Libertaste Bar
ในมุมเล็ก ๆ ของค็อกเทลบาร์แหล่งแฮงค์เอาท์ของกลุ่มคนเมืองตั้งอยู่บนถนนที่มีค่าครองชีพสูงเป็นอันดับต้นในเมืองหลวงแห่งนี้ สายฝนกำลังนั่งปล่อยใจหยิบแก้วเครื่องดื่มรสเลิศขึ้นจิบ ซึ่งเป็นรสชาติที่เข้ากันกับบรรยากาศแห่งความลับที่เธอสร้างห่อหุ้มตัวเองไว้ได้อย่างลงตัว นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มทอประกายวับวาวกำลังเหม่อมองไปยังโต๊ะที่ไกลออกไป
ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอกันเร็วขนาดนี้
สายฝนพบว่าตัวเองกำลังถูกล่อลวงด้วยรอยยิ้มเจิดจ้าของอิงฟ้าอย่างไม่อาจต้านทานได้ ไม่รู้ว่าที่เป็นอยู่นั้นเพราะหัวใจถูกชักจูงด้วยความงดงามอันน่าหลงใหลหรือนั่นมาจากพลังแห่งความคิดถึงที่ผนึกรวมกันเป็นสนามแม่เหล็กดึงยึดตัวเธอให้หนีไปไหนไม่รอดกันแน่
“ยิ้มแบบนั้น เดี๋ยวก็โดนคนทั้งร้านแห่มาจีบหรอกคุณ แล้วก็นะ สวยน้อยเมื่อไหร่ละนั่น…”
สายฝนพึมพำอยู่กับแก้วเหล้าสีใส นึกอยากตำหนิคุณคนนั้นให้ลดเสน่ห์ลงหน่อย เดี๋ยวคนที่เดินผ่านไปมาเขาจะกระอักความสวยตายกันหมด
“เฮ้อ คุณนี่นะ~”
ท่ามกลางเสียงเพลงอาร์แอนด์บีและเสียงแก้วกระทบกันไม่ขาดสาย โต๊ะดื่มของอิงฟ้าและเพื่อนอีกสองคนโดดเด่นยืนหนึ่งเป็นจุดรวมสายตาของคนทั่วทั้งบาร์ รอยยิ้มที่เปล่งประกายของอิงฟ้าถูกอาบไล้ไปด้วยแสงโดยรอบเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงพลังอันสดใสที่ฉายออกมาสวนทางกับแสงสลัว แต่ละท่วงท่า แต่ละท่าทาง จริตจะก้านเย้ายวนดูน่ามองไปหมด
แม้กระทั่งการสัมผัสที่แขนของเพื่อนเป็นครั้งคราวยามสนทนา องศาการเอียงศีรษะขณะที่อิงฟ้าโน้มตัวเข้าไปใกล้เพื่อฟัง เฮ้อ แค่แอบมองเฉย ๆ แล้วทำไมสายฝนรู้สึกเหมือนหัวใจพองโตได้ขนาดนี้เลยล่ะ
“ดาเมจแรงเกินไปไหมเนี่ยคุณอิงฟ้า”
เข็มทิศนำทาง
กูเกิลแมป
หรือแอปพลิเคชันแผนที่ใด ๆ
สายฝนไม่สนใจและต้องการเขี่ยมันทิ้งทั้งหมดเพียงเพราะต้องการปล่อยใจให้หลงทางแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ตราบใดที่มีภาพวิวแสนสวยที่ขึ้นชื่อว่าอิงฟ้าอยู่เบื้องหน้า สายฝนขอปิดหูปิดตาไม่รับรู้เกี่ยวกับเส้นทางเดินออกของวังวนนี้ทั้งสิ้น
แต่แล้วก็มีมารผจญความสงบเงียบที่ชื่อว่า “จารวี” ส่งยิ้มหน้าสลอนมาจากอีกฟากของบาร์และพยายามเข้ามาก่อกวนด้วยข้อความจากโปรแกรมแชท จารวีเอาแต่ซอกแซกถามอยู่นั่นแหละว่าจะเข้าไปหาคุณคนสวยตรงนั้นไหม แถมยังต่อว่าว่าสายฝนนั้นปอดแหกเอาแต่แอบมองอิงฟ้าผ่านหลังเสาช่างไม่สมกับบทบาทการเป็นคาสโนวี่เอาเสียเลย
