เกษตรกรไทยความสุขลดลง สศก. จี้รัฐแก้ขาดแคลนที่ดิน-แหล่งน้ำ-ราคาสินค้า
https://www.khaosod.co.th/economics/news_7722277
นาย
ฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า สศก. ได้จัดทำดัชนีความผาสุกของเกษตรกรเป็นประจำทุกปี เพื่อสะท้อนถึงปัจจัยที่มีผลต่อคุณภาพชีวิตของเกษตรกรไทย รวมทั้งใช้เป็นตัวชี้วัดของแผนพัฒนาการเกษตร ในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 – 2565) และแผนปฏิบัติการด้านการเกษตรและสหกรณ์ พ.ศ. 2566-2570 โดยดัชนีความผาสุกของเกษตรกร ประกอบด้วย 5 ด้าน คือ ด้านเศรษฐกิจ ด้านสุขอนามัย ด้านการศึกษา ด้านสังคม และด้านสิ่งแวดล้อม
สำหรับดัชนีความผาสุกของเกษตรกรระดับประเทศ ปี 2565 มีค่าอยู่ที่ระดับ 80.46 เป็นการพัฒนาอยู่ในระดับดี ลดลงจากปี 2564 ซึ่งมีค่าอยู่ที่ระดับ 81.10 และเมื่อพิจารณาดัชนีความผาสุกของเกษตรกรในแต่ละภูมิภาค ในปี 2565 พบภาคกลางมีค่าดัชนีมากที่สุดอยู่ที่ระดับ 81.82 รองลงมา ได้แก่ ภาคใต้ อยู่ที่ระดับ 81.57 ภาคเหนือ อยู่ที่ระดับ 80.96 และภาคตะวันออกเฉียงเหนืออยู่ที่ระดับ 80.08 ซึ่งทุกภาคมีการพัฒนาอยู่ในระดับดี ปี 2565 มีรายละเอียดในแต่ละด้าน ดังนี้
ดัชนีด้านสุขอนามัย ภาพรวมระดับประเทศอยู่ที่ระดับ 99.85 เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ที่อยู่ในระดับ 98.77 ซึ่งจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด–19 ในช่วงที่ผ่านมา,ดัชนีด้านสังคม ภาพรวมระดับประเทศมีค่าอยู่ที่ระดับ 91.06 ลดลงจากปี 2564 ซึ่งมีค่าอยู่ที่ระดับ 92.64 เป็นการพัฒนาอยู่ในระดับดี ส่วนหนึ่งเป็นผลจากสมาชิกในครอบครัวมีการดูแลซึ่งกันและกัน,ดัชนีด้านเศรษฐกิจภาพรวมมีค่าอยู่ที่ระดับ 78.26 เป็นการพัฒนาอยู่ในระดับปานกลาง เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 77.31 โดยรายได้เงินสดสุทธิของครัวเรือนเกษตรมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ครัวเรือนเกษตรมีรายได้เงินสดจากนอกภาคเกษตรมากกว่ารายได้เงินสดทางการเกษตร 2.7 เท่า
สาเหตุมาจากเกษตรกรบางส่วนประสบปัญหาขาดแคลนที่ดินทำกินแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรมีไม่เพียงพอ รวมถึงผลผลิตมีราคาไม่แน่นอน ดัชนีด้านสิ่งแวดล้อม ภาพรวมระดับประเทศมีค่าอยู่ที่ระดับ 62.67 เป็นการพัฒนาอยู่ในระดับต้องปรับปรุง ลดลงจากปี 2564 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 64.49 เป็นการพัฒนาอยู่ในระดับต้องเร่งแก้ไข, ดัชนีด้านการศึกษา ภาพรวมระดับประเทศมีค่าอยู่ที่ระดับ 50.39 เป็นการพัฒนาอยู่ในระดับต้องเร่งแก้ไข ลดลงจากปี 2564 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 56.28
ดังนั้น สศก. แนะให้รัฐบาลสนับสนุนให้สมาชิกของครัวเรือนเกษตรได้รับการศึกษาที่สูงขึ้น ควรจัดสรรที่ดินทำกินให้ครัวเรือนเกษตรที่มีกรรมสิทธิ์ครอบครองที่ดินน้อย โดยเฉพาะภาคกลางและภาคเหนือ และกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรม ส่งเสริมให้ครัวเรือนเกษตรสามารถสร้างรายได้จากหลายแหล่ง
กสม. แถลงการณ์เรื่อง 'หยก' ชี้เด็กทุกคนต้องไม่ถูกตัดออกจากระบบการศึกษา
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7722384
