JJNY : 6in1 สุดอั้น!│‘จาตุรนต์’เปรียบปมหุ้น│‘วิโรจน์’ผุดสมมุติฐาน│กิตติเผยตรวจสอบ│'สมชัย'สวน'วิษณุ'│“นายพล”ถูกสังหาร

สุดอั้น! หมูจ่อปรับขึ้นราคา ไข่ไก่ก็รอต่อคิว ส่วนผักคะน้า-ถั่วฝักยาว พุ่งพรวดแล้ว
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7712290

นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรฯ เผย หมูจ่อปรับขึ้นราคา ขณะที่ผู้เลี้ยงไก่ไข่ก็วอนขอปรับราคา ส่วนผักสดทั้งคะน้า-ถั่วฝักยาว ราคาพุ่งพรวดไปแล้ว5-10บาทต่อก.ก. หลังผลผลิตเสียหาย จากภาวะร้อนสลับฝน
 
เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เปิดเผยถึงแนวโน้มราคาหมูมีชีวิตหน้าฟาร์มว่าเร็วๆนี้อาจมีการปรับขึ้นราคาอีก แต่จะปรับขึ้นอีก 2 บาท/ก.ก. หรือ 4 บาท/ก.ก. ยังไม่รู้ต้องดูสถานการณ์ภาพรวมก่อน ซึ่งจะทำให้ราคาจำหน่ายปลีกเนื้อหมูปรับราคาขึ้นตามไปด้วย
 
ส่วนสาเหตุที่เนื้อหมูต้องปรับราคาขึ้นอีกเนื่องจากต้นทุนการเลี้ยงหมูขณะนี้แพงมากจากราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ปรับราคาขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย ปัจจุบัน ผู้ประกอบการมีต้นทุนการเลี้ยงอยู่ที่ 95-96 บาท/ก.ก. แต่ขายได้เพียง70-72 บาท/ก.ก. เท่านั้น ทำให้ขาดทุนอย่างหนักจนจำเป็นต้องปรับขึ้นราคา รวมถึงปัญหาหมูลักลอบนำเข้าด้วย
 
ขณะที่ นายมานพ จิรารัตนสกุล ประธานสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ชลบุรี จำกัด เปิดเผยว่า อยากให้ทุกฝ่ายโดยเฉพาะผู้บริโภคเข้าใจถึงปัญหาความเดือดร้อนของผู้เลี้ยงไก่ไข่ด้วยว่ามีต้นทุนสูงขึ้นจริงๆจึงต้องมีการปรับขึ้นราคา โดยเฉพาะผู้เลี้ยงรายย่อยที่มีเงินทุนน้อย หากไม่ปรับราคาไข่ให้สอดคล้องกับต้นทุนก็จะไม่มีเงินมาซื้ออาหารเพื่อทำอาชีพเลี้ยงไก่ต่อไปได้
 
ยอมรับว่าในช่วงที่ผ่านมาผู้เลี้ยงรายย่อยต้องจำใจเลิกเลี้ยงไก่ไปจำนวนมากแล้ว ปัญหาหลักๆของผู้เลี้ยงขณะนี้คือวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่มีราคาแพง รวมทั้งปัญหาร้อนทำให้ปริมาณผลผลิตและขนาดใหญ่เล็กลง
 
ด้านรายงานข่าวจากกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงแนวโน้มราคาผักสดช่วงระหว่างวันที่ 9และ12มิ.ย. 2566 ในตลาดสดกรุงเทพมหานคร ว่า ถั่วฝักยาว ราคาปรับเพิ่มขึ้น 10 บาท/ก.ก. เป็น 75-80 บาท/ก.ก. ,คะน้า เพิ่มขึ้น 5 บาท/ก.ก. เป็น 40-45 บาท/ก.ก. เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดและมีพายุฝนในพื้นที่เพาะปลูก ส่งผลกระทบต่อการเจริญ เติบโต และผลผลิตบางส่วนได้รับความเสียหาย ผลผลิตจึงออกสู่ตลาดลดลง
 
ส่วนส้มเขียวหวาน (เบอร์5) ราคาก็มีการปรับเพิ่มขึ้น5บาท/ก.ก. เป็น 70-75 บาท/ก.ก.น เนื่องจากเป็นช่วงนอกฤดูกาลผลิตที่มีผลผลิตออกสู่ตลาดในปริมาณที่ลดลง ขณะที่หอมแดง ภาคเหนือ มัดจุกหัวใหญ่ ราคาก็เพิ่มขึ้น5บาท/ก.ก. เป็น70-75 บาท/ก.ก. รวมไปถึง หอยแครง(คละ) ราคาปรับเพิ่มขึ้น10บาท/ก.ก. เป็น 180-220บาท/ก.ก.
 