สายฝนพบว่าตัวเองกำลังหัวเราะให้กับข้อความที่เพื่อนสนิทอย่างจารวีส่งมาป่วนกัน จะเหน็บแนมว่าเธอปอดแหกก็ดูจะไม่ถูกต้องสักเท่าไร เธอแค่รู้สึกเพียงพอแล้วที่ได้แอบมองจากตรงนี้ไกล ๆ นั่งเก็บรายละเอียดอย่างเพลิดเพลินคนเดียวโดยไม่ได้ต้องการให้อิงฟ้ารับรู้ เป็นภวังค์ส่วนตัวท่ามกลางบรรยากาศจอแจ
Jar.jarawee : ยิ่งบาร์เรามืดมากเท่าไร
ฉันยิ่งมองเห็นประกายในตาแกชัดเจน
แกไม่ได้หิว แต่แกคิดถึง…
ความทรงจำในค่ำคืนที่สายฝนกับอิงฟ้าใช้ร่วมกันลอยละล่องอยู่ในอากาศ สายสัมพันธ์ที่ไม่อาจบรรยายได้ยังคงเกี่ยวพันอ้อยอิ่งไม่ยอมจากไปไหน การปรากฏตัวของอิงฟ้าทำให้หัวใจของสายฝนปั่นป่วน เป็นดั่งความวุ่นวายอันสวยงามที่ทั้งตื่นเต้นและน่าหวาดกลัว สายฝนมักจะหลีกเลี่ยงความผูกพัน หลีกหนีบ่วงแห่งความรักที่มักพัวพันกันยุ่งเหยิงเพื่อปกป้องความรู้สึกตัวเอง
ทว่าอิงฟ้ากลับฝ่าด่านเหล่านั้นเข้ามาอย่างง่ายดายด้วยเพียงจูบเดียว มันยากมากที่จะยอมรับแต่มันก็เป็นไปแล้ว อิงฟ้ากลายเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้สายฝนไม่อยากสัมผัสคนอื่นอีก รสชาติที่ใช่ สัมผัสอันล้ำลึก เธอไม่กล้าให้ใครมาทับที่และลบความกลมกล่อมแสนหอมหวานนี้ทิ้งไป
ไอ้จาร์… นั่นแกจะไปไหน! สายฝนเบิกตากว้างเมื่อเห็นเพื่อนสนิทยิ้มร่าตรงดิ่งไปยังโต๊ะของอิงฟ้า เธอแทบกรีดร้องออกมาสุดเสียงเพื่อหยุดแผนการประหลาดของเพื่อนตัวดีที่กำลังเล่นหูเล่นตาไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น มันน่าวิ่งไปเตะตัดขาเสียจริง!
Jar.jarawee : แกไม่อยากไปก็เชิญนั่งหลังเสาต่อไปจ้า
ส่วนฉันจะไปทำหน้าที่ดูแลแขกสักหน่อย… อิอิ
หากเป็นช่วงเวลาปกติก็คงวางใจได้ แต่การที่จารวีเดินเชิ่ดด้วยรอยยิ้มอุบาวท์เหมือนสายฝนกำลังตกเป็นเหยื่อในการกลั่นแกล้งแบบนี้มันโคตรจะไว้ใจไม่ได้เลย สายฝนลุก ๆ นั่ง ๆ เดินวนรอบโต๊ะตัวเองด้วยใจไม่เป็นสุข ไม่อาจละสายตาจากเพื่อนที่ทำเนียนชวนคนในโต๊ะนั้นคุยอย่างเป็นมิตรไปได้ จารวีเข้าสังคมเก่งเกินไป วัดได้จากการหัวเราะตอบรับบทสนทนาและการยื่นแก้วมาชนเป็นการยอมรับคนแปลกหน้า
“ต้องขอโทษอีกครั้งนะคะเสื้อคุณเลอะหมดเลย” ณิชาสาวผมสั้นเพื่อนร่วมงานคนสนิทของอิงฟ้ายังคงรู้สึกผิดที่สนุกกับบทสนทนามากไปหน่อยจนพลาดทำเหล้าหกรดเสื้อของจารวีที่บังเอิญเดินผ่านมาเข้า
“ไม่เป็นไรค่ะคุณณิชา แค่ค็อกเทลแก้วเล็กจิ้ดเดียวเอง เย็นพุงนิดหน่อยแต่จาร์โอเคค่ะ” จารวียกยิ้มตาหยี เธอจะไปเอาเรื่องเอาราวกับคุณณิชาเขาได้อย่างไรเล่า เป็นเธอเองนี่แหละที่แอบเล็งวางแผนเพื่อเข้ามาทำความรู้จักไว้อยู่แล้ว
“งั้นคุณจาร์นั่งกับพวกเราก่อนก็ได้นะคะ มาเวลาแบบนี้โต๊ะเต็มหมดแล้วด้วย” ณิชาตบเก้าอี้ตัวกลางระหว่างตัวเองและอิงฟ้าเพื่อเชิญจารวีนั่งด้วยกัน ลินดาบอสสาวก็ช่วยเขยิบจัดแจงพื้นที่ต้อนรับคนแปลกหน้าที่พึ่งรู้จักกันให้อีกแรง
