กองทัพอิสราเอลปิดล้อมเมืองข่านยูนิสตอนใต้ของกาซา
https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/211912
กองทัพอิสราเอลเปิดเผยว่าได้ปิดล้อมเมืองข่านยูนิส เมืองหลักทางตอนใต้ของฉนวนกาซา หลังเคลื่อนกำลังบุกถึงใจกลางเมืองดังกล่าว
พลโท เฮอร์ซี ฮาเลวี ประธานคณะเสนาธิการกองกำลังป้องกันอิสราเอล หรือ IDF เปิดเผยว่าปฏิบัติการภาคพื้นดินในฉนวนกาซาได้เข้าสู่ระยะที่3แล้ว โดยขณะนี้กำลังพลในสังกัดได้ปิดล้อมเมืองข่านยูนิสเอาไว้ได้ทั้งหมด และกำลังปฏิบัติภารกิจกำจัดกลุ่มฮามาสทางตอนใต้
โดยเมื่อวานนี้ (5 ธ.ค.) ทหารอิสราเอลได้เคลื่อนกำลังถึงใจกลางเมืองข่านยูนิส โดยได้รับการสนับสนุนจากเครื่องบินรบ ซึ่งอาจเป็นปฏิบัติการในฉนวนกาซาครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ข้อตกลงหยุดยิงสิ้นสุดลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ขณะที่ พลตรี ยารอน ฟินเคลแมน ผู้บัญชาการกองกำลังประจำภาคใต้ของ IDF เปิดเผยว่าได้โปรยใบปลิวแจ้งเตือนประชาชนใน 6 เขตของเมืองข่านยูนิสหลีกเลี่ยงการออกจากศูนย์ลี้ภัยหรือโรงพยาบาลในระหว่างที่ทหารอิสราเอลทำการบุกจู่โจมจุดต่างๆ
นอกจากนี้ พลตรี ฟินเคลแมนระบุว่าปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่ตอนเหนือของฉนวนกาซายังคงดำเนินต่อไป โดยกำลังพลของ IDF อยู่ในระหว่างการต่อสู้ที่เมืองจาบาเลีย อีกหนึ่งฐานที่มั่นสำคัญของกลุ่มฮามาสและอยู่ติดกับเมืองกาซาซิตี เมืองหลักของฉนวนกาซา
โดยกองทัพอิสราเอลประกาศกำลังทหารได้โอบล้อมค่ายผู้ลี้ภัยจาบาเลีย ทางตอนเหนือ ซึ่งถือเป็นค่ายผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ที่ใหญ่ที่สุดในฉนวนกาซา โดยอ้างว่ากลุ่มฮามาสได้ใช้ค่ายผู้ลี้ภัยเมืองจาบาเลียเป็นฐานสำหรับการเคลื่อนไหวและก่อเหตุร้าย
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่อิสราเอลเปิดเผยว่าจนถึงขณะนี้กองทัพอิสราเอลสามารถรู้ตำแหน่งปากทางลงอุโมงค์ใต้ดินของกลุ่มฮามาสได้แล้วกว่า 800 แห่ง และทำลายไปแล้ว 500 แห่ง
มูดีส์ลดแนวโน้มเครดิตจีนสู่ “ติดลบ” ชี้เศรษฐกิจซบเซา-ภาระหนี้เพิ่ม
https://www.dailynews.co.th/news/2967201/
"มูดีส์" ลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของพันธบัตรจีนลงสู่ "ติดลบ" โดยให้เหตุผลเกี่ยวกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ และมาตรการกระตุ้นครั้งใหญ่ อาจเพิ่มภาระหนี้สิน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. ว่า มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส หนึ่งในบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำของโลกจากสหรัฐ ประกาศลดคาดการณ์ความน่าเชื่อถือของพันธบัตรจีน จาก “
มีเสถียรภาพ” สู่ “
ติดลบ” เนื่องจากภาระหนี้สินที่พอกพูนเพิ่มขึ้น ของประเทศซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ท่ามกลางความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจที่อ่อนแอ วิกฤติภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงอยู่ และอัตราการว่างงานในกลุ่มคนหนุ่มสาว
