[CR] รีวิว...สุดทางราชมรรคาที่ "นครราชสีมา"


          สวัสดีชาวพันทิปครับ...การเดินทางตามเส้นทางราชมรรคาจากชายแดนฝั่งไทยโดยมีจุดเริ่มต้นที่ช่องเขาตาเมือนซึ่งเป็นที่ตั้งของกลุ่มปราสาทตาเมือน ตอนนี้ผมเดินทางมาถึงจังหวัดสุดท้ายแล้วครับ ถ้าอยากย้อนอ่านรีวิวจังหวัดอื่นๆในเส้นทาง ก็จิ้มเข้าไปตามนี้เลยครับ

https://ppantip.com/topic/42129063
https://ppantip.com/topic/42158258
https://ppantip.com/topic/42284699

          ย้อนความกันหน่อยครับ เส้นทางราชมรรคาเป็นเส้นทางที่เชื่อมระหว่างศูนย์กลางของอาณาจักรขอม พระเจ้าชัยวรมันที่7 ทรงให้บูรณะเส้นทางเชื่อม “พระนคร” กับเมืองต่างๆที่อยู่ภายใต้อำนาจซึ่งเส้นทางเดิมสร้างขึ้นสมัยพระเจ้ายโศวรมันที่ 1 เส้นทางทั้งหมดมี 5 เส้นทาง หนึ่งในเส้นทางนั้นสร้างเชื่อมมาถึง “เมืองพิมาย” 
          จากข้อมูลต่างๆในโลกออนไลน์และรายการประวัติศาสตร์นอกตำรา EP.126 ตอนปราสาทหินพิมาย อารยธรรมพันปีแห่งลุ่มแม่น้ำมูลมีข้อมูลว่า “วิมาย” “วิมายะปุระ” เป็นเมืองโบราณในลุ่มแม่น้ำมูล มีอดีตที่ย้อนกลับไปได้กว่าสามพันปีและเจริญขึ้นเป็นบ้านเมืองขนาดใหญ่ โดยมี “วิมาย” เป็นศูนย์กลางความเจริญ


          ปราสาทหินพิมาย เริ่มสร้างขึ้นประมาณพุทธศตวรรษที่ 16 แผนผังเป็นสี่เหลี่ยมมีกำแพงคูน้ำล้อมรอบและประตูเมืองทั้ง 4 ทิศเป็นแบบแผนการสร้างตามแบบขอม แต่ความแปลกคือปราสาทขอมที่ผ่านๆมาเป็นการสร้างตามความเชื่อในศาสนาฮินดู ส่วนปราสาทหินพิมายสร้างขึ้นตามความเชื่อในศาสนาพุทธนิกายมหายาน


          ปราสาทหินพิมายเป็นปราสาที่สมบูรณ์และใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ได้รับการบูรณะเป็นอย่างดี จอดรถเสร็จจ่ายค่าเข้าชมแล้วเดินเข้าด้านในได้เลย จากด้านหน้ามองไม่เห็นปราสาทประธานเลยไม่รู้สึกถึงความยิ่งใหญ่


          ก่อนเข้าสู่ปราสาทด้านใน ด้านซ้ายมือมีอาคารอยู่หลังหนึ่งคาดว่าสร้างขึ้นในสมัยพุทธศตวรรษที่ 17 ไม่มีหลักฐานการใช้งานอย่างชัดเจนว่าเอาไว้ทำอะไร แต่จากการสันนิษฐานคาดว่าจะเป็น “พลับพลาเปลื้องเครื่อง” ซึ่งเป็นที่พักและเลี่ยนเครื่องแต่งกายของกษัตริย์ก่อนเข้าประกอบพิธีกรรมในศาสนสถาน


          เดินต่อมาหน้าซุ้มประตูศาสนสถานเป็นสะพานนาคราชยกพื้นสูง ผังเป็นรูปกากบาทราวบันไดเป็นลำตัวนาคราช 7 เศียร แผ่ออกไปทั้งสี่ทิศสื่อถึงการเชื่อมโยงระหว่างโลกและสวรรค์ สะพานนาคราชนี้สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 17 ศิลปะแบบนครวัด


          ถัดจากสะพานนาคราชเป็นซุ้มประตูและระเบียงคด ก่อด้วยหินทรายยกสูงมีห้องตรงกลางและปีกยื่นออกซ้ายขวา เท่าที่ไปปราสาทอื่นๆผมไม่เห็นซุ้มประตูที่ใหนใหญ่โตเท่าที่นี่ เดินผ่านด้านในมีเสาต้นใหญ่ๆให้บรรยากาศที่ขลังมาก


          ผ่านซุ้มประตูเข้ามาเจอพื้นที่โล่งๆ มีบ่อสี่บ่อซึ่งจริงๆแล้วตรงนี้เรียกว่า “ชาลาทางเดิน” ซึ่งเป็นทางเดินยกพื้นสูงประมาณ 1 เมตรแบ่งทางเดินเป็น 3 ช่อง จากหลักฐานคาดว่าแต่เดิมชาลาทางเดินเป็นระเบียงโปร่ง หลังคามุงกระเบื้อง รองรับด้วยเสาไม้แต่ตอนนี้ไม่เหลือสภาพเดิมให้เห็นเลย


          เดินเข้ามาเจอปราสาทประธานแต่ก่อนจะเข้าปราสาทประธานด้านซ้ายมือมีปรางค์หินแดงซึ่งก็พังไปเยอะ ใกล้กับปรางค์แดงเป็นหอพราหมณ์ ฝั่งตรงข้ามปรางค์แดงมีปรางค์อีกองค์หนึ่งเรียกว่า “ปรางค์พรหมทัต” ภายในประดิษฐานรูปจำลองของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7