“รบกวนด้วยนะคะ เพื่อนจาร์น่าจะใกล้ถึงแล้วละค่ะ”
เพื่อนที่กำลังถูกยกขึ้นมาเป็นประเด็นเป็นถึงเจ้าของบาร์ที่แอบนั่งส่องสาวอยู่หลังเสา จารวีโกหกคำโตเพียงเพราะหาเรื่องให้ได้อยู่โต๊ะนี้และอยากยื้อเวลายั่วประสาทให้สายฝนพาตัวเองออกมาจากมุมมืดสักที มัวแต่ทำหัวผลุบ ๆ โผล่ ๆ เป็นคนปอดแหกอยู่ได้
“แล้ววันนี้มากันแค่สามคนหรอคะ?” จารวีใคร่รู้
“ใช่ค่ะ ลินพามาเลี้ยงเพราะคิดถึงสองแสบ หนีไปทำงานที่ภูเก็ตตั้งเป็นเดือน ปล่อยลินเหี่ยวเฉาที่ออฟฟิศเมืองกรุงอยู่คนเดียวไม่สนุกเลยค่ะ”
“แหมบอสคะ ก็บอสไม่ใช่หรอที่รับงานนี้มาแล้วผลักไสไล่ส่งให้ฉันกับยัยณิชารับผิดชอบน่ะ”
อิงฟ้าได้โอกาสจึงต้องรีบเหน็บแนม เจ้าแม่ตัวบงการยัดเยียดให้เธอเดินทางไปทำงานที่ภูเก็ตก็คือบอสคนสวยที่จิบค็อกเทลแก้เขินอยู่ตรงหน้านี่แหละ ทำมาเป็นเรียกร้องความสนใจด้วยการเล่นบทดราม่าเสียอย่างนั้น
“จริงค่ะคุณจาร์ อย่าไปฟังบอสเป่าหูนะคะ เจ๊เขาชอบเล่นบทโศกให้ดูน่าปลอบใจงี้แหละ ชอบหลอกเหยื่อให้มากอดโอ๋” ณิชาเสริมอิงฟ้าอย่างเข้าขา บอสสาวไม่ได้เถียงอะไรแค่เบะปากใส่และมองจิกด้วยสายตา
“ฮ่าฮ่าฮ่า ดูพวกคุณสามคนสนิทกันเกินกว่าเจ้านายลูกน้องธรรมดาๆ นะคะเนี่ย”
“นิดนึงค่ะคุณจาร์ ลินเอ็นดูเด็กพวกนี้เหมือนน้องในไส้”
“แน่จริงบอสก็พูดออกมาเลยสิ พวกฉันมันถึกทนสู้งานเลยต้องหลอกล่อมาเลี้ยงบ่อย ๆ ไว้ใช้งานต่อ”
“แกก็เอาความจริงมาเมาท์ว่ะณิชา”
“เดี๋ยวๆ นี่หล่อนสองคนคิดกับฉันแบบนี้จริงๆ หรอ?”
“บอสโตแล้วบอสคิดเองเลยค่า”
ลินดาเท้าเอวถลึงตาใส่ลูกน้องที่เธอเอ็นดูทั้งสองคนราวกับต้องการคาดคั้นความจริง แต่นั่นไม่ได้จริงจังสักเท่าไรเพราะทั้งอิงฟ้าและณิชาเป็นน้องสาวที่เธอแสนภูมิใจในความเก่งกาจ สองคนนี้สร้างผลงานที่น่าภูมิใจให้กับบริษัทมานับไม่ถ้วน ลินดาจึงเต็มใจเทความสนิทสนมให้เป็นพิเศษ
“กับแกล้มค่ะ จาร์เลี้ยงเอง ขอบคุณที่ให้นั่งร่วมโต๊ะนะคะ”
“งั้นพวกเราไม่เกรงใจแล้วนะคะ”
บทสนทนาดำเนินไปด้วยความขบขันและรื่นเริงใจ ขณะที่ค็อกเทลสีสวยถูกยกดื่มตามบรรยากาศสนุกสนาน เรื่องราวที่แต่ละคนหยิบยกขึ้นมาแบ่งปันก็มีเอกลักษณ์น่าสนใจเฉพาะตัว บางเรื่องก็ตลกจนต้องหลุดขำออกมา
จารวีลอบมองหญิงสาวที่เป็นต้นเหตุให้สายฝนทำตัวแปลกไป ริมฝีปากของเธอโค้งเป็นรอยยิ้มขี้เล่น ดูเหมือนว่าอิงฟ้าจะเป็นศูนย์กลางของความมีชีวิตชีวา ความงามของเธอช่างน่าหลงใหล ขนตางอนงาม น้ำเสียงน่าฟัง แถมเวลายิ้มแล้วโลกสว่างเหมือนมีสปอตไลต์มาส่อง ไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมสายฝนถึงปล่อยให้ตัวเองจมอยู่ในวังวนแห่งนี้
“เล่นมองเพื่อนฉันจนแทบกลืนลงท้องขนาดนี้ คุณจาร์ชอบยัยอิงฟ้าหรอคะ?”