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่าเมื่อช่วงต้นเดือน มิ.ย.2566 ร้อยตรีจักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ออกมาแถลงภาวะราคาอาหารสด โดยเปรียบเทียบราคาในเดือนพ.ค.2566กับมิ.ย. 2566 โดยระบุว่า เนื้อหมู มีราคาเพิ่มขึ้น ก.ก.ละ1 บาท ปรับจาก 144 บาท/ก.ก. เป็น145บาท/ก.ก. เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนมีผลทำให้หมูโตช้าขณะที่ความต้องการบริโภคเพิ่มสูงขึ้น
 
ส่วนไก่ ราคาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากสภาพอากาศร้อน แต่ปริมาณผลผลิตยังเพียงพอต่อความต้องการ โดยเนื้อน่องติดสะโพก ราคา 80 บาท/ก.ก. เนื้อน่อง ราคา 83 บาท/ก.ก. เนื้ออกไก่ ราคา 79 บาท/ก.ก. ส่วนไข่ไก่เบอร์เบอร์3ราคาปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยราคาเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 4.04บาท /ฟอง เป็น 4.06 บาท /ฟอง แต่ราคามีทิศทางทรงตัว และยังอยู่ในโครงสร้างที่กรมดูแล
 

ได้เหรอกรรมการ? ‘จาตุรนต์’ เปรียบปมหุ้นเหมือน ‘แบนนักกีฬา’ ไม่พิสูจน์สารต้องห้าม ทำตามอำเภอใจ?
https://www.matichon.co.th/politics/news_4027175

ได้เหรอ? ‘จาตุรนต์’ งงปมหุ้น itv เปรียบกรรมการ ‘แบนนักกีฬา’ แต่ไม่พิสูจน์ว่าโด๊ปยาจริง? มอง พุ่งเป้าสกัด คือการใช้กติกาหักล้างมติ ปชช. ตามอำเภอใจ 
 
สืบเนื่องกรณี ข่าว 3 มิติ โดย “แยม ฐปณีย์” ได้ออกมาเปิดคลิปการประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวี ที่จัดประชุมขึ้นเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา เป็นคลิปวิดีโอบันทึกการประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวี (itv) ที่มีการร้องเรียนให้ตรวจสอบว่า ไม่ตรงกับบันทึกการประชุมในเอกสาร
 
เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน นายจาตุรนต์ ฉายแสง ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ‘Chaturon/จาตุรนต์’ โดยตั้งข้อสังเกตถึงกระบวนการขัดขวางการจัดตั้งรัฐบาล ความว่า
 
การพุ่งเป้าสกัดขัดขวางนักการเมืองและพรรคการเมืองที่กำลังจัดตั้งรัฐบาลที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ไม่ใช่เป็นเพียงเรื่องปรกติธรรมดาที่เกิดขึ้นกับนักการเมืองคนหนึ่ง หรือพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง
 
แต่เป็นเรื่องของการใช้กฎกติกาที่ออกแบบไว้ เพื่อให้ระบบกลไกต่างๆ ที่ไม่ยึดโยงกับประชาชนสามารถจัดการกับการเมืองในทางหักล้างมติของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศได้ตามอำเภอใจ ไม่สอดคล้องกับหลักนิติธรรมและหลักการประชาธิปไตย
 
เรื่องนี้จึงเป็นปัญหาที่ผู้รักประชาธิปไตย และต้องการให้บ้านเมืองเจริญก้าวหน้าต่อไปได้ ต้องช่วยกันคิดหาทางออกของบ้านเมืองไปด้วยกัน”
 
นอกจากนี้ นายจาตุรนต์ยังทวีตข้อความเพิ่มเติมอีกว่า “จะดำเนินคดีข้อหานี้กับใคร ควรจะต้องพิสูจน์ก่อนว่าผู้ที่ถูกกล่าวหาขาดคุณสมบัติจริงหรือไม่ คือต้องตรวจสอบและพิสูจน์เรื่องที่เป็นมูลฐานเสียก่อน
 
การตั้งข้อหาและดำเนินคดีว่า “รู้อยู่แล้วว่าขาดคุณสมบัติ” โดยไม่พิจารณาเสียก่อนว่าเขาขาดคุณสมบัติจริงหรือไม่ ดูจะเป็นเรื่องกลับหัวกลับหาง ไม่เป็นเหตุเป็นผลเอาเสียเลย” นายจาตุรนต์ระบุ
 