นอกจากนี้ สถานการณ์ทางเศรษฐกิจทั่วโลกที่ยังคงซบเซา ส่งผลต่ออุปสงค์จากภายนอก ที่มีต่อสินค้าของจีนด้วย โดยมูดีส์วิเคราะห์ว่า รัฐบาลกลางในกรุงปักกิ่งจำเป็นต้องยกระดับ หรือเพิ่มความเข้มข้นให้กับมาตรการทางการคลัง เพื่อสนับสนุนและรักษาสภาพคล่อง ให้กับภาครัฐวิสาหกิจและหน่วยงานรัฐท้องถิ่นอีกหลายแห่ง ยิ่งบ่งชี้ “
ความเสี่ยงขาลงทางเศรษฐกิจ”
ย้อนกลับไปเมื่อเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา คณะกรรมการถาวรของสภาประชาชนแห่งชาติ (เอ็นพีซี) มีมติเห็นชอบ การออกพันธบัตรมูลค่า 1 ล้านล้านหยวน (ราว 5 ล้านล้านบาท) และอนุมัติร่างกฎหมายกำหนดโควตาให้รัฐบาลท้องถิ่น สามารถออกพันธบัตรในปีงบประมาณ 2567 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าว จะทำให้ตัวเลขขาดดุลงบประมาณของจีน ในปี 2566 เพิ่มจากเป้าหมายเดิม 3% เป็น 3.8% ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)
วาระร้อน ‘เปิดสภา’ วัดขุมกำลัง ‘รบ.-ฝ่ายค้าน’
https://www.matichon.co.th/politics/news_4317411
วาระร้อน ‘เปิดสภา’ วัดขุมกำลัง ‘รบ.-ฝ่ายค้าน’
พระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่สอง พ.ศ.2566 เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคมเป็นต้นไป ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 121 กำหนด
จากนี้ไปจนถึง 120 วัน นับจากวันเปิดสมัยประชุมรัฐสภาสามัญประจำปีครั้งที่ 2 การเดินหน้างานนิติบัญญัติทั้งการทำหน้าที่ตามปกติของการประชุมสภา และการประชุมวุฒิสภา การดำเนินงานของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญ และคณะ กมธ.วิสามัญฯ ตลอดจนการตรวจสอบถ่วงดุลฝ่ายบริหารจะทวีความเข้มข้น ตามระเบียบวาระที่รอเข้าสู่การพิจารณาของสภา ไล่เรียงตั้งแต่วาระการพิจารณาร่างกฎหมายที่สำคัญๆ ของทั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) พรรคร่วมรัฐบาล และพรรคร่วมฝ่ายค้าน
เริ่มจากกฎหมายสำคัญๆ ที่รัฐบาลและพรรค พท.วางคิวผลักดันในช่วงเปิดสมัยประชุมสภา ได้แก่ ร่างแก้ไข พ.ร.บ.ประมง ซึ่งเป็นหนึ่งในกฎหมายที่สำคัญของรัฐบาลตามที่ได้มีการลงพื้นที่พูดคุยกับพี่น้องชาวประมงที่ประสบปัญหาความเดือดร้อน และได้รับผลกระทบจากประกาศของ IUU และแนวทางในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน การแก้ไขปัญหาการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ถือเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญที่พรรค พท.ได้หาเสียงเอาไว้ตั้งแต่ช่วงก่อนเลือกตั้ง
รวมทั้งร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่…) พ.ศ. … (สมรสเท่าเทียม) ตามที่ประชุม ครม.ที่มี “เศรษฐา ทวีสิน” นายกฯ นั่งหัวโต๊ะให้ความเห็นชอบตามจุดยืนที่ให้ความสำคัญด้านความเท่าเทียมทางเพศ เพราะเชื่อว่าทุกคนควรได้รับสิทธิที่เท่าเทียมกันไม่ว่าจะอยู่ในเพศสภาพใดก็ตาม รัฐบาลจะผลักดันสนับสนุนกฎหมายสมรสเท่าเทียม เจรจากับทุกหน่วยงานเพื่อทลายกำแพงดังกล่าวให้ได้