“แค่ก แค่ก …” จารวีแทบสำลักกับประโยคที่ณิชาถามอย่างตรงไปตรงมาก่อนหน้า “เปล่าค่ะ จาร์แค่มองเฉย ๆ” เธอมองเฉย ๆ จริง ๆ จุดประสงค์ที่ซ่อนไว้คือแค่มาสังเกตการณ์แทนเพื่อนใจปอดเพียงเท่านั้น
“ดีค่ะ เพราะคุณจาร์ไม่ใช่สเปคเพื่อนฉันหรอก จีบไปก็ไม่ติด ยัยนี่มันเรื่องมากเยอะสิ่ง นู่นก็ไม่ชอบ นี่ก็ไม่ถูกใจ คุณจาร์จีบไปเดี๋ยวได้ช้ำเปล่า ๆ ถือว่าณิเตือนแล้วกันนะคะ”
“แกก็สกัดดาวรุ่งอีกละ ถามฉันก่อนไหม เผื่อสเปคฉันเปลี่ยนไรงี้” อิงฟ้าแตะแขนปรามเพื่อนสาวไว้บางเบา ใจคอจะไม่ให้เธอบริหารเสน่ห์สักหน่อยเหรอ อุตส่าห์หลุดพ้นจากการคิดถึงคุณสายฝนได้แล้วเชียว
“แย่จัง จาร์ไม่ดีตรงไหนหรอคะ?” จารวีแสร้งทำหน้าซึมคอตกแต่คนทั้งโต๊ะดูออกว่านั่นเป็นแค่เรื่องเศร้าแบบหลอก ๆ
“ไม่ใช่ไม่ดีค่ะ คุณน่ารักในสายตาฉันนะแต่ถ้าเป็นยัยอิงฟ้า คุณน่าจะได้ในเขตเฟนโซนเท่านั้นแหละ ใช่ปะบอส?”
“เยสสส น้องสาวคนสวยของฉันมันเรื่องมากสุด ๆ อย่างคุณจาร์นี่น่ารักเกินไป โดนยัยนี่กระทืบหัวใจแน่นอน”
“โห ถึงขั้นเสี่ยงโดนกระทืบหัวใจเลยนะคะ ทำเอาจาร์อยากรู้เลยนะเนี่ยว่าคนสวยแบบคุณอิงฟ้าจะยอมใจอ่อนให้กับคนแบบไหน…” จารวีหรี่ตามองอย่างกวน ๆ แต่ไม่ได้ทำให้อิงฟ้าหรือทุกคนในโต๊ะอึดอัด แถมยังช่วยกันขยี้ประเด็นความเรื่องมากในการเลือกคู่ของอิงฟ้าจนยับเยิน
ไม่ใกล้ไม่ไกลมีสาวร่างสูงเดินฝ่าผู้คนคลาคล่ำด้วยใบหน้าเรียบเฉย ชุดที่เธอสวมใส่เป็นเพียงเสื้อยืดเข้ารูปสีดำทับอยู่ในกางเกงยีนสีซีดเท่านั้น แต่กลับมีเสน่ห์เล่นกับใจคนมองอย่างร้ายกาจ อาจเป็นเพราะโครงหน้าสวยสมดุลที่ส่งผลให้ดวงตาคมน่ามองและร่างกายสมส่วนที่แม้สวมเสื้อยืดธรรมดาก็ดูสง่างามไม่แพ้ใคร
“โอ๊ะนั่น… คุณสายฝน!”
