แหวน อดีตพยาบาลอาสา ในวัดปทุมฯ ตัดขาดเพื่อไทย ไม่เหลือความไว้ใจ ลุยตรวจสอบ กรณี 6 ศพ 
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7823226
 
 
แหวน อดีตพยาบาลอาสา ในวัดปทุมวนาราม ขอตัดขาดเพื่อไทย ไม่เหลือความไว้ใจ รับทำใจไม่ได้จริงๆ ลั่นลุยตรวจสอบ การทำงาน กรณี 6 ศพ
 
วันที่ 20 ส.ค.2566 “แหวน” น.ส.ณัฏฐธิดา มีวังปลา อดีตหัวหน้าพยาบาลอาสาในวัดปทุมฯ ผู้อยู่ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่วัดปทุมวนาราม เมื่อเดือน พ.ค.2553 โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก Natthatida Meewangpla ถึงกรณีพรรคเพื่อไทย จับมือกับพรรคพลังประชารัฐ กับ พรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อร่วมตั้งรัฐบาล ความว่า 
 
ประกาศอย่างเป็นทางการ จากนี้ ขอตัดขาดจากพรรคเพื่อไทย ไม่เหลือความไว้ใจใดๆอีกแล้ว และจะตรวจสอบการทำงานของเพื่อไทย ในกรณี 6 ศพ วัดปทุมฯ
 
คำถาม คือ ทำไมทอดทิ้งพยานให้เดียวดาย อยู่ในคุกนานถึง 3ปี 6 เดือน หลังจากศาลทหารมีการ อนุมัติคำสั่งให้ประกันตัว
 
ด่าคนอื่นว่าเผด็จการมาตลอด 13 ปี ไปสมสู่กันหน้าตาเฉย แล้วมาบอกให้ประชาชนลืมๆเรื่องในอดีตให้หมดไป เริ่มต้นใหม่กับคนที่สั่งฆ่าเรา
บอกตรงๆ ทำใจไม่ได้จริงๆ มีหลักฐานอีกหลายรายการแล้วพบกัน…

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=pfbid0puQH1JFfqNyDGUfKT68MGWiN6dSHqviWXppARf51W5QsmGPhSz31NnEXUh5oLJuSl&id=100028412290554
 

---

‘ก้าวไกล’ นัดประชุม ส.ส.ถกทิศทางโหวตนายกฯจันทร์นี้ จ่อเสนอสภาฯทบทวนเสนอชื่อ ‘พิธา’ ซ้ำ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4137897

‘ก้าวไกล’ นัดประชุม ส.ส.ถกทิศทางโหวตนายกฯจันทร์นี้ จ่อเสนอสภาฯทบทวนเสนอชื่อ ‘พิธา’ ซ้ำ
 
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ที่พรรคก้าวไกล (ก.ก.) นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการนัดประชุม ส.ส.ของพรรค ก.ก. ว่า พรรคได้นัดประชุม ส.ส. ช่วงเย็นวันที่ 21 สิงหาคม เพื่อสรุปท่าทีในการลงมติโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีวันที่ 22 สิงหาคม โดยจะยังคงรอประเมินสถานการณ์ทางการเมืองล่าสุดก่อน ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบเรื่องคุณสมบัติของ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรค พท. เพราะประชาชนได้ตัดสินไปแล้วจากการเลือกตั้ง จึงไม่จำเป็นต้องมาพูดกันเรื่องคุณสมบัติ

เมื่อถามถึงประเด็นในการอภิปรายวันโหวตเลือกนายกฯ ว่าจะเป็นอย่างไร นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า พรรค ก.ก. ได้ขอเวลาไว้ 30 นาที ส่วนจะใช้ในการอภิปรายหรือไม่นั้น คงต้องมีการหารือกันอีกครั้ง และถ้าต้องมีการอภิปรายคงจะเป็นเรื่องจุดยืนของพรรค ก.ก. ว่าสาเหตุ และเหตุที่โหวตเพราะอะไร และพรรคจะมีมติกันก่อนว่าจะโหวตไปในทิศทางใด แต่ถ้ามีสถานการณ์ใดเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะสำคัญ ก็จะมีการเรียกประชุมกันอีกครั้ง
 
เมื่อถามถึงกรณีญัตติของนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรค ก.ก. ที่เสนอให้ทบทวนมติเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม กรณีเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯ ซ้ำไม่ได้นั้น นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า จะเสนอเหมือนเดิม แต่หากประธานสภาใช้อำนาจวินิจฉัย และปัดตก ไม่ให้พิจารณาก็เคารพ และต้องไปดูในอนาคตอีกครั้ง เพราะที่ผ่านมาพรรค ก.ก. ย้ำมาตลอดว่า ญัตติของนายรังสิมันต์ สามารถพิจารณาได้ เพราะเป็นการยืนยันอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติว่า สามารถแก้ไขในสิ่งที่ตนเองใช้อำนาจของสภาทำไป และอาจมีส่วนผิดพลาด ซึ่งมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา ที่ทุกองค์กรจะสามารถเปลี่ยนมติของตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็นศาล คณะรัฐมนตรี หรือองค์กรอิสระ ถ้ามีมติที่ผิดพลาด สามารถกลับมาแก้ไขได้

