จังหวัดเพชรบุรีเป็นหนึ่งในจังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยม มีชื่อเสียงเรื่องไก่ย่างและเขาสูงอย่างภูทับเบิก...อันนั้นเพชรบูรณ์ และเป็นจังหวัดที่มีของกินขึ้นชื่ออย่าง เฉาก๊วย หรือ กระยาสารท...อันนั้นกำแพงเพชร พอแล้วมั้ง
ผมไปเพชรบุรีมาก็หลายครั้งและทั้งหมดไปจบที่ไม่แก่งกระจานก็ชะอำ ตัวเมืองเพชรบุรีเป็นเพียงแค่ทางผ่านและจุดแวะซื้อของฝากขากลับเท่านั้น หลังจากได้เที่ยวในตัวเมืองมาหลายจังหวัดก็เริ่มคิดว่าแล้วจังหวัดใกล้ตัวอย่างเพชรบุรีล่ะ มีอะไรน่าสนใจบ้าง เลยเป็นที่มาของทริปนี้...
กระทู้นี้ยาวมากครับ อาจจะใช้เวลาในการอ่านนานหน่อย ส่วนเรื่องของกินอยู่ท้ายๆรีวิวเลย พร้อมแล้วก็คาดเข็มขัดนิรภัย เก็บสัมภาระไว้ที่ช่องเก็บของเหนือศีรษะ (รถเก๋งมันมีที่ไหนเล่า)...ไปครับ ออกรถได้
เอาเรื่องที่พักก่อนครับ ช่วงที่ผมไปพอดีกับช่วงงานพระนครคีรี ทำให้ที่พักค่อนข้างหายากเลยทีเดียว ได้ที่พักชื่อ Super Highway Hotel ริมถนนเพชรเกษมก่อนถึงโรบินสันหน่อย เดินทางสะดวกสุดๆ
โรงแรมมีที่จอดรถเยอะอยู่แต่ช่วงที่ผมไปพักก็ค่อนข้างเต็ม ห้องพักที่นี่แบ่งเป็น 3 ประเภทแต่ขนาดของห้องแทบไม่แตกต่างกัน
พื้นที่ต้อนรับไม่ใหญ่โตนักมีที่นั่งพักผ่อนนิดหน่อย หลังเช็คอินเสร็จก็ไปที่ห้องเลยครับ ห้องพักคราวนี้เป็นห้องชั้นล่างซึ่งจะมีที่จอดรถเฉพาะไม่ต้องแย่งกับใคร ออกไปไหนก็ไม่ต้องกลัวเสียม้า ราคาห้องพักต่อคืนเกือบๆพันบาท
ห้องพักแบบเรียบง่าย มาตรฐาน เตียงนอนค่อนไปทางแน่นแต่นอนสบายแอร์เย็นฉ่ำ ห้องน้ำก็เป็นไปตามมาตฐานมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้ครบถ้วน ข้อเสียเดียวของห้องคือห้องเก็บเสียงดีมาก เก็บเสียงจากข้างนอกเข้ามาได้ดีสุดๆ เสียงรถวิ่งผ่านนี่ได้ยินชัดแจ๋วเลย ไม่รู้ว่าห้องแบบอื่นๆเป็นหรือเปล่า ใครพักห้องนี้ ถ้านอนยากก็เตรียม ear plug มาด้วยนะครับ...เก็บของเสร็จไปเที่ยวได้
ก่อนเข้าตัวเมืองเพชรบุรี แวะป้ายแรกที่เขาย้อยก่อนครับ เขาย้อยเป็นภูเขาหินขนาดย่อมๆอยู่ระหว่างทางไปตัวเมืองเพชรบุรี จุดเด่นคือมีร้านข้าวแกงชื่อดังอยู่ใกล้ๆ ทานข้าวเสร็จก็เดินทางต่อผ่านเขาย้อยไปเลย...อ้าว
แต่ถ้าทานข้าวเสร็จแล้วเลี้ยวซ้ายตรงเชิงเขาย้อยอ้อมไปด้านหลังจะเจอ “ถ้ำเขาย้อย” จอดรถเสร็จก็เดินขึ้นไปได้เลยไม่สูงมาก
ด้านในมีพระพุทธไศยาสน์ พระพุทธบาทจำลอง และพระพุทธรูปอีกหลายองค์ มีเสียงประกาศเชิญชวนทำบุญ สะเคราะห์เดาะ เสริมดวงชะตาไม่ขาดสาย ภายในถ้ำไม่ใหญ่โตกว้างขวางมากนัก ตกแต่งด้วยไฟสีต่างๆสวยงามดี