ไปจนถึงข้อความเปรียบเปรยว่า “สมมุติว่ามีกฎห้ามนักกีฬาใช้ยาโด๊ป หากตรวจพบว่าใครใช้ยาโด๊ปจะต้องออกจากการแข่งขัน ถ้าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เช่น กินยารักษาโรคบางชนิดที่มีสารอย่างเดียวกับยาโด๊ปเข้าไป ก็แค่ให้ออกจากการแข่งขัน แต่ถ้าจงใจใช้ยาโด๊ปตรงๆ เลยก็เพิ่มโทษแบนอีก 10 ปี
 
จู่ๆ กรรมการมาบอกว่าจะลงโทษแบนนักกีฬาคนหนึ่งโทษฐานจงใจใช้ยาโด๊ป โดยไม่ได้พิสูจน์เสียก่อนว่าเขามีสารต้องห้ามหรือยาโด๊ปในร่างกาย แบบนี้จะได้หรือ” นายจาตุรนต์ระบุ พร้อมติด #หุ้นitv และ #กกตมีไว้ทำไม

https://twitter.com/chaturon/status/1668503414266007553
https://twitter.com/chaturon/status/1668530502498914304


 
‘วิโรจน์’ ผุดสมมุติฐาน สมุน-ผู้บงการ เริ่มส่งสัญญาณขู่-สงสัย ‘กลัวหักหลังกันเอง?’
https://www.matichon.co.th/politics/news_4027097

‘วิโรจน์’ โพสต์ลอยๆ ตั้งสมมุติฐาน สมุน-ผู้บงการ เริ่มส่งสัญญาณขู่ เตือนกันและกัน-สงสัย ‘กลัวหักหลังกันเอง?’
 
สืบเนื่องกรณี ข่าว 3 มิติ โดย “แยม ฐปณีย์” ได้ออกมาเปิดคลิปการประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวี ที่จัดประชุมขึ้นเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา เป็นคลิปวิดีโอบันทึกการประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวี (itv) ที่มีการร้องเรียนให้ตรวจสอบว่าไม่ตรงกับบันทึกการประชุมในเอกสาร
 
เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ‘Wiroj 77’ ถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า 

“ณ วินาทีนี้ ทั้งสมุน และผู้บงการ ไม่ได้กลัวฝ่ายตรงข้ามเลย ต่างคนต่างกลัวว่า จะหักหลังกันเองมากกว่า
“ดูการให้สัมภาษณ์ช่วงหลังๆ สิ เขาไม่ได้ต้องการจะสื่อสารกับฝ่ายตรงข้ามหรอกนะ เขาพยายามที่ส่งสัญญาณขู่ เตือนถึงกันและกันมากกว่า” 
นายวิโรจน์ระบุ
 
ทั้งนี้ ภายหลังนายวิโรจน์โพสต์ข้อความ มียอดรีทวีตกว่า 5,000 ครั้ง และมีผู้เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นนับร้อยข้อความ อาทิ 
“พอต่างคนต่างกลัวกันเอง กลายเป็นว่าพลังความสามัคคีลดน้อยลง เริ่มเครียด ระแวงมากขึ้น ต้องค่อยเป็นค่อยไป ก้าวอย่างมีพลัง”, 
“ใช่ค่ะ พิรุธเต็มไปหมด คิดว่า กกต.คงรีบรับรองเพื่อโยนระเบิดออกจากตัวให้เร็วที่สุดไม่งั้นติดคุกตอนแก่ จอมบงการคงกดดัน ส.ว.ต่อไม่ให้ vote พิธา แต่อยากแนะนำ ส.ว.ว่าหมดวาระอย่างสงบสุข ควรทำตามเสียงประชาชน และถือเป็นการปลดแอกบุญคุณ 3 ป.ที่ตั้งกันมาด้วย” และ “มันจบแล้วครับนาย”

https://twitter.com/wirojlak/status/1668461899644813312



กิตติ เผย 1 ในผู้ถือหุ้น itv ส่งคลิปมาเอง ตรวจสอบรอบคอบก่อนเสนอแล้ว แย้มมีหลักฐานอื่นอีก
https://www.matichon.co.th/politics/news_4026324

‘กิตติ’ เผยได้คลิปจาก 1 ในผู้ถือหุ้น itv เห็นความผิดปกติ เชื่อมีตัวละครมากกว่านี้ ทีม บก. #ข่าว3มิติ ตรวจสอบอย่างรอบคอบก่อนนำเสนอแล้ว แย้มมีหลักฐานอื่นอีก ‘เราไม่จบเรื่องนี้ง่ายๆ’
 
จากกรณีที่ทีมข่าวรายการ ข่าว 3 มิติ นำเสนอประเด็น หุ้นไอทีวี (itv) อย่างเป็นสเต็ป เกิดกระแสตื่นตัวในสังคมมากยิ่งขึ้น ทว่ามีคนส่วนหนึ่งสงสัยว่าคลิปที่ แยม-ฐปณีย์ เอียดศรีไชย นำเสนอเรื่องการประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวี ซึ่งจัดประชุมขึ้นปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีการตัดต่อหรือไม่
 