ณิชาเบิกตากว้างและโพล่งเสียงเรียกออกมาอย่างไม่รู้ตัว ส่งผลให้อิงฟ้ารีบหันหน้าไปยังต้นทางเจ้าของชื่อ เพียงแวบแรกที่เห็นหัวใจก็กระตุกวูบทันที คนที่เธอตัดสินใจแล้วว่าจะไม่เผลอใจคิดถึงอีก ก็ในเมื่อเรื่องราวระหว่างเธอกับเขามันเริ่มมาจาก
one night stand แม้จะมีคืนที่สองตามมาแต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเธอพิเศษกว่าใคร
มีต่อน้าา >>>
ที่จริงตอนนี้คือเขียนไว้ประมาณ 20,000 หมื่นคำเลยค่ะ แต่พันทิปจะโพสต์ได้แค่ 10,000 คำ
นิยายยูริ Tangled Desires #ฟ้าพ่ายฝน ตอนที่ 5 : อันตรายต่อหัวใจ (1/2)
Libertaste Bar
ในมุมเล็ก ๆ ของค็อกเทลบาร์แหล่งแฮงค์เอาท์ของกลุ่มคนเมืองตั้งอยู่บนถนนที่มีค่าครองชีพสูงเป็นอันดับต้นในเมืองหลวงแห่งนี้ สายฝนกำลังนั่งปล่อยใจหยิบแก้วเครื่องดื่มรสเลิศขึ้นจิบ ซึ่งเป็นรสชาติที่เข้ากันกับบรรยากาศแห่งความลับที่เธอสร้างห่อหุ้มตัวเองไว้ได้อย่างลงตัว นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มทอประกายวับวาวกำลังเหม่อมองไปยังโต๊ะที่ไกลออกไป
ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอกันเร็วขนาดนี้
สายฝนพบว่าตัวเองกำลังถูกล่อลวงด้วยรอยยิ้มเจิดจ้าของอิงฟ้าอย่างไม่อาจต้านทานได้ ไม่รู้ว่าที่เป็นอยู่นั้นเพราะหัวใจถูกชักจูงด้วยความงดงามอันน่าหลงใหลหรือนั่นมาจากพลังแห่งความคิดถึงที่ผนึกรวมกันเป็นสนามแม่เหล็กดึงยึดตัวเธอให้หนีไปไหนไม่รอดกันแน่
“ยิ้มแบบนั้น เดี๋ยวก็โดนคนทั้งร้านแห่มาจีบหรอกคุณ แล้วก็นะ สวยน้อยเมื่อไหร่ละนั่น…”
สายฝนพึมพำอยู่กับแก้วเหล้าสีใส นึกอยากตำหนิคุณคนนั้นให้ลดเสน่ห์ลงหน่อย เดี๋ยวคนที่เดินผ่านไปมาเขาจะกระอักความสวยตายกันหมด
“เฮ้อ คุณนี่นะ~”
ท่ามกลางเสียงเพลงอาร์แอนด์บีและเสียงแก้วกระทบกันไม่ขาดสาย โต๊ะดื่มของอิงฟ้าและเพื่อนอีกสองคนโดดเด่นยืนหนึ่งเป็นจุดรวมสายตาของคนทั่วทั้งบาร์ รอยยิ้มที่เปล่งประกายของอิงฟ้าถูกอาบไล้ไปด้วยแสงโดยรอบเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงพลังอันสดใสที่ฉายออกมาสวนทางกับแสงสลัว แต่ละท่วงท่า แต่ละท่าทาง จริตจะก้านเย้ายวนดูน่ามองไปหมด
แม้กระทั่งการสัมผัสที่แขนของเพื่อนเป็นครั้งคราวยามสนทนา องศาการเอียงศีรษะขณะที่อิงฟ้าโน้มตัวเข้าไปใกล้เพื่อฟัง เฮ้อ แค่แอบมองเฉย ๆ แล้วทำไมสายฝนรู้สึกเหมือนหัวใจพองโตได้ขนาดนี้เลยล่ะ
“ดาเมจแรงเกินไปไหมเนี่ยคุณอิงฟ้า”
เข็มทิศนำทาง
กูเกิลแมป
หรือแอปพลิเคชันแผนที่ใด ๆ
สายฝนไม่สนใจและต้องการเขี่ยมันทิ้งทั้งหมดเพียงเพราะต้องการปล่อยใจให้หลงทางแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ตราบใดที่มีภาพวิวแสนสวยที่ขึ้นชื่อว่าอิงฟ้าอยู่เบื้องหน้า สายฝนขอปิดหูปิดตาไม่รับรู้เกี่ยวกับเส้นทางเดินออกของวังวนนี้ทั้งสิ้น
