เปิดรายชื่อ 500 ส.ส. “แบ่งเขต-ปาร์ตี้ลิสต์” ชวนประชาชนร่วมตรวจรายชื่อผ่านเว็บไซต์กกต.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4038333
กกต.เปิดรายชื่อ 500 ส.ส. “แบ่งเขต-ปาร์ตี้ลิสต์” ชวนประชาชนร่วมตรวจรายชื่อผ่านเว็บไซต์
เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)เปิดเผยประกาศภายหลัง กกต. ได้ตรวจสอบเบื้องต้น หลังการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา ว่ามีเหตุอันควรเชื่อว่าผลการเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม และได้รับผลรวมคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ และได้คำนวณสัดส่วนเพื่อหาผู้ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว จึงขอประกาศรายชื่อผู้ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง จำนวน 400 คน และแบบบัญชีรายชื่อ จำนวน 100 คน จึงขอแจ้งให้ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ที่ได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส.ตามประกาศ รับหนังสือรับรองการได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ในวันที่ 20 – 24 มิถุนายน 2566 เวลา 08.30 – 16.30 น.
กรณีที่ผู้สมัครไม่สามารถมารับหนังสือรับรองได้ด้วยตัวเอง ให้ทำหนังสือมอบอำนาจ พร้อมรับรองสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจมาในวันดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้ ภายหลังประกาศผลการเลือกตั้งแล้ว ถ้ามีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทำการอันเป็นการทุจริตในการเลือกตั้ง หรือรู้เห็นกับการกระทำของบุคคลอื่น คณะกรรมการการเลือกตั้งต้องยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อสั่งให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้น และสามารถตรวจดูรายชื่อผู้ได้รับเลือกตั้งในราชกิจจานุเบกษา เว็บไซต์ของสำนักงาน กกต.
อ่านรายละเอียด :
ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้งเรื่อง ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ
อ่านที่นี่
ประกาศ กกต. ผลการเลือกตั้งแบบบัญชีฯ
ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้งเรื่อง ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง
อ่านที่นี่ประกาศ
กกต. ผลการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตฯ
‘สุทิน’ ยันประธานสภาฯ เป็นของก้าวไกล เพื่อถอดสลักให้ตั้งรบ.ได้ ชี้ปธ.สภาฯ ไม่ใช่ตัวคุมเกมเบ็ดเสร็จ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4038221
‘สุทิน’ ยันประธานสภาฯ เป็นของก้าวไกล เพื่อถอดสลักให้ตั้งรัฐบาลได้ ชี้ปธ.สภาฯ ไม่ใช่ตัวคุมเกมเบ็ดเสร็จ เผยหาก ‘หมอชลน่าน’ เป็นประธานสภาฯ ต้องลาออกจาก หน.พท. เพื่อความเป็นกลาง
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 มิถุนายน ที่รัฐสภา นาย
