เราอยู่กับตายายตั้งแต่เด็กเพราะพ่อกับแม่หย่าร้างกันตั้งแต่ 2 ขวบ
แม่ทิ้งเราไว้ให้ตากับยายดูแลและไม่เคยส่งเสีย ตากับยายเลี้ยงเราค่อนข้างยากลำบากเพราะไม่ค่อยมีเงิน
ต้องกินน้ำข้าวแทนนม เราไม่เคยรู้จักพ่อแม่เลย ตอนเป็นเด็กไม่เคยมีพ่อแม่อยู่ในความทรงจำเลย
ยายเรียกแทนตัวเองว่าแม่ ตอนนั้นแม่เรามีสามีใหม่ พ่อเราก็มีครอบครัวใหม่
เราพอมีความทรงจำเกี่ยวกับแม่พอลางๆอยู่บ้างคือตอนที่แม่ใช้ก้านมะยมวิ่งไล่เราแล้วยายด่าแม่เราไม่ให้ตีเรา
เรารักตากับยายมากๆ เราเริ่มมามีแม่ในความทรงจำตอนเราอายุ7ขวบ ตอนป.1 เริ่มรู้แล้วว่าตัวเองมีพ่อมีแม่แต่ก็ไม่ค่อยได้สนิท
แต่พ่อของเราเริ่มติดต่อมาขอส่งเสียค่าเรียนค่าขนมให้เราบ้าง ตอนนั้นคุยกับพ่อทางโทรศัพท์ทุกเดือน จนเราขึ้นม.1
เราสอบติดโรงเรียนมัธยมในตัวจังหวัดพ่อเพิ่มเงินให้เราในการใช้จ่ายทุกเดือน แต่ละเดือนไม่เคยมีปัญหาเพราะตาเราเป็นคนรับผิดชอบเรื่องเงิน
ค่าใช้จ่าย ค่ารถตู้ในการเดินทางไปโรงเรียน และมีช่วงหนึ่งที่ตาเราป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาลเราเลยต้องไปอยู่กับแม่ช่วงนั้นแม่เป็นคนรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายซึ่งเริ่มมีปัญหาเพราะแม่ไม่ยอมจ่ายค่ารถตู้และเราก็ไม่ค่อยมีเงินไปโรงเรียน
แม่เอาเงินที่พ่อโอนให้เราทุกเดือนไปใช้ จนคนขับรถตู้มาทวงเงินค่ารถที่บ้าน
แม่ค้างอยู่ประมาณสองเดือนจนคนขับรถตู้จะไม่ให้เราขึ้นรถไปโรงเรียน
และมีช่วงหนึ่งที่แม่ทิ้งเราให้อยู่กับพ่อไหมที่เป็นแฟนแม่ส่วนแม่หนีไปทำงานที่กรุงเทพไปโดยไม่บอกอะไรเราเลย เราก็พยายามเข้าใจแม่เพราะแม่มีหนี้เยอะ แม่ต้องใช้เงินแม่ต้องทำงานใช้หนี้ แต่พอเราโตขึ้นมาลองคิดย้อนกลับไปว่าทำไมแม่ถึงกล้าปล่อยให้เราอยู่กับพ่อที่ไม่ใช่พ่อเราจริงๆ แต่เราก็โชคดีที่ไม่เจอพ่อเลี้ยงเหมือนในข่าว ตัดไปที่ช่วงเราอยู่ม.6 แม่ค้างค่าเทอมเราทั้งหมดประมาณ5เทอม จนเราเกือบไม่จบ ม.6 เพื่อนของเราต้องรวมเงินกันเพื่อจ่ายค่าเทอมให้เราได้วุฒิ ม.6 ทั้งทั้งที่ก่อนหน้านี้พ่อของเราโอนเงินค่าเทอมให้เราทุกเดือนแต่แม่ก็เอาไปใช้อย่างอื่น ยายเราเสียตอนม.5 ตาคนสำคัญขอฃเราเสียตอนม.6 (ตาคนนี้ไม่ใช่ตาที่เป็นแฟนยายแต่แกเลี้ยงดูแลมาตั้งแต่เด็ก) และตาจริงๆขอฃเราเสียตอนเราอยู่ปี1 ทุกคนที่เรารักทิ้ฃเราไปหมดโดยที่เราไม่เคยได้ตอบแทนอะไรเขาเลย หลังจากนั้นแม่ก็เริ่มมีบทบาทในชีวิตเรามากขึ้น