เหตุผลง่ายๆ ที่เพื่อไทยต้องได้ตำแหน่งประธานสภาก็คือ ไม่ต้องการให้ตำแหน่งประธานตกไปอยู่ในมือฝ่ายค้าน เพราะรู้แน่ๆ ว่ายังไงก้าวไกลก็ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้
ส่วนก้าวไกลที่ต้องการได้ประธานสภา เพราะไม่มีอะไรจะเสีย จึงเสียงแข็งจะเอาให้ได้ เหตุผลคือรู้ตัวว่าตั้งรัฐบาลไม่ได้ ถึงแม้ให้เพื่อไทยเป็นนายก ก้าวไกลก็อาจจะไม่ได้ร่วมรัฐบาล รัฐมนตรีอะไรก็ไม่ได้ ประธานสภาจึงเป็นเหมือนตำแหน่งเดียวที่ต่อรองกับเพื่อไทยได้ในตอนนี้จากการเป็นแกนนำ ทั้งๆ ที่ถ้าจะให้เพื่อไทยก็ให้ได้ง่ายๆ ถ้ามองว่าได้เป็นนายกแน่ๆ แต่เพราะรู้ตัวว่านายกไม่ได้แน่ๆ ก็เลยต้องดึงดันเอาตำแหน่งประธานให้ได้ ซึ่งเพื่อไทยก็คงไม่ยอมหรอก
ในประวัติศาสตร์ไทยมีอยู่แค่ครั้งเดียวที่ตำแหน่งประธานเป็นของฝ่ายค้านคือ สมัยที่ท่านอุทัยพิมพ์ใจชนได้เป็นประธานสภาสมัยที่ 2 ทั้งๆ ที่พรรคตัวเองได้มาแค่ 3 เสียงหลังจากที่ออกจากประชาธิปัตย์มาตั้งพรรคใหม่ คือตอนโหวตประธาน เสียงครบ แต่พอตอนโหวตนายกเกิดงูเห่าย้ายข้าง พลิกขั้ว ประธานสภาก็เลยกลายเป็นฝ่ายค้าน เพื่อไทยเข้าใจเกมนี้ดี
ก้าวไกลที่ต้องการได้ประธานสภา เพราะไม่มีอะไรจะเสีย
ส่วนก้าวไกลที่ต้องการได้ประธานสภา เพราะไม่มีอะไรจะเสีย จึงเสียงแข็งจะเอาให้ได้ เหตุผลคือรู้ตัวว่าตั้งรัฐบาลไม่ได้ ถึงแม้ให้เพื่อไทยเป็นนายก ก้าวไกลก็อาจจะไม่ได้ร่วมรัฐบาล รัฐมนตรีอะไรก็ไม่ได้ ประธานสภาจึงเป็นเหมือนตำแหน่งเดียวที่ต่อรองกับเพื่อไทยได้ในตอนนี้จากการเป็นแกนนำ ทั้งๆ ที่ถ้าจะให้เพื่อไทยก็ให้ได้ง่ายๆ ถ้ามองว่าได้เป็นนายกแน่ๆ แต่เพราะรู้ตัวว่านายกไม่ได้แน่ๆ ก็เลยต้องดึงดันเอาตำแหน่งประธานให้ได้ ซึ่งเพื่อไทยก็คงไม่ยอมหรอก
ในประวัติศาสตร์ไทยมีอยู่แค่ครั้งเดียวที่ตำแหน่งประธานเป็นของฝ่ายค้านคือ สมัยที่ท่านอุทัยพิมพ์ใจชนได้เป็นประธานสภาสมัยที่ 2 ทั้งๆ ที่พรรคตัวเองได้มาแค่ 3 เสียงหลังจากที่ออกจากประชาธิปัตย์มาตั้งพรรคใหม่ คือตอนโหวตประธาน เสียงครบ แต่พอตอนโหวตนายกเกิดงูเห่าย้ายข้าง พลิกขั้ว ประธานสภาก็เลยกลายเป็นฝ่ายค้าน เพื่อไทยเข้าใจเกมนี้ดี