สุทิน คลังแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย(พท.)ให้สัมภาษณ์ที่รัฐสภา ว่า วันนี้ตนยังไม่ได้รายงานตัว เพราะส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ทั้งหมดจะเข้ารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร พร้อมกันในวันที่ 22 มิถุนายนนี้ ทั้งนี้ตนมองการรับรองผลการเลือกตั้ง ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เมื่อ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา ถือว่าเป็นผลดีต่อการเดินหน้าของทุกฝ่าย อย่างไรก็ตามการประกาศรับรองส.ส. ทั้ง 500 คนมีความรอบคอบ แม้จะมีข่าวว่ามี ส.ส. 82 คนที่ยังรอตรวจสอบจาก กกต.อีกครั้ง โดยในส่วนของพรรคเพื่อไทย มี ส.ส.ที่คาดว่าจะถูกตรวจสอบ 20 คน นั้นตนไม่กังวล เพราะป็นเรื่องร้องเรียนเล็กๆ น้อยๆ เช่น การติดตั้งป้ายหาเสียงใกล้หน่วยเลือกตั้ง การติดตั้งป้ายผิดที่ไม่ใช่เป็นเรื่องทุจริตการเลือกตั้ง และ ส.ส.ทุกคนที่ปรากฏชื่อพร้อมเข้าสู่กะบวนการชี้แจง
นาย
สุทิน กล่าวถึงความชัดเจนต่อการแบ่งโควต้าประธานสภาฯ ว่า เป็นการพูดคุยในระดับคณะกรรมการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ว่า ประธานสภาฯ จะเป็นของพรรคก้าวไกล และตามที่ข่าวระบุว่า พรรคเพื่อไทยยกตำแหน่งประธานสภาฯ ให้พรรคก้าวไกลนั้น เพราะเพื่อไทยต้องการให้การจัดตั้งรัฐบาลเดินหน้า ดังนั้นพรรคเพื่อไทยพร้อมถอดสลักเพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลเดินหน้าได้ ไม่ต้องติดขัด ไม่เช่นนั้นจะติดขัดเดินหน้าไปไม่ได้
เมื่อถามว่าประเด็นของก้าวไกลต่อความพยายามผลักดันร่างกฎหมายที่สังคมมองว่ามีปัญหา ดังนั้นหากประธานสภาฯ เป็นของก้าวไกลจะทำให้เกิดชนวนวุ่ยวายทางการเมืองหรือไม่ นาย
สุทิน กล่าวว่า ประธานสภาฯ ไม่สามารถผลักดันอะไรได้ด้วยตนเอง ทั้งการบรรจุวาระ ต้องคำนึงถึงข้อบังคับและฟังเสียง ของส.ส. ประธานสภาฯต้องถูกกำกับและถ่วงดุลของส.ส.
เมื่อถามย้ำว่าเพื่อไทยมองว่าแม้ยกตำแหน่งประธานสภาฯให้พรรคก้าวไกล ก็ไม่ใช่คนคุมเกมเบ็ดเสร็จหรือไม่ นาย
สุทิน กล่าวว่า เรามองอย่างนั้น และยังมองว่าตำแหน่งประธานสภาฯ ไม่สามารถคิดตามใจตนเองได้ ต้องยึดกรอบของข้อบังคับ
เมื่อถามถึงการแบ่งโควต้าของรองประธานสภาฯ นายสุทินว่า เป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกลต้องคุยกัน ไม่มีพรรคการเมืองอื่น ท้ังนี้ในการคัดเลือกบุคคลให้ดำรงตำแหน่งของพรรคเพื่อไทย เท่าที่พูดคุยมีตัวเลือกที่มาก ซึ่งไม่ใช่เรื่องยาก ตามกลไกของพรรคจะหาข้อสรุปได้ไม่ยาก
“
สเปคของรองประธานสภาฯ ที่พรรคเพื่อไทยจะคัดเลือก เท่าที่คุย คือ ประสบการณ์ ต้องเป็นส.ส.และอยู่ในสภาฯพอสมควร และมีวุฒิภาวะ เพราะคนที่เป็นประธานรองประธานหากวุฒิภาวะไม่ได้จะยุ่ง ผมมองว่า 2 ข้อนั้นสำคัญ ส่วนที่มีคนระบุว่าให้คัดเลือกบุคคลที่ได้มาตรฐานอย่างนายชวน หลีกภัย อดีตประธานสภาฯ นั้น ผมมองว่าต้องยึดมาตรฐานดังกล่าว แต่บุคลิกอาจจะไม่เท่า เพราะคนหนุ่มที่แม่นข้อบังคับสามารถทำได้” นาย
สุทิน กล่าว
ต่อข้อถามถึงกระแสที่นพ.
ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย มีชื่อเป็นแคนดิเดตประธานสภาฯ ด้วย นาย
สุทิน กล่าวยอมรับว่า “
คิดๆ กันไว้ หากนพ.ชลน่าน ได้เป็นประธานสภาฯ ต้องพิจารณาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค เพราะประธานฯต้องเป็นกลาง แต่ไม่ใช่เรื่องยาก กลไกของพรรคเพื่อไทยทำได้ และมีตัวเลือกเยอะ
เศรษฐา เห็นศักยภาพ ‘แพร่’ เผยหาก พท.ได้มีส่วนร่วม พร้อมดันจังหวัดให้เจริญก้าวหน้าขึ้น
https://www.matichon.co.th/politics/news_4038058
‘เศรษฐา’ บอก ‘แพร่’ มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยว ชี้รัฐบาลใหม่ต้องผลักดันเมืองรองให้เติบโต ขณะที่ ‘วรวัจน์’ โว พท.คือความหวังแก้ ศก.ปากท้อง
เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน ที่ จ.แพร่ นาย
เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย (พท.) และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวภายหลังร่วมสัมมนากับ 24 องค์กร จ.แพร่ ว่ามาครั้งนี้ได้ข้อมูลครบถ้วนเพราะ ว่าที่ ส.ส.แพร่ พรรค พท.ทั้ง 3 คน นำโดย นาย
วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ที่มีความผูกพันในพื้นที่มานานและนำเอานักธุรกิจ สภาการท่องเที่ยวและวิสาหกิจชุมชนมาร่วมในครั้งนี้ ทำให้เราเห็นศักยภาพ ปัญหารวมทั้งอนาคตของ จ.แพร่ ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวที่สามารถทำให้ดีขึ้นได้ รวมถึงกรณีที่สายการบินมีการยกเลิกเที่ยวบิน ไม่ใช่ว่าไม่มีนักท่องเที่ยว แต่เป็นเพราะสายการบินไปบินในเส้นทางอื่นที่ได้กำไรเยอะขึ้น รวมถึงห้องพักโรงแรมที่มีน้อยไม่ถึง 2 พันห้อง
นาย
เศรษฐากล่าวต่อว่า จ.แพร่ เป็นจังหวัดที่น่าสนใจเพราะมีโบราณสถานเยอะมาก เป็นหน้าที่ของรัฐบาลใหม่ที่หากพรรค พท.เข้าไปมีส่วนร่วมจะทำให้ จ.แพร่ ซึ่งเป็นเมืองรองเจริญก้าวหน้าขึ้นมาได้ หากเราทำได้จะสามารถส่งเสริมการท่องเที่ยวให้ดีขึ้นได้มาก
ด้านนาย
วรวัจน์กล่าวว่า ความคิดของคน จ.แพร่ เขาคิดว่าช่วง 9-10 ปีที่ผ่านมาเขาเสียโอกาสมามากในการพัฒนาจังหวัดของเรา แต่ปัญหาสำคัญที่สุดคือปัญหาด้านเศรษฐกิจ การแก้ไขปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชน จ.แพร่ มองว่าหากเป็นพรรค พท.การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทยจนถึงพรรคพลังประชาชนสามารถทำได้ดีมาก และเขามีชีวิตความเป็นอยู่ได้ ดังนั้น คน จ.แพร่ บอกเลยว่าอย่างไรก็พรรค พท.ไม่เปลี่ยนแปลง เราเชื่อมั่นพรรค พท.ในเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและปากท้อง นี่คือความรู้สึกของคน จ.แพร่ และคนในหลายๆ จังหวัดก็มีความคิดเช่นนี้
นาย
วรวัจน์กล่าวต่อว่า คิดว่าจะเป็นวันเวลาที่พิสูจน์ว่าพรรค พท.เข้ามาแล้ว วันนี้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรค พท.มาที่ จ.แพร่แล้ว ทุกคนดีใจ วันนี้ท่านมารับฟังปัญหาเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง เพื่อนำไปสู่การแก้ไข นี่คือการทำงานทางการเมืองที่แตกต่างกัน นี่คือจุดแข็งของพรรค พท.ที่ทำให้ทุกจังหวัดเห็นว่าพรรค พท.เท่านั้นคือความหวังในการอยู่ดีกินดี รวมทั้งอนาคตของพี่น้องประชาชน
“