แต่แล้วก็มีมารผจญความสงบเงียบที่ชื่อว่า “จารวี” ส่งยิ้มหน้าสลอนมาจากอีกฟากของบาร์และพยายามเข้ามาก่อกวนด้วยข้อความจากโปรแกรมแชท จารวีเอาแต่ซอกแซกถามอยู่นั่นแหละว่าจะเข้าไปหาคุณคนสวยตรงนั้นไหม แถมยังต่อว่าว่าสายฝนนั้นปอดแหกเอาแต่แอบมองอิงฟ้าผ่านหลังเสาช่างไม่สมกับบทบาทการเป็นคาสโนวี่เอาเสียเลย
สายฝนพบว่าตัวเองกำลังหัวเราะให้กับข้อความที่เพื่อนสนิทอย่างจารวีส่งมาป่วนกัน จะเหน็บแนมว่าเธอปอดแหกก็ดูจะไม่ถูกต้องสักเท่าไร เธอแค่รู้สึกเพียงพอแล้วที่ได้แอบมองจากตรงนี้ไกล ๆ นั่งเก็บรายละเอียดอย่างเพลิดเพลินคนเดียวโดยไม่ได้ต้องการให้อิงฟ้ารับรู้ เป็นภวังค์ส่วนตัวท่ามกลางบรรยากาศจอแจ
Jar.jarawee : ยิ่งบาร์เรามืดมากเท่าไร
ฉันยิ่งมองเห็นประกายในตาแกชัดเจน
แกไม่ได้หิว แต่แกคิดถึง…
ความทรงจำในค่ำคืนที่สายฝนกับอิงฟ้าใช้ร่วมกันลอยละล่องอยู่ในอากาศ สายสัมพันธ์ที่ไม่อาจบรรยายได้ยังคงเกี่ยวพันอ้อยอิ่งไม่ยอมจากไปไหน การปรากฏตัวของอิงฟ้าทำให้หัวใจของสายฝนปั่นป่วน เป็นดั่งความวุ่นวายอันสวยงามที่ทั้งตื่นเต้นและน่าหวาดกลัว สายฝนมักจะหลีกเลี่ยงความผูกพัน หลีกหนีบ่วงแห่งความรักที่มักพัวพันกันยุ่งเหยิงเพื่อปกป้องความรู้สึกตัวเอง
ทว่าอิงฟ้ากลับฝ่าด่านเหล่านั้นเข้ามาอย่างง่ายดายด้วยเพียงจูบเดียว มันยากมากที่จะยอมรับแต่มันก็เป็นไปแล้ว อิงฟ้ากลายเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้สายฝนไม่อยากสัมผัสคนอื่นอีก รสชาติที่ใช่ สัมผัสอันล้ำลึก เธอไม่กล้าให้ใครมาทับที่และลบความกลมกล่อมแสนหอมหวานนี้ทิ้งไป
ไอ้จาร์… นั่นแกจะไปไหน! สายฝนเบิกตากว้างเมื่อเห็นเพื่อนสนิทยิ้มร่าตรงดิ่งไปยังโต๊ะของอิงฟ้า เธอแทบกรีดร้องออกมาสุดเสียงเพื่อหยุดแผนการประหลาดของเพื่อนตัวดีที่กำลังเล่นหูเล่นตาไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น มันน่าวิ่งไปเตะตัดขาเสียจริง!
Jar.jarawee : แกไม่อยากไปก็เชิญนั่งหลังเสาต่อไปจ้า
ส่วนฉันจะไปทำหน้าที่ดูแลแขกสักหน่อย… อิอิ
หากเป็นช่วงเวลาปกติก็คงวางใจได้ แต่การที่จารวีเดินเชิ่ดด้วยรอยยิ้มอุบาวท์เหมือนสายฝนกำลังตกเป็นเหยื่อในการกลั่นแกล้งแบบนี้มันโคตรจะไว้ใจไม่ได้เลย สายฝนลุก ๆ นั่ง ๆ เดินวนรอบโต๊ะตัวเองด้วยใจไม่เป็นสุข ไม่อาจละสายตาจากเพื่อนที่ทำเนียนชวนคนในโต๊ะนั้นคุยอย่างเป็นมิตรไปได้ จารวีเข้าสังคมเก่งเกินไป วัดได้จากการหัวเราะตอบรับบทสนทนาและการยื่นแก้วมาชนเป็นการยอมรับคนแปลกหน้า
“ต้องขอโทษอีกครั้งนะคะเสื้อคุณเลอะหมดเลย” ณิชาสาวผมสั้นเพื่อนร่วมงานคนสนิทของอิงฟ้ายังคงรู้สึกผิดที่สนุกกับบทสนทนามากไปหน่อยจนพลาดทำเหล้าหกรดเสื้อของจารวีที่บังเอิญเดินผ่านมาเข้า
“ไม่เป็นไรค่ะคุณณิชา แค่ค็อกเทลแก้วเล็กจิ้ดเดียวเอง เย็นพุงนิดหน่อยแต่จาร์โอเคค่ะ” จารวียกยิ้มตาหยี เธอจะไปเอาเรื่องเอาราวกับคุณณิชาเขาได้อย่างไรเล่า เป็นเธอเองนี่แหละที่แอบเล็งวางแผนเพื่อเข้ามาทำความรู้จักไว้อยู่แล้ว