แยม” ยืนยันกับ “มติชนออนไลน์” ว่า “ไม่มีการตกแต่ง หรือตัดต่อเพื่อให้ออกมาให้เป็นคุณแก่ใคร แต่เป็นส่วนหนึ่งจากใน 3 นาที ที่เป็นคลิปเต็มๆ จริงๆ
 
ล่าสุด คืนวันที่ 12 มิถุนายน นาย กิตติ สิงหาปัด พิธีกรรายการข่าว 3 มิติ ไลฟ์ชี้แจงทุกประเด็นก่อนเริ่มรายการข่าว 3 มิติ พร้อมยืนยันว่าคลิปที่ แยม ฐปณีย์ นำเสนอ บรรณาธิการของข่าว 3 มิติได้ตรวจสอบอย่างรอบคอบแล้ว และแนวทางข่าวสืบสวนสอบสวนเป็นสิ่งที่ทีมงานนำเสนออย่างต่อเนื่อง

นายกิตติกล่าวว่า แฟนๆ ถามมาเยอะเรื่องข่าวเชิงสืบสวนสอบสวนที่ออกอากาศไป 4 ตอน ค้นหาความจริง ไอทีวียังเป็นสื่ออยู่หรือไม่ เลยต้องมาเล่าให้ฟัง รวมทั้งประด็นข่าวล่าสุด เรื่องนี้คิดว่าถ้าใครเป็นสื่อมวลชนแล้วอยากทำงานหาความจริง ล้วนมีต้นตอมาจากที่เดียวกัน
 
หลักๆ คือประเด็นที่มีคนไปร้องเรียน คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เหมือนกับที่ผมไปสัมภาษณ์ คุณแสวง บุญมี เลขาฯกกต. สรุปง่ายๆ คือ
1. ถือหุ้นหรือไม่
2. หุ้นนั้นเป็นหุ้นสื่อหรือไม่
 
เพราะฉะนั้น ประเด็นถือหุ้นอยู่หรือไม่ กกต.รับความปรากฏไปแล้ว แต่ถ้าหุ้นนั้นไม่เป็นหุ้นสื่อก็ไม่ผิด ฉะนั้น ความเป็นหุ้น เป็นสื่อหรือไม่ จึงเป็นสิ่งที่เราสงสัย อยากหาความจริงนอกเหนือจากเอกสารที่ “ผู้ร้อง” นำไปเสนอว่าไอทีวีระบุในเอกสารว่าเป็นสื่อ
 
เรื่องนี้ผมและทีมงานได้ฟังเรื่องที่น่าจะเป็น “ต้นเรื่อง” ของข่าวคือคุณพิธาโพสต์เรื่องหุ้นที่ระบุว่าโอนไปแล้ว และใช้คำว่า “0” นี่เป็น “คีย์เวิร์ด” ที่เราไปหาความจริง

วันนั้นแหละที่ผมไปสัมภาษณ์ คุณชัยธวัช ตุลาธน เลขาฯพรรคก้าวไกล ถึงความคืบหน้าการฟอร์มรัฐบาล อาทิ การทำความเข้าใจกับ ส.ว. คุณชัยธวัชสะท้อนว่าขณะที่ฝั่งนี้ไปทำความเข้าใจกับ ส.ว.ทั้งหลายก็ได้ทราบความจริงว่ามีคนพยายามล็อบบี้ ส.ว.อย่าโหวตให้คุณพิธา ผมถามว่ามันเป็นยังไง แต่เขาไม่ได้บอกรายละเอียด ก่อนจะบอกเรื่องหุ้นไอทีวีด้วย

ก็ไปตรงกับที่ คุณฐปณีย์ เริ่มหาความจริงเหมือนกัน การจะหาว่าจะเป็นสื่อหรือไม่ก็ทำแบบธรรมดาเลย เราเคยอยู่ไอทีวีกัน ไอทีวีมีออฟฟิศไหม มีกล้องหรือเปล่า คุณฐปณีย์เลยไปถึงที่ตั้งที่ปรากฏในเอกสารที่ค้นได้ ก็ไม่ได้มีป้าย หรืออะไรที่เป็นไอทีวี เหมือนที่นำเสนอในตอนแรก
 
ตอนที่ 2 เราพยายามให้เห็นเอกสารในเชิงบันทึกต่างๆ ว่าที่มาที่ไปของไอทีวีเป็นอย่างไร รวมถึงเหตุผลของ คุณเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ จนสุดท้ายตอนที่ 3 ก็ไปคุยกับ ผู้เปิดเผย หรือ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ที่โพสต์เฟซบุ๊ก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่