เดินเข้ามาด้านในมีโถงถ้ำอีกห้องหนึ่งเพดานสูงแต่ไม่กว้างมากนัก มีพระพุทธรูปตั้งไว้อีกหลายองค์ มาพร้อมกับเสียงเชิญทำบุญไม่ขาดเช่นกัน ถ่ายรูป เดินชม พักหนึ่ง เดินทางกันต่อครับ
เข้าตัวเมืองเพชรบุรี ผมมีนัดกับไกด์ท้องถิ่น จากเพจ Local Journey foodies & tour ซึ่งผมเคยเห็นผ่านตาจากรายการหนึ่งที่พาเที่ยวเพชรบุรี เส้นทางทัวร์ในวันนี้อยู่ย่านชุมชนวัดเกาะเป็นหลักและแน่นอนว่าที่แรกที่ไปก็ต้องเป็น “วัดเกาะ”
วัดเกาะ ในชื่อมีคำว่าเกาะแต่พื้นที่วัดน้ำไม่ล้อมรอบแล้วมันเกาะตรงไหน พี่ไกด์เล่าให้ฟังว่าเมื่อโบราณกาลมาแล้วพื้นที่ตรงนี้เป็นเกาะมีน้ำล้อมรอบ แต่เมื่อเวลาผ่านไป การเติบโตของชุมชนก็ทำให้ทางน้ำเปลี่ยนไปและพื้นที่ตรงนี้ก็ไม่เป็นเกาะอีกต่อไป
วัดนี้สร้างตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่มีใครให้ข้อมูลได้เพียงแต่พอจะคาดเดาได้จากหลักฐานต่างๆที่ยังเหลืออยู่ในวัด และสิ่งที่ดูจะมีความเก่าแก่ที่สุดเห็นจะเป็นใบเสมาหรือใบสีมาหินทรายแดงที่อาจเก่าแก่ถึงยุคกรุงศรีอยุธยาตอนต้นนู่นเลย
ใบเสมาหรือใบสีมาที่วัดเกาะออกจะแปลกกว่าวัดอื่นนิดหน่อยตรงที่เป็นใบเสมาคู่ ซึ่งใบเสมาคู่มีความหมายอยู่ 2 อย่างคือ 1.เป็นวัดหลวง 2.เป็นวัดที่มีหลายนิกาย แต่วัดเกาะไม่ใช่วัดหลวงดังนั้นก็หมายความว่าวัดนี้เป็นวัดที่มีหลายนิกาย
เอกลักษณ์ที่มีชื่อเสียงอย่างหนึ่งของช่างฝีมือเพชรบุรีคืองานปูนปั้น เห็นได้จากซุ้มประตู หน้าบัน ไปจนถึงเจดีย์ มีลายปูนปั้นประดับทั้งหมด
ภาพเขียนภายในอุโบสถคือความสวยงามที่แท้จริงของวัดนี้ ภาพเรื่องราวต่างๆทั้งเรื่องราวทางพุทธศาสนาและเรื่องราวเกี่ยวกับสังคมสมัยนั้นได้รับการบอกเล่าผ่านภาพวาดที่วาดไว้เกือบเต็มพื้นที่เพราะอุโบสถนี้ไม่มีหน้าต่างเรียกว่า "มหาอุด” ซึ่งมีแต่ประตูแต่ไม่มีหน้าต่างเชื่อว่าเพิ่มความขลังในการทำพิธีกรรมต่างๆ
สิ่งที่แปลกอย่างหนึ่งของที่นี่คือภาพเขียนฝาผนังด้านหลังพระประธานที่เป็นภาพพุทธประวัติตอนมารผจญ จากที่ปกติจะเป็นภาพจักรวาล มีข้อมูลแบ่งเป็น 2 ทาง ทางหนึ่งเชื่อว่ามีการย้ายพระประธานเพราะแต่ก่อนพระประธานหันหน้าไปทางน้ำแต่หลังจากทางน้ำเปลี่ยนไปจึงย้ายพระประธานมาอีกฝั่งหนึ่งให้หันหน้าไปทางน้ำเหมือนเดิม ส่วนความเชื่ออีกทางหนึ่งเชื่อว่าเป็นเทคนิคการเขียนภาพที่ต้องการให้องค์พระประธานเป็นส่วนหนึ่งของการเล่าเรื่องราว