“งั้นคุณจาร์นั่งกับพวกเราก่อนก็ได้นะคะ มาเวลาแบบนี้โต๊ะเต็มหมดแล้วด้วย” ณิชาตบเก้าอี้ตัวกลางระหว่างตัวเองและอิงฟ้าเพื่อเชิญจารวีนั่งด้วยกัน ลินดาบอสสาวก็ช่วยเขยิบจัดแจงพื้นที่ต้อนรับคนแปลกหน้าที่พึ่งรู้จักกันให้อีกแรง
“รบกวนด้วยนะคะ เพื่อนจาร์น่าจะใกล้ถึงแล้วละค่ะ”
เพื่อนที่กำลังถูกยกขึ้นมาเป็นประเด็นเป็นถึงเจ้าของบาร์ที่แอบนั่งส่องสาวอยู่หลังเสา จารวีโกหกคำโตเพียงเพราะหาเรื่องให้ได้อยู่โต๊ะนี้และอยากยื้อเวลายั่วประสาทให้สายฝนพาตัวเองออกมาจากมุมมืดสักที มัวแต่ทำหัวผลุบ ๆ โผล่ ๆ เป็นคนปอดแหกอยู่ได้
“แล้ววันนี้มากันแค่สามคนหรอคะ?” จารวีใคร่รู้
“ใช่ค่ะ ลินพามาเลี้ยงเพราะคิดถึงสองแสบ หนีไปทำงานที่ภูเก็ตตั้งเป็นเดือน ปล่อยลินเหี่ยวเฉาที่ออฟฟิศเมืองกรุงอยู่คนเดียวไม่สนุกเลยค่ะ”
“แหมบอสคะ ก็บอสไม่ใช่หรอที่รับงานนี้มาแล้วผลักไสไล่ส่งให้ฉันกับยัยณิชารับผิดชอบน่ะ”
อิงฟ้าได้โอกาสจึงต้องรีบเหน็บแนม เจ้าแม่ตัวบงการยัดเยียดให้เธอเดินทางไปทำงานที่ภูเก็ตก็คือบอสคนสวยที่จิบค็อกเทลแก้เขินอยู่ตรงหน้านี่แหละ ทำมาเป็นเรียกร้องความสนใจด้วยการเล่นบทดราม่าเสียอย่างนั้น
“จริงค่ะคุณจาร์ อย่าไปฟังบอสเป่าหูนะคะ เจ๊เขาชอบเล่นบทโศกให้ดูน่าปลอบใจงี้แหละ ชอบหลอกเหยื่อให้มากอดโอ๋” ณิชาเสริมอิงฟ้าอย่างเข้าขา บอสสาวไม่ได้เถียงอะไรแค่เบะปากใส่และมองจิกด้วยสายตา
“ฮ่าฮ่าฮ่า ดูพวกคุณสามคนสนิทกันเกินกว่าเจ้านายลูกน้องธรรมดาๆ นะคะเนี่ย”
“นิดนึงค่ะคุณจาร์ ลินเอ็นดูเด็กพวกนี้เหมือนน้องในไส้”
“แน่จริงบอสก็พูดออกมาเลยสิ พวกฉันมันถึกทนสู้งานเลยต้องหลอกล่อมาเลี้ยงบ่อย ๆ ไว้ใช้งานต่อ”
“แกก็เอาความจริงมาเมาท์ว่ะณิชา”
“เดี๋ยวๆ นี่หล่อนสองคนคิดกับฉันแบบนี้จริงๆ หรอ?”
“บอสโตแล้วบอสคิดเองเลยค่า”
ลินดาเท้าเอวถลึงตาใส่ลูกน้องที่เธอเอ็นดูทั้งสองคนราวกับต้องการคาดคั้นความจริง แต่นั่นไม่ได้จริงจังสักเท่าไรเพราะทั้งอิงฟ้าและณิชาเป็นน้องสาวที่เธอแสนภูมิใจในความเก่งกาจ สองคนนี้สร้างผลงานที่น่าภูมิใจให้กับบริษัทมานับไม่ถ้วน ลินดาจึงเต็มใจเทความสนิทสนมให้เป็นพิเศษ
“กับแกล้มค่ะ จาร์เลี้ยงเอง ขอบคุณที่ให้นั่งร่วมโต๊ะนะคะ”
“งั้นพวกเราไม่เกรงใจแล้วนะคะ”
บทสนทนาดำเนินไปด้วยความขบขันและรื่นเริงใจ ขณะที่ค็อกเทลสีสวยถูกยกดื่มตามบรรยากาศสนุกสนาน เรื่องราวที่แต่ละคนหยิบยกขึ้นมาแบ่งปันก็มีเอกลักษณ์น่าสนใจเฉพาะตัว บางเรื่องก็ตลกจนต้องหลุดขำออกมา
จารวีลอบมองหญิงสาวที่เป็นต้นเหตุให้สายฝนทำตัวแปลกไป ริมฝีปากของเธอโค้งเป็นรอยยิ้มขี้เล่น ดูเหมือนว่าอิงฟ้าจะเป็นศูนย์กลางของความมีชีวิตชีวา ความงามของเธอช่างน่าหลงใหล ขนตางอนงาม น้ำเสียงน่าฟัง แถมเวลายิ้มแล้วโลกสว่างเหมือนมีสปอตไลต์มาส่อง ไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมสายฝนถึงปล่อยให้ตัวเองจมอยู่ในวังวนแห่งนี้
“เล่นมองเพื่อนฉันจนแทบกลืนลงท้องขนาดนี้ คุณจาร์ชอบยัยอิงฟ้าหรอคะ?”