สอดคล้องกับจุดยืนและการสนับสนุนของพรรค พท.ที่พร้อมผลักดันร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมเพื่อรับประกันสิทธิสมรสสำหรับคู่รักทุกเพศ ด้วยหลักสิทธิมนุษยชนและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ จะผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียมให้สำเร็จเช่นกัน
นัยสำคัญทางการเมือง การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมของสภา ย่อมต้องใช้ร่างหลักที่ผ่านความเห็นชอบจาก ครม. แม้จะผ่านความเห็นชอบในชั้นรับหลักการ โดยจะมีร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมของพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ที่อยู่ในระเบียบวาระ รอนำเนื้อหามาประกบเพื่อพิจารณาในชั้นการตั้งคณะ กมธ.วิสามัญฯ ก่อนนำเข้าสู่วาระที่ 2-3
แม้สุดท้ายปลายทางด้วยเสียงข้างมากของพรรคร่วมรัฐบาลที่มีถึง 314 เสียง ย่อมผนึกกำลังกันโหวตให้ร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ฉบับของรัฐบาลผ่านได้ไม่ยาก ซึ่งจะเป็นหนึ่งในผลงานของพรรคแกนนำรัฐบาลอย่างพรรค พท.ด้วย
อีกหนึ่งกฎหมายสำคัญที่รอคิวเข้าสู่การพิจารณาของสภา โดยมีสถานะของนายกฯและรัฐบาลเป็นเดิมพัน ต้องยุบสภา หรือประกาศลาออก หากร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท ไม่ผ่านความเห็นชอบจากสภาวาระแรก ในการประชุมสภาวันที่ 3 มกราคม 2567
แต่ด้วยเป็นร่างกฎหมายที่สำคัญต่อการเดินหน้าการทำงานของรัฐบาล รัฐบาลที่มีเสียงข้างมากถึง 314 เสียง ย่อมต้องกำชับและประสานงานผ่านคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ที่มีตัวแทนของทุกพรรคร่วมเป็นวิป ควบคุมเสียงของ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลให้โหวตผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2567 ได้อย่างไม่ยากเย็น
เพียงแต่ต้องจัดทีมและขุนพลรับมือการอภิปรายของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่นำโดยพรรค ก.ก. ที่คาดว่าจะอภิปรายชำแหละให้เห็นถึงจุดอ่อนการทำงบประมาณของรัฐบาล หากพรรคร่วมรัฐบาลเตรียมการมาไม่พร้อมย่อมจะส่งผลเครดิตและความน่าเชื่อถือต่อสายตาของประชาชน เนื่องจากเป็นการประชุมสภาที่มีการถ่ายทอดไปยังผู้ชมทางบ้านทั่วประเทศ
นอกจากนี้ยังมีร่าง พ.ร.บ.ที่สำคัญๆ ที่รอเข้าสู่การพิจารณาของสภาอย่างร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท เพื่อมาขับเคลื่อนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต แจกเงิน 1 หมื่นบาท ให้กับบุคคลที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป ซึ่งถือเป็นนโยบายเรือธงชี้วัดอนาคตทางการเมืองของพรรค พท.ด้วยเช่นกัน
หากร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท ผ่านความเห็นทางข้อกฎหมายจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และเห็นชอบจาก ครม.ย่อมต้องส่งให้ที่ประชุมสภาโหวตให้ความเห็นชอบซึ่งจะต้องฝ่าด่านการอภิปรายที่เข้มข้นของพรรค ก.ก. เพื่อดิสเครดิตลดทอนความน่าเชื่อถือในการเดินหน้านโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ของพรรค พท.แม้ความได้เปรียบด้วยการเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากย่อมผนึกเสียงโหวตให้ร่าง พ.ร.บ.เงินกู้
