‘ชลน่าน’ คาด ‘บิ๊กตู่’ ประกาศยุบสภา ห่วง Money Politics สะพัด จี้ กกต.คุมทุจริต
https://www.matichon.co.th/politics/news_3752378
‘ชลน่าน’ คาด ‘บิ๊กตู่’ ประกาศยุบสภา ห่วง Money Politics สะพัด จี้ กกต.คุมทุจริต มั่นใจเพื่อไทยแลนด์สไลด์
เมื่อวันที่ 1 มกราคม นพ.
ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองในปี 2566 ว่าแน่นอนว่าต้องมีการเลือกตั้ง และคาดว่ามีแนวโน้มสูงที่จะยุบสภา แต่เงื่อนไขทางการเมืองในตัวของ พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็มีความพร้อมทุกอย่าง จึงไม่จำเป็นต้องประกาศยุบสภาก็ได้เพื่ออยู่ให้ครบเทอม แต่ฝ่ายการเมืองก็คาดการณ์ว่าเป็นไปได้น้อยมาก เพราะการยุบสภาเอื้อประโยชน์ต่อ พล.อ.
ประยุทธ์ ได้มากกว่า
นพ.
ชลน่านกล่าวด้วยว่า เมื่อเข้าสู่การเลือกตั้งจะมีการแข่งขันสูงมากในปีนี้ สิ่งที่เป็นห่วงและกังวลคือ “Money Politics” ทั้งการใช้เงิน ใช้ทอง และใช้อำนาจรัฐหรือบารมี ในการเลือกตั้ง ซึ่งเรามองว่าในปีนี้จะมีการใช้ “Money Politics” ค่อนข้างสูงมาก ทั้งนี้ ทุกคนทุกฝ่ายต้องปฏิบัติตามระเบียบกติกาตามกฎหมายของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นที่ตั้ง เพื่อให้เกิดการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม
“
เรียกร้องให้ กกต.ช่วยเฝ้าดูอย่าให้มันมีลักษณะที่ปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำความผิดอย่างโจ่งแจ้ง และเราเองก็จะเตรียมพร้อมสำหรับเรื่องนี้ ทั้งผู้สังเกตการณ์ คอยดูและติดตามว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มันจะเกิดภาวะที่ไม่สุจริตหรือไม่” นพ.
ชลน่านกล่าว
เมื่อถามว่า การเลือกตั้งในครั้งนี้พรรค พท.จะแลนด์สไลด์ตามที่ตั้งเป้าไว้หรือไม่ นพ.
ชลน่านกล่าวว่า เรามั่นใจจะสามารถเข้าสู่เป้าหมายแลนด์สไลด์ได้ ไม่ว่า พล.อ.
ประยุทธ์ จะอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และประกาศตัวเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ซึ่งตนกลับมองมุมบวกว่าจะเป็นแรงผลักให้พรรค พท. หาเสียงบอกกับพี่น้องประชาชนได้ง่ายขึ้น
‘เพื่อไทย’ คาดได้วันอภิปราย 152 ปลาย ม.ค.นี้ เผยเตรียมขุนพลเรียบร้อยแล้ว
https://www.matichon.co.th/politics/news_3752405
‘เพื่อไทย’ คาดได้วันอภิปราย 152 ปลาย ม.ค.นี้ เผยเตรียมขุนพลเรียบร้อยแล้ว
เมื่อวันที่ 1 มกราคม นพ.
ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการยื่นอภิปรายรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ว่าขณะนี้ได้มีการยื่นญัตติเรียบร้อยแล้ว ซึ่งหากภายใน 7 วัน นาย
ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ไม่ได้แจ้งอะไรกลับมาก็ต้องรอท่านบรรจุเข้าระเบียบวาระ หลังจากนั้นก็จะมีการนัดประชุมวิป และเรื่องก็จะถูกส่งไปที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่ง ครม.ก็จะเอาเข้าสู่ที่ประชุมว่าจะมีความเห็นอย่างไร จะให้อภิปรายได้วันไหน หลังจากนั้นวิปฝ่ายค้าน วิปรัฐบาล และตัวแทนของ ครม.ก็จะมาปรึกษาหารือกันเรื่องวันเวลา ทั้งนี้ คาดว่าจะได้อภิปรายช่วงปลายเดือนมกราคม
เมื่อถามว่าประเด็นที่พรรค พท.จะอภิปรายมุ่งไปที่เรื่องอะไรบ้าง นพ.ชลน่านกล่าวว่า ครอบคลุมทุกเรื่องคือเป็นผลการบริหารแผ่นดินที่ผ่านมา 4 ปี โดยในปี 2565 มีประเด็นให้ซักถามข้อเท็จจริง และมีประเด็นที่เราต้องเสนอแนะรัฐบาลเยอะ อย่างไรก็ตาม สำหรับพรรค พท.เราได้วางตัวขุนพลไว้หมดแล้ว เหลือเพียงการซักซ้อมการอภิปราย การกำหนดเวลาที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งเราได้ตั้ง นาย
สุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคามและรองหัวหน้าพรรค พท. ประธานวิปฝ่ายค้าน ให้เป็นหัวหน้าคณะในการดำเนินการเรื่องนี้
เมื่อถามถึงกรณีที่ นาย
วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี มองว่าการอภิปราย มาตรา 152 ถือเป็นการชี้แจงผลงานของรัฐบาล นพ.ชลน่านกล่าวว่า เขาก็มีโอกาส หากเราสอบถามข้อเท็จจริงไปเขาก็ย่อมมีโอกาสที่จะนำผลงานของเขามาชี้แจงในสภาได้ หากคิดในแง่บวกเขาก็มีโอกาสแถลงผลงานได้ด้วย
‘ก้าวไกล’ ลั่น อยากทำงานจนวินาทีสุดท้าย ไม่อยากให้นำเงื่อนไข-ประโยชน์พรรคการเมืองเป็นตัวตั้งยุบสภา
https://www.matichon.co.th/politics/news_3752531
‘ก้าวไกล’ ลั่น อยากทำงานจนวินาทีสุดท้าย ไม่อยากให้นำเงื่อนไข-ประโยชน์พรรคการเมืองเป็นตัวตั้งยุบสภา ชี้ ‘ชวน’ พูดไม่ผิด เพราะเราคาดการณ์ไว้
เมื่อวันที่ 1 มกราคม นาย
ณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นาย
ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่าจะมีการยุบสภาก่อนวันที่ 23 มีนาคม 2566 จะถือเป็นการชิงความได้เปรียบในการย้ายพรรคของ ส.ส.หรือไม่ ว่าการย้ายพรรคของ ส.ส.ขึ้นอยู่ 2 เงื่อนไขคือ การที่สภาอยู่ครบวาระ ซึ่ง ส.ส.จะต้องย้ายพรรคก่อนไม่น้อยกว่า 90 วัน หรือหากเป็นกรณีที่สภาอยู่ไม่ครบวาระ ส.ส.จะต้องย้ายสังกัดพรรคใหม่ภายใน 30 วัน แต่ประเด็นขณะนี้ตนไม่คิดว่าจะเกี่ยวกับการย้ายพรรค เพราะเกือบ 70-80% ของ ส.ส. หรือแม้กระทั่งคนที่เตรียมจะลงสมัครเลือกตั้ง ส่วนใหญ่ก็เลือกแล้วว่าจะสังกัดอยู่พรรคการเมืองใด หรือบางคนที่ไม่ได้รับการเคาะโดยพรรคก็อาจจะมีการย้ายพรรค หากยังประสงค์ที่จะลง ส.ส.
