยในอากาศ ทั้งคู่ถูกดึงเข้าสู่การซิงโครไนซ์ที่อยู่เหนือจังหวะ ร่างกายของพวกเธอเคลื่อนไหวไปพร้อมกับดนตรี สัมผัสเบา ๆ ท่ามกลางบรรยากาศแสงสลัว สายตาของทั้งคู่ประสานกันคล้ายแม่เหล็กขั้วตรงข้ามที่ดูดเข้าหากันโดยธรรมชาติ
“โถ่ คิดว่าจะได้เจอคุณบ่อย ๆ แล้วซะอีก” สายฝนเผลอทำคิ้วลู่เหมือนลูกหมาผิดหวังอย่างไม่รู้ตัว ทำให้คนเห็นในระยะใกล้เกิดอาการเอ็นดู
“เจอบ่อยเบื่อตายเลย”
“เชื่อไหมว่าเราทำให้คุณไม่เบื่อหรอก”
“หึ ไม่เชื่อหรอก คำพูดคนเจ้าชู้เชื่อไม่ได้หรอก”
“ว่าแล้วต้องพูดแบบนี้” สายฝนกระตุกยิ้ม
สภาพแวดล้อมดูพร่ามัวกลายเป็นเพียงฉากหลัง ในช่วงเวลาแสนสั้นนี้ ทุกอย่างดูเหมือนจะสอดคล้องกันไปหมดทั้งดนตรี บรรยากาศและความคิดถึงที่ก่อตัวหนาแน่นยากเกินปฏิเสธท่ามกลางท่วงทำนองที่เคลิบเคลิ้มและสะโพกที่พลิ้วไหว
“ถ้าเราขอจูบคุณตอนนี้ คุณจะทุบหลังเราไหม?”
อิงฟ้าหลุดหัวเราะพรืดในขณะที่แขนโอบรอบคอคุณเขาไว้ เธอเอ็นดูกับคำพูดคำจา เขาน่ารักจนอยากดึงแก้มแล้วโยกไปมาให้หายมันเขี้ยว
“ลองจูบดูก่อนสิ”
“ถ้าครั้งแรกยังไม่ดีพอ คุณให้โอกาสครั้งที่สองได้ไหมคะ?”
“เอาไว้พิจารณาหลังได้ใช้บริการดีกว่าไหม?”
ริมฝีปากของสายฝนโค้งเป็นรอยยิ้มบางเบา เธอรู้สึกเหมือนเวลาเดินช้าลงและสิ่งมีชีวิตรอบตัวเลือนหายไปกลายเป็นเพียงฉากหลังเบลอ เธอกำลังหลงอยู่ในห้วงแห่งความคิดถึงที่สะสมมานานนับอาทิตย์
มือสองข้างประคองแก้มนุ่ม ริมฝีปากทาบสัมผัสนุ่มนวล อิงฟ้าหลับตารับความอบอุ่นที่วิ่งเต้นไปทั่วร่างกาย มันผสมไปด้วยความคิดถึง ความโหยหา และความสับสนจากกฎที่เธอตั้งไว้กับตัวเองว่าจะเก็บหัวใจไว้ให้คนที่เธอรักเท่านั้น แต่กับสายฝน… ไม่รู้สิ สายฝนให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไป
“ปากเราคิดถึงปากคุณมากนะรู้ไหม”
“ไม่เห็นจะรู้เลย…” รอยยิ้มพึงพอใจโค้งขึ้นบนริมฝีปากของอิงฟ้าเล็กน้อย ไม่ใช่รอยยิ้มกว้างสุดปากแต่เป็นรอยยิ้มที่สื่อความรู้สึกแทนคำพูดได้มากมาย
“ให้เราไปส่งคุณที่บ้านนะ”
“น้ำมันตอนนี้ลิตรละ 40 บาทแล้วนะคุณสายฝน กว่าจะถึงบ้านเรากก็ตั้งหลายสิบกิโล” อิงฟ้าไม่ได้ปฏิเสธ เพียงแค่หาเรื่องแจ้งให้ทราบเท่านั้น
“ไม่เป็นไรค่ะเราจ่ายไหว”
.