กสม. แถลงการณ์เรื่อง ‘หยก’ ชี้เด็กทุกคนต้องไม่ถูกตัดออกจากระบบการศึกษา พร้อมเป็นหน่วยงานกลาง ในการเปิดพื้นที่พูดคุยร่วมกัน เพื่อหาทางออก
19 มิ.ย. 2566 – คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) แถลงการณ์ เรื่อง สิทธิเด็กกรณี “หยก” เยาวชนวัย 15 ปี ที่ไม่มีชื่อในระบบการศึกษาของรัฐ
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ระบุว่า
ได้ติดตามสถานการณ์ “หยก” ประสบปัญหาการเข้าถึงสิทธิทางการศึกษามาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ “หยก” ยังถูกควบคุมตัวอยู่ในสถานพินิจ โดยได้ประสานการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน กับ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ เพื่อให้ได้เข้าเรียน ซึ่ง “หยก” ได้เข้าเรียนเป็นเวลาเกือบหนึ่งเดือนแล้ว
ต่อมา โรงเรียนได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า ยังไม่ได้บันทึกชื่อของ “หยก” ในระบบจัดเก็บข้อมูลนักเรียนรายบุคคล เนื่องจากไม่มีผู้ปกครองมาดำเนินการมอบตัวตามเงื่อนไขที่กำหนด ทำให้ไม่มีสถานะเป็นนักเรียนของโรงเรียน
กสม. ยืนยันสิทธิทางการศึกษาเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ที่รัฐต้องประกันให้เด็กทุกคน อันสอดคล้องและเป็นไปตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ที่ประเทศไทยเป็นภาคีและมีพันธกรณีต้องปฏิบัติตาม การพิจารณาและดำเนินการใด ๆ ของโรงเรียนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นสำคัญ
กสม. เห็นว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ในฐานะหน่วยงานต้นสังกัดของโรงเรียน ควรเร่งพิจารณาหาทางแก้ไขปัญหาร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ “หยก” ได้อยู่ในระบบการศึกษา สำหรับกรณีปัญหาเกี่ยวกับผู้ปกครองตามมาตรา 4 และมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 นั้น กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวมถึงพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายดังกล่าวควรเข้ามาทำหน้าที่ร่วมกับทีมสหวิชาชีพเพื่อดูแล คุ้มครองสิทธิและสวัสดิภาพของเด็กเป็นการเร่งด่วน
ขณะเดียวกัน ทุกฝ่ายควรช่วยกันทำให้สถานการณ์คลี่คลาย และสร้างความเข้าใจต่อกันมากกว่าสร้างความขัดแย้ง และไม่ควรส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปในโรงเรียน
กสม. พร้อมเป็นหน่วยงานกลางในการเปิดพื้นที่พูดคุยร่วมกันของทุกฝ่ายเพื่อหาทางออกเรื่องดังกล่าว โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของเด็กรวมทั้งประโยชน์ส่วนรวม และจะประสานการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนกรณีของ “หยก” อย่างต่อเนื่องต่อไป เพราะเด็กทุกคนต้องไม่ถูกตัดออกจากระบบการศึกษาไม่ว่ากรณีใด
เศรษฐา ลุยน่านทัวร์ไร่กาแฟโกโก้ ชี้ตลาดโลกต้องการสูง เตรียมพบปะปชช.เดือนละ2ครั้ง
https://www.matichon.co.th/election66/movement/news_4037069
‘เศรษฐา’ ทัวร์น่านบุกไร่กาแฟโกโก้ ชี้ ความต้องการตลาดโลกสูง คาดราคาจะสูงขึ้น แนะแปรรูปสร้างรายได้ เจ้าตัวเผยจ่อลงพื้นที่พบ ปชช.เดือนละ 2 ครั้ง
เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.
ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมด้วยนาย
เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ลงพื้นที่ จ.น่าน เพื่อพบผู้ผลิตและวิสาหกิจผู้ปลูกกาแฟโกโก้ที่ห้องมูลนิธิพ่อสมชาย จากนั้นคณะเดินทางไปไร่กาแฟบริเวณหน้าสหกรณ์การเกษตรแม่จริม เพื่อพบผู้ปลูกและกลุ่มกาแฟโรบัสต้า ก่อนเดินทางต่อไปดูไร่โกโก้ที่บ้านขึ่ง อ.เวียงสา โดยมีนาย
ทรงยศ รามสูต และนาย
ณัฐพงษ์ สุปริยศิลป์ ว่าที่ ส.ส.น่าน พรรค พท. ร่วมลงพื้นที่ด้วย
โดยนาย
เศรษฐากล่าวว่า วันนี้ไม่ได้มาหาเสียง เพราะเลือกตั้งก็จบไปนานแล้ว แต่เป็นวิธีการทำงานของพรรค พท.และหลังจากนี้จะลงพื้นที่พบปะกับประชาชนมากขึ้น เพื่อมาดูและสอบถามปัญหาเพื่อส่งเสริมโอกาสให้กับชาวบ้านให้มีชีวิตความเป็นอยู่ และได้รับการแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด ตั้งเป้าหมายหลังจากนี้จะลงพื้นที่ไปพบชาวบ้านเดือนละอย่างน้อย 2 ครั้ง ทั้งนี้ โกโก้และกาแฟเป็นพืชที่มีราคาสูง มีแนวโน้มเป็นที่ต้องการของตลาดโลกสูง เชื่อว่าระยะยาว 10 ปีข้างหน้า กาแฟจะมีความต้องการสูงในตลาดโลก ขณะที่สภาพภูมิอากาศที่ จ.น่านเหมาะสมต่อการปลูกพืชกาแฟ จึงลงมาดูว่ามีขีดความสามารถปลูกกาแฟได้เพิ่มขึ้นหรือไม่
นาย
เศรษฐากล่าวต่อว่า ส่วนที่เลือกมาดูพื้นที่ จ.น่านเพราะมีสภาพภูมิอากาศเหมาะสม และโกโก้ก็ปลูกได้เยอะ หากสามารถเปลี่ยนการทำไร่หมุนเวียนของชาวสวนมาปลูกทั้งกาแฟและโกโก้ ซึ่งโกโก้สามารถแปรรูปเป็นช็อกโกแลต เปลือกก็ไปทำถุงชา ส่วนที่เหลือของผลโกโก้ก็ไปแปรรูปสร้างรายได้ แต่ราคาที่ส่งค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับต้นทุน เตรียมจะหาช่องทางส่งโกโก้เข้าโรงงาน เพื่อให้ราคาผลผลิตดี ไม่ให้มีปัญหาไปกระจุกที่คอขวด
ก้าวไกล แจง ส่งตัวแทนคุยปม ‘หยก’ ระบุ ไม่อยากเห็นเยาวชน หลุดระบบการศึกษา
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7722568
ชัยธวัช ชี้ส่งตัวแทนคุยโรงเรียน ปม ‘หยก’ เพื่อคลี่คลายหาจุดลงตัว ระบุ ก้าวไกล ไม่อยากเห็นเด็กหลุดจากระบบการศึกษา โดยไม่สมเหตุผล
เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 2566 ที่พรรคก้าวไกล นาย
ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีพรรคก้าวไกลส่งตัวแทนเข้าหารือกับสมาคมผู้ปกครองโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ เพื่อหาทางออกเรื่อง หยก เยาวชนวัย 15 ปี ที่ถูกตัดสถานะนักเรียนจากโรงเรียน
นาย
ชัยธวัช กล่าวว่า การมีตัวแทนของพรรคการเมืองพยายามเข้าไปประสานงานกับผู้บริหารของโรงเรียน คาดว่าเป็นวิธีการที่น่าจะเหมาะสมกับสถานการณ์ เพื่อทำให้คลี่คลายหาจุดลงตัวได้ แสวงจุดร่วมกับผู้บริหารโรงเรียน เพราะพรรคก้าวไกลไม่อยากเห็นเยาวชนคนไหนถูกผลักออกจากระบบการศึกษาโดยไม่สมเหตุสมผล
เมื่อถามถึงกรณีตัวแทนโรงเรียนปฏิเสธที่จะพูดคุยกับตัวแทนพรรคการเมือง นาย
ชัยธวัช กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบข้อนี้ แต่เราพยายามใช้วิธีการประสานงานพูดคุยกันอย่างเหมาะสมและเป็นประโยชน์มากที่สุด เมื่อถามว่าหากโรงเรียนปฏิเสธไม่ยอมพูดคุย จนเป็นเหตุทำให้ หยก ต้องหลุดจากระบบการศึกษาอย่างถาวร นาย
ชัยธวัช กล่าวว่า นั่นเป็นสิ่งที่เราไม่อยากเห็น และคิดว่าน่าจะมีเงื่อนไขและเหตุผลในการพูดคุยกันได้
