พบศพชายเร่ร่อน เสียชีวิต หน้าท่าเรือ ท่าพระจันทร์ เผยผลตรวจติดโควิด
https://www.matichon.co.th/local/news_3938137
 
 
พบศพชายเร่ร่อน เสียชีวิต หน้าท่าเรือ ท่าพระจันทร์ เผยผลตรวจติดโควิด
 
เมื่อเวลา 08.01 น. วันที่ 22 เมษายน ร.ต.ท.หญิงโยษิตา หริกุล รอง สว.(สอบสวน) สน.ชนะสงคราม ได้รับแจ้งเหตุพบศพชายนอนเสียชีวิต บริเวณหน้าธนาคารทหารไทยธนชาต สาขามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์-ท่าพระจันทร์ ถนนพระจันทร์ แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กทม. หน้าท่าเรือท่าพระจันทร์ จึงพร้อมด้วยแพทย์นิติเวช รพ.วชิรพยาบาล และอาสามูลนิธิร่วมกตัญญู ตรวจสอบ

บริเวณฟุตปาธหน้าธนาคาร พบศพชายไทยไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 50 ปี นอนหงายเสียชีวิต ตรวจค้นในตัวไม่พบเอกสาร เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบเอทีเคตรวจหาเชื้อโควิด-19 พบว่าขึ้น 2 ขีด แสดงว่า ผู้เสียชีวิตมีอาการติดเชื้อโรคโควิด-19
 
จากการสอบสวน รปภ.หน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้ความว่า ผู้เสียชีวิตเป็นคนเร่ร่อน ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง และเคยบอกกับคนทั่วไปว่า มีญาติพี่น้องเป็นตำรวจ แต่ไม่มีใครยืนยันได้ว่าจริงหรือไม่ โดยช่วงเช้าพบเห็นชายคนดังกล่าวนอนนิ่ง เมื่อเข้าไปตรวจสอบพบว่าเสียชีวิตแล้ว

เบื้องต้นแพทย์สันนิษฐานว่า การเสียชีวิตเกิดจากอาการปอดอักเสบติดเชื้อ จากโรคโควิด-19 ก่อนมอบหมายให้มูลนิธิร่วมกตัญญูนำศพส่ง นิติเวชศาสตร์ รพ.วชิรพยาบาล ต่อไป

---

เศรษฐา เผย อิ๊งค์ เอาด้วย เพื่อไทยไม่จับมือ พปชร.-รทสช. ชี้ไม่มีผู้ใหญ่ท้วงติง
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7624999

เศรษฐา เผย อิ๊งค์ เอาด้วย เพื่อไทยไม่จับมือ พปชร.-รทสช. ชี้ไม่มีผู้ใหญ่ท้วงติง ยืนยันตั้งรัฐบาลพรรคเดียวมาโดยตลอด
 
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 22 เม.ย. ที่จ.เพชรบูรณ์ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย (พท.) และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีประกาศไม่จับมือกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ว่า

เป็นความตั้งใจของพรรคพท. เราตั้งใจจะเดินหน้าตั้งรัฐบาลพรรคเดียวเพื่อให้แลนด์สไลด์ โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยก็เห็นด้วย ผู้ใหญ่หลายคนก็ไม่มีใครท้วงติงอะไร
 
เมื่อถามว่าการประกาศเรื่องดังกล่าวบนเวทีปราศรัยที่ จ.เลยถือว่าช้าไปหรือไม่ เพราะมีการถามกันมาโดยตลอด นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนพูดมาโดยตลอด ไม่ได้ย้อนแย้งหรือช้าอะไร ตนบอกว่าจะตั้งรัฐบาลพรรคเดียวมาโดยตลอด เมื่อมีการจัดตั้งแล้วเราก็จะไปร่วมกับพรรคที่มีจุดยืนเดียวกัน วันนี้เราเผยแพร่นโยบายให้ประชาชนทราบเต็มที่ เพื่อเป็นรัฐบาลพรรคเดียว ความตั้งใจของเราคือเราพูดความจริง ว่าความตั้งใจของเราคืออะไร และพี่น้องประชาชนเป็นคนตัดสิน อย่างไรเราก็น้อมรับ
 
เมื่อถามต่อว่าหวังว่ากลุ่มคนที่รอความชัดเจนจากเรื่องนี้ จะเทคะแนนมาที่พรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็ชัดเจนมานานแล้ว เราแข่งกันที่นโยบาย เราแข่งกันที่ล้มล้างความยากจน ความเสมอภาคของพี่น้องประชาชน
 