ฝั่งตรงข้ามพระประธาน ตรงกลางระหว่างประตูมีภาพเสาแท่งๆอยู่ พี่ไกด์เล่าให้ฟังว่าเป็นภาพของจักรวาล และภาพของสวรรค์ นับๆดูอ้าวทำไมมีแค่ 6 ชั้น กลายเป็นว่าตามหลักพุทธศาสนาแล้วสวรรค์มีแค่ 6 ชั้น แถมสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ที่ผมเคยเชื่อว่าเป็นชั้นสูงสุดก็เพิ่งจะเป็นชั้นที่ 2 เอง
ผนังสองด้าน ด้านหนึ่งเป็นภาพสถานที่สำคัญ 8 แห่งตามพุทธประวัติ อีกด้านหนึ่งเป็นภาพสถานที่ 7 แห่ง ที่พระพุทธเจ้าเสด็จประทับหลังตรัสรู้แล้ว ด้านบนขึ้นไปอีกเป็นภาพ “คนธรรพ์” ซึ่งคือคนที่มาก่อนหรือตรงเวลาที่นัดไว้ ส่วนคนที่มาหลังเวลาที่นัดไว้เรียกว่า “คนไม่ธรรพ์”
คนธรรพ์เหล่านี้หน้าตาไม่เหมือนคนไทย พี่ไกด์บอกว่าเป็นความชาญฉลาดและมีอารมณ์ขันของผู้วาดที่วาดหน้าตาให้เหมือนชาวต่างชาติที่เข้ามาติดต่อค้าขายกันในช่วงนั้น บางคนถือถาดขนมด้วย แต่ดูไม่ออกว่าขนมอะไร
ตามผนังจะมีตัวหนังสือและตัวเลขอยู่ ผมนึกว่าเป็นคนมือบอนมาเขียนไว้ แต่ไม่ใช่นะครับแต่เป็นปีที่วาดภาพและคนที่เป็นคนออกเงินให้ เขียนจำนวนเงินไว้อีกต่างหาก แต่ผมอ่านออกแค่ปี พ.ศ.2277 ส่วนที่เหลืออ่านไม่ออกเลยครับ
อย่าง 2 ภาพนี้ก็มีเขียนบรรยายไว้ด้วย อ่านออกแค่ประมาณว่า “สมเด็จพระเจ้าเสด็จเหนือโพธิบัลลังก์ใต้ต้นไม้พระมหาโพธิ” ส่วนอีกภาพเป็นภาพพญามารทั้ง 3 คือ ตัณหา ราคะ และอรตี มาผจญพระพุทธเจ้า ที่ภาพพญามารเป็นแพะเพราะภาพนี้ชื่อ “อชปาลนิโครธ” แปลว่าต้นไทรของคนเลี้ยงแพะ อช แปลว่าแพะ ปาล แปลว่าคนเลี้ยง นิโครธ แปลว่าต้นไทร
เป็นวัด...ไม่สิ เป็นอุโบสถที่สุดยอดเลยครับหลังเดียวยังมีเรื่องราวให้ดูให้เรียนรู้ได้เยอะขนาดนี้ แต่แน่นอนว่าต้องมีคนอธิบายด้วยไม่อย่างนั้นก็ไม่ได้รายละเอียดขนาดนี้ อยู่กันตรงนี้ร่วมชั่วโมงก็เริ่มเดินออกนอกวัดไปตามถนนพาณิชเจริญ
ผลงานในช่องทางอื่นๆ
Facebook:
https://www.facebook.com/followmeonearth/
Website: www.Pratuneung.com
Lemon8 Application: @Pratuneung
Blockdit page: Followmeonearth
Blockdit page: Story Behind
[CR] รีวิว...เที่ยว เพชรบุรี ที่ไม่มีทะเล
จังหวัดเพชรบุรีเป็นหนึ่งในจังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยม มีชื่อเสียงเรื่องไก่ย่างและเขาสูงอย่างภูทับเบิก...อันนั้นเพชรบูรณ์ และเป็นจังหวัดที่มีของกินขึ้นชื่ออย่าง เฉาก๊วย หรือ กระยาสารท...อันนั้นกำแพงเพชร พอแล้วมั้ง
ผมไปเพชรบุรีมาก็หลายครั้งและทั้งหมดไปจบที่ไม่แก่งกระจานก็ชะอำ ตัวเมืองเพชรบุรีเป็นเพียงแค่ทางผ่านและจุดแวะซื้อของฝากขากลับเท่านั้น หลังจากได้เที่ยวในตัวเมืองมาหลายจังหวัดก็เริ่มคิดว่าแล้วจังหวัดใกล้ตัวอย่างเพชรบุรีล่ะ มีอะไรน่าสนใจบ้าง เลยเป็นที่มาของทริปนี้...