JJNY : 5in1 เกษตรกรไทยความสุขลดลง│กสม.แถลงการณ์เรื่อง'หยก'│เศรษฐาลุยน่าน│ก้าวไกลแจงส่งตัวแทนคุยปม‘หยก’│รัสเซียปัดยูเอ็น
https://www.khaosod.co.th/economics/news_7722277
นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า สศก. ได้จัดทำดัชนีความผาสุกของเกษตรกรเป็นประจำทุกปี เพื่อสะท้อนถึงปัจจัยที่มีผลต่อคุณภาพชีวิตของเกษตรกรไทย รวมทั้งใช้เป็นตัวชี้วัดของแผนพัฒนาการเกษตร ในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 – 2565) และแผนปฏิบัติการด้านการเกษตรและสหกรณ์ พ.ศ. 2566-2570 โดยดัชนีความผาสุกของเกษตรกร ประกอบด้วย 5 ด้าน คือ ด้านเศรษฐกิจ ด้านสุขอนามัย ด้านการศึกษา ด้านสังคม และด้านสิ่งแวดล้อม
สำหรับดัชนีความผาสุกของเกษตรกรระดับประเทศ ปี 2565 มีค่าอยู่ที่ระดับ 80.46 เป็นการพัฒนาอยู่ในระดับดี ลดลงจากปี 2564 ซึ่งมีค่าอยู่ที่ระดับ 81.10 และเมื่อพิจารณาดัชนีความผาสุกของเกษตรกรในแต่ละภูมิภาค ในปี 2565 พบภาคกลางมีค่าดัชนีมากที่สุดอยู่ที่ระดับ 81.82 รองลงมา ได้แก่ ภาคใต้ อยู่ที่ระดับ 81.57 ภาคเหนือ อยู่ที่ระดับ 80.96 และภาคตะวันออกเฉียงเหนืออยู่ที่ระดับ 80.08 ซึ่งทุกภาคมีการพัฒนาอยู่ในระดับดี ปี 2565 มีรายละเอียดในแต่ละด้าน ดังนี้
ดัชนีด้านสุขอนามัย ภาพรวมระดับประเทศอยู่ที่ระดับ 99.85 เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ที่อยู่ในระดับ 98.77 ซึ่งจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด–19 ในช่วงที่ผ่านมา,ดัชนีด้านสังคม ภาพรวมระดับประเทศมีค่าอยู่ที่ระดับ 91.06 ลดลงจากปี 2564 ซึ่งมีค่าอยู่ที่ระดับ 92.64 เป็นการพัฒนาอยู่ในระดับดี ส่วนหนึ่งเป็นผลจากสมาชิกในครอบครัวมีการดูแลซึ่งกันและกัน,ดัชนีด้านเศรษฐกิจภาพรวมมีค่าอยู่ที่ระดับ 78.26 เป็นการพัฒนาอยู่ในระดับปานกลาง เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 77.31 โดยรายได้เงินสดสุทธิของครัวเรือนเกษตรมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ครัวเรือนเกษตรมีรายได้เงินสดจากนอกภาคเกษตรมากกว่ารายได้เงินสดทางการเกษตร 2.7 เท่า
สาเหตุมาจากเกษตรกรบางส่วนประสบปัญหาขาดแคลนที่ดินทำกินแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรมีไม่เพียงพอ รวมถึงผลผลิตมีราคาไม่แน่นอน ดัชนีด้านสิ่งแวดล้อม ภาพรวมระดับประเทศมีค่าอยู่ที่ระดับ 62.67 เป็นการพัฒนาอยู่ในระดับต้องปรับปรุง ลดลงจากปี 2564 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 64.49 เป็นการพัฒนาอยู่ในระดับต้องเร่งแก้ไข, ดัชนีด้านการศึกษา ภาพรวมระดับประเทศมีค่าอยู่ที่ระดับ 50.39 เป็นการพัฒนาอยู่ในระดับต้องเร่งแก้ไข ลดลงจากปี 2564 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 56.28
ดังนั้น สศก. แนะให้รัฐบาลสนับสนุนให้สมาชิกของครัวเรือนเกษตรได้รับการศึกษาที่สูงขึ้น ควรจัดสรรที่ดินทำกินให้ครัวเรือนเกษตรที่มีกรรมสิทธิ์ครอบครองที่ดินน้อย โดยเฉพาะภาคกลางและภาคเหนือ และกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรม ส่งเสริมให้ครัวเรือนเกษตรสามารถสร้างรายได้จากหลายแหล่ง
กสม. แถลงการณ์เรื่อง 'หยก' ชี้เด็กทุกคนต้องไม่ถูกตัดออกจากระบบการศึกษา