แต่แม่ก็ไม่เคยได้ Support อะไรเราเลยเพราะส่วนมากมีแต่พ่อของเราที่ส่งเงินให้เราตลอดไม่ว่าจะค่าหอค่าเทอม เงินไม่ค่อยพอใช้ แต่เราก็ทำงานพาร์ทไทม์เพื่อหาเงินไปเรียนและใช้จ่ายอย่างอื่นไม่ค่อยได้รบกวนพ่อแม่ และอยู่ดีดีวันนึงก็มีคนโทรมาเป็นญาติห่างๆของเรา ที่แม่ไปติดหนี้เขา เขาถามว่าถ้าเราเรียนจบเราจะใช้หนี้แทนแม่ไหมเพราะแม่บอกว่าถ้าเราเรียนจบแม่จะให้เราใช้หนี้แทน แม่ติดนี่เขาไว้รวมๆ แล้วห้าถึงหกหมื่นทั้งๆที่เราไม่เคยรู้เรื่องอะไรเลย ตอนนั้นเราโมโหมากว่าทำไมตอนนั้นเราโมโหมากว่าทำไมแม่ถึงต้องมาให้เรารับผิดชอบอะไรที่เราไม่ได้สร้างทั้งๆที่เรายังเรียนไม่จบด้วยซ้ำแต่เราต้องมารับผิดชอบแทน เรา มีความคิดที่ว่าเค้าไม่ได้เลี้ยงเรามาเค้าไม่ได้ดูแลเรามา เลยแต่ยังมาสร้างปัญหาให้เราแก้ ทุกครั้งที่เราทะเลาะเรื่องแบบนี้กับแม่แม่มักจะพูดกรอกหูเราว่าแม่จะชั่วจะดียังไงแม่ก็คือแม่แม่ให้กำเนิดเราเรามาแม่มักจะพูดแบบนี้ซ้ำๆซึ่งทำให้เราเบื่อมาก และตอนนี้เราเรียนจบแล้วเราส่งเงินให้แม่บ้างเท่าที่เราทำได้ แต่เราก็ไม่เข้าใจว่าแม่ใช้ชีวิตอยู่ยังไงเงินที่ให้ไปแม่ไม่เคยพอใช้ และแม่ก็มักจะพูดกดดันเราอยากให้เรารีบรวยจะได้มีเงินมีหน้ามีตาไม่ให้คนอื่นดูถูก เรารู้สึกโคตรเบื่อเวลาเราอ่านแชทแม่เราไม่เคยรู้สึกดีเพราะแม่มักจะพูดแต่เรื่องให้เราไม่สบายใจมักจะมาพูดแต่ความทุกข์ของตัวเองทั้งทั้งที่เราก็มีความทุกข์เหมือนกัน แต่เราไม่เคยได้บอกแม่ให้แม่ไม่สบายใจเลยโดยเฉพาะเรื่องเงิน แม่ไม่เคยซัพพอร์ตชีวิตเราะเลย และแม่ยังมาทำให้เราทุกข์มากขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ แม่มักบอกว่าเราไม่กลับบ้านไปหาแม่แต่เราก็ได้แค่คิดในใจว่าถ้ากลับบ้านไปแล้วไม่มีความสุขเราก็ไม่รู้สึกว่าเราอยากจะกลับ แม่ชอบเอาเราไปเปรียบเทียบกับลูกคนอื่น ว่าเราไม่ดีเหมือนลูกคนอื่น เราไม่ให้เงินเดือนแม่ได้มากเท่าลูกคนอื่น คนแถวบ้านมักจะถามแม่ว่าทำไม คนแถวบ้านมักจะถามแม่ว่าทำไมเราไม่กลับบ้านบ้าง และแม่ก็จะมักจะพูดว่ามีลูกก็เหมือนไม่มี พูดเหมือนเราไม่ดีมาก ทั้งๆที่ค่าน้ำไฟที่บ้านเราก็รับผิดชอบ แม่ไปสร้างหนี้ไว้เราก็โอนเงินใหม่จ่ายตลอด ความรู้สึกเราที่อัดอั้นมีมากมายมากกว่านี้กับคนที่ชื่อว่าแม่ เราดูเป็นคนไม่ดีมากใช่ไหม? แล้วทำไมสังคมไทยถึงมักยึดติดกับคำว่ากตัญญูมากเกินไป ทั้งๆที่เราไม่ได้ขอแม่ให้เราเกิดมา