นาย
ณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า สิ่งที่นายชวนพูดก็ไม่ได้ผิดไปจากความคาดหมาย เพราะจริงๆ แล้วก็เป็นประเด็นที่เราเห็นตรงกันว่าไม่ได้เกี่ยวกับตัว ส.ส. ไม่ได้เกี่ยวกับตัวพรรคการเมือง แต่ตอนนี้เกี่ยวกับคนที่ อยากอยู่ในตำแหน่ง หรืออยู่ในอำนาจต่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของพรรคฝ่ายรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นพรรคที่มีอยู่แล้ว เช่น พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หรือพรรคที่กำลังจะเกิดใหม่ เช่น พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)
นาย
ณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า เท่าที่เราทราบมาพรรค รทสช.เองก็ยังไม่มีความพร้อมในการที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากตามกติกาใหม่จะต้องมีการตั้งตัวแทนประจำจังหวัด (ตทจ.) อย่างน้อยจังหวัดละ 1 คน แต่จะโทษพรรค รทสช.ก็ไม่ได้ เพราะจริงๆ แล้วเป็นปัญหาของทุกพรรค แต่พรรคที่เกิดมานานแล้ว หรือเกิดมาก่อน ก็จะมีความพร้อมในด้านนี้ไปค่อนข้างมาก แต่พรรคที่เกิดขึ้นใหม่ หรือพรรคที่เพิ่งเกิดขึ้นเพื่อรองรับการสืบทอดอำนาจโดยเฉพาะพรรค รทสช.ของ พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ท่านบอกว่าจะลงรับสมัครและเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเบอร์ 1 ของพรรคนั้นยังไม่มีความพร้อม
นาย
ณัฐวุฒิกล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ สิ่งที่นายชวนพูดก็ไม่ผิดอะไร และเป็นสิ่งเดียวกับที่เราคาดการณ์ไว้ เพียงแต่เขาจะแต่งองค์ทรงเครื่องแล้วว่าจะพอเมื่อไหร่ เห็นว่าตัวเองอาจจะอยู่ในเงื่อนไขที่ได้เปรียบในทางการเมือง เขาก็จะตัดสินใจยุบสภามากกว่า
“
สำหรับพรรคก้าวไกล มองว่าหากเป็นกรณีเช่นนั้นก็น่าเสียดายเวลา หรือเสียดายโอกาส เพราะจะเห็นได้ว่าในปัจจุบันยังมีกฎหมายที่ค้างการพิจารณาอยู่จำนวนมาก ฉะนั้น เราอยากทำงานจนถึงวินาทีสุดท้าย ซึ่งแม้สมัยประชุมจะปิดก็ยังมีอำนาจที่จะเปิดประชุมสมัยวิสามัญได้จนถึงวันที่ 23 มีนาคม เราอยากให้มีการเน้นที่ภารกิจงานที่เหลือมากกว่า และเป็นสิ่งที่รัฐบาลควรให้ความสำคัญมากกว่าเราด้วยซ้ำ เพราะกฎหมายเป็นเครื่องมือของรัฐบาล เสียดายที่เราไม่รู้ว่ารัฐบาลจะมองแบบที่เรามองหรือไม่ เราไม่อยากให้เอาเงื่อนไขทางการเมืองหรือประโยชน์ของพรรคใดพรรคหนึ่งมาเป็นตัวตั้งในการยุบสภา” นาย
ณัฐวุฒิกล่าว
JJNY : ‘ชลน่าน’คาด‘ตู่’ยุบสภา│‘เพื่อไทย’คาดได้วันอภิปราย│‘ก้าวไกล’ลั่นอยากทำงานจนวินาทีสุดท้าย│อั้นไม่ไหว ต้นทุนค้ำคอ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3752378
เมื่อวันที่ 1 มกราคม นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองในปี 2566 ว่าแน่นอนว่าต้องมีการเลือกตั้ง และคาดว่ามีแนวโน้มสูงที่จะยุบสภา แต่เงื่อนไขทางการเมืองในตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็มีความพร้อมทุกอย่าง จึงไม่จำเป็นต้องประกาศยุบสภาก็ได้เพื่ออยู่ให้ครบเทอม แต่ฝ่ายการเมืองก็คาดการณ์ว่าเป็นไปได้น้อยมาก เพราะการยุบสภาเอื้อประโยชน์ต่อ พล.อ.ประยุทธ์ ได้มากกว่า
นพ.ชลน่านกล่าวด้วยว่า เมื่อเข้าสู่การเลือกตั้งจะมีการแข่งขันสูงมากในปีนี้ สิ่งที่เป็นห่วงและกังวลคือ “Money Politics” ทั้งการใช้เงิน ใช้ทอง และใช้อำนาจรัฐหรือบารมี ในการเลือกตั้ง ซึ่งเรามองว่าในปีนี้จะมีการใช้ “Money Politics” ค่อนข้างสูงมาก ทั้งนี้ ทุกคนทุกฝ่ายต้องปฏิบัติตามระเบียบกติกาตามกฎหมายของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นที่ตั้ง เพื่อให้เกิดการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม