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7722384
กสม. แถลงการณ์เรื่อง ‘หยก’ ชี้เด็กทุกคนต้องไม่ถูกตัดออกจากระบบการศึกษา พร้อมเป็นหน่วยงานกลาง ในการเปิดพื้นที่พูดคุยร่วมกัน เพื่อหาทางออก
19 มิ.ย. 2566 – คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) แถลงการณ์ เรื่อง สิทธิเด็กกรณี “หยก” เยาวชนวัย 15 ปี ที่ไม่มีชื่อในระบบการศึกษาของรัฐ
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ระบุว่า
ได้ติดตามสถานการณ์ “หยก” ประสบปัญหาการเข้าถึงสิทธิทางการศึกษามาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ “หยก” ยังถูกควบคุมตัวอยู่ในสถานพินิจ โดยได้ประสานการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน กับ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ เพื่อให้ได้เข้าเรียน ซึ่ง “หยก” ได้เข้าเรียนเป็นเวลาเกือบหนึ่งเดือนแล้ว
ต่อมา โรงเรียนได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า ยังไม่ได้บันทึกชื่อของ “หยก” ในระบบจัดเก็บข้อมูลนักเรียนรายบุคคล เนื่องจากไม่มีผู้ปกครองมาดำเนินการมอบตัวตามเงื่อนไขที่กำหนด ทำให้ไม่มีสถานะเป็นนักเรียนของโรงเรียน
กสม. ยืนยันสิทธิทางการศึกษาเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ที่รัฐต้องประกันให้เด็กทุกคน อันสอดคล้องและเป็นไปตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ที่ประเทศไทยเป็นภาคีและมีพันธกรณีต้องปฏิบัติตาม การพิจารณาและดำเนินการใด ๆ ของโรงเรียนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นสำคัญ
กสม. เห็นว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ในฐานะหน่วยงานต้นสังกัดของโรงเรียน ควรเร่งพิจารณาหาทางแก้ไขปัญหาร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ “หยก” ได้อยู่ในระบบการศึกษา สำหรับกรณีปัญหาเกี่ยวกับผู้ปกครองตามมาตรา 4 และมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 นั้น กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวมถึงพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายดังกล่าวควรเข้ามาทำหน้าที่ร่วมกับทีมสหวิชาชีพเพื่อดูแล คุ้มครองสิทธิและสวัสดิภาพของเด็กเป็นการเร่งด่วน
ขณะเดียวกัน ทุกฝ่ายควรช่วยกันทำให้สถานการณ์คลี่คลาย และสร้างความเข้าใจต่อกันมากกว่าสร้างความขัดแย้ง และไม่ควรส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปในโรงเรียน
กสม. พร้อมเป็นหน่วยงานกลางในการเปิดพื้นที่พูดคุยร่วมกันของทุกฝ่ายเพื่อหาทางออกเรื่องดังกล่าว โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของเด็กรวมทั้งประโยชน์ส่วนรวม และจะประสานการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนกรณีของ “หยก” อย่างต่อเนื่องต่อไป เพราะเด็กทุกคนต้องไม่ถูกตัดออกจากระบบการศึกษาไม่ว่ากรณีใด
เศรษฐา ลุยน่านทัวร์ไร่กาแฟโกโก้ ชี้ตลาดโลกต้องการสูง เตรียมพบปะปชช.เดือนละ2ครั้ง
https://www.matichon.co.th/election66/movement/news_4037069
‘เศรษฐา’ ทัวร์น่านบุกไร่กาแฟโกโก้ ชี้ ความต้องการตลาดโลกสูง คาดราคาจะสูงขึ้น แนะแปรรูปสร้างรายได้ เจ้าตัวเผยจ่อลงพื้นที่พบ ปชช.เดือนละ 2 ครั้ง
เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมด้วยนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ลงพื้นที่ จ.น่าน เพื่อพบผู้ผลิตและวิสาหกิจผู้ปลูกกาแฟโกโก้ที่ห้องมูลนิธิพ่อสมชาย จากนั้นคณะเดินทางไปไร่กาแฟบริเวณหน้าสหกรณ์การเกษตรแม่จริม เพื่อพบผู้ปลูกและกลุ่มกาแฟโรบัสต้า ก่อนเดินทางต่อไปดูไร่โกโก้ที่บ้านขึ่ง อ.เวียงสา โดยมีนายทรงยศ รามสูต และนายณัฐพงษ์ สุปริยศิลป์ ว่าที่ ส.ส.น่าน พรรค พท. ร่วมลงพื้นที่ด้วย
โดยนายเศรษฐากล่าวว่า วันนี้ไม่ได้มาหาเสียง เพราะเลือกตั้งก็จบไปนานแล้ว แต่เป็นวิธีการทำงานของพรรค พท.และหลังจากนี้จะลงพื้นที่พบปะกับประชาชนมากขึ้น เพื่อมาดูและสอบถามปัญหาเพื่อส่งเสริมโอกาสให้กับชาวบ้านให้มีชีวิตความเป็นอยู่ และได้รับการแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด ตั้งเป้าหมายหลังจากนี้จะลงพื้นที่ไปพบชาวบ้านเดือนละอย่างน้อย 2 ครั้ง ทั้งนี้ โกโก้และกาแฟเป็นพืชที่มีราคาสูง มีแนวโน้มเป็นที่ต้องการของตลาดโลกสูง เชื่อว่าระยะยาว 10 ปีข้างหน้า กาแฟจะมีความต้องการสูงในตลาดโลก ขณะที่สภาพภูมิอากาศที่ จ.น่านเหมาะสมต่อการปลูกพืชกาแฟ จึงลงมาดูว่ามีขีดความสามารถปลูกกาแฟได้เพิ่มขึ้นหรือไม่
นายเศรษฐากล่าวต่อว่า ส่วนที่เลือกมาดูพื้นที่ จ.น่านเพราะมีสภาพภูมิอากาศเหมาะสม และโกโก้ก็ปลูกได้เยอะ หากสามารถเปลี่ยนการทำไร่หมุนเวียนของชาวสวนมาปลูกทั้งกาแฟและโกโก้ ซึ่งโกโก้สามารถแปรรูปเป็นช็อกโกแลต เปลือกก็ไปทำถุงชา ส่วนที่เหลือของผลโกโก้ก็ไปแปรรูปสร้างรายได้ แต่ราคาที่ส่งค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับต้นทุน เตรียมจะหาช่องทางส่งโกโก้เข้าโรงงาน เพื่อให้ราคาผลผลิตดี ไม่ให้มีปัญหาไปกระจุกที่คอขวด
ก้าวไกล แจง ส่งตัวแทนคุยปม ‘หยก’ ระบุ ไม่อยากเห็นเยาวชน หลุดระบบการศึกษา
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7722568
ชัยธวัช ชี้ส่งตัวแทนคุยโรงเรียน ปม ‘หยก’ เพื่อคลี่คลายหาจุดลงตัว ระบุ ก้าวไกล ไม่อยากเห็นเด็กหลุดจากระบบการศึกษา โดยไม่สมเหตุผล
เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 2566 ที่พรรคก้าวไกล นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีพรรคก้าวไกลส่งตัวแทนเข้าหารือกับสมาคมผู้ปกครองโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ เพื่อหาทางออกเรื่อง หยก เยาวชนวัย 15 ปี ที่ถูกตัดสถานะนักเรียนจากโรงเรียน
นายชัยธวัช กล่าวว่า การมีตัวแทนของพรรคการเมืองพยายามเข้าไปประสานงานกับผู้บริหารของโรงเรียน คาดว่าเป็นวิธีการที่น่าจะเหมาะสมกับสถานการณ์ เพื่อทำให้คลี่คลายหาจุดลงตัวได้ แสวงจุดร่วมกับผู้บริหารโรงเรียน เพราะพรรคก้าวไกลไม่อยากเห็นเยาวชนคนไหนถูกผลักออกจากระบบการศึกษาโดยไม่สมเหตุสมผล
เมื่อถามถึงกรณีตัวแทนโรงเรียนปฏิเสธที่จะพูดคุยกับตัวแทนพรรคการเมือง นายชัยธวัช กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบข้อนี้ แต่เราพยายามใช้วิธีการประสานงานพูดคุยกันอย่างเหมาะสมและเป็นประโยชน์มากที่สุด เมื่อถามว่าหากโรงเรียนปฏิเสธไม่ยอมพูดคุย จนเป็นเหตุทำให้ หยก ต้องหลุดจากระบบการศึกษาอย่างถาวร นายชัยธวัช กล่าวว่า นั่นเป็นสิ่งที่เราไม่อยากเห็น และคิดว่าน่าจะมีเงื่อนไขและเหตุผลในการพูดคุยกันได้