.
หน้าบ้านของอิงฟ้าปรากฏรถยนต์หรูจอดนิ่งสนิทแต่ไม่ดับเครื่องยนต์ เครื่องปรับอากาศภายในแสดงอุณหภูมิ 19 องศา หากเป็นช่วงเวลาปกติคงรู้สึกว่ามันเย็นยะเยือกเกินไป แต่กับสองสาวที่แลกจูบอยู่บนเบาะเดียวกันอย่างไม่หยุดยั้ง คาดว่ามิอาจผ่อนปรนความร้อนเร่าลงไปได้
“หวานจัง~” สายฝนผละตัวออกพลางใช้หลังมือซับคราบน้ำลายที่เลอะมุมปาก เธอไม่เห็นรู้ตัวเลยว่าเผลอมูมมามจนเลอะคุณเขาขนาดนี้
“ชิมไม่รู้ตั้งกี่รอบ ยังไม่หายหวานอีกหรอ?” อิงฟ้าที่ถูกคนด้านบนคร่อมบนตักมองด้วยแววตาหยาดเยิ้มก็ส่งมือไปเช็ดคราบใต้คางคืนบ้าง
“อื้ม ความหวานไม่ลดลงเลย ขอชิมอีกได้ไหมคะ?”
อิงฟ้าไม่ได้ตอบปฏิเสธไปตรง ๆ แต่ยกประเด็นสำคัญขึ้นมาแย้ง “จะเช้าแล้วนะคุณ ไม่กลับบ้านหรอ? ไหนว่าน้องสาวคุณรออยู่”
“ตายล่ะ เราลืมไปเลย เรามัวแต่หลงคุณ”
“ไม่ต้องมาโทษกันเลยนะ คุณเองหรือเปล่าที่ไม่รู้จักหักห้ามใจน่ะ”
“โถ่ คุณสวยคุณหอมขนาดนี้ ห้ามใจไหวก็แย่ละ ฮั่นแน่คุณยิ้มนี่ คุณชอบให้เราชมหรอ…คนสวยขา~”
“ไม่ต้องเอาหน้ามาใกล้เลยนะ กลับบ้านไปเลยไป” อิงฟ้าใช้มือดันหน้ายัยคนเจ้าชู้ให้ออกไปไกล ๆ ไม่ชอบเลยที่คนตรงหน้าหยอกล้อด้วยเสียงอ่อนเสียงหวาน มันทำให้ความรู้สึกที่ว่าต้านทานได้กลายเป็นเริ่มจะหวั่นไหวอยู่กลาย ๆ
“ให้จูบก่อนสิแล้วจะกลับ”
“โลภมาก”
“อื้อ โลภ ถ้าได้กินปากนุ่มนิ่มมาชเมลโล่ของคุณ เราอยากโลภเก็บไว้กินคนเดียวหมดเลยรู้ไหม”
“ปากเราไม่ใช่ขนมห้าบาทสิบบาทนะ”
“โอเคไม่ใช่ขนมก็ได้ แต่ปากคุณสวย ปากคุณนุ่มละมุน ข้างในเวลาตวัดลิ้นชิมก็อุ่นไปหมด คุณ…เราอยากจูบอีก นะคะ”
อิงฟ้าไม่กล้าสบตาสายฝน เขาร้องขอจุมพิตแสนหวานด้วยแววตาใสซื่อเหมือนเด็กไร้พิษภัยและสิ่งนั้นมันกำลังทำให้เธอแพ้ สายฝนใช้โอกาสนี้ลดช่องว่างโดยการโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้
“จูบเดียวแล้วกลับบ้านเลยนะ” เธอยื่นคำขาดดักคนตะกละไว้ก่อนเลย
“จูบเดียวจะไม่ดื้อแล้วค่ะวันนี้” ริมฝีปากยกยิ้มทรงเสน่ห์ย้ำอีกฝ่ายให้เชื่อใจ