5 แสนล้านบาทผ่านได้ไม่ยาก แต่เมื่อผ่านด่านของสภาไปแล้ว รัฐบาลและพรรค พท.ยังต้องลุ้นกับการพิจารณาของที่ประชุมวุฒิสภา เพื่อชี้ขาดร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท ตามขั้นตอนการพิจารณาร่างกฎหมาย
เช่นเดียวกับการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลพรรค พท.ที่ยังไม่ชัดเจนว่าจะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านรูปแบบใด ซึ่งสุดท้ายต้องใช้เสียงของที่ประชุมรัฐสภาทั้ง 750 คนชี้ขาด
ไม่เพียงแต่บทบาทการพิจารณาร่างกฎหมายของฝ่ายนิติบัญญัติผ่านการประชุมสภา แต่ประเด็นร้อนๆ ของรัฐบาล ทั้งข้อร้องเรียน และข้อกล่าวหาต่างๆ อาทิ ข้อกล่าวหาว่ามีการแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจระดับผู้กำกับการที่มีการพูดคุยระหว่างนายกฯกับ ส.ส.ในวงประชุมพรรค พท. จะต้องถูกตรวจสอบอย่างเข้มข้นจากคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญแต่ละคณะที่มีพรรค ก.ก.เป็นประธาน กมธ. หากเตรียมตัวไม่พร้อมรัฐบาลอาจเพลี่ยงพล้ำให้กับฝ่ายค้านได้เหมือนกัน
การเปิดสภาสมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคมเป็นต้นไป รัฐบาลเศรษฐา ในฐานะผู้นำฝ่ายบริหาร จะต้องเตรียมรับแรงกระแทกผ่านการตรวจสอบของฝ่ายนิติบัญญัติอย่างเข้มข้น โดยมีเสถียรภาพและอนาคตทางการเมืองของรัฐบาลเป็นตัวชี้วัด
JJNY : ล้อมเมืองข่านยูนิสตอนใต้ของกาซา│มูดีส์ลดแนวโน้มเครดิตจีน│วาระร้อน ‘เปิดสภา’ วัดขุมกำลัง ‘รบ.-ฝ่ายค้าน’│บาทอ่อนค่า
https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/211912
กองทัพอิสราเอลเปิดเผยว่าได้ปิดล้อมเมืองข่านยูนิส เมืองหลักทางตอนใต้ของฉนวนกาซา หลังเคลื่อนกำลังบุกถึงใจกลางเมืองดังกล่าว
พลโท เฮอร์ซี ฮาเลวี ประธานคณะเสนาธิการกองกำลังป้องกันอิสราเอล หรือ IDF เปิดเผยว่าปฏิบัติการภาคพื้นดินในฉนวนกาซาได้เข้าสู่ระยะที่3แล้ว โดยขณะนี้กำลังพลในสังกัดได้ปิดล้อมเมืองข่านยูนิสเอาไว้ได้ทั้งหมด และกำลังปฏิบัติภารกิจกำจัดกลุ่มฮามาสทางตอนใต้
โดยเมื่อวานนี้ (5 ธ.ค.) ทหารอิสราเอลได้เคลื่อนกำลังถึงใจกลางเมืองข่านยูนิส โดยได้รับการสนับสนุนจากเครื่องบินรบ ซึ่งอาจเป็นปฏิบัติการในฉนวนกาซาครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ข้อตกลงหยุดยิงสิ้นสุดลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ขณะที่ พลตรี ยารอน ฟินเคลแมน ผู้บัญชาการกองกำลังประจำภาคใต้ของ IDF เปิดเผยว่าได้โปรยใบปลิวแจ้งเตือนประชาชนใน 6 เขตของเมืองข่านยูนิสหลีกเลี่ยงการออกจากศูนย์ลี้ภัยหรือโรงพยาบาลในระหว่างที่ทหารอิสราเอลทำการบุกจู่โจมจุดต่างๆ
นอกจากนี้ พลตรี ฟินเคลแมนระบุว่าปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่ตอนเหนือของฉนวนกาซายังคงดำเนินต่อไป โดยกำลังพลของ IDF อยู่ในระหว่างการต่อสู้ที่เมืองจาบาเลีย อีกหนึ่งฐานที่มั่นสำคัญของกลุ่มฮามาสและอยู่ติดกับเมืองกาซาซิตี เมืองหลักของฉนวนกาซา