พรรคเพื่อไทยไม่ได้เพิ่งเริ่มทำงานใน จ.แพร่ ตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชนมาจนถึงพรรคเพื่อไทย ชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องที่ดีขึ้นคือบทพิสูจน์ของการพัฒนา ทำให้คน จ.แพร่ มั่นใจว่าไม่ว่าในอดีตจนถึงอนาคต เพื่อไทยเป็นความหวังในการพัฒนาชีวิตครอบครัว มั่นใจว่า จ.แพร่ ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงไปจากพรรคเพื่อไทย” นาย
วรวัจน์กล่าว
JJNY : เปิดรายชื่อ 500 ส.ส.│‘สุทิน’ ชี้ ปธ.สภาฯ ไม่ใช่ตัวคุมเกม│เศรษฐา เห็นศักยภาพ ‘แพร่’│ยูเครนยึดหมู่บ้านคืน 8 แห่ง
https://www.matichon.co.th/politics/news_4038333
กกต.เปิดรายชื่อ 500 ส.ส. “แบ่งเขต-ปาร์ตี้ลิสต์” ชวนประชาชนร่วมตรวจรายชื่อผ่านเว็บไซต์
เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)เปิดเผยประกาศภายหลัง กกต. ได้ตรวจสอบเบื้องต้น หลังการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา ว่ามีเหตุอันควรเชื่อว่าผลการเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม และได้รับผลรวมคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ และได้คำนวณสัดส่วนเพื่อหาผู้ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว จึงขอประกาศรายชื่อผู้ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง จำนวน 400 คน และแบบบัญชีรายชื่อ จำนวน 100 คน จึงขอแจ้งให้ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ที่ได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส.ตามประกาศ รับหนังสือรับรองการได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ในวันที่ 20 – 24 มิถุนายน 2566 เวลา 08.30 – 16.30 น.
กรณีที่ผู้สมัครไม่สามารถมารับหนังสือรับรองได้ด้วยตัวเอง ให้ทำหนังสือมอบอำนาจ พร้อมรับรองสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจมาในวันดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้ ภายหลังประกาศผลการเลือกตั้งแล้ว ถ้ามีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทำการอันเป็นการทุจริตในการเลือกตั้ง หรือรู้เห็นกับการกระทำของบุคคลอื่น คณะกรรมการการเลือกตั้งต้องยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อสั่งให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้น และสามารถตรวจดูรายชื่อผู้ได้รับเลือกตั้งในราชกิจจานุเบกษา เว็บไซต์ของสำนักงาน กกต.
อ่านรายละเอียด :
ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้งเรื่อง ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ
อ่านที่นี่ ประกาศ กกต. ผลการเลือกตั้งแบบบัญชีฯ
ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้งเรื่อง ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง
อ่านที่นี่ประกาศ กกต. ผลการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตฯ
‘สุทิน’ ยันประธานสภาฯ เป็นของก้าวไกล เพื่อถอดสลักให้ตั้งรบ.ได้ ชี้ปธ.สภาฯ ไม่ใช่ตัวคุมเกมเบ็ดเสร็จ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4038221
‘สุทิน’ ยันประธานสภาฯ เป็นของก้าวไกล เพื่อถอดสลักให้ตั้งรัฐบาลได้ ชี้ปธ.สภาฯ ไม่ใช่ตัวคุมเกมเบ็ดเสร็จ เผยหาก ‘หมอชลน่าน’ เป็นประธานสภาฯ ต้องลาออกจาก หน.พท. เพื่อความเป็นกลาง