กระทู้นี้ยาวมากครับ อาจจะใช้เวลาในการอ่านนานหน่อย ส่วนเรื่องของกินอยู่ท้ายๆรีวิวเลย พร้อมแล้วก็คาดเข็มขัดนิรภัย เก็บสัมภาระไว้ที่ช่องเก็บของเหนือศีรษะ (รถเก๋งมันมีที่ไหนเล่า)...ไปครับ ออกรถได้
เอาเรื่องที่พักก่อนครับ ช่วงที่ผมไปพอดีกับช่วงงานพระนครคีรี ทำให้ที่พักค่อนข้างหายากเลยทีเดียว ได้ที่พักชื่อ Super Highway Hotel ริมถนนเพชรเกษมก่อนถึงโรบินสันหน่อย เดินทางสะดวกสุดๆ
โรงแรมมีที่จอดรถเยอะอยู่แต่ช่วงที่ผมไปพักก็ค่อนข้างเต็ม ห้องพักที่นี่แบ่งเป็น 3 ประเภทแต่ขนาดของห้องแทบไม่แตกต่างกัน
พื้นที่ต้อนรับไม่ใหญ่โตนักมีที่นั่งพักผ่อนนิดหน่อย หลังเช็คอินเสร็จก็ไปที่ห้องเลยครับ ห้องพักคราวนี้เป็นห้องชั้นล่างซึ่งจะมีที่จอดรถเฉพาะไม่ต้องแย่งกับใคร ออกไปไหนก็ไม่ต้องกลัวเสียม้า ราคาห้องพักต่อคืนเกือบๆพันบาท
ห้องพักแบบเรียบง่าย มาตรฐาน เตียงนอนค่อนไปทางแน่นแต่นอนสบายแอร์เย็นฉ่ำ ห้องน้ำก็เป็นไปตามมาตฐานมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้ครบถ้วน ข้อเสียเดียวของห้องคือห้องเก็บเสียงดีมาก เก็บเสียงจากข้างนอกเข้ามาได้ดีสุดๆ เสียงรถวิ่งผ่านนี่ได้ยินชัดแจ๋วเลย ไม่รู้ว่าห้องแบบอื่นๆเป็นหรือเปล่า ใครพักห้องนี้ ถ้านอนยากก็เตรียม ear plug มาด้วยนะครับ...เก็บของเสร็จไปเที่ยวได้
ก่อนเข้าตัวเมืองเพชรบุรี แวะป้ายแรกที่เขาย้อยก่อนครับ เขาย้อยเป็นภูเขาหินขนาดย่อมๆอยู่ระหว่างทางไปตัวเมืองเพชรบุรี จุดเด่นคือมีร้านข้าวแกงชื่อดังอยู่ใกล้ๆ ทานข้าวเสร็จก็เดินทางต่อผ่านเขาย้อยไปเลย...อ้าว
แต่ถ้าทานข้าวเสร็จแล้วเลี้ยวซ้ายตรงเชิงเขาย้อยอ้อมไปด้านหลังจะเจอ “ถ้ำเขาย้อย” จอดรถเสร็จก็เดินขึ้นไปได้เลยไม่สูงมาก
ด้านในมีพระพุทธไศยาสน์ พระพุทธบาทจำลอง และพระพุทธรูปอีกหลายองค์ มีเสียงประกาศเชิญชวนทำบุญ สะเคราะห์เดาะ เสริมดวงชะตาไม่ขาดสาย ภายในถ้ำไม่ใหญ่โตกว้างขวางมากนัก ตกแต่งด้วยไฟสีต่างๆสวยงามดี
เดินเข้ามาด้านในมีโถงถ้ำอีกห้องหนึ่งเพดานสูงแต่ไม่กว้างมากนัก มีพระพุทธรูปตั้งไว้อีกหลายองค์ มาพร้อมกับเสียงเชิญทำบุญไม่ขาดเช่นกัน ถ่ายรูป เดินชม พักหนึ่ง เดินทางกันต่อครับ