โดยกองทัพอิสราเอลประกาศกำลังทหารได้โอบล้อมค่ายผู้ลี้ภัยจาบาเลีย ทางตอนเหนือ ซึ่งถือเป็นค่ายผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ที่ใหญ่ที่สุดในฉนวนกาซา โดยอ้างว่ากลุ่มฮามาสได้ใช้ค่ายผู้ลี้ภัยเมืองจาบาเลียเป็นฐานสำหรับการเคลื่อนไหวและก่อเหตุร้าย
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่อิสราเอลเปิดเผยว่าจนถึงขณะนี้กองทัพอิสราเอลสามารถรู้ตำแหน่งปากทางลงอุโมงค์ใต้ดินของกลุ่มฮามาสได้แล้วกว่า 800 แห่ง และทำลายไปแล้ว 500 แห่ง
มูดีส์ลดแนวโน้มเครดิตจีนสู่ “ติดลบ” ชี้เศรษฐกิจซบเซา-ภาระหนี้เพิ่ม
https://www.dailynews.co.th/news/2967201/
"มูดีส์" ลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของพันธบัตรจีนลงสู่ "ติดลบ" โดยให้เหตุผลเกี่ยวกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ และมาตรการกระตุ้นครั้งใหญ่ อาจเพิ่มภาระหนี้สิน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. ว่า มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส หนึ่งในบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำของโลกจากสหรัฐ ประกาศลดคาดการณ์ความน่าเชื่อถือของพันธบัตรจีน จาก “มีเสถียรภาพ” สู่ “ติดลบ” เนื่องจากภาระหนี้สินที่พอกพูนเพิ่มขึ้น ของประเทศซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ท่ามกลางความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจที่อ่อนแอ วิกฤติภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงอยู่ และอัตราการว่างงานในกลุ่มคนหนุ่มสาว
นอกจากนี้ สถานการณ์ทางเศรษฐกิจทั่วโลกที่ยังคงซบเซา ส่งผลต่ออุปสงค์จากภายนอก ที่มีต่อสินค้าของจีนด้วย โดยมูดีส์วิเคราะห์ว่า รัฐบาลกลางในกรุงปักกิ่งจำเป็นต้องยกระดับ หรือเพิ่มความเข้มข้นให้กับมาตรการทางการคลัง เพื่อสนับสนุนและรักษาสภาพคล่อง ให้กับภาครัฐวิสาหกิจและหน่วยงานรัฐท้องถิ่นอีกหลายแห่ง ยิ่งบ่งชี้ “ความเสี่ยงขาลงทางเศรษฐกิจ”
ย้อนกลับไปเมื่อเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา คณะกรรมการถาวรของสภาประชาชนแห่งชาติ (เอ็นพีซี) มีมติเห็นชอบ การออกพันธบัตรมูลค่า 1 ล้านล้านหยวน (ราว 5 ล้านล้านบาท) และอนุมัติร่างกฎหมายกำหนดโควตาให้รัฐบาลท้องถิ่น สามารถออกพันธบัตรในปีงบประมาณ 2567 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าว จะทำให้ตัวเลขขาดดุลงบประมาณของจีน ในปี 2566 เพิ่มจากเป้าหมายเดิม 3% เป็น 3.8% ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)
วาระร้อน ‘เปิดสภา’ วัดขุมกำลัง ‘รบ.-ฝ่ายค้าน’
https://www.matichon.co.th/politics/news_4317411
วาระร้อน ‘เปิดสภา’ วัดขุมกำลัง ‘รบ.-ฝ่ายค้าน’
พระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่สอง พ.ศ.2566 เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคมเป็นต้นไป ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 121 กำหนด