คิดยังไงกับแม่ที่ไม่ได้เลี้ยงดูเราเลย พอโตขึ้นมาหวังจะให้เราส่งเสียดูแล
แม่ทิ้งเราไว้ให้ตากับยายดูแลและไม่เคยส่งเสีย ตากับยายเลี้ยงเราค่อนข้างยากลำบากเพราะไม่ค่อยมีเงิน
ต้องกินน้ำข้าวแทนนม เราไม่เคยรู้จักพ่อแม่เลย ตอนเป็นเด็กไม่เคยมีพ่อแม่อยู่ในความทรงจำเลย
ยายเรียกแทนตัวเองว่าแม่ ตอนนั้นแม่เรามีสามีใหม่ พ่อเราก็มีครอบครัวใหม่
เราพอมีความทรงจำเกี่ยวกับแม่พอลางๆอยู่บ้างคือตอนที่แม่ใช้ก้านมะยมวิ่งไล่เราแล้วยายด่าแม่เราไม่ให้ตีเรา
เรารักตากับยายมากๆ เราเริ่มมามีแม่ในความทรงจำตอนเราอายุ7ขวบ ตอนป.1 เริ่มรู้แล้วว่าตัวเองมีพ่อมีแม่แต่ก็ไม่ค่อยได้สนิท
แต่พ่อของเราเริ่มติดต่อมาขอส่งเสียค่าเรียนค่าขนมให้เราบ้าง ตอนนั้นคุยกับพ่อทางโทรศัพท์ทุกเดือน จนเราขึ้นม.1
เราสอบติดโรงเรียนมัธยมในตัวจังหวัดพ่อเพิ่มเงินให้เราในการใช้จ่ายทุกเดือน แต่ละเดือนไม่เคยมีปัญหาเพราะตาเราเป็นคนรับผิดชอบเรื่องเงิน
ค่าใช้จ่าย ค่ารถตู้ในการเดินทางไปโรงเรียน และมีช่วงหนึ่งที่ตาเราป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาลเราเลยต้องไปอยู่กับแม่ช่วงนั้นแม่เป็นคนรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายซึ่งเริ่มมีปัญหาเพราะแม่ไม่ยอมจ่ายค่ารถตู้และเราก็ไม่ค่อยมีเงินไปโรงเรียน
แม่เอาเงินที่พ่อโอนให้เราทุกเดือนไปใช้ จนคนขับรถตู้มาทวงเงินค่ารถที่บ้าน
แม่ค้างอยู่ประมาณสองเดือนจนคนขับรถตู้จะไม่ให้เราขึ้นรถไปโรงเรียน
และมีช่วงหนึ่งที่แม่ทิ้งเราให้อยู่กับพ่อไหมที่เป็นแฟนแม่ส่วนแม่หนีไปทำงานที่กรุงเทพไปโดยไม่บอกอะไรเราเลย เราก็พยายามเข้าใจแม่เพราะแม่มีหนี้เยอะ แม่ต้องใช้เงินแม่ต้องทำงานใช้หนี้ แต่พอเราโตขึ้นมาลองคิดย้อนกลับไปว่าทำไมแม่ถึงกล้าปล่อยให้เราอยู่กับพ่อที่ไม่ใช่พ่อเราจริงๆ แต่เราก็โชคดีที่ไม่เจอพ่อเลี้ยงเหมือนในข่าว ตัดไปที่ช่วงเราอยู่ม.6 แม่ค้างค่าเทอมเราทั้งหมดประมาณ5เทอม จนเราเกือบไม่จบ ม.6 เพื่อนของเราต้องรวมเงินกันเพื่อจ่ายค่าเทอมให้เราได้วุฒิ ม.6 ทั้งทั้งที่ก่อนหน้านี้พ่อของเราโอนเงินค่าเทอมให้เราทุกเดือนแต่แม่ก็เอาไปใช้อย่างอื่น ยายเราเสียตอนม.5 ตาคนสำคัญขอฃเราเสียตอนม.6 (ตาคนนี้ไม่ใช่ตาที่เป็นแฟนยายแต่แกเลี้ยงดูแลมาตั้งแต่เด็ก) และตาจริงๆขอฃเราเสียตอนเราอยู่ปี1 ทุกคนที่เรารักทิ้ฃเราไปหมดโดยที่เราไม่เคยได้ตอบแทนอะไรเขาเลย หลังจากนั้นแม่ก็เริ่มมีบทบาทในชีวิตเรามากขึ้น