***คำเตือน*** จขกท. ค่อนข้างจะเป็นคนปากหมา กรุณาอย่าถือสาภาษาที่ใช้ตอบคอมเม้นท์
สวัสดีค่ะ หลังจากที่เราไม่ได้อัพเดทกระทู้ การเห็นนิมิต ของเรามาเดือนกว่าๆ ซึ่งเราคิดว่าเราคงจะหยุดฝัน หยุดเห็นนิมิตเหล่านี้ไปแล้ว เพราะหลังจากที่เราเห็นนิมิตเรื่องสุดท้าย เราก็หยุดฝัน หยุดเห็นนิมิตในฝันเราไปเลย แต่เราต้องเห็น ต้องเจอกับอย่างอื่นแทน
ในกระทู้ถัดไป เราจะเล่าให้ฟังว่าหลังจากที่เราหยุดฝัน หยุดเห็นนิมิตไปพักใหญ่ เราต้องเจอกับอะไรบ้าง และเราผ่านมันมาได้อย่างไร
แต่วันนี้เราจะขอเล่าเรื่องราวของญาติเราคนนึงให้ฟัง เพราะเราคิดว่ามันเกี่ยวเนื่อง เชื่อมโยงกับสิ่งที่เราเพิ่งจะผ่านมันมาได้แบบไม่ง่ายเลย เรื่องราวของญาติเราคนนี้ เราฟังมาจากป้าเราคนนึง ซึ่งมันเกิดขึ้นตอนที่เรายังไม่ทันเกิดเลย
ป้าเราเล่าว่า สมัยก่อนตอนที่แกยังสาวๆ แกเคยฝันว่า แกได้พระมาเหรียญนึง มีสีแดงสวยมาก แกก็เอาไปเก็บ เอาไปซ่อนไว้ ไม่ยอมบอกใคร เพราะกลัวว่าคนอื่นจะมาแย่งเอาไป
แล้วแกก็เอามาโชว์ให้ป้าสีนวลที่เป็นเพื่อนสนิทแกในสมัยนั้นดู แกบอกว่า พอป้าสีนวลเห็นก็ขอพระองค์นั้นแกทันที บอกว่าให้แกเถอะ ป้าเรามีพระเยอะแล้ว แกยังไม่มีสักองค์เลย ป้าเราแกก็ไม่ให้แกว่า แกเจอก่อน แกต้องได้ก่อน
แล้วแกก็แย่งพระองค์นั้นกับป้าสีนวล แต่แย่งไปแย่งมา ป้าสีนวลก็แย่งได้ไป หลังจากนั้น ป้าสีนวลก็ท้องแล้วก็คลอดลูกชาย ส่วนป้าเราที่แย่งไม่ได้ในฝันเพราะแกคุมกำเนิดอยู่ แกบอกว่างั้น
ซึ่งแกก็รักลูกชายป้าสีนวลคนนั้น เพราะแกคิดว่าเขาอยากจะมาเกิดเป็นลูกแกในทีแรก ลูกชายป้าสีนวลคนนั้นพอครบบวชก็ออกธุดงค์ในป่า เป็นสิบๆปี พอกลับออกมาจากป่า ป้าเราแกก็เล่าว่าเหมือนเขาสติไม่ดี
อยู่ๆวันนึงก็ปืนขึ้นไปบนเสาไฟฟ้าแล้วก็กระโดดลงมา เสียชีวิตทั้งๆที่อายุยังน้อย ป้าเราก็รู้สึกเสียใจมากๆ ซึ่งเราเองได้ฟังเรื่องราวในตอนนั้น ก็คิดสงสัย ว่าทำไมเขาถึงได้จบชีวิตตัวเองเช่นนั้น
ทั้งๆที่ได้ออกบวช ออกธุดงค์เป็นสิบๆปี ทางเส้นนี้มันควรจะเป็นทางดับทุกข์ ซึ่งที่เราเคยผ่านๆมามันก็ดับทุกข์ ทำให้เราอยู่กับความทุกข์ได้ โดยไม่ทุกข์เพิ่มขึ้น ได้เป็นอย่างดี แต่ทำไมคนๆนั้นถึงจบชีวิตตัวเองลงเช่นนั้น
และเราก็ได้รู้คำตอบนั้น เมื่อไม่นานมานี้ ว่า เมื่อเราเดินไปเรื่อยๆ มันไม่ได้ดับทุกข์เพียงอย่างเดียว มันทำให้เราเห็นก่อน ว่ามันเป็นทุกข์ แล้วก็ต้องยอมรับให้ได้ ว่ามันทุกข์ แล้วจึงจะสามารถอยู่กับมันได้ อย่างไม่ทุกข์
ซึ่งแรกๆมันอาจจะทุกข์น้อย แต่พอเราอยู่กับมันได้ เราก็จะเจอทุกข์ที่มันหนักขึ้น กำลังของกิเลสที่ทำให้เกิดทุกข์มันแรงขึ้น ยอมรับมันได้ยากขึ้น ต้องใช้เวลาและความอดทนมากขึ้น ถ้าจิตเราไม่มีสติที่แข็งแรงพอที่จะต้านทาน ที่จะอดทน มันก็จะเป็นบ้าได้เลย เหมือนกับที่เราเกือบจะบ้าสติแตกไปเมื่อเดือนกว่าๆที่ผ่านมา
เดี๋ยวเราจะมาเล่ารายละเอียดในกระทู้ถัดไปค่ะ