เข้าตัวเมืองเพชรบุรี ผมมีนัดกับไกด์ท้องถิ่น จากเพจ Local Journey foodies & tour ซึ่งผมเคยเห็นผ่านตาจากรายการหนึ่งที่พาเที่ยวเพชรบุรี เส้นทางทัวร์ในวันนี้อยู่ย่านชุมชนวัดเกาะเป็นหลักและแน่นอนว่าที่แรกที่ไปก็ต้องเป็น “วัดเกาะ”
วัดเกาะ ในชื่อมีคำว่าเกาะแต่พื้นที่วัดน้ำไม่ล้อมรอบแล้วมันเกาะตรงไหน พี่ไกด์เล่าให้ฟังว่าเมื่อโบราณกาลมาแล้วพื้นที่ตรงนี้เป็นเกาะมีน้ำล้อมรอบ แต่เมื่อเวลาผ่านไป การเติบโตของชุมชนก็ทำให้ทางน้ำเปลี่ยนไปและพื้นที่ตรงนี้ก็ไม่เป็นเกาะอีกต่อไป
วัดนี้สร้างตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่มีใครให้ข้อมูลได้เพียงแต่พอจะคาดเดาได้จากหลักฐานต่างๆที่ยังเหลืออยู่ในวัด และสิ่งที่ดูจะมีความเก่าแก่ที่สุดเห็นจะเป็นใบเสมาหรือใบสีมาหินทรายแดงที่อาจเก่าแก่ถึงยุคกรุงศรีอยุธยาตอนต้นนู่นเลย
ใบเสมาหรือใบสีมาที่วัดเกาะออกจะแปลกกว่าวัดอื่นนิดหน่อยตรงที่เป็นใบเสมาคู่ ซึ่งใบเสมาคู่มีความหมายอยู่ 2 อย่างคือ 1.เป็นวัดหลวง 2.เป็นวัดที่มีหลายนิกาย แต่วัดเกาะไม่ใช่วัดหลวงดังนั้นก็หมายความว่าวัดนี้เป็นวัดที่มีหลายนิกาย
เอกลักษณ์ที่มีชื่อเสียงอย่างหนึ่งของช่างฝีมือเพชรบุรีคืองานปูนปั้น เห็นได้จากซุ้มประตู หน้าบัน ไปจนถึงเจดีย์ มีลายปูนปั้นประดับทั้งหมด
ภาพเขียนภายในอุโบสถคือความสวยงามที่แท้จริงของวัดนี้ ภาพเรื่องราวต่างๆทั้งเรื่องราวทางพุทธศาสนาและเรื่องราวเกี่ยวกับสังคมสมัยนั้นได้รับการบอกเล่าผ่านภาพวาดที่วาดไว้เกือบเต็มพื้นที่เพราะอุโบสถนี้ไม่มีหน้าต่างเรียกว่า "มหาอุด” ซึ่งมีแต่ประตูแต่ไม่มีหน้าต่างเชื่อว่าเพิ่มความขลังในการทำพิธีกรรมต่างๆ
สิ่งที่แปลกอย่างหนึ่งของที่นี่คือภาพเขียนฝาผนังด้านหลังพระประธานที่เป็นภาพพุทธประวัติตอนมารผจญ จากที่ปกติจะเป็นภาพจักรวาล มีข้อมูลแบ่งเป็น 2 ทาง ทางหนึ่งเชื่อว่ามีการย้ายพระประธานเพราะแต่ก่อนพระประธานหันหน้าไปทางน้ำแต่หลังจากทางน้ำเปลี่ยนไปจึงย้ายพระประธานมาอีกฝั่งหนึ่งให้หันหน้าไปทางน้ำเหมือนเดิม ส่วนความเชื่ออีกทางหนึ่งเชื่อว่าเป็นเทคนิคการเขียนภาพที่ต้องการให้องค์พระประธานเป็นส่วนหนึ่งของการเล่าเรื่องราว