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 มิถุนายน ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย(พท.)ให้สัมภาษณ์ที่รัฐสภา ว่า วันนี้ตนยังไม่ได้รายงานตัว เพราะส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ทั้งหมดจะเข้ารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร พร้อมกันในวันที่ 22 มิถุนายนนี้ ทั้งนี้ตนมองการรับรองผลการเลือกตั้ง ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เมื่อ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา ถือว่าเป็นผลดีต่อการเดินหน้าของทุกฝ่าย อย่างไรก็ตามการประกาศรับรองส.ส. ทั้ง 500 คนมีความรอบคอบ แม้จะมีข่าวว่ามี ส.ส. 82 คนที่ยังรอตรวจสอบจาก กกต.อีกครั้ง โดยในส่วนของพรรคเพื่อไทย มี ส.ส.ที่คาดว่าจะถูกตรวจสอบ 20 คน นั้นตนไม่กังวล เพราะป็นเรื่องร้องเรียนเล็กๆ น้อยๆ เช่น การติดตั้งป้ายหาเสียงใกล้หน่วยเลือกตั้ง การติดตั้งป้ายผิดที่ไม่ใช่เป็นเรื่องทุจริตการเลือกตั้ง และ ส.ส.ทุกคนที่ปรากฏชื่อพร้อมเข้าสู่กะบวนการชี้แจง
นายสุทิน กล่าวถึงความชัดเจนต่อการแบ่งโควต้าประธานสภาฯ ว่า เป็นการพูดคุยในระดับคณะกรรมการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ว่า ประธานสภาฯ จะเป็นของพรรคก้าวไกล และตามที่ข่าวระบุว่า พรรคเพื่อไทยยกตำแหน่งประธานสภาฯ ให้พรรคก้าวไกลนั้น เพราะเพื่อไทยต้องการให้การจัดตั้งรัฐบาลเดินหน้า ดังนั้นพรรคเพื่อไทยพร้อมถอดสลักเพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลเดินหน้าได้ ไม่ต้องติดขัด ไม่เช่นนั้นจะติดขัดเดินหน้าไปไม่ได้
เมื่อถามว่าประเด็นของก้าวไกลต่อความพยายามผลักดันร่างกฎหมายที่สังคมมองว่ามีปัญหา ดังนั้นหากประธานสภาฯ เป็นของก้าวไกลจะทำให้เกิดชนวนวุ่ยวายทางการเมืองหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ประธานสภาฯ ไม่สามารถผลักดันอะไรได้ด้วยตนเอง ทั้งการบรรจุวาระ ต้องคำนึงถึงข้อบังคับและฟังเสียง ของส.ส. ประธานสภาฯต้องถูกกำกับและถ่วงดุลของส.ส.
เมื่อถามย้ำว่าเพื่อไทยมองว่าแม้ยกตำแหน่งประธานสภาฯให้พรรคก้าวไกล ก็ไม่ใช่คนคุมเกมเบ็ดเสร็จหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า เรามองอย่างนั้น และยังมองว่าตำแหน่งประธานสภาฯ ไม่สามารถคิดตามใจตนเองได้ ต้องยึดกรอบของข้อบังคับ
เมื่อถามถึงการแบ่งโควต้าของรองประธานสภาฯ นายสุทินว่า เป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกลต้องคุยกัน ไม่มีพรรคการเมืองอื่น ท้ังนี้ในการคัดเลือกบุคคลให้ดำรงตำแหน่งของพรรคเพื่อไทย เท่าที่พูดคุยมีตัวเลือกที่มาก ซึ่งไม่ใช่เรื่องยาก ตามกลไกของพรรคจะหาข้อสรุปได้ไม่ยาก
“สเปคของรองประธานสภาฯ ที่พรรคเพื่อไทยจะคัดเลือก เท่าที่คุย คือ ประสบการณ์ ต้องเป็นส.ส.และอยู่ในสภาฯพอสมควร และมีวุฒิภาวะ เพราะคนที่เป็นประธานรองประธานหากวุฒิภาวะไม่ได้จะยุ่ง ผมมองว่า 2 ข้อนั้นสำคัญ ส่วนที่มีคนระบุว่าให้คัดเลือกบุคคลที่ได้มาตรฐานอย่างนายชวน หลีกภัย อดีตประธานสภาฯ นั้น ผมมองว่าต้องยึดมาตรฐานดังกล่าว แต่บุคลิกอาจจะไม่เท่า เพราะคนหนุ่มที่แม่นข้อบังคับสามารถทำได้” นายสุทิน กล่าว
ต่อข้อถามถึงกระแสที่นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย มีชื่อเป็นแคนดิเดตประธานสภาฯ ด้วย นายสุทิน กล่าวยอมรับว่า “คิดๆ กันไว้ หากนพ.ชลน่าน ได้เป็นประธานสภาฯ ต้องพิจารณาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค เพราะประธานฯต้องเป็นกลาง แต่ไม่ใช่เรื่องยาก กลไกของพรรคเพื่อไทยทำได้ และมีตัวเลือกเยอะ