จากนี้ไปจนถึง 120 วัน นับจากวันเปิดสมัยประชุมรัฐสภาสามัญประจำปีครั้งที่ 2 การเดินหน้างานนิติบัญญัติทั้งการทำหน้าที่ตามปกติของการประชุมสภา และการประชุมวุฒิสภา การดำเนินงานของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญ และคณะ กมธ.วิสามัญฯ ตลอดจนการตรวจสอบถ่วงดุลฝ่ายบริหารจะทวีความเข้มข้น ตามระเบียบวาระที่รอเข้าสู่การพิจารณาของสภา ไล่เรียงตั้งแต่วาระการพิจารณาร่างกฎหมายที่สำคัญๆ ของทั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) พรรคร่วมรัฐบาล และพรรคร่วมฝ่ายค้าน
เริ่มจากกฎหมายสำคัญๆ ที่รัฐบาลและพรรค พท.วางคิวผลักดันในช่วงเปิดสมัยประชุมสภา ได้แก่ ร่างแก้ไข พ.ร.บ.ประมง ซึ่งเป็นหนึ่งในกฎหมายที่สำคัญของรัฐบาลตามที่ได้มีการลงพื้นที่พูดคุยกับพี่น้องชาวประมงที่ประสบปัญหาความเดือดร้อน และได้รับผลกระทบจากประกาศของ IUU และแนวทางในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน การแก้ไขปัญหาการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ถือเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญที่พรรค พท.ได้หาเสียงเอาไว้ตั้งแต่ช่วงก่อนเลือกตั้ง
รวมทั้งร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่…) พ.ศ. … (สมรสเท่าเทียม) ตามที่ประชุม ครม.ที่มี “เศรษฐา ทวีสิน” นายกฯ นั่งหัวโต๊ะให้ความเห็นชอบตามจุดยืนที่ให้ความสำคัญด้านความเท่าเทียมทางเพศ เพราะเชื่อว่าทุกคนควรได้รับสิทธิที่เท่าเทียมกันไม่ว่าจะอยู่ในเพศสภาพใดก็ตาม รัฐบาลจะผลักดันสนับสนุนกฎหมายสมรสเท่าเทียม เจรจากับทุกหน่วยงานเพื่อทลายกำแพงดังกล่าวให้ได้
สอดคล้องกับจุดยืนและการสนับสนุนของพรรค พท.ที่พร้อมผลักดันร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมเพื่อรับประกันสิทธิสมรสสำหรับคู่รักทุกเพศ ด้วยหลักสิทธิมนุษยชนและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ จะผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียมให้สำเร็จเช่นกัน
นัยสำคัญทางการเมือง การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมของสภา ย่อมต้องใช้ร่างหลักที่ผ่านความเห็นชอบจาก ครม. แม้จะผ่านความเห็นชอบในชั้นรับหลักการ โดยจะมีร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมของพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ที่อยู่ในระเบียบวาระ รอนำเนื้อหามาประกบเพื่อพิจารณาในชั้นการตั้งคณะ กมธ.วิสามัญฯ ก่อนนำเข้าสู่วาระที่ 2-3
แม้สุดท้ายปลายทางด้วยเสียงข้างมากของพรรคร่วมรัฐบาลที่มีถึง 314 เสียง ย่อมผนึกกำลังกันโหวตให้ร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ฉบับของรัฐบาลผ่านได้ไม่ยาก ซึ่งจะเป็นหนึ่งในผลงานของพรรคแกนนำรัฐบาลอย่างพรรค พท.ด้วย
อีกหนึ่งกฎหมายสำคัญที่รอคิวเข้าสู่การพิจารณาของสภา โดยมีสถานะของนายกฯและรัฐบาลเป็นเดิมพัน ต้องยุบสภา หรือประกาศลาออก หากร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท ไม่ผ่านความเห็นชอบจากสภาวาระแรก ในการประชุมสภาวันที่ 3 มกราคม 2567