อิงฟ้าไม่รู้ว่าควรตอบรับอย่างไรให้ดูว่าเธอเหนือกว่าเขา ไม่ใช่ยัยสาวนักรักที่กำลังแพ้ลูกอ้อนแบบราบคาบ ในจังหวะที่อิงฟ้ากำลังยืดตัวขึ้นป้อนจูบคนบนตักแทนคำอนุญาต แต่กลับถูกมืออุ่นประคองแก้มไปหอมเต็มแรง ปลายจมูกหยดน้ำคลอเคลียบนแก้มนุ่มค่อย ๆ ปัดป่ายเข้ามาใกล้กลีบปากเรื่อย ๆ คล้ายกับต้องการจะยื้อเวลาให้จูบเดียวกลายเป็นจูบที่นานเต็มอิ่มที่สุด
สายฝนงับริมฝีปากล่างของอิงฟ้าอย่างอ้อยอิ่ง เม้มคลึงก่อนจะส่งเรียวลิ้นเข้าไปตักตวงความหวานที่เขาคลั่งไคล้ อืม~ ความละมุนของสัมผัสส่งผลให้อิงฟ้ามวนท้องน้อย เธอโอบรอบคอคนที่กำลังปลุกอารมณ์สยิวเข้ามาแนบชิดและลูบไล้ท้ายทอยของสายฝนเป็นการระบายความวูบวาบ
มือซุกซนของสายฝนค่อย ๆ ไต่จากเอวเข้าไปทักทายหน้าอกอวบอิ่ม เขาสรรค์สร้างอารมณ์ด้วยการบีบคลึงไปพร้อม ๆ กับการแลกจูบร้อน อื้มคุณ พ พอก่อน~
อิงฟ้าดันตัวคนด้านบนออก ลมหายใจหอบถี่เช่นเดียวกับจังหวะของหัวใจ ใช่ กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม แต่อิงฟ้าจำต้องหยุดความหิวกระหายนี้ไว้ก่อน ไม่อย่างนั้นสายฝนคงไม่ได้กลับบ้านไปคุยธุระกับน้อง
“โอเค เราไม่ดื้อ แต่คุณรู้ไหมว่าอารมณ์กำลังมาน่ะ” สายฝนพาตัวเองกลับไปนั่งที่คนขับรถ เธอเชิดหน้าเป่าลมฟู่ออกจากปากอย่างต้องการบรรเทาอารมณ์ เนินดอกไม้กลางกายกำลังชื้นแฉะและเธอรู้ว่าส่วนนั้นของอิงฟ้าก็พร้อมแล้วไม่ต่างกัน เพราะอีกแค่นิดเดียวเลยทำให้หงุดหงิด
“ให้ฝากไว้ก่อนเอาไหม?”
สาวร่างสูงที่กำลังหน้ามุ่ยคิ้วขมวดก็หูผึ่งตาวาวทันที “เอาสิคะ ขนาดนี้เลยนะ เราต้องเอาอยู่แล้ว”
“งั้นแยกย้ายกันก่อนนะ เราอยากเข้าบ้านนอนแล้ว”
อิงฟ้าหันมาสบตากับแท็กซี่ส่วนตัวที่อาสามาส่งบ้านวันนี้ อารมณ์หลากหลายมันตีรวนอยู่ในอกเต็มไปหมด ครั้นจะหาคำตอบให้ได้ตอนนี้พลังก็ไม่เหลือแล้ว เธอโน้มตัวไปจูบแก้มขอบคุณสายฝนที่มาส่งบ้าน โบกมือลาเล็กน้อยแล้วพาร่างสวยเดินเข้าบ้านไป
“เฮ้อ มีคนสวยมาเล่นกับใจ เหนื่อยเหมือนกันแฮะ”