เศรษฐา เห็นศักยภาพ ‘แพร่’ เผยหาก พท.ได้มีส่วนร่วม พร้อมดันจังหวัดให้เจริญก้าวหน้าขึ้น
https://www.matichon.co.th/politics/news_4038058
‘เศรษฐา’ บอก ‘แพร่’ มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยว ชี้รัฐบาลใหม่ต้องผลักดันเมืองรองให้เติบโต ขณะที่ ‘วรวัจน์’ โว พท.คือความหวังแก้ ศก.ปากท้อง
เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน ที่ จ.แพร่ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย (พท.) และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวภายหลังร่วมสัมมนากับ 24 องค์กร จ.แพร่ ว่ามาครั้งนี้ได้ข้อมูลครบถ้วนเพราะ ว่าที่ ส.ส.แพร่ พรรค พท.ทั้ง 3 คน นำโดย นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ที่มีความผูกพันในพื้นที่มานานและนำเอานักธุรกิจ สภาการท่องเที่ยวและวิสาหกิจชุมชนมาร่วมในครั้งนี้ ทำให้เราเห็นศักยภาพ ปัญหารวมทั้งอนาคตของ จ.แพร่ ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวที่สามารถทำให้ดีขึ้นได้ รวมถึงกรณีที่สายการบินมีการยกเลิกเที่ยวบิน ไม่ใช่ว่าไม่มีนักท่องเที่ยว แต่เป็นเพราะสายการบินไปบินในเส้นทางอื่นที่ได้กำไรเยอะขึ้น รวมถึงห้องพักโรงแรมที่มีน้อยไม่ถึง 2 พันห้อง
นายเศรษฐากล่าวต่อว่า จ.แพร่ เป็นจังหวัดที่น่าสนใจเพราะมีโบราณสถานเยอะมาก เป็นหน้าที่ของรัฐบาลใหม่ที่หากพรรค พท.เข้าไปมีส่วนร่วมจะทำให้ จ.แพร่ ซึ่งเป็นเมืองรองเจริญก้าวหน้าขึ้นมาได้ หากเราทำได้จะสามารถส่งเสริมการท่องเที่ยวให้ดีขึ้นได้มาก
ด้านนายวรวัจน์กล่าวว่า ความคิดของคน จ.แพร่ เขาคิดว่าช่วง 9-10 ปีที่ผ่านมาเขาเสียโอกาสมามากในการพัฒนาจังหวัดของเรา แต่ปัญหาสำคัญที่สุดคือปัญหาด้านเศรษฐกิจ การแก้ไขปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชน จ.แพร่ มองว่าหากเป็นพรรค พท.การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทยจนถึงพรรคพลังประชาชนสามารถทำได้ดีมาก และเขามีชีวิตความเป็นอยู่ได้ ดังนั้น คน จ.แพร่ บอกเลยว่าอย่างไรก็พรรค พท.ไม่เปลี่ยนแปลง เราเชื่อมั่นพรรค พท.ในเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและปากท้อง นี่คือความรู้สึกของคน จ.แพร่ และคนในหลายๆ จังหวัดก็มีความคิดเช่นนี้
นายวรวัจน์กล่าวต่อว่า คิดว่าจะเป็นวันเวลาที่พิสูจน์ว่าพรรค พท.เข้ามาแล้ว วันนี้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรค พท.มาที่ จ.แพร่แล้ว ทุกคนดีใจ วันนี้ท่านมารับฟังปัญหาเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง เพื่อนำไปสู่การแก้ไข นี่คือการทำงานทางการเมืองที่แตกต่างกัน นี่คือจุดแข็งของพรรค พท.ที่ทำให้ทุกจังหวัดเห็นว่าพรรค พท.เท่านั้นคือความหวังในการอยู่ดีกินดี รวมทั้งอนาคตของพี่น้องประชาชน
“พรรคเพื่อไทยไม่ได้เพิ่งเริ่มทำงานใน จ.แพร่ ตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชนมาจนถึงพรรคเพื่อไทย ชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องที่ดีขึ้นคือบทพิสูจน์ของการพัฒนา ทำให้คน จ.แพร่ มั่นใจว่าไม่ว่าในอดีตจนถึงอนาคต เพื่อไทยเป็นความหวังในการพัฒนาชีวิตครอบครัว มั่นใจว่า จ.แพร่ ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงไปจากพรรคเพื่อไทย” นายวรวัจน์กล่าว