แต่ด้วยเป็นร่างกฎหมายที่สำคัญต่อการเดินหน้าการทำงานของรัฐบาล รัฐบาลที่มีเสียงข้างมากถึง 314 เสียง ย่อมต้องกำชับและประสานงานผ่านคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ที่มีตัวแทนของทุกพรรคร่วมเป็นวิป ควบคุมเสียงของ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลให้โหวตผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2567 ได้อย่างไม่ยากเย็น
เพียงแต่ต้องจัดทีมและขุนพลรับมือการอภิปรายของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่นำโดยพรรค ก.ก. ที่คาดว่าจะอภิปรายชำแหละให้เห็นถึงจุดอ่อนการทำงบประมาณของรัฐบาล หากพรรคร่วมรัฐบาลเตรียมการมาไม่พร้อมย่อมจะส่งผลเครดิตและความน่าเชื่อถือต่อสายตาของประชาชน เนื่องจากเป็นการประชุมสภาที่มีการถ่ายทอดไปยังผู้ชมทางบ้านทั่วประเทศ
นอกจากนี้ยังมีร่าง พ.ร.บ.ที่สำคัญๆ ที่รอเข้าสู่การพิจารณาของสภาอย่างร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท เพื่อมาขับเคลื่อนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต แจกเงิน 1 หมื่นบาท ให้กับบุคคลที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป ซึ่งถือเป็นนโยบายเรือธงชี้วัดอนาคตทางการเมืองของพรรค พท.ด้วยเช่นกัน
หากร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท ผ่านความเห็นทางข้อกฎหมายจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และเห็นชอบจาก ครม.ย่อมต้องส่งให้ที่ประชุมสภาโหวตให้ความเห็นชอบซึ่งจะต้องฝ่าด่านการอภิปรายที่เข้มข้นของพรรค ก.ก. เพื่อดิสเครดิตลดทอนความน่าเชื่อถือในการเดินหน้านโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ของพรรค พท.แม้ความได้เปรียบด้วยการเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากย่อมผนึกเสียงโหวตให้ร่าง พ.ร.บ.เงินกู้
5 แสนล้านบาทผ่านได้ไม่ยาก แต่เมื่อผ่านด่านของสภาไปแล้ว รัฐบาลและพรรค พท.ยังต้องลุ้นกับการพิจารณาของที่ประชุมวุฒิสภา เพื่อชี้ขาดร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท ตามขั้นตอนการพิจารณาร่างกฎหมาย
เช่นเดียวกับการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลพรรค พท.ที่ยังไม่ชัดเจนว่าจะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านรูปแบบใด ซึ่งสุดท้ายต้องใช้เสียงของที่ประชุมรัฐสภาทั้ง 750 คนชี้ขาด
ไม่เพียงแต่บทบาทการพิจารณาร่างกฎหมายของฝ่ายนิติบัญญัติผ่านการประชุมสภา แต่ประเด็นร้อนๆ ของรัฐบาล ทั้งข้อร้องเรียน และข้อกล่าวหาต่างๆ อาทิ ข้อกล่าวหาว่ามีการแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจระดับผู้กำกับการที่มีการพูดคุยระหว่างนายกฯกับ ส.ส.ในวงประชุมพรรค พท. จะต้องถูกตรวจสอบอย่างเข้มข้นจากคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญแต่ละคณะที่มีพรรค ก.ก.เป็นประธาน กมธ. หากเตรียมตัวไม่พร้อมรัฐบาลอาจเพลี่ยงพล้ำให้กับฝ่ายค้านได้เหมือนกัน
การเปิดสภาสมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคมเป็นต้นไป รัฐบาลเศรษฐา ในฐานะผู้นำฝ่ายบริหาร จะต้องเตรียมรับแรงกระแทกผ่านการตรวจสอบของฝ่ายนิติบัญญัติอย่างเข้มข้น โดยมีเสถียรภาพและอนาคตทางการเมืองของรัฐบาลเป็นตัวชี้วัด