---

  
“วิโรจน์” โต้หลังกระแสตีกลับ “หมออ๋อง” ใช้งบเลี้ยงหมูกระทะ
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_600975/

“วิโรจน์”โต้หลังกระแสตีกลับ”หมออ๋อง”ใช้งบรับรองเลี้ยงหมูกระทะแม่บ้านสภา ปรึกษาปรังปรุงงาน ใช้งบโปร่งใส ไม่แปลก”ศรีสุวรรณ”จ่อร้องสอบ
 
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นของ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร อันดับ 1 (หมออ๋อง) ถูกกระแสโจมตีเรื่องเลี้ยงหมูกะทะแม่บ้านสภา ว่า งบรับรองปกตินักข่าวรู้กันหรือไม่ ว่ารับรองใครที่ไหน เลี้ยงญาติใคร เลี้ยงนักการเมืองในมุ้งของตัวเองในกลุ่มคนไหน กินกันที่ไหน นักข่าวไม่เคยรู้ถูกหรือไม่ และหลายครั้งมีการเลี้ยงข้าราชการระดับสูงด้วยเช่นกัน ในเมื่อมีการเลี้ยงข้าราชการระดับสูง แต่เป้าหมายมีไว้ใช้ประชุมเพื่อปรึกษาหารือปรับปรุงงานถูกหรือไม่
 
“ซึ่งในกรณีนี้ผมคิดว่าคงมีการประชุมกันจริงเพื่อหารือประเด็นมุมมองของแม่บ้านมาปรับปรุงงานในสภา คำถามคือ เพียงเพราะว่าแม่บ้านไม่ใช่ข้าราชการระดับสูง เลยไม่มีสิทธิ์ใช้งบรับรองตรงนี้เหรอ หรือจะต้องจัดเลี้ยงประชุมในสภาและเรียกคนมาจัดบุฟเฟ่ต์หัวละ 500-600 บาท เพราะกินหมูกระทะมันถูกเกินไปเหรอ และที่นักข่าวรู้ นี่คือความโปร่งใส ไปประชุมเรื่องอะไร ประชุมกันที่ไหน
 
ใช้งบประมาณเท่าไหร่ แล้วผิดเหรอครับ ตนเลยบอกไงว่า ลองรื้อดูไหม ว่างบรับรองของประธานวุฒิที่สภา และรองวุฒิประธานสภาเก่าๆ ไปเลี้ยงข้าราชการคนไหนหรือเลี้ยงญาติตัวเองหรือไม่ รวมทั้งเลี้ยงนักการเมืองในเครือข่ายตัวเองหรือไม่ หรือเลี้ยงข้าราชการระดับสูงคนไหนหรือเปล่า ซึ่งตนกลับมองว่าไม่ได้งานอะไรเลย แต่ประเด็นดังกล่าวต้นยืนยันว่าเขามีการประชุมกัน และมีการระดมความคิดเห็นเพื่อนำมาปรับปรุงงานในสภา”
 
ทั้งนี้ นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า คนที่เป็นแม่บ้านเขาไม่มีศักดิ์ศรีพอที่จะเป็นแขกรองประธานสภา และแขกจะต้องเป็นนักการเมืองใหญ่โต เป็นผู้มีอิทธิพล  เป็นบ้านผู้ใหญ่และเป็นข้าราชการระดับสูงเท่านั้นเหรอ และการจัดประชุมที่รับฟังความคิดเห็นจากแม่บ้านคนที่ปฏิบัติงาน รากหญ้าที่สุดเรารับฟังเสียงเขาไม่ได้เลยเหรอ หรือต้องจัดเลี้ยงในสภา “หัวละหนึ่ง อู้หู้! อื้ยยยย! ” และมีการส่งเงินทอนกัน ชอบแบบนั้นหรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า อะไรที่ผิดระเบียบ ข้าราชการฯ เขาไม่แนะนำอยู่แล้ว และตนเข้าใจว่า ในฐานะที่ตนเคยทำงานในกรรมาธิการมาก่อน งบอะไรเบิกได้งบอะไรเบิกไม่ได้ข้าราชการเขาตรวจสอบระเบียบ
 
เมื่อถามต่อว่า กรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน เตรียมไปร้อง นายวิโรจน์ กล่าวว่า “แปลกเหรอ!” หากนายศรีสุวรรณประกาศเลิกร้องนี่สิแปลก แล้วอยากให้ นายศรีสุวรรณ ร้องและเปิดเผยข้อมูลการใช้งบรับรองของประธานวุฒิสภา และรองประธานวุฒิสภา รวมถึงประธานสภาคนก่อนด้วย รวมทั้งในยุค สนช. และงบรับรองของนายกรัฐมนตรีรวมถึงงบรับรองของรัฐมนตรีต่างๆ ก็จะดีมากและรบกวนเก็บให้ครบ จะได้ร้องทีเดียวให้ครบ ซึ่งจะได้ไม่ร้องเฉพาะบางคน