เมื่อถามถึงกรณีที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ระบุว่าพรรคพท.ไม่จับมือกับพรรคพปชร.ก็ไม่เป็นไร นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็ไม่เป็นไร ท่านมีจุดยืนของท่าน และท่านก็มีนโยบายของท่านที่จะต้องเดินสายเผยแพร่ เราสู้กันที่นโยบาย และสู้กันว่าใครจะล้มล้างความยากจนของพี่น้องประชาชนได้ดีกว่ากัน
 
เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ จะไปขออนุญาต กกต.ใช้งบกลาง เพื่อนำมาแก้ปัญหาเรื่องค่าไฟในช่วงนี้จะมีผลต่อคะแนนเสียงหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องความสง่างามในสังคม ก็ต้องมีอยู่บ้าง พี่น้องประชาชนเดือดร้อนค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าพลังงานมานานแล้ว และท่านเป็นรัฐบาลมานานแล้ว ตนคิดว่าพี่น้องประชาชนตัดสินใจกันได้ ว่าอะไรเหมาะสม อะไรไม่เหมาะสม อย่างที่ตนเคยเรียนว่าตนไม่อยากไปวิพากษ์วิจารณ์นโยบายหรือการทำงานของพรรคอื่น เรามีวิธีการทำงานของเรา เราเดินไปข้างหน้า ส่วนตัวไม่ได้ขัดแย้งกับ พล.อ.ประยุทธ์ จุดยืนของเราคือการขจัดความยากจน ความไม่เสมอภาค ความไม่เท่าเทียม
 
เมื่อถามย้ำว่าหาก กกต.อนุมัติจะมีผลต่อคะแนนเสียงหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า พี่น้องประชาชนเป็นคนตัดสิน ตนคิดว่านโยบายเราไม่ได้ดูที่ระยะสั้น เราดูระยะยาว ดูว่าในภายหน้าอนาคตของเราจะเป็นอย่างไร พรรคพท.มั่นใจอย่างยิ่งในเรื่องนโยบายเศรษฐกิจ นโยบายที่เราดูแลภาคสังคม เรามั่นใจและจะเดินหน้าต่อไป
 
เมื่อถามว่าพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์เป็นพื้นที่ของพรรค พปชร.นายเศรษฐา กล่าวว่า “ทำไมพี่น้องยังเดือดร้อนอยู่ละครับ เป็นรัฐบาลมา 4 ปีแล้ว ผมคิดว่าพี่น้องเองก็มีจุดยืนที่ชัดเจน มีความต้องการที่ชัดเจน จากการที่ได้พบปะพี่น้องประชาชนมา ก็ชัดเจนว่าเขาไม่มีความสุข เมื่อไม่มีความสุขก็ถึงเวลาที่เข้าคูหาและกาพรรคที่ไม่ใช่เป็นพรรครัฐบาล และผมหวังว่าพรรคนั้นจะเป็นพรรคพท.”
 
เริ่มแล้วโหวตรอบสอง ! โพลครั้งสำคัญสะท้อนอนาคตการเมืองไทย “มติชนxเดลินิวส์ โพลเลือกตั้ง ’66” กับ 4 คำถามสุดเข้มข้น – เลือกส.ส.เขตพรรคไหน, ปาร์ตี้ลิสต์พรรคใด,​ ใครคือนายกฯ ที่ใช่ และบทบาท ส.ว. ที่อยากเห็นในการโหวตเลือกนายกฯ
 
สแกนคิวอาร์โค้ดในภาพ หรือ คลิกทำโพลได้แล้ววันนี้ที่ >> https://www.matichon.co.th/thai-election66-poll/poll2/
  

---

ผู้สมัคร ส.ส.โคราช ก้าวไกล โดนซ้ำรอบสองถูกสกัดหาเสียงในตลาดทหาร
https://www.matichon.co.th/politics/news_3938517

ผู้สมัคร ส.ส.โคราช ก้าวไกล โดนซ้ำรอบสองถูกสกัดหาเสียงในตลาดทหาร
 
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 22 เมษายน ที่ตลาดนัดสวัสดิการกรมทหารช่างที่ 2 หรือตลาด ช.2 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ ต.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายฉัตร สุภัทรวณิชย์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 พื้นที่ ต.ในเมือง ต.หนองไผ่ล้อม และ ต.โพธิ์กลาง อ.เมือง พรรคก้าวไกล (ก.ก.) เบอร์ 3 พร้อมทีมงาน เตรียมลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์แนะนำตัวกับผู้ประกอบการค้าและพี่น้องประชาชน ส่วนใหญ่เป็นครอบครัวทหารที่มาซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค

ก่อนจะเข้าไปด้านใน นายฉัตรได้เดินไปขออนุญาตผู้ดูแลรับผิดชอบ อ้างยังไม่ได้รับหนังสือที่ทีมงาน ก.ก.ไปยื่นที่กองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี ตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา จึงไม่สามารถเดินหาเสียงในตลาดได้ นายฉัตรและทีมงานเข้าใจกฎระเบียบกติกาแนวทางปฏิบัติ ได้ยืนอยู่บริเวณด้านหน้าเพื่อประชาสัมพันธ์ผ่านโทรโข่งและคอยแจกแผ่นพับนโยบาย ก.ก. ซึ่งมีพี่น้องประชาชนส่วนหนึ่งเห็นใจและส่งสัญลักษณ์ให้กำลังใจ
 
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในทวิตเตอร์และเฟซบุ๊กในทางลบต่อกองทัพภาคที่ 2 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ในขณะนายฉัตร ผู้สมัคร ส.ส. กำลังเดินหาเสียงในตลาดโครงการสวัสดิการชุมชนหนองไผ่ล้อม เขตเทศบาลนคร (ทน.) นครราชสีมา โดยให้ทีมงานยืนอยู่ด้านหน้า ปรากฏมีสารวัตรทหารสังกัดกองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี มาร้องขอให้ระงับการหาเสียงในตลาด

ต่อมา พล.ต.วรเชษฐ์ ชวนะนรเศรษฐ์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 ในฐานะโฆษกกองทัพภาคที่ 2 ระบุกรณีการหาเสียงในตลาดซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของหน่วยทหารต้องแจ้งให้เจ้าของพื้นที่ทราบก่อน เพื่อเตรียมอำนวยความสะดวก จัดห้วงเวลา สถานที่ให้เป็นไปตามแนวทางปฏิบัติของคณะกรรมการการเลือกตั้ง กองทัพบกยินดีให้ทุกพรรคการเมืองหาเสียงและชี้แจงนโยบายโดยเปิดรับทุกพรรคการเมืองอย่างเท่าเทียมกัน
 

---

 
สรท.ชี้ธปท.ขึ้นดอกเบี้ยเร็วซ้ำเติมต้นทุน SME
https://www.innnews.co.th/news/news_537272/

ปธ.สรท.จี้อย่าซ้ำเติมต้นทุนSME ค่าไฟแพง ชี้ธปท.ขึ้นดอกเบี้ยเร็วเกินปรับตัวยากทะลุ2%เจ๊งแน่
 
นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย หรือ สรท.เปิดเผยสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. มองว่า ยังมีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้อีกอย่างน้อย 1 รอบในปีนี้ จากล่าสุดที่ได้มีการปรับขึ้น ร้อยละ 0.25 มาอยู่ที่ร้อยละ 1.75 โดยมองว่าการปรับขึ้นดังกล่าวเป็นปรับที่เร็วและแรงเกินไป ทำให้ผู้ประกอบการขนาดเล็ก หรือ SMEs ปรับตัวได้ยาก และหากอัตราดอกเบี้ยนโยบายเกินร้อยละ 2 ต่อปี จะเป็นต้นทุนทางการเงินที่สูงเกินไปสำหรับผู้ประกอบการขนาดเล็ก อาจถึงขั้นต้องปิดกิจการ
 
โดยเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยควรทยอยปรับขึ้นครั้งละน้อยกว่าที่เป็นอยู่ เพื่อทำให้ผู้ประกอบการขนาดเล็กปรับตัวได้ง่ายขึ้น เนื่องจากเวลานี้ต้นทุนของผู้ประกอบการที่มีอยู่สูงมากอยู่แล้ว โดยเฉพาะค่าไฟฟ้า ค่าแรง ซึ่งภาคเอกชนได้รับการตอบสนองในเรื่องของการช่วยภาระลดต้นทุนจากภาครัฐน้อยเกินไป อาจไม่สามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ ในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจยังไม่ได้ฟื้นตัวเต็มที่ โดยยังคงมีความเสี่ยงต้องจับตาหลายปัจจัย ทั้งเศรษฐกิจหลังการเลือกตั้ง และการรับมือกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่ถดถอย