เห็นนิมิต เห็นอดีต เห็นอนาคต เห็นกฎแห่งกรรม ภาค 36
สวัสดีค่ะ หลังจากที่เราไม่ได้อัพเดทกระทู้ การเห็นนิมิต ของเรามาเดือนกว่าๆ ซึ่งเราคิดว่าเราคงจะหยุดฝัน หยุดเห็นนิมิตเหล่านี้ไปแล้ว เพราะหลังจากที่เราเห็นนิมิตเรื่องสุดท้าย เราก็หยุดฝัน หยุดเห็นนิมิตในฝันเราไปเลย แต่เราต้องเห็น ต้องเจอกับอย่างอื่นแทน
ในกระทู้ถัดไป เราจะเล่าให้ฟังว่าหลังจากที่เราหยุดฝัน หยุดเห็นนิมิตไปพักใหญ่ เราต้องเจอกับอะไรบ้าง และเราผ่านมันมาได้อย่างไร
แต่วันนี้เราจะขอเล่าเรื่องราวของญาติเราคนนึงให้ฟัง เพราะเราคิดว่ามันเกี่ยวเนื่อง เชื่อมโยงกับสิ่งที่เราเพิ่งจะผ่านมันมาได้แบบไม่ง่ายเลย เรื่องราวของญาติเราคนนี้ เราฟังมาจากป้าเราคนนึง ซึ่งมันเกิดขึ้นตอนที่เรายังไม่ทันเกิดเลย
ป้าเราเล่าว่า สมัยก่อนตอนที่แกยังสาวๆ แกเคยฝันว่า แกได้พระมาเหรียญนึง มีสีแดงสวยมาก แกก็เอาไปเก็บ เอาไปซ่อนไว้ ไม่ยอมบอกใคร เพราะกลัวว่าคนอื่นจะมาแย่งเอาไป
แล้วแกก็เอามาโชว์ให้ป้าสีนวลที่เป็นเพื่อนสนิทแกในสมัยนั้นดู แกบอกว่า พอป้าสีนวลเห็นก็ขอพระองค์นั้นแกทันที บอกว่าให้แกเถอะ ป้าเรามีพระเยอะแล้ว แกยังไม่มีสักองค์เลย ป้าเราแกก็ไม่ให้แกว่า แกเจอก่อน แกต้องได้ก่อน
แล้วแกก็แย่งพระองค์นั้นกับป้าสีนวล แต่แย่งไปแย่งมา ป้าสีนวลก็แย่งได้ไป หลังจากนั้น ป้าสีนวลก็ท้องแล้วก็คลอดลูกชาย ส่วนป้าเราที่แย่งไม่ได้ในฝันเพราะแกคุมกำเนิดอยู่ แกบอกว่างั้น
ซึ่งแกก็รักลูกชายป้าสีนวลคนนั้น เพราะแกคิดว่าเขาอยากจะมาเกิดเป็นลูกแกในทีแรก ลูกชายป้าสีนวลคนนั้นพอครบบวชก็ออกธุดงค์ในป่า เป็นสิบๆปี พอกลับออกมาจากป่า ป้าเราแกก็เล่าว่าเหมือนเขาสติไม่ดี
อยู่ๆวันนึงก็ปืนขึ้นไปบนเสาไฟฟ้าแล้วก็กระโดดลงมา เสียชีวิตทั้งๆที่อายุยังน้อย ป้าเราก็รู้สึกเสียใจมากๆ ซึ่งเราเองได้ฟังเรื่องราวในตอนนั้น ก็คิดสงสัย ว่าทำไมเขาถึงได้จบชีวิตตัวเองเช่นนั้น
ทั้งๆที่ได้ออกบวช ออกธุดงค์เป็นสิบๆปี ทางเส้นนี้มันควรจะเป็นทางดับทุกข์ ซึ่งที่เราเคยผ่านๆมามันก็ดับทุกข์ ทำให้เราอยู่กับความทุกข์ได้ โดยไม่ทุกข์เพิ่มขึ้น ได้เป็นอย่างดี แต่ทำไมคนๆนั้นถึงจบชีวิตตัวเองลงเช่นนั้น
และเราก็ได้รู้คำตอบนั้น เมื่อไม่นานมานี้ ว่า เมื่อเราเดินไปเรื่อยๆ มันไม่ได้ดับทุกข์เพียงอย่างเดียว มันทำให้เราเห็นก่อน ว่ามันเป็นทุกข์ แล้วก็ต้องยอมรับให้ได้ ว่ามันทุกข์ แล้วจึงจะสามารถอยู่กับมันได้ อย่างไม่ทุกข์
ซึ่งแรกๆมันอาจจะทุกข์น้อย แต่พอเราอยู่กับมันได้ เราก็จะเจอทุกข์ที่มันหนักขึ้น กำลังของกิเลสที่ทำให้เกิดทุกข์มันแรงขึ้น ยอมรับมันได้ยากขึ้น ต้องใช้เวลาและความอดทนมากขึ้น ถ้าจิตเราไม่มีสติที่แข็งแรงพอที่จะต้านทาน ที่จะอดทน มันก็จะเป็นบ้าได้เลย เหมือนกับที่เราเกือบจะบ้าสติแตกไปเมื่อเดือนกว่าๆที่ผ่านมา
เดี๋ยวเราจะมาเล่ารายละเอียดในกระทู้ถัดไปค่ะ