“เรียกร้องให้ กกต.ช่วยเฝ้าดูอย่าให้มันมีลักษณะที่ปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำความผิดอย่างโจ่งแจ้ง และเราเองก็จะเตรียมพร้อมสำหรับเรื่องนี้ ทั้งผู้สังเกตการณ์ คอยดูและติดตามว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มันจะเกิดภาวะที่ไม่สุจริตหรือไม่” นพ.ชลน่านกล่าว
เมื่อถามว่า การเลือกตั้งในครั้งนี้พรรค พท.จะแลนด์สไลด์ตามที่ตั้งเป้าไว้หรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า เรามั่นใจจะสามารถเข้าสู่เป้าหมายแลนด์สไลด์ได้ ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และประกาศตัวเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ซึ่งตนกลับมองมุมบวกว่าจะเป็นแรงผลักให้พรรค พท. หาเสียงบอกกับพี่น้องประชาชนได้ง่ายขึ้น
‘เพื่อไทย’ คาดได้วันอภิปราย 152 ปลาย ม.ค.นี้ เผยเตรียมขุนพลเรียบร้อยแล้ว
https://www.matichon.co.th/politics/news_3752405
‘เพื่อไทย’ คาดได้วันอภิปราย 152 ปลาย ม.ค.นี้ เผยเตรียมขุนพลเรียบร้อยแล้ว
เมื่อวันที่ 1 มกราคม นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการยื่นอภิปรายรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ว่าขณะนี้ได้มีการยื่นญัตติเรียบร้อยแล้ว ซึ่งหากภายใน 7 วัน นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ไม่ได้แจ้งอะไรกลับมาก็ต้องรอท่านบรรจุเข้าระเบียบวาระ หลังจากนั้นก็จะมีการนัดประชุมวิป และเรื่องก็จะถูกส่งไปที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่ง ครม.ก็จะเอาเข้าสู่ที่ประชุมว่าจะมีความเห็นอย่างไร จะให้อภิปรายได้วันไหน หลังจากนั้นวิปฝ่ายค้าน วิปรัฐบาล และตัวแทนของ ครม.ก็จะมาปรึกษาหารือกันเรื่องวันเวลา ทั้งนี้ คาดว่าจะได้อภิปรายช่วงปลายเดือนมกราคม
เมื่อถามว่าประเด็นที่พรรค พท.จะอภิปรายมุ่งไปที่เรื่องอะไรบ้าง นพ.ชลน่านกล่าวว่า ครอบคลุมทุกเรื่องคือเป็นผลการบริหารแผ่นดินที่ผ่านมา 4 ปี โดยในปี 2565 มีประเด็นให้ซักถามข้อเท็จจริง และมีประเด็นที่เราต้องเสนอแนะรัฐบาลเยอะ อย่างไรก็ตาม สำหรับพรรค พท.เราได้วางตัวขุนพลไว้หมดแล้ว เหลือเพียงการซักซ้อมการอภิปราย การกำหนดเวลาที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งเราได้ตั้ง นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคามและรองหัวหน้าพรรค พท. ประธานวิปฝ่ายค้าน ให้เป็นหัวหน้าคณะในการดำเนินการเรื่องนี้
เมื่อถามถึงกรณีที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี มองว่าการอภิปราย มาตรา 152 ถือเป็นการชี้แจงผลงานของรัฐบาล นพ.ชลน่านกล่าวว่า เขาก็มีโอกาส หากเราสอบถามข้อเท็จจริงไปเขาก็ย่อมมีโอกาสที่จะนำผลงานของเขามาชี้แจงในสภาได้ หากคิดในแง่บวกเขาก็มีโอกาสแถลงผลงานได้ด้วย
‘ก้าวไกล’ ลั่น อยากทำงานจนวินาทีสุดท้าย ไม่อยากให้นำเงื่อนไข-ประโยชน์พรรคการเมืองเป็นตัวตั้งยุบสภา
https://www.matichon.co.th/politics/news_3752531
‘ก้าวไกล’ ลั่น อยากทำงานจนวินาทีสุดท้าย ไม่อยากให้นำเงื่อนไข-ประโยชน์พรรคการเมืองเป็นตัวตั้งยุบสภา ชี้ ‘ชวน’ พูดไม่ผิด เพราะเราคาดการณ์ไว้
เมื่อวันที่ 1 มกราคม นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่าจะมีการยุบสภาก่อนวันที่ 23 มีนาคม 2566 จะถือเป็นการชิงความได้เปรียบในการย้ายพรรคของ ส.ส.หรือไม่ ว่าการย้ายพรรคของ ส.ส.ขึ้นอยู่ 2 เงื่อนไขคือ การที่สภาอยู่ครบวาระ ซึ่ง ส.ส.จะต้องย้ายพรรคก่อนไม่น้อยกว่า 90 วัน หรือหากเป็นกรณีที่สภาอยู่ไม่ครบวาระ ส.ส.จะต้องย้ายสังกัดพรรคใหม่ภายใน 30 วัน แต่ประเด็นขณะนี้ตนไม่คิดว่าจะเกี่ยวกับการย้ายพรรค เพราะเกือบ 70-80% ของ ส.ส. หรือแม้กระทั่งคนที่เตรียมจะลงสมัครเลือกตั้ง ส่วนใหญ่ก็เลือกแล้วว่าจะสังกัดอยู่พรรคการเมืองใด หรือบางคนที่ไม่ได้รับการเคาะโดยพรรคก็อาจจะมีการย้ายพรรค หากยังประสงค์ที่จะลง ส.ส.
นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า สิ่งที่นายชวนพูดก็ไม่ได้ผิดไปจากความคาดหมาย เพราะจริงๆ แล้วก็เป็นประเด็นที่เราเห็นตรงกันว่าไม่ได้เกี่ยวกับตัว ส.ส. ไม่ได้เกี่ยวกับตัวพรรคการเมือง แต่ตอนนี้เกี่ยวกับคนที่ อยากอยู่ในตำแหน่ง หรืออยู่ในอำนาจต่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของพรรคฝ่ายรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นพรรคที่มีอยู่แล้ว เช่น พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หรือพรรคที่กำลังจะเกิดใหม่ เช่น พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)
นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า เท่าที่เราทราบมาพรรค รทสช.เองก็ยังไม่มีความพร้อมในการที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากตามกติกาใหม่จะต้องมีการตั้งตัวแทนประจำจังหวัด (ตทจ.) อย่างน้อยจังหวัดละ 1 คน แต่จะโทษพรรค รทสช.ก็ไม่ได้ เพราะจริงๆ แล้วเป็นปัญหาของทุกพรรค แต่พรรคที่เกิดมานานแล้ว หรือเกิดมาก่อน ก็จะมีความพร้อมในด้านนี้ไปค่อนข้างมาก แต่พรรคที่เกิดขึ้นใหม่ หรือพรรคที่เพิ่งเกิดขึ้นเพื่อรองรับการสืบทอดอำนาจโดยเฉพาะพรรค รทสช.ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ท่านบอกว่าจะลงรับสมัครและเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเบอร์ 1 ของพรรคนั้นยังไม่มีความพร้อม
นายณัฐวุฒิกล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ สิ่งที่นายชวนพูดก็ไม่ผิดอะไร และเป็นสิ่งเดียวกับที่เราคาดการณ์ไว้ เพียงแต่เขาจะแต่งองค์ทรงเครื่องแล้วว่าจะพอเมื่อไหร่ เห็นว่าตัวเองอาจจะอยู่ในเงื่อนไขที่ได้เปรียบในทางการเมือง เขาก็จะตัดสินใจยุบสภามากกว่า
“สำหรับพรรคก้าวไกล มองว่าหากเป็นกรณีเช่นนั้นก็น่าเสียดายเวลา หรือเสียดายโอกาส เพราะจะเห็นได้ว่าในปัจจุบันยังมีกฎหมายที่ค้างการพิจารณาอยู่จำนวนมาก ฉะนั้น เราอยากทำงานจนถึงวินาทีสุดท้าย ซึ่งแม้สมัยประชุมจะปิดก็ยังมีอำนาจที่จะเปิดประชุมสมัยวิสามัญได้จนถึงวันที่ 23 มีนาคม เราอยากให้มีการเน้นที่ภารกิจงานที่เหลือมากกว่า และเป็นสิ่งที่รัฐบาลควรให้ความสำคัญมากกว่าเราด้วยซ้ำ เพราะกฎหมายเป็นเครื่องมือของรัฐบาล เสียดายที่เราไม่รู้ว่ารัฐบาลจะมองแบบที่เรามองหรือไม่ เราไม่อยากให้เอาเงื่อนไขทางการเมืองหรือประโยชน์ของพรรคใดพรรคหนึ่งมาเป็นตัวตั้งในการยุบสภา” นายณัฐวุฒิกล่าว