“แค่ก แค่ก …” จารวีแทบสำลักกับประโยคที่ณิชาถามอย่างตรงไปตรงมาก่อนหน้า “เปล่าค่ะ จาร์แค่มองเฉย ๆ” เธอมองเฉย ๆ จริง ๆ จุดประสงค์ที่ซ่อนไว้คือแค่มาสังเกตการณ์แทนเพื่อนใจปอดเพียงเท่านั้น
“ดีค่ะ เพราะคุณจาร์ไม่ใช่สเปคเพื่อนฉันหรอก จีบไปก็ไม่ติด ยัยนี่มันเรื่องมากเยอะสิ่ง นู่นก็ไม่ชอบ นี่ก็ไม่ถูกใจ คุณจาร์จีบไปเดี๋ยวได้ช้ำเปล่า ๆ ถือว่าณิเตือนแล้วกันนะคะ”
“แกก็สกัดดาวรุ่งอีกละ ถามฉันก่อนไหม เผื่อสเปคฉันเปลี่ยนไรงี้” อิงฟ้าแตะแขนปรามเพื่อนสาวไว้บางเบา ใจคอจะไม่ให้เธอบริหารเสน่ห์สักหน่อยเหรอ อุตส่าห์หลุดพ้นจากการคิดถึงคุณสายฝนได้แล้วเชียว
“แย่จัง จาร์ไม่ดีตรงไหนหรอคะ?” จารวีแสร้งทำหน้าซึมคอตกแต่คนทั้งโต๊ะดูออกว่านั่นเป็นแค่เรื่องเศร้าแบบหลอก ๆ
“ไม่ใช่ไม่ดีค่ะ คุณน่ารักในสายตาฉันนะแต่ถ้าเป็นยัยอิงฟ้า คุณน่าจะได้ในเขตเฟนโซนเท่านั้นแหละ ใช่ปะบอส?”
“เยสสส น้องสาวคนสวยของฉันมันเรื่องมากสุด ๆ อย่างคุณจาร์นี่น่ารักเกินไป โดนยัยนี่กระทืบหัวใจแน่นอน”
“โห ถึงขั้นเสี่ยงโดนกระทืบหัวใจเลยนะคะ ทำเอาจาร์อยากรู้เลยนะเนี่ยว่าคนสวยแบบคุณอิงฟ้าจะยอมใจอ่อนให้กับคนแบบไหน…” จารวีหรี่ตามองอย่างกวน ๆ แต่ไม่ได้ทำให้อิงฟ้าหรือทุกคนในโต๊ะอึดอัด แถมยังช่วยกันขยี้ประเด็นความเรื่องมากในการเลือกคู่ของอิงฟ้าจนยับเยิน
ไม่ใกล้ไม่ไกลมีสาวร่างสูงเดินฝ่าผู้คนคลาคล่ำด้วยใบหน้าเรียบเฉย ชุดที่เธอสวมใส่เป็นเพียงเสื้อยืดเข้ารูปสีดำทับอยู่ในกางเกงยีนสีซีดเท่านั้น แต่กลับมีเสน่ห์เล่นกับใจคนมองอย่างร้ายกาจ อาจเป็นเพราะโครงหน้าสวยสมดุลที่ส่งผลให้ดวงตาคมน่ามองและร่างกายสมส่วนที่แม้สวมเสื้อยืดธรรมดาก็ดูสง่างามไม่แพ้ใคร
“โอ๊ะนั่น… คุณสายฝน!”
ณิชาเบิกตากว้างและโพล่งเสียงเรียกออกมาอย่างไม่รู้ตัว ส่งผลให้อิงฟ้ารีบหันหน้าไปยังต้นทางเจ้าของชื่อ เพียงแวบแรกที่เห็นหัวใจก็กระตุกวูบทันที คนที่เธอตัดสินใจแล้วว่าจะไม่เผลอใจคิดถึงอีก ก็ในเมื่อเรื่องราวระหว่างเธอกับเขามันเริ่มมาจาก one night stand แม้จะมีคืนที่สองตามมาแต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเธอพิเศษกว่าใคร
มีต่อน้าา >>>
ที่จริงตอนนี้คือเขียนไว้ประมาณ 20,000 หมื่นคำเลยค่ะ แต่พันทิปจะโพสต์ได้แค่ 10,000 คำ