แต่แม่ก็ไม่เคยได้ Support อะไรเราเลยเพราะส่วนมากมีแต่พ่อของเราที่ส่งเงินให้เราตลอดไม่ว่าจะค่าหอค่าเทอม เงินไม่ค่อยพอใช้ แต่เราก็ทำงานพาร์ทไทม์เพื่อหาเงินไปเรียนและใช้จ่ายอย่างอื่นไม่ค่อยได้รบกวนพ่อแม่ และอยู่ดีดีวันนึงก็มีคนโทรมาเป็นญาติห่างๆของเรา ที่แม่ไปติดหนี้เขา เขาถามว่าถ้าเราเรียนจบเราจะใช้หนี้แทนแม่ไหมเพราะแม่บอกว่าถ้าเราเรียนจบแม่จะให้เราใช้หนี้แทน แม่ติดนี่เขาไว้รวมๆ แล้วห้าถึงหกหมื่นทั้งๆที่เราไม่เคยรู้เรื่องอะไรเลย ตอนนั้นเราโมโหมากว่าทำไมตอนนั้นเราโมโหมากว่าทำไมแม่ถึงต้องมาให้เรารับผิดชอบอะไรที่เราไม่ได้สร้างทั้งๆที่เรายังเรียนไม่จบด้วยซ้ำแต่เราต้องมารับผิดชอบแทน เรา มีความคิดที่ว่าเค้าไม่ได้เลี้ยงเรามาเค้าไม่ได้ดูแลเรามา เลยแต่ยังมาสร้างปัญหาให้เราแก้ ทุกครั้งที่เราทะเลาะเรื่องแบบนี้กับแม่แม่มักจะพูดกรอกหูเราว่าแม่จะชั่วจะดียังไงแม่ก็คือแม่แม่ให้กำเนิดเราเรามาแม่มักจะพูดแบบนี้ซ้ำๆซึ่งทำให้เราเบื่อมาก และตอนนี้เราเรียนจบแล้วเราส่งเงินให้แม่บ้างเท่าที่เราทำได้ แต่เราก็ไม่เข้าใจว่าแม่ใช้ชีวิตอยู่ยังไงเงินที่ให้ไปแม่ไม่เคยพอใช้ และแม่ก็มักจะพูดกดดันเราอยากให้เรารีบรวยจะได้มีเงินมีหน้ามีตาไม่ให้คนอื่นดูถูก เรารู้สึกโคตรเบื่อเวลาเราอ่านแชทแม่เราไม่เคยรู้สึกดีเพราะแม่มักจะพูดแต่เรื่องให้เราไม่สบายใจมักจะมาพูดแต่ความทุกข์ของตัวเองทั้งทั้งที่เราก็มีความทุกข์เหมือนกัน แต่เราไม่เคยได้บอกแม่ให้แม่ไม่สบายใจเลยโดยเฉพาะเรื่องเงิน แม่ไม่เคยซัพพอร์ตชีวิตเราะเลย และแม่ยังมาทำให้เราทุกข์มากขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ แม่มักบอกว่าเราไม่กลับบ้านไปหาแม่แต่เราก็ได้แค่คิดในใจว่าถ้ากลับบ้านไปแล้วไม่มีความสุขเราก็ไม่รู้สึกว่าเราอยากจะกลับ แม่ชอบเอาเราไปเปรียบเทียบกับลูกคนอื่น ว่าเราไม่ดีเหมือนลูกคนอื่น เราไม่ให้เงินเดือนแม่ได้มากเท่าลูกคนอื่น คนแถวบ้านมักจะถามแม่ว่าทำไม คนแถวบ้านมักจะถามแม่ว่าทำไมเราไม่กลับบ้านบ้าง และแม่ก็จะมักจะพูดว่ามีลูกก็เหมือนไม่มี พูดเหมือนเราไม่ดีมาก ทั้งๆที่ค่าน้ำไฟที่บ้านเราก็รับผิดชอบ แม่ไปสร้างหนี้ไว้เราก็โอนเงินใหม่จ่ายตลอด ความรู้สึกเราที่อัดอั้นมีมากมายมากกว่านี้กับคนที่ชื่อว่าแม่ เราดูเป็นคนไม่ดีมากใช่ไหม? แล้วทำไมสังคมไทยถึงมักยึดติดกับคำว่ากตัญญูมากเกินไป ทั้งๆที่เราไม่ได้ขอแม่ให้เราเกิดมา