          ปราสาทประธานสร้างด้วยหินทรายสีขาวหันหน้าไปทางทิศใต้ ซึ่งแตกต่างจากปราสาทขอมอื่นๆที่มักจะหันไปทางทิศตะวันออก ยอดปราสาทหรือเรียกว่า “เรือนยอด” ลดหลั่นจากกว้างไปแคบที่ด้านบนสุดเรียกว่า “ชั้นเชิงบาตร” ยอดเป็นรูปดอกบัว เชื่อว่ายอดปราสาทนี้เป็นต้นแบบของการสร้างยอดปราสาทที่ปราสาทนครวัดในเวลาต่อมา


          ด้านในของปราสาทประธานมีห้องที่เรียกว่า “ครรภคฤหะ” ด้านบนทางเข้ามีทับหลังทั้ง 4 ด้าน แต่แทนที่ทับหลังจะสลักรูปเทพต่างๆในศาสนาฮินดูเหมือนกับปราสาทขอมอื่นๆ แต่กลับสลักเป็นรูปพระพุทธเจ้าแทน ตรงนี้ที่ทำให้เกิดความชัดเจนว่าปราสาทหินพิมายสร้างขึ้นตามความเชื่อของศาสนาพุทธ
            การใช้เวลาเดินดูมุมนู้นมุมนี้ของปราสาทหินพิมายคุ้มค่าคุ้มเวลามาก(แน่นอนว่าคุณต้องชอบปราสาทหินก่อน) ที่นี่ได้รับการบูรณะได้ค่อนข้างสมบูรณ์ การรักษาสภาพแวดล้อม ความสะอาดทำได้ดีมาก เป็นที่ที่สมควรมาเยี่ยมชมมากๆครับ


          ไม่ไกลจากปราสาทหินพิมายนักเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย ซึ่ง ณ วันที่เขียนรีวิวนี้ปิดทำการนะครับน่าจะปรับปรุงอยู่ เปิดเมื่อไหร่ไม่มีข้อมูลครับ



          พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมายน่าจะมีโบราณวัตถุจากปราสาทขอมมากที่สุดแล้วมั้งครับ การจัดแสดงเป็นแบบเปิดโล่งอากาศไม่ค่อยร้อนก็พอเดินได้สบายๆ ตรงกลางห้องเป็นรูปปั้นพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 จากปราสาทหินพิมายนี่แหละ 


          จริงๆสำหรับผมโบราณวัตถุควรจะอยู่ตรงโบราณสถานจะดีที่สุดแต่ถ้าเป็นแบบนั้นรับรองว่า “หายเกลี้ยง” แน่นอน เอาไว้ในพิพิธภัณฑ์จะดีที่สุดแล้ว...การเดินชมที่นี่สำหรับผมก็ดีอยู่ครับ แต่อาจจะเพราะผมไปปราสาทต่างๆมาหลายที่และโบราณวัตถุหลายชิ้นไม่อยู่ในสถานที่จริง พอได้มาเห็นที่นี่เลยทำให้ภาพโบราณสถานสมบูรณ์ขึ้น


          ไปต่อที่ปราสาทพนมวัน ตั้งอยู่ที่บ้านมะค่า ตำบลโพธิ์ จากข้อมูลของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ปราสาทนี้ใหญ่เป็นอันดับที่ 5 ของประเทศ


          สันนิษฐานว่าปราสาทพนมวันสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 15 เดิมเป็นการสร้างขึ้นเป็นเทวสถานในศาสนาฮินดูเหมือนกับปราสาทขอมอื่นๆ แต่ต่อมาถูกเปลี่ยนเป็นศาสนสถานในศาสนาพุทธ ส่วนการก่อสร้างเดิมสร้างด้วยอิฐต่อมาในสมัยพุทธศตวรรษที่ 18-19 สร้างสิ่งก่อสร้างด้วยหินทับลงไป ลักษณะโดยรวมคล้ายๆปราสาทหินพิมายแต่ขนาดเล็กกว่า


          สิ่งที่เหมือนกับปราสาทหินพิมายคือปราสาทประธาน ด้านหน้าของปราสาทประธานเป็นมณฑปสี่เหลี่ยมผืนผ้า แล้วเชื่อมปรางค์ประธานกับมณฑปด้วยมุขกระสัน หรือ อันตราละ เป็นทางเดินที่มีหลังคาคลุม หรือ ฉนวนทางเดินสู่ปราสาท


          เข้ามาด้านในปราสาทประธานมีพระพุทธรูปศิลปะสมัยอยุธยาจำนวน 4 องค์ปางประธานอภัยและปางแสดงธรรม ให้บรรยากาศที่ขลังมาก ผมหาข้อมูลไม่ได้ว่าใครสร้างปราสาทพนมวัน หลักศิลาจารึกที่บันทึกไว้ก็ไม่ได้บอกผู้สร้างศาสนสถานแห่งนี้ไว้อย่างชัดเจน รู้แต่เพียงว่ารอบปราสาทในสมัยก่อนน่าจะเป็นเมืองชื่อ “รัตนปุระ” มีความเจริญเป็นอย่างมาก ปราสาทนี้อาจจะเป็นศาสนสถานสำหรับเจ้านายผู้ปกครองเมืองก็ได้
v
v
v
v
v
v
v
หากชอบการรีวิวของผม ไปดูรีวิวที่ผมทำไว้ในช่องทางอื่นๆได้นะครับ แนะนำ คอมเม้นท์ตามสบายครับ
------------------------------------------------------------------------------------------------------
Facebook:  https://www.facebook.com/followmeonearth/
Website: www.Pratuneung.com
Lemon8 Application: @Pratuneung
Blockdit page: Followmeonearth
Blockdit page: Story Behind
ชื่อสินค้า:   จังหวัดนครราชสีมา
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่