ฝั่งตรงข้ามพระประธาน ตรงกลางระหว่างประตูมีภาพเสาแท่งๆอยู่ พี่ไกด์เล่าให้ฟังว่าเป็นภาพของจักรวาล และภาพของสวรรค์ นับๆดูอ้าวทำไมมีแค่ 6 ชั้น กลายเป็นว่าตามหลักพุทธศาสนาแล้วสวรรค์มีแค่ 6 ชั้น แถมสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ที่ผมเคยเชื่อว่าเป็นชั้นสูงสุดก็เพิ่งจะเป็นชั้นที่ 2 เอง
ผนังสองด้าน ด้านหนึ่งเป็นภาพสถานที่สำคัญ 8 แห่งตามพุทธประวัติ อีกด้านหนึ่งเป็นภาพสถานที่ 7 แห่ง ที่พระพุทธเจ้าเสด็จประทับหลังตรัสรู้แล้ว ด้านบนขึ้นไปอีกเป็นภาพ “คนธรรพ์” ซึ่งคือคนที่มาก่อนหรือตรงเวลาที่นัดไว้ ส่วนคนที่มาหลังเวลาที่นัดไว้เรียกว่า “คนไม่ธรรพ์”
คนธรรพ์เหล่านี้หน้าตาไม่เหมือนคนไทย พี่ไกด์บอกว่าเป็นความชาญฉลาดและมีอารมณ์ขันของผู้วาดที่วาดหน้าตาให้เหมือนชาวต่างชาติที่เข้ามาติดต่อค้าขายกันในช่วงนั้น บางคนถือถาดขนมด้วย แต่ดูไม่ออกว่าขนมอะไร
ตามผนังจะมีตัวหนังสือและตัวเลขอยู่ ผมนึกว่าเป็นคนมือบอนมาเขียนไว้ แต่ไม่ใช่นะครับแต่เป็นปีที่วาดภาพและคนที่เป็นคนออกเงินให้ เขียนจำนวนเงินไว้อีกต่างหาก แต่ผมอ่านออกแค่ปี พ.ศ.2277 ส่วนที่เหลืออ่านไม่ออกเลยครับ
อย่าง 2 ภาพนี้ก็มีเขียนบรรยายไว้ด้วย อ่านออกแค่ประมาณว่า “สมเด็จพระเจ้าเสด็จเหนือโพธิบัลลังก์ใต้ต้นไม้พระมหาโพธิ” ส่วนอีกภาพเป็นภาพพญามารทั้ง 3 คือ ตัณหา ราคะ และอรตี มาผจญพระพุทธเจ้า ที่ภาพพญามารเป็นแพะเพราะภาพนี้ชื่อ “อชปาลนิโครธ” แปลว่าต้นไทรของคนเลี้ยงแพะ อช แปลว่าแพะ ปาล แปลว่าคนเลี้ยง นิโครธ แปลว่าต้นไทร
เป็นวัด...ไม่สิ เป็นอุโบสถที่สุดยอดเลยครับหลังเดียวยังมีเรื่องราวให้ดูให้เรียนรู้ได้เยอะขนาดนี้ แต่แน่นอนว่าต้องมีคนอธิบายด้วยไม่อย่างนั้นก็ไม่ได้รายละเอียดขนาดนี้ อยู่กันตรงนี้ร่วมชั่วโมงก็เริ่มเดินออกนอกวัดไปตามถนนพาณิชเจริญ
ผลงานในช่องทางอื่นๆ
Facebook: https://www.facebook.com/followmeonearth/
Website: www.Pratuneung.com
Lemon8 Application: @Pratuneung
Blockdit page: Followmeonearth
Blockdit page: Story Behind
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้